เจอตัวแล้ว
ในความว่างเปล่า สายฟ้าสีแดงเลือดนับพันระเบิดออกมาทีละสาย ล้อมเงาร่างโดดเดี่ยว เงาร่างนั้นกำลังถือหอกในมือซึ่งเปล่งประกายแสงสีทองขณะปะทะกับสายฟ้าสีเลือด
ทุกการปะทะเหมือนสวรรค์กำลังจะพังถล่ม มันเปลี่ยนสีท้องฟ้า ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน
ฉากตรงหน้าเทียบได้กับเรื่องเล่าแฟนตาซี เหนือยิ่งกว่าที่บรรยายในนิยายบ่มเพาะ
แต่ทว่า ในความเป็นจริง ประกายสายฟ้าสีเลือดแค่ภาพติดตาที่ทิ้งไว้เบื้องหลังของมีดบินพลังจิตนับไม่ถ้วน
ภาพฉากเช่นนี้เป็นแค่ฉากต่อสู้ที่หลินฮวงกำลังควบคุมมีดบินนับพันปะทะกับเถิงหรานเท่านั้น
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองดำเนินไปกว่าสิบนาที และเถิงหรานก็ถูกบังคับให้ใช้ไพ่ตายทั้งหมด
เขาใช้พลังกฏเทพระดับควบคุมทั้ง 11 ประเภท แต่พลังของศัตรูกลับเหนือกว่าที่เขาคิด
มีดบินแต่ละเล่มของหลินฮวงได้รับการเสริมด้วยพลังกฏเทพ 11 ประเภทเหมือนกัน แต่การใช้ประโยชน์และความสอดคล้องของพลังกฏนั้นเหนือกว่าเถิงหราน ซึ่งบังคับให้เถิงหรานต้องใช้พลัง 2 ส่วนเพื่อต้านทานการโจมตี
แม้หลินฮวงจะไม่ใช้พลังกฏเทพเพิ่ม เขาก็ยังเพิ่มแรงกดดันด้วยการเพิ่มจำนวนมีดบินทุกๆนาที
ตอนแรก มีมีดบินแค่ร้อยเล่ม ซึ่งจากนั้นก็เพิ่มเป็นสองร้อย สี่ร้อย แปดร้อย…
ปัจจุบัน จำนวนมีดบินนั้นเกินกว่า 3200 แล้ว
เถิงหรานเริ่มเหนื่อยล้า
เขารู้สึกว่าคู่ต่อสู้เขาแค่กำลังเล่นกับเขา ดูเหมือนกำลังทดสอบประสิทธิภาพของเล่น การทดสอบแบบนี้มักเป็นการทำลายล้าง และมักจบลงด้วยการที่ของเล่นถูกทำลาย
แม้เขาจะหวาดกลัวและวิตกกังวล แต่เถิงหรานก็ยังรู้สึกโกรธด้วย
“ชายคนนี้ต้องเป็นเทพแท้จริงขั้นสูงสุดหรือไม่ก็เทพสวรรค์ เขากำลังแสร้งเป็นเทพเสมือนเพื่อให้ไม่ถูกปฏิเสธโดยเจตจำนงของโลกกรวด!นี่ไม่ยุติธรรม!’
