หลินฮวง ปะทะ เถิงหราน
เถิงหรานสะบัดหอกในมือเพื่อตอบโต้มีดบินสีแดงเลือดตามวิถี รวมถึงสายพันธุ์อันเดทและวิญญาณที่กระโจนหาเขาทุกทิศทาง
แม้กลุ่มอันเดทและวิญญาณจะมีสติปัญญาไม่สูง พวกมันก็ยังรับรู้ได้ว่าโปรตอสผู้นี้คือคนร้ายที่ส่งพวกมันมาโลกกรวด
มอนสเตอร์เหล่านี้ไม่สามารถหาที่ระบายความโกรธได้ตอนถูกยับยั้งด้วยมีดบินของหลิฯฮวง แต่ตอนนี้ การปรากฏของเถิงหรานก็ทำให้พวกมันมีทางออกร่วมกันเพื่อระบายความโกรธ
ท่ามกลางการคุกคามจากเทพแท้จริงขั้นสูงนับร้อย รวมถึงมีดบินของหลินฮวง เถิงหรานสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของเถิงฉิงที่กำลังหายลับไป เขาตัวแข็งอย่างไม่อยากจะเชื่อก่อนตอบสนองทันที ปล่อยเสียงร้องโหยหวนอย่างเศร้าโศกออกมา
“เถิงฉิง!!!”
ก่อนเถิงหรานจะพูดจบประโยค เขาก็รู้สึกได้ว่ากลิ่นอายของเถิงฉิงสลายหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
น้องสาวเขาตายแล้ว…
เด็กสาวที่อายุน้อยกว่าเขาไม่กี่ปี แต่มักทำตัวอ่อนเยาว์และแต่งตัวเหมือนเด็กนักเรียน
เด็กสาวที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก ด้วยนิสัยที่ยังไร้เดียงสาเหมือนเด็ก
เด็กสาวที่มักแข่งขันกับเขามาตลอด แต่มักยืนข้างเขาในช่วงเวลาสำคัญ
เด็กสาวที่มักท้าทายด้วยวาจา แม้ในความเป็นจริงมักเดินตามรอยเท้าเขาเงียบๆ…
เถิงหรานไม่ใช่คนอ่อนไหวง่ายๆ และก็ไม่ใกล้ชิดกับพ่อแม่หรือผู้อาวุโสตั้งแต่ยังเด็ก
สำหรับเถิงฉิง เขากับนางก็ไม่ได้สนิทกันเป็นพิเศษ สิ่งที่เขาพูดได้มากสุดคือเขาคอยดูแลนางห่างๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตของเถิงฉิงกำลังสลายหายไป เถิงหรานค้นพบอารมณ์ส่วนลึกที่พรั่งพรูออกมา เศร้า โกรธ เกลียดชัง…
เขาไม่เคยคิดว่าความตายของเถิงฉิงจะทำให้อารมณ์เขาสับสนวุ่นวายขนาดนี้
หอกทองเขาพุ่งไปข้างหน้า ตัดผ่านวิญญาณสองตัวตรงหน้า ระเบิดพวกมันจนสลายหายไป หลังกำจัดอุปสรรคที่ขวางทางทั้งหมด ในที่สุดเถิงหรานก็เห็นเถิงฉิงล้มลงกับพื้น ค่อยๆกลายเป็นรูปแกะสลักเทพ
หลังจ้องมองร่างไร้วิญญาณของน้องสาวเขา ในที่สุดเขาก็เลื่อนสายตาขึ้น เห็นหลินฮวงลอยอยู่เหนือพื้นไม่ไกลจากศพ ดวงตาเขาเผาไหม้ไปด้วยความโกรธ”ข้าจะฆ่าเจ้า!”
หลินฮวงหันไปมองเถิงหราน แสดงสีหน้าเฉยชา”ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าควรเป็นเถิงหราน ผู้นำนิกายพันงูสินะ?”
