มหาพิภพ มิติอันเดธ
เถิงหรานเอนพิงเก้าอี้และนั่งไขว่ห้างอีกครั้ง
มันผ่านไปกว่าหนึ่งนาทีแล้วตั้งแต่เทพแท้จริงจากมิติอันเดธถูกส่งไปโลกกรวด ในอุโมงค์มิติทั้ง 30 แห่ง ไม่มีสักอันที่เทพแท้จริงถูกกำจัด นี่ทำให้เขามั่นใจมากว่าอุโมงค์เหล่านี้ไม่มีปัญหา
“สถานการณ์บาดเจ็บล้มตายของเทพแท้จริงเป็นอย่างไรบ้าง?”เถิงหรานถามขณะกวาดตามองเหล่าเทพแท้จริงกว่า 30
ก่อนการข้ามมิติ เทพแท้จริงทั้ง 37 รวมถึงเถิงหรานได้ทำตราประทับชีวิตไว้กับเทพแท้จริงที่พวกเขาจับ เมื่อใดก็ตามที่มอนสเตอร์ตาย ตราประทับชีวิตจะสลายหายไป
ชายหัวงูที่ยืนอยู่อีกด้านทำการคำนวณและแบ่งปันผลลัพธ์เขาอย่างรวดเร็ว
“มีเทพแท้จริงขั้นต่ำทั้งหมด 2518 และตายไป 57 เทพแท้จริงขั้นกลาง 1819 ตายไป 81 สำหรับขั้นสูง จำนวนคือ 347 ตาย 0 “
“เทพแท้จริงขั้นสูงไม่ตายเลย?!”เถิงหรานเลิกคิ้ว มองชายหัวงูด้วยความประหลาดใจ
“ขอรับ ตามข้อมูลที่ส่งกลับมา ไม่มีตราประทับชีวิตของขั้นสูงที่หายไปเลย”ชายหัวงูพยักหน้า
“งั้นก็มีอยู่สองความเป็นไปได้”เถิงหรานไตร่ตรองสักพักก่อนสรุป”โลกกรวดอาจมีเทพแท้จริงขั้นสูงอยู่น้อยมาก หรือพวกมันจงใจแสร้งทำเป็นอ่อนแอโดยไม่ฆ่าเทพแท้จริงขั้นสูง”
“ข้าไม่คิดว่าอย่างหลังจะเป็นไปได้”หญิงสาวขายาวอดแสดงความคิดไม่ได้”หากพวกมันกำลังแสร้งทำเป็นอ่อนแอ พวกมันก็สามารถทำได้แนบเนียนกว่านี้ ป้องกันเราจากการพบกลอุบายพวกมัน หากพวกมันไม่ฆ่าเลย ข้าคิดว่ามันเป็นไปได้มากกว่าพวกมันไม่มีความสามารถพอจะจัดการกับเทพแท้จริงขั้นสูง”
“อาจเป็นไปได้ว่าเวลานั้นสั้นเกินไป เหนือสิ่งอื่นใด มันยังไม่ถึงสองนาทีเลย”ชายหัวงูกล่าวเสริม
“งั้นเราควรไปโลกกรวดตอนไหน?”หญิงสาวขายาวเหลือบมองชายหัวงูและถาม
“เราจะรออีกเล็กน้อยและดูว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปไหม”เถิงหรานคิดสักพักและให้คำตอบ
…
โลกกรวด ขอบเหวนรก
หลินฮวงใช้จิตเทวะเพื่อควบคุมมีดบิน บังคับเทพแท้จริงขั้นสูงให้รวมกันที่เดียวเพื่อป้องกันพวกมันจากการแทรกแซงส่วนอื่นของสนามรบ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เฝ้าติดตามสถานการณ์ทั้งสนามรบ
โดยปราศจากการแทรกแซงของเทพแท้จริงขั้นสูง ทาสดาบที่มีพลังระดับเทพแท้จริงขั้น6จึงถือได้ว่าไร้เทียมทาน
หากหลินฮวงไม่แจ้งพวกเขาล่วงหน้าให้ชะลอความเร็วการสังหารเพื่อหลีกเลี่ยงให้มหาพิภพตรวจพบความผิดปกติ เวลาสองนาทีคงมากพอจะฆ่าเทพแท้จริงหลักพัน
ปัจจุบัน ทาสดาบสบายมาก แม้จะมีจำนวนน้อยกว่ามาก พวกเขาก็ล้วนมีทักษะดาบสูงส่ง หากไม่ใช่ว่าตอนแรกพวกเขาใช้พลังเยอะไป จำนวนเทพแท้จริงที่พวกเขาฆ่าคงไม่มากขนาดนั้น
ทางฝั่งสนามรบเทพแท้จริงขั้นต่ำ กู่หรงและไป่ครองอุโมงค์มิติแห่งหนึ่งด้วยพลังระดับเทพแท้จริงขั้น4
