หลินฮวงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อได้ยินอีกฝ่ายท้าเขาสู้ตัวต่อตัว
เพราะพันหน้า ระดับพลังที่เขาแสดงออกไปจึงเป็นแค่เทพเสมือนขั้น3 แต่ระดับพลังจริงเขาเป็นเทพเสมือนขั้น6แล้ว
สำหรับร่างจำแลงเทพอีกา ระดับพลังมันแค่เทพเสมือนขั้น2
ระดับพลังมันอย่างเดียวก็ต่ำกว่าหลินฮวงถึงสี่ขั้นแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น หลินฮวงยังสามารถโค่นเทพแท้จริงขั้นกลางได้ตอนเขาเป็นแค่เทพเสมือนขั้น3 ตอนนี้ที่เขาเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น6 พลังต่อสู้จริงเขาจึงไม่ด้อยไปกว่าเทพแท้จริงขั้น9ทั่วไป ถึงกระนั้น นี่ก็ยังไม่ถือเป็นหนึ่งในไพ่ตายเขา
ต่อให้เทพอีกาจุติลงมาเอง ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะตายเมื่อต้องเจอกับหลินฮวง นอกจากนี้ คู่ต่อสู้ปัจจุบันเขายังเป็นแค่ร่างจำแลงเทพอีกา และระดับพลังก็แค่เทพเสมือนขั้น2เท่านั้น
ร่างจำแลงเทพอีกามีความสุขมากเมื่อได้ยินว่าหลินฮวงตกลงรับคำท้ามัน
แม้หลินอวงจะเป็นเทพเสมือนขั้น3ซึ่งมีระดับพลังเหนือกว่ามัน มันก็ไม่กลัวเลย
“ในเมื่อมันคือการต่อสู้ตัวต่อตัว งั้นก็มาตั้งกฏกันล่วงหน้า ในระหว่างการต่อสู้ อนุญาตให้ใช้วิธีการใดก็ได้ หากเจ้าแพ้ เจ้าต้องปล่อยข้าไปอย่างไร้บาดแผล”
“ไม่มีปัญหา แต่หากเจ้าแพ้ละ?”หลินฮวงถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้าจะเลิกตั้งพิกัดเส้นทางมิติ และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับแผนการบุกรุกโลกกรวดของร่างหลักข้าอีก”ร่างจำแลงเทพอีกาพยายามเสนอทางรอดให้ตัวเอง
“เจ้าไม่ต้องลำบากขนาดนั้น ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำคือยอมเสียสละชีวิตเจ้า”หลินฮวงกล่าวพร้อมบอกความต้องการเขาเป็นนัยๆ
สีหน้ามันสลดลง แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่ทางเลือก หากมันอยากรอด มันต้องชนะ!
ในไม่ช้ามันก็สงบสติลง และความมั่นใจก็กลับคืนมาเมื่อนึกถึงไพ่ตายมัน
“งั้นก็มาสู้กันเลย ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาคำพูด!หากข้าชนะ เจ้าต้องปล่อยข้าไปอย่างปลอดภัย”
“ไม่ต้องห่วง ขอแค่เจ้าชนะ ข้าจะปล่อยเจ้าไปแน่!”หลินฮวงพยักหน้า
ทั้งสองได้ข้อตกลงกันอย่างรวดเร็วและเสี่ยวโม่ก็ก้าวหลบออกไป
เขามั่นใจมากในความสามารถของหลินฮวง หากคู่ต่อสู้ของหลินฮวงเป็นเทพแท้จริง งั้นเสี่ยวโม่อาจกังวลบ้าง แต่ทว่า อีกฝ่ายแค่เทพเสมือนขั้น2 และระดับพลังเพียงอย่างเดียวก็นับว่าต่ำกว่าหลินฮวงแล้ว
เมื่อเสี่ยวโม่ได้ยินร่างจำแลงเทพอีกาเสนอการต่อสู้ตัวต่อตัว ในหัวใจเขากลับเยาะเย้ยต่อมัน
