เผชิญหน้ากับศัตรูสุดแกร่ง
เมื่อเห็นบุตรแห่งมารพุทธศาสนาขวางทางเข้าออกไว้ หลินฮวงจึงกระวนกระวาย
ก่อนหน้านี่ เขากังวลว่าอาจมีคนขวางทางเข้าออกมิติไว้ สถานการณ์นั้นคือสิ่งที่เขากลัวสุด ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ที่เกิดจริงยังเลวร้ายกว่าที่คิดไว้
ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตหุบเหว ความสามารถของบุตรแห่งมารพุทธนับเป็นจุดสูงสุดของพวกที่ระดับเดียวกัน
หากนี่เป็นแค่เทพแท้จริงขั้น9ธรรมดา หลินฮวงคงไม่กังวลมากเพราะเขามีการ์ดยกระดับพลังในมือ นี่มากพอให้เขาเพิ่มความสามารถเขาเป็นเทพแท้จริงขั้น9
แต่ทว่า บุตรแห่งมารพุทธตรงหน้าเขาอาจเป็นระดับเทพแท้จริงขั้น9 แต่ความสามารถเขาอาจไม่ด้อยกว่าเทพสวรรค์เลย
เมื่อเจอกับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้ สมองของหลินฮวงจึงคิดมาตรการโต้ตอบไม่หยุด
ตอนนี้ บุตรแห่งมารพุทธไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร มันกลับถามหลินฮวง”เจ้าเห็นเผ่าแมลงในมิติเหล่านี้ไหม?”
“ไม่”หลินฮวงปฏิเสธ
บุตรแห่งมารพุทธเม้มปาก”เจ้ากำลังโกหก”
“น้องชายผมดำ เจ้าปฏิเสธคำถามข้าเร็วเกินไป เกือบจะไม่ต้องคิดเลย”
“หากเจ้าไม่เคยเห็นเผ่าแมลงจริง เมื่อพระผู้ต่ำต้อยคนนี้ถาม เจ้าควรสงสัยและต้องคิดก่อนตอบ เจ้าต้องรู้สึกไม่มั่นใจว่าทำไมข้าถึงถามคำถามแบบนั้น เจ้ายังต้องอยากรู้ว่าทำไมเผ่าแมลงถึงปรากฏในมิตินี้ แต่ทว่า เจ้าไม่แสดงความสงสัยใด ราวกับเจ้ารู้ว่าเผ่าแมลงอยู่ที่นี่..”
“ดังนั้น พระผู้ต่ำต้อยคนนี้จึงอนุมานได้ว่าเจ้าเห็นเผ่าแมลงมาก่อน…หรือเจ้าเป็นพวกเดียวกับพวกมัน!?”
หลินฮวงคิดสักพัก จากนั้นก็เล่นตามแนวคิดอีกฝ่ายและตอบกลับใหม่
“เอาละ ข้ายอมรับว่าเราเคยเห็นเผ่าแมลง ข้าปฏิเสธมันก่อนหน้าเพราะข้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเจ้าและพวกมัน”
“สำหรับข้อสงสัยของเจ้า มันไร้สาระมาก เจ้าเคยเห็นโปรตอสไปตีสนิทกับสิ่งมีชีวิตเผ่าแมลงด้วยงั้นหรือ?”
บุตรแห่งมารพุทธคิดสักพักและจากนั้นก็พูดอีกครั้ง”ดีมาก ข้าจะเชื่อว่าครั้งนี้เจ้าพูดความจริง”
“ท่ามกลางพวกเจ้าสามคน ใครก็ตามที่ให้ข้อมูลเผ่าแมลงก่อน ข้าจะปล่อยไป สำหรับอีกสอง ข้าทำได้แค่ขอโทษ”
เดิมหลินฮวงคิดหลีกเลี่ยงความขัดแย้งให้มากที่สุด ดังนั้นจึงโกหกและเลี่ยงตัวพวกเขาจากเผ่าแมลง แต่ทว่า ทัศนคติของบุตรแห่งมารพุทธก็ชัดเจนมากจากคำพูด ไม่ว่าพวกเขาสามคนจะมีความข้องเกี่ยวกับเผ่าแมลงไหม อีกฝ่ายก็ไม่คิดปล่อยพวกเขาไป
แม้อีกฝ่ายจะบอกว่าจะปล่อยให้คนหนึ่งรอดไปได้ มันก็คงไม่รักษาสัญญา มันอาจแค่พูดเพื่อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ตอนนี้ที่เขาตรวจสอบท่าทีศัตรูแล้ว หลินฮวงจึงรู้ว่าการต่อสู้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได
เขาใช้กระแสจิตเพื่อลอบคุยกับสองทาสดาบ
“พวกเจ้าสองคนหนีไป ข้าจะถ่วงเวลาเขาไว้จนกว่าพวกเจ้าจะหนีออกไปได้!”