แม้จำนวนพวกมันจะน้อยกว่าศัตรู มอนสเตอร์อัญเชิญก็ล้วนเป็นขั้น3และ4กัน ดังนั้นจึงไม่มีแรงกดดันมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้คำสั่งของหลินฮวง ภารกิจหลักของพวกมันไม่ใช่ฆ่าศัตรูแต่เป็นการควบคุมสนามรบ ป้องกันไม่ให้เทพแท้จริงเหล่านี้เข้าสู่สนามรบเทพเสมือน
บนสนามรบเทพเสมือน มีอสูรแมลงนับล้านที่ร่วมสู้ นี่ช่วยลดแรงกดดันของเหล่าเทพเสมือนจากโลกกรวดได้มาก
ตรงข้ามกับสิ่งมีชีวิตหุบเหว สายพันธุ์อันเดทและวิญญาณที่แยกกันสู้ นักสู้เผ่าแมลงนั้นแสดงการร่วมมือที่ดี ระดับความเข้าใจกันของพวกมันเหนือกว่าการฝึกระยะยาวของพวกองค์กรใหญ่ในโลกกรวดซะอีก
ภายใต้การสั่งการของราชินีทั้งหก นักสู้เผ่าแมลงแปลงเป็นกองทหารขนาดเล็ก เอาชนะกลุ่มผู้รุกรานทีละกลุ่ม
องค์กรใหญ่ของโลกกรวดก็พากันเผยไพ่ตาย
สิ่งที่หลินฮวงแปลกใจสุดก็คือไพ่ตายของรัฐบาลกลางที่กลายเป็นร่างโคลนของเทพเสมือนกว่า3พัน
ท่ามกลางคนพันคนมีคนหน้าเหมือนหลินซวน และกว่าพันเหล่านี้ก็ล้วนเป็นเทพเสมือนขั้น9
อีกสองพันคือร่างโคลนของชายและหญิงอย่างละพัน ระดับพลังคือเทพเสมือนขั้น3และขั้น6
วินาทีที่หลินฮวงเห็น เขาก็รู้ว่ารัฐบาลกลางคือองค์กรที่สร้างหลินซวนขึ้นมา
แม้เขาจะมีความสงสัยในใจ เขาก็ระงับมันไว้ชั่วคราว
ต้องขอบคุณเผ่าแมลงและองค์กรใหญ่ที่ใช้ไพ่ตาย จำนวนผู้รุกรานจึงลดลงอย่างมาแทบทุกนาที พวกมันตายไปกว่าหมื่นแล้ว
ตรงข้าม จำนวนผู้เสียชีวิตในโลกกรวดน้อยกว่ามาก เพราะนักสู้เกือบทั้งหมดได้จับกลุ่มกัน บางครั้ง ถ้ามีบางคนล้ม คนอื่นจะมาอุด คุณฟู่ หลินซวนและเทพเสมือนขั้น9หลายคนก็ทำกันอย่างเต็มที่ คอยจับตาดูทั้งสนามรบ
…
ขณะที่การต่อสู้ยังดำเนิน ทาสดาบบนหลังคาลานกว้างในศูนย์ใหญ่ขัตติยะพลันลืมตาขึ้นและก้มมอง
เขาสัมผัสได้ว่าผู้หญิงที่เขาเฝ้าดูแลมานานกว่าครึ่งปีตื่นขึ้นแล้ว
ในห้อง หลินซินค่อยๆลืมตาขึ้น
นางไม่รู้ว่านางปิดประตูบ่มเพาะไปนานแค่ไหน ทุกครั้งที่นางกินแก่นเทวะเสร็จ นางจะเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะเอง เมื่อนางตื่น ระดับพลังนางจะเพิ่มขึ้น จากนั้นนางก็กินแก่นเทวะอีก เข้าสู่สภาวะบ่มเพาะอีกครั้ง เป็นอย่างนี้เรื่อยไป
…
นี่ดำเนินต่อไปจนกระทั่งรอบสุดท้ายที่นางกลืนแก่นเทวะเทพเสมือนขั้น9ไป9อัน
“ข้าเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น9?”หลินซินตรวจสอบร่างตัวเอง รู้สึกถึงพลังเทวะในตัว ยังมีแก่นเทวะในตัวนางที่ดูเหมือนหลุมดำ จากนั้นนางจึงสามารถยืนยันได้ว่าพลังนางเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น9แล้ว
“ข้าไม่รู้ว่าข้าปิดประตูบ่มเพาะไปนานแค่ไหน แต่พี่ต้องแปลกใจแน่ตอนเห็นระดับพลังข้า!เมื่อคุณฟู่รู้ เขาจะต้องตกใจเหมือนกัน…ข้ามั่นใจว่าข้าทรงพลังกว่าพี่ชายเสี่ยวโม่แล้ว!”
