เมื่อพวกเขาถูกส่งออกแดนเยือกแข็ง ผู้เข้าร่วมทั้งหมดก็รวมกันตรงทางเข้าประตูมิติอีกครั้ง
ในบรรดาผู้เข้าร่วมทั้งแปดพัน กว่าเจ็ดพันกลับมาได้ อัตรารอดชีวิตเกิน90% ซึ่งถือว่าสูงมาก
หลินฮวงเหลือบมอง เขาเห็นใบหน้าคุ้นเคยมากมายรวมถึงสองทาสดาบ
เมื่อดาบ301และ302เห็นหลินฮวง พวกเขาก็รีบเข้าหาเขาและใช้บ่วงจิตระหว่างทาสดาบและจอมดาบเพื่อสื่อสาร
“ท่านจอมดาบ!”
“พวกเจ้าสองคนดูเหมือนจะได้ผลกำไรมากจากในนั้นนะ”หลินฮวงหัวเราะ
“เราจับกลุ่มกันล่ามอนสเตอร์ระดับเทพแท้จริง เราทำได้ดีกว่าที่คิดไว้”ดาบ302พูดจบและถามหลินฮวงอย่างไม่มั่นใจ”กลิ่นอายของท่านจอมดาบดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นแต่ทำไมระดับพลังท่านยังไม่ทะลวงผ่านระดับเทพเสมือน?”
เหตุผลที่นางถามเช่นนี้เพราะหากหลินฮวงเป็นเทพเสมือนแล้ว ในฐานะทาสดาบ พลังของพวกนางย่อมเลื่อนเป็นเทพแท้จริง แต่ทว่า ตอนนี้พลังของพวกนางยังเป็นเทพเสมือนขั้น9ไม่เปลี่ยนแปลง
“อืม ข้าพัฒนาขึ้นเล็กน้อย มันควรใช้เวลาไม่นานก่อนจะเลื่อนเป็นเทพเสมือน”หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อยและไม่อธิบายเพิ่มเติม
ขณะคุยกัน เงาร่างหนึ่งก็ลอยมาทางพวกเขาเงียบๆ
หลินฮวงหันไปมองผู้มาใหม่ ผู้สวมชุดคลุมดำและหน้ากากขาว มันคือเวอชุโอโซ ผู้เป็นอันดับหนึ่งบนกระดานเคียวขาว
“ข้าเวอชุโอโซ ขอทำความรู้จักกับท่านได้หรือไม่?”เวอชุโอโซเป็นคนเริ่มทักทาย
เสียงนั้นฟังเหมือนเพศเป็นกลาง ซึ่งทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกแยะว่าผู้พูดเป็นชายหรือหญิง
ตอนนี้ด้วยระยะใกล้ หลินฮวงถึงสังเกตเห็นว่าหน้ากากของอีกฝ่ายเป็นสีขาวเรียบที่ทำจากวัสดุลึกลับ ยกเว้นรอยเปื้อนสีแดงสองรอยตรงปาก มันมีรูตรงไหนให้มองเลย
ผ่านหน้ากาก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่าย
หลินฮวงยังสงสัยว่ามันอาจเป็นภาพลวงตาตอนเขาเป็นริมฝีปากสีแดงยกโค้งขึ้นบนหน้ากากเดือนก่อน
“สวัสดี ข้าฮวงหลิน”แม้เขาจะสงสัยเจตนาของอีกฝ่าย เขาก็ยังตอบด้วยรอยยิ้ม
“เราต่างก็เป็นคนของเคียวแห่งความตาย ข้าสังเกตเห็นว่าพวกเจ้าทั้งสามดูไม่คุ้นหน้า ข้าจึงอยากมาทำความรู้จัก”อีกฝ่ายอธิบาย
แม้จะพูดแบบนี้ เวอชุโอโซก็ดูเหมือนจะไม่มีเจตนาจะสนทนากับสองทาสดาบเลย
“เราเพิ่งเข้าร่วม”หลินฮวงยิ้ม
“งั้นก็โชคดี”หลังเวอชุโอโซพูดจบ เขาหรือนางก็ตบไหล่หลินฮวงและหันไป
‘เวอชุโอโซต้องการอะไร? แค่มาพูดสวัสดี?’หลินฮวงไม่อาจเข้าใจได้
ก่อนหน้านี้ เขาได้ลงทะเบียนกับเคียวแห่งความตายในฐานะเซี่ยหลินและไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใดกับเวอชุโอโซนอกจากการเห็นชื่อเขาบนกระดานเคียวขาว
หลินฮวงยังแสดงตัวโดยใช้ตัวตนของฮวงหลิน ผู้บ่มเพาะที่เพิ่งลงทะเบียนไม่นาน แม้กระทั่งดาวหางและคนอื่นก็จำเขาไม่ได้
ดังนั้น เวอชุโอโซที่ริเริ่มมาทักทายจึงทำให้เขาสับสนอย่างมาก
เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาแค่เพราะทั้งสามดูแปลกหน้า
สมาชิกเคียวดำในเคียวแห่งความตายมีจำนวนอย่างน้อยหนึ่งล้าน หากเขาเข้าหาทุกคนที่เขาไม่คุ้นหน้า เขาคงต้องเหนื่อยแน่
ยิ่งไปกว่านั้น ดาวหางและคนอื่นยังดันเผยจุดหนึ่งที่เวอชุโอโซเป็นพวกโดดเดี่ยว เขาเป็นคนที่ไม่สนใจสมาชิกอื่นทั้งหมดในเคียวแห่งความตาย
การที่เวอชุโอโซเข้าหาใครก่อนนั้นขัดกับภาพลักษณ์เขาในเคียวแห่งความตาย
พฤติกรรมของเวอชุโอโอไม่ได้ทำให้แค่หลินฮวงสับสน แต่ยังรวมถึงดาวหางและคนอื่นด้วย และพวกเขาก็อดเหลือบมองมาทางหลินฮวงไม่ได
หลังเหตุการณ์เล็กๆนี้ ผู้เข้าร่วมองค์กรอื่นก็เริ่มแยกย้าย
หลินฮวงยังกลับไปเมืองหมัดเหล็กพร้อมสองทาสดาบ
วินาทีที่เขาเข้าห้อง หลินฮวงก็นำแหวนเก็บของออกมาและโยนมันให้ดาบ301
“นี่คือของที่ข้าได้จากแดนเยือกแข็ง นอกจากศพอสูร ยังมีของส่วนตัวพวกมอนสเตอร์ ช่วยข้าคัดแยกด้วย”
ดาบ301รับแหวนและดูตกตะลึงไป”ท่านจอมดาบ ท่านล่าเทพแท้จริงขั้น3ด้วยตัวท่านเอง?”