หลินฮวงยืนตัวตรง ไม่คิดขยับก่อน
ความแตกต่างในพลังระหว่างตัวเขาและร่างจำแลงเทพอีกาสูงเกินไป หากเขาโจมตีก่อน อีกฝ่ายคงไม่มีโอกาสเลย นอกจากนี้ หลินฮวงยังอยากดูว่าอีกฝ่ายมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรที่ทำให้มันมั่นใจนักหนา
ร่างจำแลงเทพอีกาเต็มไปด้วยความมั่นใจ มันยังใช้ไพ่ตายออกมาทันที
มันยืนบนหัวราชาทะเลและรูม่านตาก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท
วินาทีต่อมา ดวงตาของราชาทะเลใต้เท้ามันก็กลายเป็นสีดำสนิทเช่นกัน และมันก็เปิดปากกว้าง
เพียงเมื่อหลินฮวงคิดว่าราชาทะเลกำลังจะโจมตี เงาร่างจำนวนมากก็พุ่งออกจากปากมัน
หลินฮวงหรี่ตามองและเห็นว่าพวกมันคือมอนสเตอร์ทะเล ทั้งหมดมีพลังระดับเทพเสมือน ตัวที่มีพลังต่ำสุดคือเทพเสมือนขั้น1 ส่วนระดับสูงสุดคือเทพเสมือนขั้น4 และพวกมันยังมีกันมากกว่าสามสิบตัว
เมื่อเห็นแบบนี้ ในที่สุดหลินฮวงก็รู้ว่าความมั่นใจของมันมาจากไหน
“นี่คือสิ่งที่ทำให้เจ้ากล้าท้าทายข้า?”
“มอนสเตอร์ทั้งหมด34ตัวคือเทพเสมือน สามตัวมีพลังของเทพเสมือนขั้น4 เจ้าสามารถยอมแพ้ได้เสียตอนนี้ก่อนที่ข้าจะโจมตี”ร่างจำแลงเทพอีกาคิดว่าตัวมันนั้นไร้เทียมทานแล้ว
“มันดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่รู้จักข้าดีพอ”หลินฮวงส่ายหัวและยิ้ม”เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าคือผู้ควบคุม?”
จากนั้นหลินฮวงก็ดีดนิ้ว
วินาทีต่อมา เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้าหลินฮวง
มันคือชายผมขาวสวมชุดดำ และมีเส้นเลือดวิ่งไหลบนเสื้อผ้า
ผู้ที่ถูกอัญเชิญในครั้งนี้ก็คือไป่
กลิ่นอายเทพแท้จริงของมันเผยออกมาชั่วขณะก่อนที่ไป่จะยับยั้งกลิ่นอายมัน รีบผนึกพลังมันเป็นเทพเสมือนขั้น9
ถึงกระนั้น ทันทีที่กลิ่นอายเทพเสมือนขั้น9ของไป่เล็ดรอดออกมา ร่างจำแลงเทพอีกาก็อ้าปากค้าง
แน่นอน มันรู้ว่าหลินฮวงคือผู้ควบคุม แต่มันมักคิดว่าไม่ว่ามอนสเตอร์ของหลินฮวงจะแข็งแกร่งแค่ไหน ระดับพลังก็ยังต้องถูกจำกัด เหนือสิ่งอื่นใด ระดับพลังของมอนสเตอร์อัญเชิญจะถูกจำกัดโดยระดับพลังของผู้ควบคุม แต่ทว่า มอนสเตอร์ตรงหน้ามันกลับมีกลิ่นอายที่เหนือยิ่งกว่านายของมันเสียอีก
“ไว้ชีวิตแค่เขา ที่เหลือจัดการให้หมด”
เมื่อสิ้นสุดเสียง ร่างของไป่ก็พุ่งตรงไปในฝูงมอนสเตอร์ เปิดฉากสังหารอยู่ฝ่ายเดียว
ในเวลาไม่ถึงสามวินาที มอนสเตอร์ระดับเทพเสมือนทั้ง34ตัวก็ถูกฆ่าตาย รวมถึงราชาทะเลใต้เท้าร่างจำแลงเทพอีกาด้วย
เช่นเดียวกับที่หลินฮวงกล่าว ไม่มีวิญญาณสักดวงที่ถูกละเว้น!
