พวกเขาคุยเล่นกันจนดึก
แม้เจ้าอ้วนจะเป็นหัวหน้าพ่อครัว เขาก็แค่จัดเตรียมไม่กี่จานก่อนส่งมอบครัวให้คนอื่นและมาร่วมวงด้วย
หลินฮวงยังได้รับความเข้าใจถึงสถานการณ์ของทุกคนในปีนี้
เล้งเยวี่ยซินยังเข้าสมาคมอัจฉริยะเช่นกัน แต่นางเข้าร่วมพันธมิตรหง เนื่องจากนางใช้การ์ดไร้ที่ติ พรสวรรค์และศักยภาพนางจึงไม่ต่ำกว่าหยี่เยว่หยู่ เนื่องจากหยี่เสิ่นและน้องสาวเขาเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ พันธมิตรหงจึงทำให้เล้งเยวี่ยซินกลายเป็นตัวเอกของฝ่ายพวกเขาทันที
เหมือนกับหยี่เยว่หยู่ เล้งเยวี่ยซินกลายเป็นหนึ่งในสามเทพธิดาของสมาคมอัจฉริยะ
ถัดจากห้าเจ้าชายและจักรพรรดิหลิน เล้งเยวี่ยซินกับหยี่เยว่หยู่ครองตำแหน่งสองราชินี
แม้หยี่เสิ่นและอัจฉริยะคนอื่นจะไม่ได้อ่อนแอ พวกเขาก็ยังด้อยกว่าสามราชินี
แต่ทว่า สามราชิน็คงชื่อไว้ได้ไม่นาน
ท่ามกลางสามราชินี เล้งเยวี่ยซินคือคนแรกที่เลื่อนเป็นจักรพรรดิและออกสมาคมอัจฉริยะไป หยี่เยว่หยู่ตามไปติดๆ ทะลวงผ่านเป็นจักรพรรดิหลังผ่านไปครึ่งเดือน
หลินฮวงไม่คิดว่าสองสาวจะประสบความสำเร็จมากขนาดนี้
นอกจากสองสาว ทุกคนยังดูเหมือนจะผ่านอะไรมามากเช่นกัน
เฉินเตาเดินทางเพื่อค้นหาความทรงจำเขา รวมถึงบ่มเพาะไปในตัว มันอาจเป็นเพราะผลกระทบของการ์ดไร้ที่ติร่วมกับสถานที่แสนคุ้นเคย แต่ความทรงจำที่เขาเสียไปก็กลับมา90%แล้ว
เขายังริเริ่มไปหาเพื่อนเก่าเขาเช่นถานหลางและเฉิงเถา
เฉินเตายังกล่าวถึงเรื่องแปลกๆ ผู้ใช้แมลงนามหลีเจี่ยได้หายตัวไป เขาหายไปอย่างไร้ร่อยรอยหลังออกสมาคมอัจฉริยะไป
ความคืบหน้าของลั่วหมิงในปีนี้ก็คล้ายกับเสี่ยวโม่ เขาทั้งล่ามอนสเตอร์หรือปิดประตูบ่มเพาะ ระดับพลังเขาจึงพุ่งทะยาน
ไม่เพียงระดับพลังเขาจะเลื่อนเป็นจักรพรรดิทองม่วงขั้นสูงสุด แต่เต๋าดาบเขายังพัฒนาขึ้นมาก ตอนนี้เขามาถึงขั้น6และอยู่ห่างจากแก่นแท้เต๋าดาบแค่ครึ่งก้าว
ด้วยความสามารถปัจจุบันเขา ต่อให้เป็นเทพเสมือนขั้น1เขาก็ยังสู้ด้วยได้
เจ้าอ้วนเปิดร้านอาหารในปีนี้ การทำอาหารทุกวันทำให้เขามีความสุขมาก
ด้วยความช่วยเหลือของคนในขัตติยะ ระดับพลังเขาจึงเพิ่มและธุรกิจก็ราบรื่น
แต่ทว่า สิ่งที่แปลกคือ แม้เขาจะทำงานหนักทุกวัน เขากลับไม่ผอมลงเลย
ตรงกันข้าม หลี่หลางอาจมีชีวิตที่น่าเศร้าสุด
หลังใช้การ์ดไร้ที่ติ พรสวรรค์และศักยภาพเขามาถึงระดับของสุดยอดอัจฉริยะ แต่ระดับพลังเขายังเป็นแค่นิรันดร์ขั้น7 ซึ่งห่างไกลจากหยี่เสิ่นมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ให้ความทุ่มเทกับการบ่มเพาะเลย
หลังคุยกันเล็กๆน้อยๆ หลินฮวงก็รู้ว่าหลี่หลางตกหลุมรักสาวนางหนึ่ง แต่นางกลับไม่สนใจเขาเลยตั้งแต่ต้น
เพื่อพิชิตหัวใจของสาวน้อยผู้นั้น เขาจึงเปลี่ยนแปลงตัวเอง