“ท่านจอมดาบ ข้าเกรงว่าความสามารถเขาคงใกล้เคียงกับเทพสวรรค์ไปแล้ว…”ดาบ301ไม่คิดทิ้งหลินฮวงไว้ลำพัง
‘ข้ามีวิธีช่วยชีวิตข้า หากเจ้าอยู่ก็มีแต่จะเป็นภาระให้ข้า”หลินฮวงไม่กังวลว่าเขาจะหลบหนีได้หรือไม่ เขากังวลแค่ว่าสองทาสดาบจะถูกฆ่า
เหนือสิ่งอื่นใด มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างขั้น3และ9 และความสามารถของทาสดาบก็ยังถูกจำกัด ในสภาพปัจจุบันของดาบ301และดาบ302 หากพวกเขาเผชิญหน้ากับบุตรแห่งมารพุทธ พวกเขาจะถูกฆ่าทันที ไม่มีประโยชน์อะไรให้อยู่
หลังทั้งคู่หนีได้สำเร็จ เขาถึงสามารถหาทางออกการต่อสู้ได้โดยไม่ถูกรั้ง
แม้พวกเขาจะไม่สบายใจที่ต้องทิ้งนายของตนไว้ด้านหลังเพื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือเช่นบุตรแห่งมารพุทธ สองทาสดาบก้ยังรู้ว่าหลินฮวงพูดความจริง ทั้งสองจะเป็นได้แค่ภาระให้เขา
ทั้งสองทาสดาบไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามคำสั่งของหลินฮวง
สายใยทางจิตถือเป็นการสื่อสารระดับจิตสำนึก มันดูเหมือนราวกับพวกเขาคุยกันนาน แต่จริงๆแล้ว มันผ่านไปแค่วินาทีเยว
เมื่อเขาเกลี้ยกล่อมสองทาสดาบได้แล้ว ในที่สุดหลินฮวงจึงหันมาสนใจศัตรูตรงหน้าเขาได้เต็มที่
การ์ดเพิ่มพลังชั่วคราวสามใบปรากฏในมือเขา เขาขยับนิ้วเบาๆและบดขยี้การ์ดทั้งสามใบ พวกมันเปลี่ยนเป็นแสงสีทองที่คนทั่วไปมองไม่เห็นและจมไปในตัวเขา
ทันใดนั้น ระดับพลังเขาก็เริ่มทะยาน!
เทพเสมือนขั้น4!
เทพเสมือนขั้น5!
เทพเสมือนขั้น6!
ก่อนหน้านี้ ตอนเขาเป็นเทพเสมือนขั้น3 ความสามารถเขาพอจะล่าเทพแท้จริงขั้น6 ตอนนี้ระดับพลังเขาทะยานขึ้นอีกสามขั้น ความสามารถเขาจึงเพิ่มขึ้นเป็นเทพแท้จริงขั้น9
บุตรแห่งมารพุทธไม่อาจมองเห็นพลังต่อสู้ที่แท้จริงของหลินฮวงได้ภายใต้การปกปิดของพันหน้า เขาคิดว่าหลินฮวงแค่เลื่อนจากเทพแท้จริงขั้น3เป็นขั้น6ในหนึ่งลมหายใจ และสามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายที่เล็ดลอดออกจากตัวหลินฮวง
ความรู้สึกอันตรายนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอยากถอย แต่มันกลับทำให้เขาตื่นเต้น
“เจ้าเป็นแค่ขั้น6แต่กลับคุกคามข้าได้ ความสามารถเจ้าสูงจริงๆ ข้าสงสัยว่าการเพิ่มพลังชั่วคราวนี้จะอยู่ได้นานสักแค่ไหน?”
