เทพเสมือนขั้นสูงเป็นได้แค่เบี้ย
หลังสิ้นสุดการโทรกับหลินฮวง เจียงฉานก็เงียบไปอยู่นาน
เมื่อเขายังเด็ก เขาเคยคิดเช่นกันว่าหากวันหนึ่งเขาเป็นเทพเสมือน เขาต้องไปมหาพิภพเพื่อดูโลกกว้างที่แท้จริง
แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปและระดับพลังบ่มเพาะเขาเพิ่มขึ้น เขากลับก้าวสู่ตำแหน่งนี้ในรัฐบาลกลางและต้องละทิ้งความฝัน
เขาคิดว่าเขาคงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีก
แต่ทว่า การสนทนาของเขากับหลินฮวงในวันนี้ก็ทำให้เขานึกถึงความฝันเมื่อนานมาแล้ว
“ข้าเป็นเทพเสมือนแล้ว แต่ข้ากลับไม่สามารถไปเยือนมหาพิภพได้…”เจียงฉานพูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว
เขารู้ว่าหลินฮวงไม่มีแผนอะไรทีเกี่ยวกับโลกกรวดเลย
สำหรับหลินฮวง โลกกรวดเล็กเกินไป เวทีของเขาตั้งอยู่บนทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่ไพศาล!
หลังจากนั้นไม่นาน เจียงฉานก็ติดต่อตงฟางไป่และอธิบายบทสรุปให้เขาฟัง
ตงฟางไป่และกวนจงพูดไม่ออกหลังได้ยิน
“เฒ่าเจียง เจ้าไม่ได้หูฝาดแน่นะ?เขาบอกว่าเขาพาเทพแท้จริงมากว่า200เนี่ยนะ?!”
“คุณฟู่คือคนที่พูดเอง มันไม่ควรเป็นเรื่องโกหกเจียงฉานพยักหน้า
ตงฟางไป่ครุ่นคิดสักพักก่อนถาม”คิดว่าเราจะไว้ใจหลินฮวงได้ไหม?”
เจียงฉานพยักหน้าโดยแทบไม่ลังเล
“ข้าไม่คิดว่าหลินฮวงจะเป็นปัญหานัก เขาคือพลเมืองของโลกกรวดเรา และย่อมไม่อยากให้บ้านเกิดตัวเองตกเป็นของคนอื่น แถม เขาดูเหมือนจะไม่มีความปรารถนาใดต่อสถานะหรืออำนาจ หากเขาอยากยึดโลกกรวดจริงๆ ด้วยความสามารถเขาคนเดียวก็ทำได้แล้ว สุดท้ายคือเขาอายุเพียง20ปี ความปรารถนาเขาในการสำรวจยังเต็มเปี่ยม และสำหรับเขา โลกกรวดนั้นเล็กเกินไป”
หลังได้ยินแบบนี้ ตงฟางไป่ก็เงียบไปก่อนพยักหน้า”ข้าเข้าใจแล้ว งั้นเราควรจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?ทำเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น?”
“ใช่”เจียงฉานพยักหน้า”นอกจากนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับกำลังหนุนก็ให้รู้แค่เราสาม ไม่ต้องบอกฝ่ายอื่น ยิ่งคนรู้มาก ก็ยิ่งมีโอกาสเกิดปัญหาอื่นๆตามมาเท่านั้น ผู้คนอาจใช้สิ่งนี้เป็นโอกาสในการปลุกปั่นปัญหา ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ความสามัคคีนั้นสำคัญสุด”
“ข้าเข้าใจ”ตงฟางไป่เห็นด้วย
“แล้วสถานการณ์ทางขอบเหวนรกเป็นอย่างไร?”เจียงฉานสอบถามหลังคุยเรื่องหลินฮวงจบ
ใบหน้าของตงฟางไป่เปลี่ยนไปหลังได้ยินคำถามนี้
“สำหรับตอนนี้ ผู้รุกรานระลอก10กำลังพยายามฝ่าเข้ามา ระลอก10ที่มานั้นมีมากถึง990ตน และระดับพลังก็ยังเป็นถึงเทพเสมือนขั้น7….”