หญิงสาวผู้นั้นบอกว่านางไม่ชอบผู้ชายสวมชุดเด่นๆ เขาจึงทิ้งชุดเดิมทั้งหมดไป นางยังบอกว่านางชอบผู้ชายผมสั้นเกรียน เขาจึงโกนผม…
ทุกวัน เขาพยายามทุกทางเพื่อเอาชนะใจนาง แต่สุดท้ายมันก็เปล่าประโยชน์
มันก็ประมาณหกเดือนมาแล้วที่หลี่หลางถูกปฏิเสธ เขานอนจนกระทั่งบ่ายทุกวัน บางคนยังถึงคืนต่อไป เขาเคยเป็นคนเรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังไม่ทำความสะอาดบ้านตัวเองด้วยซ้ำ เขาไม่เคยเปลี่ยนผ้าปูเตียงเลยและไม่สนใจว่าผลไม้ในตู้เย็นจะเน่าไหม…
ท้ายที่สุด หยี่เสิ่นและคนอื่นก็ทนไม่ได้อีกและบังคับลากเขาออกจากบ้าน…
สภาพจิตใจเขาเพิ่งกลับเป็นปกติได้สองเดือนก่อน
ปัญหาเรื่องนี้ไม่ใช่อะไรที่หลินฮวงควรแสดงความคิดเห็น เขาจึงทำได้แค่พูดปลอบไม่กี่คำ เขาบอกหลี่หลางให้อุทิศตัวกับการบ่มเพาะและทำให้ตัวเองยุ่งเพื่อที่จะได้ไม่คิดมาก
…
เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนออกร้านอาหารของเจ้าอ้วน มันก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว
หลินฮวงมึนเล็กน้อยจากการดื่มไวน์มากไป ดังนั้นเขาจึงหลับสนิทจนถึงเช้า
เขาถูกปลุกตอนประมาณเก้าโมงเมื่อคุณฟู่ส่งข้อความมาหาเขา
“มากินเข้าช้าวด้วยกันสิ”
หลินฮวงรีบล้างหน้าล้างตาทันที
เมื่อหลินฮวงมาถึงร้านเกี๊ยวน้ำของลุงและป้า คุณฟู่ก็นั่งรออยู่แล้ว เมื่อเขาเห็นหลินฮวง เขาก็โบกมือให้
หลินฮวงเดินไปนั่งตรงข้ามคุณฟู่
“เจ้ากลับมาครั้งนี้ เจ้ายังคิดว่าเกี๊ยวของร้านนี้ยังอร่อยขึ้นไหม?”คุณฟู่ถามด้วยรอยยิ้ม
“มันอร่อยขึ้นจริงๆ”หลินฮวงตกตะลึง พร้อมนึกถึงรสชาติของเกี๊ยว เทียบกันแล้ว มันอร่อยขึ้นจริงๆ”ข้าคิดว่ามันเพราะข้าไม่กลับมาปีหนึ่งเต็มๆและในที่สุดก็ได้ลิ้มรสอีกครั้ง”
“ข้าสอนเคล็ดพวกเขาไปเล็กน้อย”คุณฟู่อธิบายด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ เป็นแบบนี้นี่เอง”
สำหรับนักล่าอาหารชั้นนำอย่างคุณฟู่ การเตรียมวัตถุดิบทั่วไปเป็นเรื่องง่ายๆ
“ข้ามากินที่นี่บ่อย พวกเขามีข้อบกพร่องในกระบวนการปรุงก่อนหน้านี้ ดังนั้นข้าจึงอดไม่ได้ที่จะเสี้ยมสอน”คุณฟู่สารภาพ
ทั้งสองคอยกันสักพัก จากนั้นลุงอ้วนก็มาพร้อมเกี๊ยวอีกจาน
“คุณฟู่ หากเกี๊ยวของทางเรายังมีส่วนไหนต้องพัฒนาเพิ่ม โปรดบอกให้พวกข้ารู้”
คุณฟู่คีบเกี๊ยวเข้าปาก จากนั้นก็พยักหน้า”การใช้วัตถุดิบทั่วไปจนได้รสชาติเช่นนี้นับว่าเกินมาตรฐานไปแล้ว มันดูเหมือนพวกเจ้าทั้งสองจะฝึกสิ่งที่ข้าสอนไปอย่างหนักเลยสิ”
“ทุกอย่างก็เพราะอาจารย์!”ลุงอ้วนรีบประจบคุณฟู่”ข้าจะกลับไปทำงานของข้า ข้าจะได้ไม่รบกวนเวลาของพวกท่าน”
หลังลุงอ้วนออกไป หลินฮวงกับคุณฟู่ก็กินกันเงียบๆ
หลังเกี๊ยวร้อนๆหมด คุณฟู่ก็วางตะเกียบและกางม่านพลังเพื่อป้องกันเสียงเล็ดลอดออกไป
“เรื่องการประชุมเมื่อวาน เจ้าไม่ได้ให้ข้อมูลของผู้บุกรุก เจ้าไม่สามารถสืบเรื่องนี้ได้จริงๆ หรือเจ้าจงใจไม่บอก?”
