“ผู้ใช้ : หลินฮวง”
“เพศ : ชาย”
“อายุ : 20”
“ระดับพลัง : เทพเสมือนขั้น1”
“ฉายา : ผู้สังหารเทพ”
“นิ้วทองคำ : เสี่ยวเฮย แผ่นหิน เพลิงนิรันดร์ หยินหยิน”
“ของผสาน : หัวใจเทพต้นกำเนิด คัมภีร์ดาบหน้าหนึ่ง รังกาแล็กซี่ อาวุธเซียน วังจอมเทพ(การผสานขั้นต้น)..”
“วังชีวิต : สวรรค์แห่งมอนสเตอร์”
“มรดกสืบทอด : จอมเทพ ดาบ2 ดาบ8 ดาบ10 เทพธิดาจอมเวทย์..”
“ความสามารถเทวะ : จั่กจั่นทองคำ ตัวตายตัวแทน..”
“กฏเทพ : พลังเหนือมนุษย์ ความเร็วฑูตสวรรค์ พลังสังหารเทพ”
“การตรัสรู้ธาตุ : ชั่วพริบตา เงาอาทิตย์ นกสวรรค์ ไร้ร่องรอย เทพสายฟ้า การลงทัณฑ์ของสวรรค์ ปีศาจรอยสัก นรก”
“เต๋าดาบ : ระดับแก่นราก(ครอบครองหัวใจดาบ จิตวิญญาณดาบ)”
“ทักษะดาบ : 200000ประเภท”
“ทักษะย่อย : เคล็ดเบือนชะตา ไร้รอยต่อ..”
“ทักษะมอนสเตอร์ : จิตเทวะ การฟื้นฟูเทวะ พลังศักดิ์สิทธิ์ ภูมิต้านทานธาตุ เมล็ดกาฝาก การควบคุมสัมบูรณ์ แสงลงทัณฑ์ กายนักรบอมตะ อนุภาคแวมไพร์ พละกำลังเทวะ การป้องกันเทวะ จ้าวแห่งสายฟ้า กระจกทมิฬ ทักษะต้องห้ามตุ๊กตา อักขระเวทย์ อัศวิน การผสาน การสร้างจักรกล การฟื้นฟูจักรกล ตัวแทนเลือดปีศาจ การปลอมแปลงเทวะ เพลิงปีศาจ เพลิงนรก เพลิงหุบเหว เทพสายฟ้า ฟีนิกส์”
“สิทธิ์อัญเชิญ : ทำงาน(ระดับเทพสูงสุด)”
“จำนวนที่สามารถอัญเชิญได้ : 50”
“หมายเหตุ : ไม่เลว”
…
เมื่อตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว หลินฮวงก็พอใจมาก
หลังเลื่อนเป็นเทพเสมือน ไม่เพียงขีดจำกัดสูงสุดของระดับพลังมอนสเตอร์จะเพิ่มเป็นเทพแท้จริง แต่จำนวนมอนสเตอร์ที่เรียกได้ยังเพิ่มจาก30เป็น50
นี่หมายความว่าทันทีที่ไป่และตัวอื่นสามารถเลื่อนเป็นเทพแท้จริงได้ เขาจะสามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ระดับเทพแท้จริงได้พร้อมกันถึง50ตัว นี่ไม่รวมรังแมลง
นอกจากการเพิ่มขีดจำกัดสูงสุดของระดับพลัง ขีดจำกัดสูงสุดของทาสดาบยังได้รับการปลดผนึก ทาสดาบทั้ง68 รวมถึงดาบ301กลายเป็นเทพแท้จริงขั้น1ทันที
การเปลี่ยนแปลงในมอนสเตอร์อัญเชิญและทาสดาบล้วนเป็นไปตามการคาดการณ์ของหลินฮวง
สิ่งที่เขาแปลกใจคือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังเขตแดนสวรรค์แห่งมอนสเตอร์ได้วิวัฒนาการเป็นเขตแดนเทพ
“เขตแดนเทพ : สวรรค์แห่งมอนสเตอร์”