“ใช่ มีปัญหาอะไร/”
“ไม่ขอรับ ไม่มี…”ดาบ301รีบส่ายหัว
สำหรับตอนนี้ เขาและดาบ302ใช้พลังกฏเทพได้เก้าประเภท แต่เพราะพลังของพลังเทวะพวกเขาถูกจำกัดไว้แค่เทพเสมือน ความสามารถโดยรวมพวกเขาจึงแค่เทียบได้กับเทพแท้จริงขั้น2
มอนสเตอร์ที่ทั้งคู่ล่าด้วยกันก็คือเหยื่อระดับเทพแท้จริงขั้น2 เมื่อพวกเขาเจอกับเทพแท้จริงขั้น3 พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากอ้อมมันไป
แต่ทว่า หลินฮวงกลับล่าเทพแท้จริงขั้น3 กว่า21ตัวเพียงลำพัง
หลังเขาส่งมอบศพและของให้สองทาสดาบคัดแยก หลินฮวงก็เช่าห้องบ่มเพาะชั้นสูงในโรงแรมและปิดประตูบ่มเพาะเพื่อเริ่มการผสานไฟเทวะ
เวลาผ่านไป ไฟเทวะขั้น1ทั้งสิบและไฟเทวะสีแดงเข้มภายในตัวหลินฮวงค่อยๆผสานกันทุกวัน
สีของไฟเทวะยังเปลี่ยนไปทุกวัน
ขณะเฝ้ามองความคืบหน้า หลินฮวงก็ตั้งตารอดูการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของความสามารถเขาหลังเลื่อนเป็นเทพเสมือน
28วันผ่านไป ในกงล้อชีวิตสีทองทั้งสิบ การผสานไฟเทวะเสร็จสมบูรณ์ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีต่อมา
ไฟเทวะสีแดงเข้มกลายเป็นสีแดงเจิดจ้า เหมือนก้อนถ่านที่ติดไฟ
วินาทีที่ไฟเทวะผสานจนสมบูรณ์ กงล้อชีวิตทั้งสิบก็เริ่มขยับเกือบจะพร้อมกันและบินออกวังชีวิตมา
หลังออกวังชีวิต กงล้อชีวิตทั้งสิบก็ล้อมวังชีวิตและเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว ไฟเทวะสีแดงพุ่งออกจากพวกมันเหมือนแม่น้ำและโถมใส่วังชีวิต
ในชั่วพริบตา ทั่ววังชีวิตก็ถูกกลืนโดยคลื่นไฟไร้สิ้นสุ ไม่มีร่องรอยมันให้เห็น
“นี่…การควบแน่นแก่นเทวะ?”
ฉากตรงหน้าเขาเกิดขึ้นด้วยตัวมันเองเมื่อการผสานไฟเทวะเสร็จสมบูรณ์ หลินฮวงไม่มีการควบคุมเหนือมันเลย เขาทำได้แค่เฝ้ามองมัน
กระบวนการควบแก่นเทวะเริ่มขึ้น หลินฮวงรออย่างอดทนด้านข้างๆ
ครั้งนี้ คลื่นไฟเทวะปล่อยออกมาอยู่สิบวันเต็ม
ในที่สุดวังชีวิตของหลินฮวงก็พังถล่ม เปลี่ยนเป็นจุดแสงดาว
อีกสิบวันให้หลัง หลังถูกแช่ในไฟเทวะ จุดแสงดาวนับไม่ถ้วนเหล่านั้นก็ค่อยๆควบรวมกันเป็นผลึกดำขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ลวดลายเทวะสีแดงเลือดลึกลับเริ่มมองเห็นบนผิวผลึก
จนกระทั่งแก่นเทวะควบแน่นอย่างสมบูรณ์ กงล้อชีวิตถึงหยุดพ่นไฟเทวะ พวกมันเปลี่ยนเป็นลำแสงสิบสายที่ผสานเข้ากับแก่นเทวะ
เมื่อแก่นเทวะก่อตัวขึ้น วงแหวนของพลังเทวะก็พลันกระจายไปทุกทิศทางและเข้าไปทุกมุมของตัวหลินฮวง
ตอนนี้เอง หลินฮวงรู้สึกว่าทุกเซลล์ในตัวเขากำลังผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างดุเดือด แม้กระทั่งลงลึกสู่อนูวิญญาณเขา
การเปลี่ยนแปลงกินเวลาสามวันสามคืนเต็มๆ
เมื่อหลินฮวงลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็รู้สึกราวกับเขาถือกำเนิดขึ้นใหม่
“ในที่สุด ข้าก็เลื่อนเป็นเทพเสมือน!”