“มันจะคงอยู่จนกว่าการต่อสู้นี้จะจบ!”หลินฮวงจับด้ามดาบไร้ใบดาบไว้ในมือขวาแน่น จากนั้นใบดาบก็ควบแน่น เปลี่ยนเป็นดาบสีเลือดเล่มยาว
“ดาบเล่มนั้นก็ไม่เลว ดูเหมือนเจ้าจะพอมีสถานะในแดนเทพ สิ่งที่ข้าชอบสุดคือการล่าอัจฉริยะเช่นเจ้า ข้าจะอ่านสมองเจ้า สำรวจความลับเจ้า..”
ขณะที่บุตรแห่งมารพุทธพูด หลินฮวงก็ได้อัดพลังกฏเทพและการตรัสรู้ธาตุบนดาบจนถึงขีดสุด
เขาเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงและโจมตีทันที!
กระบวนท่านี้นับว่าเร็วสุดเท่าที่เขาเคยใช้มาแล้วตลอดชั่วชีวิต
ด้วยการเสริมของความเร็วฑูตสวรรค์และการตรัสรู้ทักษะดาบความเร็วสูง ดาบยาวจึงเร็วเท่ากับสายฟ้าจริงๆที่ผ่าลงมา เพียงเสี้ยววินาที อาวุธก็มาปรากฏตรงหน้าบุตรแห่งมารพุทธแล้ว
เพียงเมื่อปลายดาบของหลินฮวงพุ่งเข้ามาใกล้และกำลังจะแทงหัวเขา บุตรแห่งมารพุทธก็พลันสะบัดมือใส่อากาศและปลดปล่อยเงาที่กระจัดกระจายนับไม่ถ้วน แม้จะเคลื่อนไหวช้ากว่า แต่นิ้วเขากลับเร็วกว่าหลินฮวง
ปลายนิ้วสีทองสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของปลายดาบสีแดงเลือด
ความรู้สึกที่หลินฮวงสัมผัสได้คือดาบเขากำลังแทงใส่เหล็กแข็งที่ขัดขวางการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขาไว้
“ความเร็วเจ้าไม่เลว มันใกล้เคียงกับเทพแท้จริงขั้นสูงสุดเลยทีเดียว”
หลังการประเมินนี้ บุตรแห่งมารพุทธก็ดีดนิ้วและปลายนิ้วมันก็แตะเข้ากับปลายดาบสีแดงเลือด
ตอนนี้เอง หลินฮวงรู้สึกถึงพลังจำนวนมหาศาลที่มาจากปลายดาบเขา และอาวุธก็แทบจะหลุดออกจากมือ แขนขวาที่ถือดาบชาด้านและทันใดนั้นร่างเขาก็ถูกส่งลอยออกไป
“แข็งแกร่งมาก!’
หลินฮวงพลันตระหนักถึงพลังของอีกฝ่าย
“ด้วยระดับพลังเทพแท้จริงขั้น6ของเจ้า เจ้ากลับมีความสามารถถึงเพียงนี้ ต่อให้พบกับเทพแท้จริงขั้น9ทั่วไปเจ้าก็ยังสามารถสู้ได้ แต่มันไม่พอหากพบเจอกับเทพแท้จริงขั้นสูงสุด”
“ระดับของแก่นแท้เต๋าดาบเจ้า รวมถึงกฏเทพและการตรัสรู้ธาตุที่เจ้าใช้ยังมีที่ให้พัฒนาอีกมาก”
“น่าเสียดาย เจ้าคงไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีก…”
ก่อนเขาจะพูดจบ ร่างของบุตรแห่งมารพุทธก็หายไปและปรากฏห่างจากหลินฮวงไม่ถึงสิบเมตร
เขาโบกมือ’ช้าๆ’ แต่มันกลับดูเหมือนมีแขนเพิ่มขึ้นนับพันในอากาศ ชั้นแขนก่อตัวเป็นคลื่นและยิงไปข้างหน้า
เงาฝ่ามือสีทองนับไม่ถ้วนระเบิด ตอนแรก พวกมันมีแค่ขนาดของฝ่ามือทั่วไป แต่พวกมันกลับขยายขึ้นหลายเท่าเมื่อลอยไปข้างหน้า เมื่อพวกมันเกือบจะถึงตัวหลินฮวง เงาฝ่ามือสีทองก็บดบังท้องฟ้าแล้ว ร่างของหลินฮวงถูกกลืนหายไปในพริบตา…