ความยุติธรรมคืออะไร?เขาคือผู้นำองค์กรชั้น 4 จากมหาพิภพที่นำกลุ่มเทพแท้จริงมาโจมตีโลกกรวดที่กฏไม่สมบูรณ์
หลินฮวงกำลังสู้กับเถิงหรานด้วยมีจุดประสงค์วัดความแข็งแกร่งเขา แต่ไม่เคยคิดดูแคลนอีกฝ่าย
เขาเพิ่มจำนวนมีดบินขึ้นเรื่อยๆเพื่อประเมินว่าเขาต้องใช้พลังมากแค่ไหนถึงจะจัดการกับเทพแท้จริงขั้นสูงสุดแบบเขาได้
แบบนี้ ต่อไปที่เขาพบกับคู่ต่อสู้ระดับพลังเท่ากัน เขาจะได้รู้ว่าเขาต้องใช้พลังมากแค่ไหน
“มีดบิน 3200 เล่มและเขาก็เกือบถึงขีดจำกัดแล้ว..”หลินฮวงสังเกตปฏิกิริยาของเถิงหราน”ถ้าข้าเพิ่มมันเป็นสี่พัน ข้าควรจัดการเขาได้”
วินาทีหลังอนุมาน สายฟ้าสีเลือดอีกแปดร้อยสายก็พุ่งออกจากแขนเสื้อลหินฮวง
โดยธรรมชาติ เถิงหรานสังเกตเห็นการโจมตีครั้งใหม่ของหลินฮวงทันที หลังตรวจสอบด้วยจิตเทวะ เขาก็กำหนดจำนวนมีดบินใหม่
“เพิ่มขึ้นแค่แปดร้อย ไม่เพิ่มมันสองเท่า?”เถิงหรานประมาทลงเล็กน้อย แต่จากนั้นก็หัวเราะกับตัวเองและพึมพำ”ดูเหมือนเขาคงคิดว่าการจัดการข้าคงไม่ต้องใช้มีดบินถึง 6400 เล่ม…”
ในชั่วพริบตา มีดบินแปดร้อยเล่มก็พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง จังหวะการต่อสู้เดิมถูกทำลาย
เถิงหรานที่มาถึงขีดจำกัดแล้วสะบัดหอกในมืออย่างต่อเนื่อง พยายามสุดความสามารถเพื่อปัดป้องมีดบินที่เพิ่มเข้ามาอีกแปดร้อยเล่ม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านรับไว้ได้
ลำแสงสีแดงเลือดนับไม่ถ้วนค้นหาช่องโหว่ที่จะเข้าไปได้ เหมือนอสรพิษที่ฉกใส่จุดอ่อนของเหยื่อ สุดท้ายก็แทงเข้าร่างของเถิงหราน
หอกในมือเถิงหรานชาลงเล็กน้อยเพราะความเสียหายที่เกิด และลำแสงสีเลือดก็คว้าโอกาสนี้เพื่อรุมเขา
ทันใดนั้น มีดบินนับพันก็ฉีกเถิงหรานเป็นชิ้นๆเหมือนฝูงสัตว์ป่าหิวโหย
ทุกที่บนสนามรบ เกือบทุกคนเสียสมาธิจากการต่อสู้แสนดุเดือดระหว่างทั้งสอง
พวกเขาทั้งหมดเห็นเถิงหรานถูกสายฟ้าสีเลือดนับไม่ถ้วนกลืนกิน
ทุกคนจ้องมองฉากนั้น
หลังจากนั้นไม่นาน สายฟ้าก็สลายหายไปในสายลม ไม่หลงเหลือร่องรอยของเถิงหรานแม้แต่น้อย….
เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนในโลกกรวดยินดีมาก ศัตรูที่แข็งแกร่งสุดถูกหลินฮวงกำจัด ซึ่งหมายความว่าสงครามจบลงไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ในทางกลับกัน คนจากนิกายพันงูตกอยู่ในความสิ้นหวัง
พวกเขาไม่เคยคิดว่าเถิงหรานจะแพ้ พวกเขาตระหนักดีถึงพลังของเถิงหราน ชื่อเขาถือเป็นอันดับ 12 ในหมู่เทพแท้จริงทั้งหมดของแดนเทพ
ท่ามกลางเทพแท้จริง มีคนแค่หยิบมือเดียวที่สามารถฆ่าเถิงหรานได้ และคนเหล่านั้นก็ล้วนเป็นยอดฝีมือครึ่งก้าวเทพสวรรค์
แม้จะเป็นแบบนั้น เถิงหรานก็ยังถูกอีกฝ่ายกำจัดไปต่อหน้าทุกคน
คำอธิบายที่สมเหตุสมผลเดียวคือชายหนุ่มคนนี้ที่เพิ่งฆ่าเถิงหรานไปต้องครอบครองพลังอย่างน้อยระดับครึ่งก้าวเทพสวรรค์หรืออาจเป็นเทพสวรรค์ด้วยซ้ำ!