หลินฮวงอนุมานสิ่งนี้ตามปฏิกิริยาของอีกฝ่ายหลังการตายของเถิงฉิง ไม่เพียงแค่นั้น ความผันผวนพลังกฏเทพจากเถิงหรานยังแข็งแกร่งสุด
เมื่อเห็นสายตาไม่แยแสของหลินฮวงและการสอบถามตัวตนเขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความโกรธของเถิงหรานก็พุ่งถึงจุดสูงสุด
เขาไม่สงสัยถึงความสามารถของหลินฮวงอีกต่อไป ชายคนนี้ได้ฆ่าเถิงฉิงภายในไม่กี่วินาที ความสามารถเขาไม่สามารถประเมินได้
พลังเทวะสีทองภายในตัวเถิงหรานระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาประทับพลังกฏเทพหลายชั้นลงบนหอก
สายพันธุ์อันเดทกับวิญญาณจำนวนมากที่คอยรังควานเขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนพลังกฏเทพรุนแรงจากเขาและเริ่มถอยห่าง
เถิงหรานไม่สนใจพวกมัน ตอนนี้ ในสายตาเขามีแค่หลินฮวง
หลินฮวงยังจ้องเถิงหรานกลับด้วยความสนใจ เขาอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ไดตอนเห็นเถิงหรานใช้พลังกฏเทพ
“น่าสนใจ ข้าจะเล่นกับเจ้า”
หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ชัดว่าพลังกฏเทพทั้งห้าที่เกาหลานใช้กับหอกนั้นถึงระดับควบคุมแล้ว หลินฮวงเริ่มมองเถิงหราน
อย่างจริงจัง คนที่ใช้พลังกฏเทพในระดับนี้ได้ย่อมมีพลังมากพอจะทำร้ายหลินฮวง
แม้หลินฮวงจะเพิ่มเริ่มเอาจริง เถิงหรานก็ได้ถีบตัวออกจากพื้นแล้ว เขากวาดหอกและมีดบินที่พัวพันกับเถิงหรานอยู่ตลอดก็ถูกกวาดออกไป
จากนั้นปลายหอกก็เปลี่ยนเป็นดาวสีทองลุกโชน ร่นระยะห่างระหว่างเถินหรานกับหลินฮวงด้วยความเร็วสูง
เพียงเมื่อปลายหอกคล้ายดาวหางกำลังจะโดนตัวหลินฮวง สายฟ้าสีแดงเลือดก็พลันระเบิดจากปลายแขนเสื้อหลินฮวงทีละสาย
มีดบินอาวุธเซียนระดับ2ถือเป็นสมบัติกฏเทพขั้นสูงสุดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้หลินฮวงยังใช้การตรัสรู้ธาตุไฟและสายฟ้าเป็นจำนวนมากกับพวกมัน ด้วยการตรัสรู้ทั้งหมดห้าชั้น มีดบินพลังจิตจึงยิ่งไวกว่าเดิม รุนแรงกว่าเดิม
ถ้าคู่ต่อสู้ของหลินฮวงไม่ใช่ยอดฝีมือที่ใช้พลังกฏเทพระดับควบคุมได้ อีกฝ่ายคงต้านรับการโจมตีเขาไม่ได้เลยสักครั้ง
แต่ทว่า เถิงหรานนั้นไม่ใช่เทพแท้จริงทั่วไป
หอกที่เขาถือเองก็เป็นสมบัติกฏเทพขั้นสูง ด้วยพลังกฏเทพระดับควบคุม พลังมันจึงไร้ผู้ต้านเช่นกัน