ใบหน้าของเจียงฉานดำมืด
“แต่ทว่า ผู้พิทักษ์ปัจจุบันของรอยแยกมิติทั้ง33ล้วนเป็นมอนสเตอร์อัญเชิญของหลินฮวง และพวกมันต่างก็เป็นเทพเสมือนขั้น9”นี่คือสิ่งที่ตงฟางไป่รู้สึกอับอาย เขามีคนมากกว่าสองร้อย แต่ทั้งหมดกลับเป็นได้แค่คนดู
“ระดับเทพเสมือนขั้น9…ดูเหมือนจะทนได้อีกไม่นานนัก”สีหน้าของเจียงฉานไม่ได้ผ่อนคลายลงเลย”การเตรียมการก่อนสงครามเป็นอย่างไรบ้าง?”
“การเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว”ตงฟางไป่ตอบ
“ดี”เจียงฉานพยักหน้า”นั่นคือไพ่ตายเรา..มันดีกว่าที่จะไม่ใช้เว้นแต่จะอยู่ในสถานการณ์วิกฤตถึงขีดสุด”
“เข้าใจแล้ว”ตงฟางไป่พยักหน้า
..
ย้อนกลับไปที่ค่ายขัตติยะ หลังวางสายกับเจียงฉาน คุณฟู่ก็อดถามหลินฮวงไม่ได้
‘เจ้าคิดพาซินเอ๋อร์ไปจากโลกกรวดหลังสงครามจริงหรือ?”
“ข้าอาจพักสักเดือนหรือสองเดือนก่อนไป”หลินฮวงพยักหน้า”เราต้องจัดเตรียมแผนในอนาคตสำหรับขัตติยะกับผู้ปลดปล่อยก่อน.”
“นอกจากนี้ ยังมีหลายพื้นที่ในโลกกรวดที่เรายังไม่ได้ไป ซินเอ๋อร์อาจจะยังอยากไปเยือนสถานที่เหล่านั้น ก่อนไป เราควรไปเที่ยวรอบโลกก่อนเพราะเราไม่รู้ว่าครั้งหน้าที่เรากลับมาจะผ่านไปนานแค่ไหน”
“อาจารย์ ท่านควรมากับเรา ไปมหาพิภพกับข้า!”หลินฮวงพลันเปลี่ยนเรื่องและกล่าวกับคุณฟู่อย่างตื่นเต้น
คุณฟู่ลังเล เขาไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ตอบรับ
“ทางฝั่งโลกกรวด ตราบเท่าที่เรากำจัดผู้นำของผู้รุกรานได้ การรุกรานเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีกในอนาคต เหนือสิ่งอื่นใด ตำแหน่งทางเข้าของอุโมงค์มิติที่เชื่อมต่อมหาพิภพกับโลกกรวดนั้นห่างไกลกันมาก โดยปกติแล้วมันไม่ได้ถูกค้นพบกันง่ายๆ”
“ไม่ใช่แค่นั้น แต่โอกาสเกิดสงครามภายในโลกกรวดหลังศึกนี้ก็แทบเป็นไปไม่ได้ ตราบเท่าที่หกองค์กรใหญ่สามารถหาสมดุลกันได้ พวกเขาควรรักษาสันติภาพไว้ได้เป็นเวลานาน”
“นอกจากนี้ ข้าคิดว่าท่านควรคิดถึงตัวเองบ้าง อาจารย์ ท่านไม่สามารถปกป้องโลกกรวดไปได้ตลอด อนาคตของโลกนี้ควรตกอยู่ในมือของคนรุ่นหลัง”
“ตอนนี้เจ้าหายดีจากบาดแผลแล้ว และระดับพลังท่านก็ถึงเทพเสมือนขั้น9แล้ว ไม่มีทางที่ท่านจะเลื่อนขั้นความสามารถได้อีกในโลกกรวด แต่ทว่า ในมหาพิภพ ไม่เพียงท่านจะกลายเป็นเทพแท้จริงได้ แม้แต่เทพสวรรค์ก็ยังเป็นไปได้!หากท่านอยากกลับมาโลกกรวด ท่านก็สามารถผนึกลพังตัวเองและกลับมาได้”
คุณฟู่ถูกโน้มน้าว
“ข้าจะพิจารณาข้อเสนอเจ้าตอนเราชนะสงคราม แต่ทว่า สำหรับตอนนี้ เราต้องให้ความสำคัญกับสงครามก่อน”