“ระยะของเขตแดนเทพ : รัศมี1หมื่นกิโลเมตรจากผู้ครอบครอง”
“ความสามารถเขตแดนเทพ 1 : ภายในรัศมี วิญญาณของมอนสเตอร์อัญเชิญที่ตายจะกลับสู่เขตแดนเทพด้วยร่างมันที่จะได้รับการสร้างขึ้นใหม่และคืนชีพ พวกวิญญาณที่แตกสลายจะต้องฟื้นคืนวิญญาณที่แตกสลายก่อน”
“ข้อจำกัดความสามารถ 1 : มอนสเตอร์อัญเชิญแต่ละตัวสามารถคืนชีพได้แค่ร้อยครั้งภายใน24ชั่วโมง วิญญาณจะสลายเมื่อเกิน100ครั้งและจะไม่สามารถกลับสู่เขตแดนเทพได้”
“ข้อจำกัดความสามารถ 2 : มอนสเตอร์อัญเชิญแต่ละตัวจะฟื้นฟูวิญญาณได้แค่12ครั้งภายใน24ชั่วโมง วิญญาณจะแตกสลายหากมันเกิน12ครั้งและไม่สามารถกลับเขตแดนเทพได้”
“ความสามารถแตกหน่อ : หากผู้ครอบครองเขตแดนเทพตายภายในรัศมี เขาสามารถเลือกใช้มอนสเตอร์อัญเชิญเพื่อตายแทนได้ มอนสเตอร์อัญเชิญที่ถูกเลือกเป็นตัวตายตัวแทนจะไม่สามารถอัญเชิญได้อีกภายใน24ชั่วโมง”
“หมายเหตุ : ผู้ครอบครองเขตแดนเทพสามารถใช้ตัวตายตัวแทนได้แค่12ครั้งภายใน24ชั่วโมง”
….
“ความสามารถเขตแดนเทพ 2 : ภายในระยะของเขตแดนเทพ ผู้ครอบครองและมอนสเตอร์อัญเชิญจะมีพลัง ความเร็วและจิตวิญญาณเพิ่มขึ้น12เท่า มอนสเตอร์อัญเชิญอื่นจะมีพลัง ความเร็ว และจิตวิญญาณลดลง50%”
“หมายเหตุ 1 : ผู้ครอบครองสามารถปิดการเสริมพลังได้ตามใจชอบ”
“หมายเหตุ 2 : ความสามารถลดพลังจะไม่ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตที่เกินกว่าระดับของผู้ครอบครองหนึ่งระดับหรือมากกว่านั้น”
…
“ความสามารถเขตแดนเทพ 3 : ภายในระยะของเขตแดนเทพ ผู้ครอบครองสามารถยืมทักษะใดจากมอนสเตอร์ทุกตัวได้อย่างอิสระ”
“หมายเหตุ 1 : การยืมทักษะมอนสเตอร์ที่ผู้ครอบครองมีอยู่แล้วจะไม่ส่งผลให้เกิดการควบรวม”
“หมายเหตุ 2 : ภายใน24ชั่วโมง จำนวนช่องทักษะมอนสเตอร์ของผู้ครอบครองจะเพิ่มเป็นสองเท่าชั่วคราวและจำนวนทักษะยืมสูงสุดต้องไม่เกินกว่าจำนวนช่องทักษะมอนสเตอร์ของผู้ครอบครอง(หากเดิมมี50 ก็ยืมได้อีก50)
…
รัศมีของเขตแดนเทพใหญ่กว่าอาณาเขตของวังชีวิตก่อนหน้านี้ จำนวนการคืนชีพ จำนวนการซ่อมวิญญาณ จำนวนตัวตายตัวแทนและอื่นๆล้วนเพิ่มขึ้น
หลังตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวเขา หลินฮวงก็สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเขาอีกรั้ง เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งทางกาย ทางจิตวิญญาณและจิตเทวะที่เพิ่มขึ้น แม้กระทั่งไฟเทวะก็ยังเปลี่ยนไปตามธรรมชาติมัน