หลินฮวงวางตะเกียบลงและเงียบไปสักพักก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง
“มันเป็นความจริงที่ข้าไม่สามารถสืบสวนเรื่องนี้ได้ แต่ข้าก็ยังปิดบังข้อมูลบางส่วนไว้”
“เจ้าจะบอกข้าได้หรือไม่?”คุณฟู่จ้องตาหลินฮวง
“ก่อนหน้านี้ เรามักคิดว่ากฏของโลกกรวดไม่สมบูรณ์ และพลังของประตูมิติก็ถูกจำกัด เราสันนิษฐานว่าต่อให้ประตูมิติเปิดเต็มที่ ก็คงมีแค่เทพแท้จริงขั้นต่ำที่ผ่านมาได้”
“แต่ในความเป็นจริง มันไม่ใช่แบบนั้น เมื่อมหาพิภพรุกรานโลกกรวด มันจะยับยั้งเจตจำนงค์ของโลกผ่านวิธีพิเศษและเสริมช่องทางมิติ ขีดจำกัดสูงสุดสำหรับการส่งผ่านระดับพลังสามารถเพิ่มได้จนถึงเทพแท้จริงขั้น9…”
เมื่อเขาได้ยิน มือขวาของคุณฟู่ก็สั่นสะท้าน
“เจ้ากำลังบอกว่าเมื่อถึงเวลา จะไม่ได้มีแค่เทพแท้จริงขั้นต่ำ แต่ยังมีเทพแท้จริงขั้นกลางและสูงอีกด้วย?อาจมีแม้กระทั่งเทพแท้จริงขั้นสูงสุด?!”
หลินฮวงพยักหน้า
“งั้นเราควรทำยังไงกัน?ปัจจุบัน เราไม่มีเทพแท้จริงเลย ต่อให้ด้วยเทพเสมือนขั้น9ทั้งสิบที่เจ้านำกลับมา อย่างมากพวกเขาก็ทำได้แค่สร้างค่ายกลต่อสู้เพื่อสู้กับเทพแท้จริงขั้นต่ำ ค่ายกลต่อสู้จะไร้ประโยชน์หากเราพบกับเทพแท้จริงขั้นกลาง นับประสาอะไรกับขั้นสูง”
“ข้านำมามากกว่าสิบ พวกเขามีทั้งหมด268คน และก็ไม่ใช่เทพเสมือนขั้น9 แต่เป็นเทพแท้จริง อย่างไรก็ตาม ความสามารถพวกเขาถูกผนึกไว้”
“เทพแท้จริง268คน?”ดวงตาของคุณฟู่สว่างวาบ”ขั้นอะไร?”
“ปัจจุบันพวกเขาเป็นขั้น3กันหมด”
“ระดับพลังยังต่ำ..”คุณฟู่อดถอนหายใจไม่ได้”แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร”
“อาจารย์ ท่านไม่ต้องกังวลมากนัก ทุกปัญหาย่อมมีทางออก แทนที่จะกังวลถึงเรื่องที่ยังไม่เกิด มันดีกว่าที่เราจะจัดการปัญหาตอนนี้ ข้าไม่ได้บอกเทียนฟู่และจื่อจี้ถึงเรื่องนี้เพราะข้ากลัวว่าพวกเขาจะกังวลเกินไปและข่าวอาจทำร้ายสุขภาพจิตพวกเขา”
“เจ้าตัดสินใจได้ถูกแล้ว”คุณฟู่เห็นด้วยหลังได้ยิน”หากศัตรูเราเป็นแค่เทพแท้จริงขั้นต่ำ ทุกคนจะรู้สึกว่าหากเราทุ่มสุดตัว เราอาจชนะ แต่หากพวกเขาพบว่าศัตรูเราคือเทพแท้จริงขั้นสูง ข้าเกรงว่าหลายคนอาจยอมแพ้ทันทีเพราะไม่อาจเห็นความหวังได้”
“ข้าจะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร ไม่ต้องห่วง?”
“แล้วแผนเจ้าหลังจากนี้คืออะไร?”คุณฟู่ถามอีกครั้ง
“ข้าจะปิดประตูบ่มเพาะเพื่อยกระดับพลังข้า!”