“โอ้ใช่ ภายใต้สถานการณ์ปกติ หากมีผู้รุกรานพยายามทดสอบอุโมงค์มิติแต่ไม่สำเร็จ พวกเขาจะชะลอการเริ่มของสงครามไหม?เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาจะล้มเลิกการรุกราน?”คุณฟู่สงสัย
“หากมันเป็นอุโมงค์มิติเปิดใหม่และการทดสอบก็ยังล้มเหลวซ้ๆ งั้นผู้รุกรานอาจละทิ้งการบุกรุกชั่วคราว”
“แต่ทว่า อุโมงค์มิติทั้ง33ของขอบเหวนรกดำรงอยู่มานานมาก และก่อนหน้าก็มีหลายกรณีที่ประสบความสำเร็จในการเคลื่อนย้าย ในแง่ของความน่าจะเป็น แม้จะมีปัญหากับอุโมงค์มิติ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดปัญหากับทั้งหมด ผู้รุกรานจากมหาพิภพต้องรู้อย่างแน่นอนว่าสาเหตุของความล้มเหลวเป็นเพราะการแทรกแซงจากฝั่งเรา ดังนั้น พวกเขาย่อมไม่ยอมแพ้ต่อการรุกราน”
“พวกเขาจะไม่ชะลอการเริ่มสงคราม พวกเขาทดสอบเช่นนี้เพราะการยับยั้งโลกกรวดยังไม่บรรลุผลดี เมื่อเจตจำนงโลกกรวดถูกยับยั้ง พวกเขาถึงเริ่มสงครามเต็มรูปแบบ”
“แต่พวกเขาไม่รู้ว่าอุโมงค์มิติใดได้ผล พวกเขาจะไม่เสียหายครั้งใหญ่หากทำสงครามภายใต้สถานการณ์เช่นนี้หรือ?”คุณฟู่ถามอย่างสงสัย
“พวกเขาจะส่งเทพเสมือนขั้นต้นและกลางจำนวนมากมาเพื่อปูทาง และจะไม่ทดสอบด้วยคนแค่ไม่กี่สิบแบบนี้ พวกเขาจะส่งมานับหมื่นผ่านแต่ละรอยแยก เมื่อพบอุโมงค์ที่พวกเขาสงสัยว่าใช้งานได้ พวกเขาจะส่งเทพเสมือนขั้นสูงจำนวนมากมาเป็นการสำรวจรอบสอง หลังส่งพวกเบี้ยมาสองรอบ เทพแท้จริงจะเข้ามาเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้น พวกเขาจะมาถึงพร้อมกองทัพและกำจัดโลกกรวดทั้งหมด..”
“เทพเสมือนขั้นสูงเป็นแค่เบี้ย?”คุณฟู่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ในมหาพิภพ เทพเสมือนแค่จุดเริ่มต้นของการบ่มเพาะ มีเผ่าที่ทรงพลังมากมายในมหาพิภพที่มีลูกหลานเป็นเทพเสมือนตั้งแต่เกิด พอโต พวกเขาจะกลายเป็นเทพแท้จริงเอง สำหรับบางเผ่าชั้นนำ ทารกแรกเกิดอาจเป็นเทพแท้จริงเลยด้วยซ้ำ และจะเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ตอนโตเต็มวัย”
“นอกจากนี้ มหาพิภพยังเชื่อมต่อกับโลกขนาดเล็กนับไม่ถ้วน และทรัพยากรที่มีก็มากกว่าโลกขนาดเล็กนับล้านเท่า กฏและลำดับนั้นสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพลังงานหลากประเภท และการบ่มเพาะก็ง่ายกว่ามาก การเป็นเทพเสมือนที่นั่นง่ายกว่าโลกกรวดนับร้อยเท่า จำนวนเทพเสมือนในมหาพิภพมากกว่าจำนวนผู้หลุดพ้นทั้งหมดในโลกกรวดเราซะอีก”