หลินฮวงออกจากการปิดประตูบ่มเพาะ
เวลาในโลกภายนอกผ่านไปทีละวัน และเวลาของหลินฮวงก็เร็วขึ้นร้อยเท่า เวลาด้านนอกที่ผ่านไปทุกวัน เขาจะบ่มเพาะในห้องแห่งกาลเวลาเป็นเวลาร้อยวัน
ผ่านการเร่งของห้องแห่งกาลเวลา จำนวนพลังกฏเทพที่เขาใช้ได้ก็พุ่งสูงขึ้นแทบทุกวัน
เขาใช้เวลาแปดวันเพื่อเรียนการตรัสรู้ธาตุใหม่86อัน จากนั้นก็สองวันเพื่อเรียนพลังกฏเทพใหม่24อัน
เมื่อมาถึงจุดนี้ พลังกฏเทพที่เขาใช้ได้ก็มากถึง120แล้ว
ความเชี่ยวชาญของเทพแท้จริงที่มีต่อพลังกฏเทพแบ่งเป็นสี่ระดับ ชั่วขณะ ชำนาญ ควบคุมและสมบูรณ์
หลินฮวงใช้การ์ดเห็นแจ้งเพื่อเลื่อนพลังกฏเทพทั้งหมดเป็นระดับควบคุม ซึ่งยังเป็นขีดจำกัดปัจจุบันของการ์ดเห็นแจ้ง เพื่อให้ถึงระดับสมบูรณ์ หลินฮวงประเมินว่าตามมาตรฐานปัจจุบันเขา ทุกพลังกฏเทพเขาต้องใช้การ์ดเห็นแจ้งเพิ่มอย่างน้อยหนึ่งใบ มันอาจต้องใช้สองหรือสามใบเพื่อเข้าถึงความสมบูรณ์
ในความเป็นจริง พลังกฏเทพสมบูรณ์คือรากฐานของการสร้างบัญญัติเทพ
แต่ทว่า เทพแท้จริงคนใดที่สามารถเข้าถึงพลังกฏเทพระดับสมบูรณ์ได้ก็เทียบเท่ากับการก้าวสู่ระดับเทพสวรรค์ไปครึ่งตัวแล้ว ท่ามกลางเทพแท้จริง นี่ถือเป็นจุดสูงสุด
หลินฮวงค่อนข้างพอใจกับความสามารถปัจจุบันเขา พลังกฏเทพทั้ง120ล้วนเป็นระดับสมบูรณ์และความสามารถเขาก็นับเป็นเทพแท้จริงชั้นนำแล้ว ต่อให้เขาไม่เก่งเท่าเทพแท้จริงขั้นสูงสุด อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ามาก
แม้เทพอีกาจะมีพลังกฏเทพ108ชนิด ตามความสามารถทั่วไปเขา หลินฮวงเดาว่าพลังกฏเทพทั้ง108น่าจะอยู่ระดับเลือนรางเท่านั้น มีไม่มากที่อยู่ในระดับควบคุม
หลังสิบวันของการปิดประตูบ่มเพาะในห้องแห่งกาลเวลา ความสามารถโดยรวมของหลินฮวงก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง และความรู้สึกไม่มั่นคงก่อนหน้าเขาก็ลดน้อยลงแล้ว
“น่าเสียดาย หากข้ามีการ์ดห้องแห่งกาลเวลาอีก มันควรเป็นไปได้ที่จะยกระดับเต๋าดาบข้าเป็นขั้นความเป็นจริง”หลินฮวงยังรู้สึกว่ามันน่าเสียดาย แต่เขาก็เหลือแค่โอกาสสุ่มการ์ด4ดาว5ครั้ง ซึ่งไม่พอจะแลกเป็นการ์ดห้องแห่งกาลเวลา
ขณะเฝ้าดูห้องแห่งกาลเวลาตรงหน้าค่อยๆสลายตัวหายไป หลินฮวงก็ส่ายหัวและรวบรวมความคิดเขา
ตอนนี้เอง แหวนสื่อสารเขาเริ่มสั่นไม่หยุด
เนื่องจากสัญญาณสื่อสารถูกขวางโดยห้องแห่งกาลเวลา ข้อความจากก่อนหน้านี้จึงถูกสะสมไว้จนกระทั่งตอนนี้
หลินฮวงกดดูหน้าสื่อสารและพบว่าสามวันก่อน คุณฟู่ จื่อจี้และหวงเทียนฟู่ได้พยายามติดต่อเขา
สายแรกมาจากหวงเทียนฟู่ตอนประมาณแปดโมง สายสองมาจากจื่อจี้จากตอนประมาณเก้าโมง และสายสามมาจากคุณฟู่ตอนประมาณเที่ยง
หลินฮวงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเดาว่าคงมีเรื่องเกิดขึ้นแน่
เมื่อเห็นว่ายังมีข้อความที่ไม่ได้อ่านอีกมากในกล่องจดหมาย เขาก็รีบตรวจสอบ
ข้อความแรกถูกส่งมาโดยคุณฟู่ตอนประมาณตี5.15
“ศิษย์รัก ผนึกที่ขอบเหวนรกประสบกับความผันผวนผิดปกติ เราสงสัยว่ามันอาจถูกก่อกวนโดยกองกำลังภายนอก ข้าได้แจ้งรัฐบาลกลางแล้ว โปรดออกจากการปิดประตูบ่มเพาะให้เร็วที่สุด!”