เสี่ยวโม่ ผู้เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ไม่ไกลก็ตกตะลึงเหมือนกัน เขาสัมผัสได้ชัดว่ามอนสเตอร์ที่ถูกควบคุมโดยร่างจำแลงเทพอีกามีพลังที่เหนือกว่าเขา แต่ทว่า มอนสเตอร์อัญเชิญแค่ตัวเดียวของหลินฮวงกลับฆ่าล้างพวกมันได้ง่ายๆราวกับพวกมันเป็นเพียงฝูงไก่กา
ร่างจำแลงเทพอีกาที่ก่อนหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจตอนนี้เป็นเหมือนนายพลไร้กองทัพ มันยังเสียที่ยืนไปด้วย
สีพลันถูกระบายออกจากหน้าของมัน มันได้ใช้ไพ่ตายไปแล้ว เดิม มันคิดว่าหากมันใช้ไพ่ตายตั้งแต่เริ่มต้น มันจะชนะได้โดยไม่ต้องวุ่นวายนัก แต่เรื่องราวกลับกลายเป็นอย่างนี้ไปได้
หลังฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมด ไป่ก็เหลือบมองไปทางเทพอีกา ไป่ไม่ได้โจมตีต่อและกลับไปยืนข้างหลินฮวง
แม้ไป่จะไม่พูดอะไรสักคำ มันก็ยังทำให้ร่างจำแลงเทพอีกาประสาทแทบแตก
โดยเฉพาะเมื่อดวงตาสีแดงเลือดจ้องมองมัน เทพอีกาสามารถรู้สึกได้ถึงความกระหายเลือดของอีกฝ่าย หากมันไม่ใช่ว่าคำสั่งของหลินฮวง เกรงว่ามันคงถูกเฉือนเป็นชิ้นๆไปแล้ว
“เจ้าแพ้แล้ว”หลินฮวงยิ้ม
เพียงเมื่อมันกำลังจะเปิดปากปฏิเสธ มันก็พลันเห็นว่าหลินฮวงได้หายไปโดยที่มันไม่รู้ตัว
เกือบจะพร้อมกัน มันก็รู้สึกถึงความเย็นเล็กน้อยที่คอมัน
มันหันหัวไปมองทางขวา เห็นหลินฮวงยืนอยู่ตรงนั้น ดาบสีเงินเล่มบางในมือหลินฮวงตอนนี้อยู่ด้านหน้าคอของมัน และดาบก็ได้ตัดไปในเนื้อมันประมาณหนึ่งมิลลิเมตร แผลบนคอมันเริ่มหลั่งเลือด
“บอกแผนการของเทพอีกามา”เสียงอันแน่วแน่ของหลินฮวงดังขึ้น
“ต่อให้ข้าบอกหรือไม่บอก ข้าก็ตายอยู่ดี ทำไมข้าถึงควรบอกเจ้า?”มันยังเลือกต่อต้าน
“ตราบเท่าที่เจ้าบอกข้า เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องตาย”หลินฮวงหันไปมองร่างจำแลงเทพอีกา”ต่อให้เจ้ามีชีวิต เจ้าก็จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ใบหน้ามันก็ซีดเซียว มันไม่รู้ว่ามันควรดีใจที่ได้ยินหรือรู้สึกอับอายจากถ้อยคำดูถูก
แต่ทว่า มันก็ลังเลอยู่แค่ชั่วขณะก่อนตัดสินใจได้
“ข้าจะไม่พูดอะไร”
ในฐานะร่างจำแลงเทพอีกา แม้มันจะมีเจตจำนงเป็นของตัวเอง แต่จิตสำนึกมันก็ยังภักดีต่อร่างหลัก ผลประโยชน์ของร่างหลักสำคัญกว่าชีวิตมัน
นี่คือสิ่งที่หลินฮวงคาดไว้แต่แรก
“ดี หากเป็นแบบนั้น ข้าคงต้องใช้วิธีอื่น”
ทันทีหลังหลินฮวงพูดเช่นนี้ สิ่งมีชีวิตหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้าเขา
มันคือสิ่งมีชีวิตคล้ายแมวลักษณะแปลกๆ คล้ายกับเสือเขี้ยวดาบจมูกยาว