หลินซินเปิดประตูและเดินออกไปอย่างมีความสุข
“ท่านหลินซิน”เงาร่างหนึ่งปรากฏตรงหน้าหลินซินและโค้งคำนับ
“เจ้าคือ…?”หลินซินตกใจที่นางไม่พบถึงการดำรงอยู่ของอีกฝ่าย
“ข้าคือทาสดาบภายใต้บัญชาองค์จักรพรรดิ และข้าก็มีหน้าที่ดูแลท่าน”ดาบ106ตอบ
“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณเจ้ามาก!”หลินซินรีบขอบคุณ”แล้วข้าปิดประตูบ่มเพาะไปนานแค่ไหน?”
“198วัน”ดาบ106จำได้แม่น
“198วัน?กว่าครึ่งปี?!”หลินซินอุทาน นางไม่คิดว่านางจะปิดประตูบ่มเพาะไปนานขนาดนี้ การปิดประตูบ่มเพาะก่อนหน้าของนางไม่เคยกินเวลากว่าเดือน
ด้วยความไม่เชื่อ หลินซินกดดูปฏิทินบนแหวนหัวใจจักรพรรดิและอุทานอีกครั้ง
“วันนี้เป็นวันที่ 23 ตุลาคม?!”
หลังยืนยันว่ามันผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วจริงๆ หลินซินก็พบว่ามันยากจะเชื่อ แต่ในไม่ช้านางก็ยอมรับได้
นางใช้จิตเทวะตรวจดูร่องรอยของหลินฮวง แต่ก็ไม่พบอะไร สิ่งที่แปลกใจคือทั้งขัตติยะ มีเพียงหวงเทียนฟู่และเสี่ยวโม่ที่ยังอยู่
ไม่ใช่แค่หลินฮวงกับคุณฟู่จะไม่อยู่ แต่แม้กระทั่งหวงไป่ยู่และคนอื่นที่คอยคุ้มกันศูนย์ใหญ่ขัตติยะอยู่ตลอดก็หายไปด้วย
“พี่ชายข้าและคุณฟู่หายไปไหน?”หลินซินถาม แต่ในใจมีคำตอบอยู่แล้ว
“พวกเขาไปขอบเหวนรก”ดาบ106อธิบาย”การรุกรานจากมหาพิภพเริ่มไป9วันแล้ว”
“สงครามเริ่มขึ้นแล้ว?!สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”หลินซินรีบถาม
“นั่น ข้าไม่รู้ ท่านต้องถามหวงเทียนฟู่”ทันทีที่ดาบ106พูด หวงเทียนฟู่ก็ได้ปรากฏที่ประตูลานโดยมีเสี่ยวโม่ข้างๆ
ใบหน้าของเสี่ยวโม่เต็มไปด้วยความแปลกใจตอนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหลินซิน
หวงเทียนฟู่ตกใจเช่นกัน แต่ก็รีบตั้งสติ”ข้าจะเล่าสถานการณ์ในขอบเหวนรกให้ท่านฟังทีหลัง แต่ก่อนหน้านั้น มีเรื่องที่ฝ่าบาทขอให้ข้าอธิบายให้ท่านฟัง…”
“งั้นก็ไปคุยข้างในกัน”หลินซินพยักหน้า…