เมื่อเห็นสายฟ้าสีเลือดระเบิดออกมา เถิงหรานก็สะบัดข้อมือเล็กน้อย และปลายหอกก็เปลี่ยนเป็นจุดแสงดาว ซึ่งพุ่งเข้าหาลำแสงสีแดงเลือด
เดิมเขาคิดว่ามันคงง่ายเหมือนกับการปัดมีดบินก่อนหน้านี้
แต่ทว่า ความประมาทนี้ก็ทำให้หอกเกือบหลุดออกจากมือเขา
ปลายหอกเขารู้สึกราวกับแทงใส่ภูเขาที่ไม่อาจสั่นคลอน คลื่นพลังน่าสะพรึงกลัวส่งผ่านไปทั้งอาวุธ ในเวลาเดียวกัน แรงผลักของพลังกฏเทพจากมีดบินก็ได้จู่โจมเขา ทำให้พลังกฏเทพภายในตัวเขาลดลงอย่างรวดเร็ว
“นี่คือ…การตรัสรู้ธาตุระดับควบคุม?!”แค่การโจมตีเดียว เถิงหรานก็มั่นใจแล้วว่าความสามารถของอีกฝ่ายเหนือกว่าที่เขาคิดไว้
ด้วยการใช้พลังกฏระดับควบคุมกับอาวุธพลังจิต คู่ต่อสู้เขาได้พิสูจน์แล้วว่าการใช้พลังกฏเทพของเขาเหนือกว่า
หลังตรวจสอบความสามารถแท้จริงของศัตรู เถิงหรานก็ค่อยๆสงบลง
พลังกฏบนหอกยังเริ่มเพิ่มขึ้นทีละชั้นจากแต่เดิมห้าชั้น การเพิ่มขึ้นแต่ละชั้นนั้นคือภาระที่เขาต้องแบกรับเพิ่มเติม
แต่ทว่า เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเมื่อเขาผสานพลังกฏเทพเขาจนถึงหกชั้น คู่ต่อสู้เขาก็ทำเหมือนกัน เมื่อเขาเพิ่มมันเป็นเจ็ด อีกฝ่ายก็ยังเพิ่มเป็นเจ็ด…
เมื่อเทียบกับมีดบิน ปลายหอกจะไม่ได้เปรียบเลย
เถิงหรานเลือดขึ้นหน้า เขาทุ่มสุดตัว เพิ่มพลังกฏเทพทีละชั้นราวกับกำลังแข่งขันกับหลินฮวง
หกชั้น!
เจ็ดชั้น!
แปดชั้น!
…
สิบเอ็ดชั้น!
การแข่งขันนี้กินเวลาไม่เกินสิบนาที แต่เถิงหรานก็ได้เผยไพ่ตายเขาแล้ว เขารวมพลังกฏเทพระดับควบคุม 11 ชั้นไว้ที่หอก โดยไม่พิจารณาความเข้ากันได้ และความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างพลังกฏเทพประเภทต่างๆ
อีกด้าน หลินฮวงสงบเหมือนเดิม พลังกฏเทพระดับควบคุมเขาบนมีดบินเองก็เพิ่มขึ้นทีละชั้น จนถึง 11 ชั้น
แม้ทั้งสองฝ่ายจะรวมพลังกฏเทพระดับควบคุมไว้จนถึง 11 ชั้น แต่มีดบินของหลินฮวงกลับดูทรงพลังกว่า สายฟ้าสีแดงเลือดยิ่งเร็วขึ้น แข็งแกร่งขึ้น บดขยี้เถิงหรานอย่างสิ้นเชิง
เหตุผลนั้นก็เพราะหลินฮวงได้พิจารณาถึงการผสานพลังกฏเทพต่างๆก่อนรวมพวกมันเข้าด้วยกัน นี่จึงทำให้พลังของเขาเหนือกว่าอีกฝ่าย
ตั้งแต่ต้นจนจบ หลินฮวงไม่ได้ขยับจากจุดที่เขายืนแม้แต่นิ้วเดียว แต่มีดบินสีแดงเลือดเขากลับบังคับให้เถิงหรานถอยไปไกลขึ้นเรื่อยๆ…