หลังถูกอัญเชิญ รูม่านตาของสิ่งมีชีวิตนั้นก็จับจ้องร่างจำแลงเทพอีกาและเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ราวกับมันแช่ในน้ำหมึก
ร่างจำแลงเทพอีกาพลันหยุดขยับ และรูม่านตามันก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท
หลังจากนั้นไม่นาน สมเสร็จฝันร้ายก็ส่งเสียงฮึดฮัด
รูม่านตาของร่างจำแลงเทพอีกาหม่นหมอง และเปลี่ยนเป็นสีแดง
ดวงตาคู่แดงนั้นพลันจับจ้องหลินฮวง
จากนั้น ลำแสงสีแดงเลือดก็พุ่งจากรูม่านตาของมัน แหวกผ่านอากาศเหมือนสายฟ้าฟาด
ความเร็วของการโจมตีนี้ไม่ด้อยไปกว่าเทพแท้จริงขั้น9
มันเห็นได้ชัดว่าคนที่โจมตีไม่ใช่ร่างจำแลงเทพอีกาอีก แต่เป็นร่างหลักเทพอีกา
หากมีใครจากโลกกรวดเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ ทั้งหมดที่พวกเขาสามารถทำได้คือหลับตาและรอความตาย
แต่ทว่า นี่คือหลินฮวง
มุมปากหลินฮวงยกโค้งขึ้นเล็กน้อยและสะบัดดาบในมือโดยไม่ลังเล
คลื่นดาบพลันเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงและระเบิดด้วยความเร็วที่เหนือยิ่งกว่าการโจมตีของเทพอีกา
แสงสีแดงสองสายปะทะกัน และพลังเทวะไร้สิ้นสุดก็พวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง ส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้า
แสงสีแดงแพรวพราวเปล่งประกายอยู่กว่าสิบนาทีก่อนจะค่อยๆสลายหายไป
มันเหลือแค่หลินฮวงที่ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม ส่วนร่างจำแลงเทพอีกากลับสลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว
เห็นได้ชัดว่าร่างจำแลงเทพอีกาไม่สามารถรองรับพลังของเทพอีกาได้ หลังปลดปล่อยการโจมตี ร่างมันก็ไม่สามารถทนต่อพลังงานได้และระเบิดตัวตายไป
เมื่อเห็นว่าร่างจำแลงเทพอีกาสลายหายไปแล้ว หลินฮวงจึงหันหัวไปมองทางประตูมิติ
เขาปล่อยแก่นแท้เต๋าดาบ พลังกฏเทพและพลังตรัสรู้ธาตุเต็มแรง บีบอัดการโจมตีทั้งหมดไปที่ประตูมิติ
ไม่เหมือนกฏมิติของขอบเหวนรกที่มีรอยแยกมิติสะสมตลอดหลายร้อยล้านปี กฏมิติของประตูมิติที่สร้างขึ้นใหม่นี้ยังไม่เสถียรดี
ภายใต้อิทธิพลของพลังกฏเทพต่างๆ กฏมิติของประตูมิติจึงยิ่งไม่เสถียร
เมื่อเห็นว่าภายในประตูมิติกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง หลินฮวงจึงไม่ล้มเลิกความพยายาม เขากลับปลดปล่อยการโจมตีไม่หยุด สาดทุกการโจมตีใส่มัน
เขาทำอยู่อย่างนั้นกว่าครึ่งชั่วโมง สุดท้ายประตูมิติก็สั่นคลอนและพังทลายลง
รอยแยกมิติในโลกกรวดยังถูกปิดตัวด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในเวลาไม่ถึงสามนาที รอยแยกก็หายไปอย่างสมบูรณ์
จากนั้นหลินฮวงถึงเก็บดาบเขาไปพร้อมกับถอนหายใจยาว