มหาพิภพไม่ใช่จุดหมายสุดท้ายของข้า!
ไป่และคนอื่นจัดการกับมอนสเตอร์ระลอกที่9ได้อย่างง่ายๆ ซึ่งสุดท้ายก็ทำให้เทพเสมือนของโลกกรวดเห็นความสามารถแท้จริงของหลินฮวงได้
นี่ยังกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนเกี่ยวกับมหาพิภพ
จากสิ่งที่พวกเขาเห็น ความสามารถของหลินฮวงเพิ่มขึ้นมากหลังผ่านไปหนึ่งปีในมหาพิภพ และตอนนี้เขาก็นับว่าไร้เทียมทานแล้วหลังกลับมาโลกกรวด
หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาจะก้าวหน้าเช่นนี้ไหมหากพวกเขาเดินทางไปมหาพิภพ
แต่ทว่า สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือหลินอวงสามารถบรรลุความก้าวหน้าดังกล่าวได้เพราะเขาอาศัยนิ้วทองคำ ด้วยพลังต่อสู้ระดับเทพเสมือนขั้นต้นของพวกเขา การเอาชีวิตรอดในมหาพิภพนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
หลังมอนสเตอร์ระลอกที่9มาถึง เหล่าทาสดาบก็มาถึงขอบเหวนรกกันเพิ่ม
คิ้วของกวนย่นเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าไม่คุ้นเคยหลายสิบที่มีพลังระดับเทพเสมือน
ในฐานะหัวหน้าหน่วยพิเศษของรัฐบาลกลาง เขามีข้อมูลเกี่ยวกับโลกกรวดทั้งหมด ต่อให้มันเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลกลางจะรวบรวมข้อมูลของเทพเสมือนทั้งหมดในโลกกรวด แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องมีบันทึกของเทพเสมือนกว่า95% อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับเทพเสมือนกว่า50คนที่เพิ่งมาถึงนี้ นอกจากพวกเขาเหล่านี้ ยังมี5หรือ6คนที่เขาไม่รู้จักท่ามกลางกลุ่มกำลังเสริมก่อนหน้านี้
แต่คนแปลกหน้าเหล่านี้กลับดูเหมือนจะรู้จักหลินฮวง บางคนยังก้าวไปทักทายเขา
ด้วยความสงสัยนี้ กวนจงจึงหันสายตาไปทางค่ายขัตติยะ ดวงตาเขากวาดไปทั่วบริเวณและพบว่ามีอีก9คนที่เขาไม่รู้จัก เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเขาไม่เคยเห็นข้อมูลของทั้งเก้าคนนี้ในฐานข้อมูล
หลังพบความผิดปกตินี้ กวนจงก็แจ้งตงฟางไป่ทันที
ตงฟางไป่ขมวดคิ้วหลังได้ยิน
“ทำไมเจ้าถึงเพิ่งรู้?”
“อย่างแรก ขัตติยะคือพันธมิตร ข้าจึงไม่ได้ให้ความสนใจทางฝั่งพวกเขานัก แถม หลินฮวงกับคุณฟู่ยังอยู่ที่นั่น พวกเขาสามารถขัดขวางสัมผัสข้าได้ง่ายๆ ดังนั้นข้าจึงพยายามเลี่ยงการมองไปทางนั้น ข้าเพิ่งได้เหลือบมองเมื่อสักครู่และพบว่ามีคนแปลกหน้ามากมายทางฝั่งของขัตติยะ”
“เจ้าคิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนของหลินฮวงหรือเปล่า?”ตงฟางไป่ถาม
“พวกเขาอาจไม่ใช่ลูกน้องเขา แต่ก็ต้องมีความสัมพันธ์กันแน่!”กวนจงไตร่ตรองสักพักก่อนพูดต่อ”ข้ายังสงสัยว่าคนเหล่านี้อาจไม่ใช่คนของโลกกรวดเรา!”
“ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนั้น?”ตงฟางไป่ถามด้วยความงงงวย
“ข้าแสร้งทำเป็นเหลือบมองไปตรงนั้นเพื่อสังเกตและพบว่าแหวนหัวใจจักรพรรดิบนมือคนเหล่านี้ล้วนเป็นสินค้าตลาดมืด คนส่วนใหญ่คงไม่พบความแตกต่าง แต่หลังทำงานในสายข่าวมานาน ข้าสามารถบอกได้ถึงความแตกต่างระหว่างของตลาดมืดและแหวนหัวใจจักรพรรดิทั่วไป”
“งั้นตัวตนของคนเหล่านี้ก็เป็นของปลอม?!”ดวงตาของตงฟางไป่เบิกกว้าง เขารีบหันไปมองหลินฮวง
ตอนนี้เอง หลินฮวงเองก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงสายตาของตงฟางไป่และมองเขากลับ
เมื่อพวกเขาสบตากัน ตงฟางไป่ก็ยิ้มและพยักหน้าให้หลินฮวง จากนั้นก็รีบเบือนหน้าหนี
หลินฮวงเลิกคิ้ว”แปลก”
“ทำไมเราถึงไม่ไปถามหลินฮวงตรงๆละครับว่าคนเหล่านี้มาจากไหน?”กวนจงถาม
“เจ้าคิดว่าเขาจะบอกความจริงไหมหากเขาซ่อนแผนการลับไว้?”ตงฟางไป่ส่ายหัว
“งั้นเราควรทำอย่างไรกันดี?เราไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์เลย เราควรรายงานเรื่องนี้หรือไม่?”กวนจงถามอีกครั้ง
“แจ้งเรื่องนี้กับเฒ่าเจียงก่อน บอกเขาถึงข้อสงสัยของเจ้า”ตงฟางไป่ครุ่นคิดสักพักก่อนตัดสินใจผลักส่งปัญหานี้ให้เจียงฉาน
กวนจงพยักหน้า หลังกลับไปเต็นท์เขา เขาก็ติดต่อเจียงฉานทันที เล่าทุกอย่างที่เขาพบว่าแปลก
หลังได้ยินสิ่งนี้ เจียงฉานก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”
เพียงเมื่อมอนสเตอร์ระลอกสิบมาถึง แหวนสื่อสารของคุณฟู่ก็ดังขึ้น เขาเปิดหน้าสื่อสาร พบว่าคนโทรมาก็คือเจียงฉานจากรัฐบาลกลาง
หลังสับสนอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กดรับสาย
“มีเรื่องอะไร เสี่ยวเจียง?”
“เฒ่าฟู่ ข้าได้ยินจากกวนจงว่ามีเทพเสมือนแปลกหน้าได้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาดูเหมือนจะรู้จักหลินฮวงด้วย ท่านรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?”
“ข้ารู้ กำลังเสริมเหล่านี้เป็นคนที่หลินฮวงนำกลับมาจากมหาพิภพ ทั้งหมดมีมากกว่าสองร้อยคน”คุณฟู่พยักหน้า เขาเดาไว้แล้วว่ารัฐบาลกลางต้องถามถึงเรื่องนี้
“กว่าสองร้อย และทั้งหมดยังเป็นเทพเสมือน?!”เจียงฉานตกตะลึง ตามสิ่งที่เขาได้ยินจากกวนจง ตอนนี้มีคนแปลกหน้าปรากฏแค่ประมาณ70คนเท่านั้น
“พวกเขาทั้งหมดเป็นเทพแท้จริง”คุณฟู่แก้ไข
“หือ?”เจียงฉายคิดว่าเขาหูฝาด”ว่าไงนะ ทั้งหมดเป็นเทพแท้จริง?!”
“ใช่ มีมากกว่าสองร้อยคนและทั้งหมดก็เป็นเทพแท้จริง”คุณฟู่ยืนยันอีกครั้ง
เจียงฉานอ้าปากค้าง ไร้คำพูดที่เล็ดลอดออกมา
หากหลินฮวงนำยอดฝีมือระดับเทพเสมือนกว่าสองร้อยกลับมา เขาอาจสงสัยว่าหลินฮวงกำลังวางแผนโค่นล้มอำนาจรัฐบาลกลาง หรือแม้กระทั่งกำจัดองค์กรอื่นด้วย เช่นนั้น ขัตติยะก็จะเป็นผู้ปกครองโลกกรวด
แต่ทว่า เนื่องจากคนที่หลินฮวงนำกลับมาล้วนเป็นเทพแท้จริง เขาจึงไม่เกิดความสงสัยเช่นนั้น เพราะหากหลินฮวงอยากปกครองโลกจริงๆ การนำเทพแท้จริงกว่าสองร้อยกลับมาก็มากพอจะกำจัดองค์กรทั้งหมดในโลกกรวดแล้ว ไม่จำเป็นที่เขาต้องมาเสียเวลาวางแผนร้ายอะไรเลย
“เทพแท้จริงเหล่านี้..เราสามารถเชื่อใจพวกเขาได้ไหม?”เจียงฉานถามหลังรวบรวมสติ”เป็นไปได้ไหมว่าองค์กรบางแห่งจากมหาพิภพกำลังใช้หลินฮวงเพื่อแทรกแซงโลกเรา..”
“คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนของหลินฮวง พวกเขาจะเชื่อฟังคำสั่งเขาทุกอย่าง จากการสังเกตของข้า ข้าเองก็ไม่พบปัญหาอะไร”คุณฟู่เผยข้อมูลอีกส่วน ซึ่งทั้งเขาและหลินฮวงได้ตกลงกันแล้วว่าสามารถเปิดเผยได้
เขาและหลินฮวงเดาไว้แล้วว่าทาสดาบต้องเป็นที่สังเกตในไม่ช้าก็เร็ว หลินฮวงไม่มีเจตนาจะปกปิดตัวตนของทาสดาบอยู่แล้ว หากพวกเขาเป็นกำลังเสริมที่เขาหยิบยืมมาจากมหาพิภพ พวกเขาคงกังวลใจ แต่ทว่า หากคนเหล่านี้เป็นคนของหลินฮวงเอง งั้นความกังวลของทุกคนก็จะลดลง อย่างน้อยหลินฮวงก็เป็นคนท้องถิ่นและคงไม่มีใครอยากให้บ้านเกิดตัวเองถูกทำลายหรือยึดครอง
“ข้าขอคุยกับหลินฮวงหน่อยได้หรือไม่?”
“ไม่มีปัญหา”คุณฟู่หันภาพฉายไปทางหลินฮวงที่อยู่ไม่ไกล
“หลินฮวง คนเหล่านี้เชื่อใจได้จริงๆหรือ?”เจียงฉานถามเขาตรงๆ
“พวกเขาเป็นคนของข้า ไม่มีปัญหาอะไรแน่”หลินฮวงพยักหน้า
“งั้นข้าขอถามอีกคำถาม ข้าหวังว่าเจ้าจะตอบตามตรง”สีหน้าของเจียงฉานดูจริงจัง หลังเงียบไปสักพัก เขาก็จ้องตาหลินฮวง”ข้าเชื่อใจเจ้าได้หรือไม่?”
หลินฮวงพยักหน้า”ท่านสามารถวางใจได้ นี่คือบ้านข้า ข้าก็เหมือนกับพวกท่าน ข้าไม่อยากให้ความสงบสุขของโลกกรวดถูกทำลาย”
“ข้ามีแค่สองจุดประสงค์ในการกลับมา หนึ่งคือแก้วิกฤตในโลกกรวด สองคือนำเพื่อนสนิทกับครอบครัวข้าไปกับข้า”
“มีอีกเรื่องที่ท่านสามารถวางใจได้ ข้าไม่มีแผนอะไรเกี่ยวกับโลกนี้ ต่อให้จะมีปัญหาบ้างในการพัฒนารัฐบาลกลางตลอดแปดร้อยปี แต่โดยรวม รัฐบาลกลางก็ถือว่าทำสุดความสามารถแล้ว หากข้าเป็นหัวหน้ารัฐบาลกลาง ข้าคงไม่สามารถจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยขนาดนี้”
“ถ้าข้าเป็นผู้นำองค์กร ข้ายังพอจัดการได้ แต่ทว่า หากข้ากลายเป็นผู้ปกครองโลก ข้ารู้ดีว่าข้าไม่สามารถทำได้ ด้วยตำแหน่งท่าน ท่านมีหลายสิ่งให้ต้องกังวล ไม่ใช่แค่เรื่องผู้บ่มเพาะ แต่ท่านยังต้องคำนึงถึงพลเมืองธรรมดาอีกนับไม่ถ้วน….”
“สำหรับตัวข้า ข้าอยากมุ่งเน้นการพัฒนาตัวเอง ข้าชอบสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จัก และข้าก็สนุกกับการรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นรวมถึงความตื่นเต้นที่เกิดทุกๆการต่อสู้..”
“ข้าไม่เชื่อว่ามหาพิภพจะเป็นจุดหมายสุดท้ายของข้า ข้าอยากไปสู่จักรวาลที่กว้างใหญ่กว่ามหาพิภพ…”