หลังการประชุม หลินฮวงก็เดินทางกลับไปวังจักรพรรดิ ดังนั้นข่าวการกลับมาของจักรพรรดิหลินจึงกระจายไปเหมือนไฟป่า ยังมีคนลอบถ่ายรูปเขาไปปล่อยบนเครือข่ายภายในขัตติยะ
เพียงเมื่อหลินฮวงมาถึงทางเข้าวังจักรพรรดิ เขาก็พบคนที่รออยู่ตรงประตูแล้ว
“เสี่ยวโม่?มาที่นี่ได้ยังไง?”
“ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่าท่านกลับมา ข้าเดาว่าท่านต้องกลับมาวังจักรพรรดิแน่ ดังนั้นข้าจึงมารอ”หลังเสี่ยวโม่ได้รับข่าว เขาก็มารอที่หน้าประตูวังจักรพรรดิ
“ไปคุยข้างในกันเถอะ”หลินฮวงกล่าวขณะผลักเปิดประตูวังและเดินเข้าไป
“เจ้าเปลี่ยนไปมากนะ ระดับพลังเจ้าเป็นเทพเสมือนขั้น3แล้วและกลิ่นอายเจ้าก็ยังเสถียรขึ้นมาก เจ้าคงผ่านการต่อสู้จริงมามากสินะ?”หลินฮวงแสดงความคิดเห็น
“ปีนี้ข้าใช้เวลากว่าครึ่งในทะเลลึกของมหาสมุทรสันติ”เสี่ยวโม่พยักหน้า”แต่มันก็ยากมากที่จะพัฒนาต่อหลังขั้น3 มีมอนสเตอร์น้อยเกินไปที่เหนือกว่าขั้น3ในโลกกรวด”
“เมื่อวิกฤตนี้คลี่คลาย เจ้าสามารถไปมหาพิภพกับข้าได้ ที่นั่น ระดับเทพเสมือนแค่จุดเริ่มต้น”
“นั่นคือที่ข้าวางแผนไว้”เสี่ยวโม่พยักหน้า
ทั้งสองเดินไปส่วนลึกของโถงหลัก หลังนั่งลง หลินฮวงก็มองเสี่ยวโม่ด้วยสีหน้าจริงจัง”มีเหตุผลชัดเจนไหมว่าทำไมเจ้าถึงมาหาข้า?”
เสี่ยวโม่เงียบไป มันดูเหมือนเขากำลังเรียบเรียงสิ่งที่อยากพูด
“นับตั้งแต่ข้าเลื่อนเป็นเทพเสมือน11เดือนก่อน ทั้งหมดที่ข้าต้องทำคือหลับและข้าจะฝันแปลกๆ”เสี่ยวโม่กล่าวและหยุดไป เขาเหลือบมองหลินฮวงก่อนพูดต่อ”รายละเอียดของฝันข้าเกี่ยวกับเทพอีกา”
หลินฮวงขมวดคิ้ว”เจ้าจำรายละเอียดเฉพาะของฝันได้ไหม?”
“ฉากในฝันไม่ประติดประต่อ แต่ข้าเห็นร่างจำแลงของเทพอีกาบนมหาสมุทรสันติ เขากำลังวางแผนทำอะไรบางอย่าง”
“แน่ใจนะว่ามันคือร่างจำแลงของเทพอีกา?”หลินฮวงสงสัยเพราะเขาเคยเห็นร่างจำแลงของเทพอีกาหายไปกับตา
“ข้าแน่ใจ แม้เขาจะใช้ร่างมนุษย์ แต่กลิ่นอายก็คล้ายกับข้า”เสี่ยวโม่ ผู้เคยเป็นภูติอีกาย่อมคุ้นเคยกับกลิ่นอายของเทพอีกา
“ข้าเห็นร่างจำแลงของเทพอีกาหายไปกับตาข้าในตอนนั้น แต่ข้าไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่เขาจะใช้จั่กจั่นทองคำลอกคราบ”หลังหลินฮวงพิจารณา เขาก็รู้สึกว่าเจตจำนงค์ของเทพอีกาอาจยังไม่หายไป”งั้น เจ้าก็ใช้เวลาในมหาสมุทรสันติเพื่อหาตัวเขาสินะ?”