แต่ทว่าขณะที่พันธมิตรเขากำลังตื่นเต้น หลินฮวงกลับเลิกคิ้ว
“เขายังไม่ตาย?”
เขาค่อนข้างแน่ใจว่าร่างกายของศัตรูเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุใด เขาจงใจเพิ่มพลังสังหารเทพเข้าไปด้วย พูดตามหลักเหตุผล ทั้งวิญญาณและร่างกายของคนที่ถูกฆ่าด้วยพลังสังหารเทพควรจะพินาศไปด้วยกัน
แต่ทว่า เสี่ยวเฮยไม่ส่งการแจ้งเตือนถึงการเสียชีวิตใดๆให้เขา ซึ่งทำให้หลินฮวงมั่นใจว่าศัตรูเขาต้องยังไม่ตาย
จิตเทวะของหลินฮวงกวาดไปรอบๆด้วยพลังเต็มที่เพื่อค้นหากลิ่นอายของเถิงหราน แต่เขาไม่พบอะไรแม้จะค้นหา
เขาไตร่ตรองสักพัก ยังไม่ยอมแพ้
ทันใดนั้นรูม่านตาของหลินฮวงก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท เขาเปิดใช้กฏเทพวิสัยทัศน์แท้จริง
หลังจากนั้นไม่นาน มุมปากของหลินฮวงก็ยกโค้งขึ้น
“ข้าพบเจ้าแล้ว!”
วินาทีต่อมา หลินฮวงก็ก้าวมาข้างหน้า เลือนหายไปจากจุดเดิม ปรากฏตรงหน้าสมาชิกเทพเสมือนของนิกายพันงูที่มีหางงู
เทพเสมือนหางงูมองหลินฮวงอย่างตกตะลึง
ทุกคนต่างงงวยว่าทำไมหลินฮวงถึงพุ่งมาหาเทพเสมือนตนนี้
“หยุดซ่อนแล้วเผยตัวออกมา”
หลินฮวงส่งคำพูดเขาไปยังเทพเสมือนหางงู
“อะ…อะไรนะ?”ใบหน้าของเทพเสมือนหางงูเต็มไปด้วยความสับสน
“ถ้าเจ้าไม่ยอมออกมาเอง ข้าก็คงต้องใช้กำลัง”หลินฮวงไม่สนใจปฏิกิริยาของเทพเสมือนหางงู”เจ้าควรรีบตัดสินใจ ถ้าข้าโจมตีก่อน เจ้าคงไม่มีโอกาสได้เคลื่อนไหวใดๆ”
ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างของเทพเสมือนหางงูก็เริ่มชักกระตุก ลักษณะหน้าเขาบิดเบี้ยวจนน่ากลัว และในชั่วพริบตา กระดูกหน้าเขาก็บิดจนดูไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป ปากเขา ซึ่งเดิมมีขนาดเท่าปกติเหยียดออกจนสุด
วินาทีต่อมา เขาก็เปิดปากที่เต็มไปด้วยเลือด ซึ่งแตกและฉีกขาดอย่างสมบูรณ์ หัวสีทองของงูค่อยๆเลื้อยออกจากปากเขา
ไม่นาน ร่างของเทพเสมือนหางงูก็อ่อนยวบ ไม่ต่างอะไรกับหนังงูหลังลอกคราบ และอสรพิษสีทองตัวใหญ่จุดดำก็เลื้อยออกจากปากที่ฉีกขาดทีละนิ….