ข้อความสองมาจากหวงเทียนฟู่ตอน8โมง22นาที
“ฝ่าบาท ผู้พิทักษ์ที่ขอบเหวนรกได้ส่งข่าวมาว่าผนึกของรอยแยกสามมิติสามอันเกิดความผันผวน และความผันผวนทางมิติของรอยแยกทั้งสามก็ยิ่งรุนแรง ข้าได้เรียกรวมเทพเสมือนของขัตติยะแล้ว”
ข้อความสามส่งมาโดยจื่อจี้ตอน8โมง41นาที
“ฝ่าบาท ผนึกของขอบเหวนรกแตกแล้ว ข้าได้เรียกรวมเทพเสมือนทั้งหมดแล้ว เรากำลังรอคำสั่งท่าน”
ข้อความสี่ส่งมาโดยคุณฟู่ตอนบ่าย
“ศิษย์รัก ข้าจะไปขอบเหวนรกเพื่อตรวจสอบสถานการณ์กับคนจากรัฐบาลกลาง ข้าจะแจ้งเจ้าและเทียนฟู่ถึงรายละเอียดทีหลัง”
ข้อความหลังจากนั้นถูกส่งมาโดยคุณฟู่พร้อมแนบรูปและวิดิโอ
หลินฮวงกดดูทั้งหมด ยิ่งเขาดู เขาก็ยิ่งขมวดคิ้ว
ในรูปที่คุณฟู่ส่งมา จำนวนผนึกที่แตกยังคงเพิ่มขึ้น
ตอนแรก มีเพียงสามผนึกที่ถูกทำลาย วันต่อมา มันกลายเป็นเจ็ด และในวันที่สาม มันกลายเป็น12…
ในวันที่สาม เทพเสมือนชุดแรกเริ่มถูกส่งมาผ่านรอยแยกมิติ
โชคดี รัฐบาลกลางเตรียมการมาดี ร่วมกับคุณฟู่ที่เป็นเทพเสมือนขั้น9 พวกเขาจัดตั้งค่ายกลรบและฆ่าศัตรูชุดแรกทันที
หลังค้นผ่านวิดิโอและรูปที่คุณฟู่ส่งมา หลินฮวงก็ไม่ลังเลและผลึกเปิดประตูวังจักรพรรดิออกไป
ดาบ101และดาบ102ทักทายเขาทันที
“พวกเจ้า เรียกรวมทาสดาบทั้งหมดและรีบไปขอบเหวนรกชั้นสามให้เร็วที่สุด!”
เมื่อเขาออกคำสั่ง หลินฮวงก็ใช้จิตเทวะและปรากฏในห้องทำงานของหวงเทียนฟู่ทันที
“ฝ่าบาท ท่านออกมาแล้ว!”
เมื่อเห็นหลินฮวง ในที่สุดหวงเทียนฟู่ก็ถอนหายใจ
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
แม้เขาจะได้รับข้อความแนวหน้าจากคุณฟู่ทุกวัน หลินฮวงก็ยังอยากรู้สถานการณ์จากทางฝั่งหวงเทียนฟู่
“มันไม่ดีนัก มีผนึกถูกทำลายมากขึ้น และตลอดสองวันที่ผ่านมา มหาพิภพได้เริ่มส่งคนมาตรวจสอบสถานการณ์ทางฝั่งนี้”สีหน้าหวงเทียนฟู่ไม่สู้ดี
“เมื่อวาน ข้าขอให้ท่านไป่ยู่และตู้ฟู่พาเทพเสมือนครึ่งหนึ่งไปขอบเหวนรก ยังมีทาสดาบ7ตนไปกับพวกเขาด้วย”
หลินฮวงสังเกตเห็นว่านอกจากดาบ101และดาบ102ที่เฝ้าตรงทางเข้า ยังมีทาสดาบคอยเฝ้าหลินซินอยู่ด้วย
“แล้วทางฝั่งผู้ปลดปล่อยละ?”หลินฮวงถาม
“พวกเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเรา พวกเขายังส่งเทพเสมือนครึ่งหนึ่งไป”หวงเทียนฟู่อธิบาย”เมื่อวานรัฐบาลกลางได้ประกาศข่าวต่อโลกบ่มเพาะ และองค์กรที่มีเทพเสมือนก็ได้ส่งคนมาหนุนทัพแล้ว”
“ดีมาก”หลินฮวงพยักหน้า
“หลินซินและเสี่ยวโม่ยังไม่ออกมาอีกงั้นหรอ?”เขาถามอีกครั้ง ใช้จิตเทวะ และพบว่าพวกเขายังปิดประตูบ่มเพาะ
“ไม่ครับ พวกเขาปิดประตูบ่มเพาะกันตลอดและไม่เคยออกมาเลย”หวงเทียนฟู่ส่ายหัว
“ข้าจะเดินทางไปขอบเหวนรก หากข้าไม่ออกคำสั่ง ก็ไม่จำเป็นต้องส่งคนมาเพิ่ม”หลินฮวงพูดพร้อมกับส่งข้อความไปหาจื่อจี้ ให้คำสั่งคล้ายๆกัน
หลังปิดหน้าสื่อสาร หลินฮวงก็เรียกประตูมิติออกมาและแหงนมองหวงเทียนฟู่”เจ้าต้องดูแลศูนย์ใหญ่ขัตติยะไปก่อน หากข้าต้องการกำลังเสริมจริงๆ ข้าจะแจ้งเจ้า”
ทันทีที่เขาพูดจบ ก่อนหวงเทียนฟู่จะได้ตอบสนอง หลินฮวงก็หายไปแล้ว
หวงเทียนฟู่เปิดปากเพื่อจะพูดบางอย่าง แต่ก็เห็นว่าหลินฮวงได้เข้าประตูมิติไปแล้ว
ประตูมิติค่อยๆปิดตัว หลินฮวงยืนอยู่อีกฝั่งของมันแล้วและโบกมือให้หวงเทียนฟู่ด้วยใบหน้าสงบนิ่งราวกับเขาแค่จะไปเที่ยว…