ก่อนหน้านี้มันเทียบได้กับเทพแท้จริงขั้น1 แต่ตอนนี้มันเกือบจะเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้น3
เขาตรวจร่างเขาอย่างถี่ถ้วนและดูวันเวลา หลินฮวงไม่คิดออกจากการปิดประตูบ่มเพาะตอนนี้ แต่กลับหันความสนใจไปยังกองประกายไฟขั้น2ในตัวเขาแทน
“รากฐานข้าแน่นหนากว่าเดิม มันไม่ควรเป็นปัญหาที่จะเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น3 ตามความเร็วการผสานไฟเทวะข้า มันจะใช้เวลาประมาณ80วันเพื่อเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น3 เหลือเวลาแค่สามเดือนครึ่งก่อนข้าจะต้องกลับไปโลกกรวด หลังจากนั้น มันก็คงไม่มีเวลามาเพิ่มพลังอีก ข้าต้องใช้เวลานี้เพื่อเสริมการบ่มเพาะข้า”
หลังเขายืนยันว่าไม่มีปัญหาในการบ่มเพาะต่อ หลินฮวงก็ไม่ลังเล นำก้อนประกายไฟเทวะขั้น2ทั้งสิบออกมา เขาใส่พวกมันลงในกงล้อชีวิตทั้งสิบตามลำดับ
ครั้งนี้ กงล้อชีวิตไม่ปฏิเสธประกายไฟแต่ยอมรับมันทันที
ก้อนไฟทั้งสิบจมลงในตะเกียงชีวิตทั้งสิบ ภายใต้การกระตุ้นของไฟเทวะ พวกมันทำงานอย่างรวดเร็วและเริ่มเผาไหม้อีกครั้งในเวลาไม่กี่วินาที
หลินฮวงหลับตาและเริ่มการผสานไฟเทวะรอบใหม่
อีกเดือนผ่านไป ในตอนท้าย ก้อนไฟขั้น2ทั้งสิบผสานจนเสร็จ ครั้งนี้ รูปทรงและสีของไฟเทวะในตัวหลินฮวงไม่เปลี่ยนไปมากแต่พลังเทวะที่มันปล่อยออกมากลับรุนแรงกว่าเดิม
เมื่อการผสานไฟเทวะสำเร็จ กงล้อชีวิตทั้งสิบก็หมุนวนอีกครั้งและแยกตัวออกจากแก่นเทวะ
กงล้อชีวิตก่อตัวเป็วงกลมบนขอบของแก่นเทวะ พวกมันพ่นไฟเทวะออกมาอีกครั้งและเริ่มการกลั่นรอบใหม่
เวลาผ่านไปอีกสิบวัน กงล้อชีวิตหยุดพ่นไฟเทวะและแก่นเทวะก็เสร็จสิ้นกระบวนการกลั่นรอบใหม่
ตอนนี้หลินฮวงเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น2แล้ว!
เขาตรวจสอบสภาพร่างกายเขาและมองวัน ก่อนจะทุ่มความสนใจกับประกายไฟเทวะขั้น3ในตัว ไม่ช้า เขาก็เริ่มการบ่มเพาะอีกรอบ..
หลังผ่านไป40วัน หลินฮวงก็เลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น3ได้สำเร็จ
การปิดประตูบ่มเพาะนี้นานกว่าสี่เดือน
หลินฮวงทะลวงผ่านสามขั้นติดและกลายเป็นเทพเสมือนขั้น3
ตอนนี้ มันเหลือเวลาไม่ถึงเดือนก่อนจะครบเวลาหนึ่งปีที่ได้ตกลงไว้…