“ใช่ เรื่องหนึ่ง มันเพื่อยืนยันว่าฝันข้าเป็นจริงไหม สำหรับอีกเรื่อง ข้ายังอยากกำจัดเขากรณีที่เขาวางแผนร้ายเพิ่ม ข้ายังพิจารณาความจริงที่ข้าต้องเลื่อนเป็นเทพเสมือนและทรัพยากรในโลกกรวดก็มีจำกัด ต่อให้ระดับพลังเขาสูงกว่าข้า มันก็คงไม่มากนัก หากข้าเอาชนะเขาไม่ได้ ข้าก็ย่อมหนีได้ นอกจากนี้ เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะยังมีชีวิต ไม่จำเป็นที่ข้าต้องเผชิญหน้ากับเขาลำพัง ข้าสามารถขอให้หวงเทียนฟู่กับคนอื่นมาช่วยกันฆ่าเขาได้!”
เสี่ยวโม่กลัวว่าหากฝันเขาเป็นแค่ฝันและไม่มีอะไรเป็นจริง การรีบขอกำลังหนุนจากหวงเทียนฟู่คงน่าอึดอัด ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาต้องระบุความจริงให้ได้ก่อน ยืนยันว่าอีกฝ่ายมีอยู่จริง จากนั้นค่อยขอกำลังเสริม
“เจ้าคงหาเขาไม่เจอสินะ?”หลินฮวงเดา
“ใช่..”เสี่ยวโม่ส่ายหัว”ข้าสงสัยว่าเขาอาจลอบจับตาดูการเคลื่อนไหวข้า ในเวลาหกเดือนที่ข้าท่องอยู่หลายส่วนของมหาสมุทรสันติ มีหลายอย่างคล้ายกับฝันข้ามาก แต่หลังค้นหาตามสิ่งที่ข้าเห็น ข้ากลับไม่เจอเขาเลย”
“หากเจ้าสามารถเห็นเขาได้ มันก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจเห็นเจ้าเช่นกัน เหนือสิ่งอื่นใด เจ้าเคยเป็นภูติอีกา มันเป็นไปได้ว่าอาจมีการเชื่อมต่อระหว่างเจ้ากับเทพอีกา”
แม้เสี่ยวโม่จะไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าฝันเขาเป็นจริง หลินฮวงก็ยังชื่อว่านี่อาจเกิดจากการเชื่อมต่อพิเศษของเขากับเทพอีกา
“เอาแบบนี้เป็นยังไง ข้าจะให้คนไปมหาสมุทรสันติกับเจ้าและพวกเขาจะช่วยเจ้าแก้ไขเรื่องนี้”หลินฮวงรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่จะปลดปล่อยทาสดาบ
“แต่หากฝันข้าแค่ฝันและไม่มีอะไรเป็นจริง พวกเขาจะไม่ว่าอะไรงั้นหรือ?”เสี่ยวโม่ยังอาย
“ไม่เป็นไรอะไร หากมันไม่มีอะไรจริงๆ พวกเขาก็จะถือว่ามันเป็นวันหยุด”หลินฮวงกล่าวและเรียกทาสดาบทั้ง268คนออกมา
หลังเลื่อนเป็นเทพเสมือน อำนาจควบคุมทาสดาบเขาก็เพิ่มขึ้น ตอนนี้เขาสามารถอัญเชิญทาสดาบที่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยได้ทั้งหด
เมื่อเขาเห็นคนกว่าสองร้อยปรากฏตัวพร้อมกัน เสี่ยวโม่ก็แค่ผงะ แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอาย สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง
ทาสดาบทั้ง268ได้รับผลโดยระดับพลังของหลินฮวง ความสามารถจริงพวกเขาตอนนี้คือเทพแท้จริงขั้นสาม ต่อให้กลิ่นอายจะไม่แสดงออกมา มันก็มากพอจะทำให้เทพเสมือนทั้งหมดตกใจ
“ท่านจอมดาบ!”
เมื่อทาสดาบทั้งหมดถูกเรียกออกมา พวกเขาก็ทักทายหลินฮวงกันอย่างพร้อมเพรียง
“นี่คือโลกกรวดที่กฏไม่สมบูรณ์ ระดับพลังสูงสุดที่สามารถใช้ได้ที่นี่แค่เทพเสมือนขั้น9 หากพวกเจ้าอยากมีอิสระ พวกเจ้าจะต้องผนึกพลังไว้ที่เทพเสมือนขั้น9”
“หากพวกเจ้าไม่อยากอยู่ในโลกกรวด เจ้าสามารถกลับไปแดนจอมเทพได้ก่อน เมื่อข้ากลับไปมหาพิภพ ข้าจะเรียกพวกเจ้าออกมาใหม่”
หลังหลินฮวงพดจบ ไม่มีสักคนที่พูดถึงการกลับไปแดนจอมเทพ พวกเขาต่างผนึกพลังตัวเองกัน
ทาสดาบทั้ง200 ดาบ101-300เพิ่งออกแดนจอมเทพได้เป็นครั้งแรกในรอบแสนปี ตอนนี้ที่พวกเขาได้รับการปล่อยตัว พวกเขาย่อมอยากอยู่ให้นานขึ้น
สำหรับอีก68 ดาบ301และที่เหลือ แม้จะได้ท่องเที่ยวในแดนเทพมาแล้ว นั่นก็ยังไม่ถึงเดือน พวกเขาจึงอยากรู้เกี่ยวกับโลกกรวดมาก
เนื่องจากโลกกรวดมีข้อจำกัด ต่อให้ระดับพลังพวกเขาถูกผนึกไว้ที่เทพเสมือนขั้น9 พวกเขาก็ยังนับว่าเหนือกว่าใคร ดังนั้น โดยไม่ลังเล ทุกคนจึงผนึกความสามารถตัวเองทันที
“คนเหล่านี้…”หลังได้ยินว่าทุกคนกำลังจะผนึกพลังตัวเองให้เป็นเทพเสมือนขั้น9 เสี่ยวโม่ก็ตระหนักว่าคนกว่าสองร้อยคนที่นี่คือเทพแท้จริง
“พวกเขาคือสมาชิกองค์กรที่ข้าก่อตั้งในมหาพิภพ”หลินฮวงสรุปสั้นๆ”แม้องค์กรจะยังไม่ก่อตั้งอย่างเป็นทางการก็เถอะ”
“พวกเขาล้วนเป็นเทพแท้จริง?”ถึงแม้เขาจะเห็นมันด้วยตาตัวเองมาแล้ว เสี่ยวโม่ก็ยังรู้สึกไม่อยากเชื่อ
“พวกเขาล้วนเป็นเทพแท้จริง”หลินฮวงพยักหน้า
มันใช้เวลาไม่นานสำหรับทาสดาบในการผนึกพลังตนเอง จากนั้นสัมผัสต่อต้านจากโลกนี้ที่พวกเขารู้สึกก่อนหน้าก็หายไป
“ใครในหมู่พวกเจ้าที่แกะรอยเก่ง?”หลินฮวงถามกลุ่มทาสดาบตรงหน้าเขา
ทันทีที่เขาพูด คนกว่าสิบก็ยกมือ
“เอาละงั้น มันจะเป็นพวกเจ้า12คน พวกเจ้าต้องเดินทางไปมหาสมุทรสันติกับเสี่ยวโม่และจัดการปัญหาเรื่องเทพอีกา”หลินฮวงกวาดตามองที่เหลือ”ในโลกกรวดนี้ ข้ามีสององค์กรภายใต้บัญชาข้า หนึ่งคือขัตติยะและอีกหนึ่งชื่อว่าผู้ปลดปล่อย ข้าอยากให้พวกเจ้าที่เหลือ20คนเข้าร่วมกับสององค์กรนี้ชั่วคราว สิบคนต่อองค์กร เหล่าคนที่เข้าร่วมจะถือเป็นแขกระดับสูงสุดและจะสามารถเข้าร่วมการประชุมระดับสูงของทั้งสององค์กรได้..”
ก่อนหลินฮวงจะพูดจบ ทาสดาบจำนวนมากก็ยกมือขึ้นแล้ว
เขาเหลือบมอง ทาสดาบกว่า80%ต่างยกมือขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“ดาบ101และ102 พวกเจ้าเลือกคนของตัวเองให้ครบสิบ เน้นให้ความสามารถเข้าคู่กัน”
มันใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีเพื่อจับกลุ่ม
“ที่เหลือจะนำโดยดาบ103 ในโลกกรวดนี้ สร้างพันธมิตรดาบขึ้นซะ”
“ภารกิจที่ข้ามอบหมายให้พวกเจ้าคือ–หาคนที่มีพรสวรรค์เต๋าดาบในโลกกรวด ให้พวกเขาเข้าร่วมพันธมิตรดาบและฝึกพวกเขาให้เป็นผู้บ่มเพาะดาบที่เก่งกาจ!”