เถิงหรานงอตัว ทำให้ตัวเองเล็กลง ปีกเขายังกระพือ หลบสายฟ้าสีแดงเลือดที่เข้าหาจากทุกทิศทาง
ร่างเดิมเขาใช้พลังกฏเทพได้ราบรื่นขึ้น
ถ้าถูกบังคับ เขาสามารถผสมการตรัสรู้ธาตุและส่งผลต่อวิถีของมีดบินพลังจิตได้ แต่ผลกระทบก็น้อยมาก
ถึงกระนั้น ความแตกต่างระหว่างความสามารถเขากับหลินฮวงก็ยังสูงเกิน เหมือนเดิม เขาถูกครอบงำ
หลินฮวงไม่ตื่นตระหนกเลยและรักษาจังหวะการต่อสู้เดิม จำนวนกฏที่รวมอยู่ในมีดบินยังไม่เปลี่ยน แต่ลำแสงสีแดงที่พุ่งจากแขนเสื้อเขายังเพิ่มขึ้น
เดิมที มันแค่มีดบินสี่พันเล้ม แต่ก็เพิ่มขึ้นเป็นห้าพัน หกพันอย่างรวดเร็ว…
มีดบินแต่ละเล่มเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงเลือด ยิงออกไปเหมือนเลเซอร์ ลากเส้นริ้วจำนวนนับไม่ถ้วนข้ามอากาศ พุ่งเข้าหาเถิงหรานเหมือนตาข่าย
ตรงกันข้าม เถิงหรานเหมือนแมลงวันตัวน้อยที่บินผ่านอาณาจักรที่ปกคลุมด้วยหยากไย่
เมื่อจำนวนมีดบินเพิ่มเป็นหมื่นเล่ม ลำแสงสีแดงเลือดที่ทิ้งไว้ในอากาศทุกเส้นไม่ต่างอะไรกับสายฟ้าที่ฟาดใส่เถิงหราน
ในเวลาเดียวกัน ตาข่ายลากที่หลินฮวงทอก็เป็นรูปร่าง ผนึกทางหนีของเถิงหรานจนหมด กักเขาไว้ในพื้นที่ทรงกลม
ฉากนี้ทำให้ทั้งนิกายพันงูกังวลอย่างมาก เมื่อเห็นเถิงหรานถูกปิดล้อม ทุกคนก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง
ครั้งนี้ มันคือร่างเดิมของเถิงหรานที่ถูกขัง เขาไม่สามารถใช้ความสามารถเทวะเพื่อลอกคราบได้เป็นครั้งที่สอง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าร่างเดิมเขาตาย คงไม่มีความเป็นไปได้ที่จะคืนชีพอีก
ในอากาศ พื้นที่ทรงกลมสีเลือดก่อตัวโดยมีดบินพลังจิต มันยิ่งหดเล็กลงเรื่อยๆ
เถิงหรานบินไปตามขอบทรงกลมด้วยความเร็วสูง เขาพยายามหาจุดที่อาจใช้เป็นช่องโหว่ได้ แต่ไม่พบเลย
เมื่อเขาเห็นว่าพื้นที่ทรงกลมที่เกดิจากมีดบินยิ่งหดเล็กลง เถิงหรานก็เร้งความเร็ว พุ่งใส่จุดสุ่มๆ เพียงเมื่อหลินฮวงรู้สึกสับสน ร่างของเถิงหรานก็พลันหดเล็กลง กลายเป็นขนาดเท่ายุง ด้วยหอกทองที่ลอยอยู่ตรงหน้า เขาพุ่งหาช่องว่างระหว่างมีดบินสองเล่ม
หอกที่ประกอบไปด้วยพลังกฏเทพระดับควบคุม 11 ชนิดแทงไปข้างหน้า ปลายหอกเปลี่ยนเป็นลำแสงสีทองพราว พุ่งใส่จุดเชื่อมต่อพลังงานระหว่างมีดสองเล่ม
วินาทีต่อมา ลำแสงสีทองก็เจาะผ่านบอลสายฟ้าสีแดงเลือด ทำให้เกิดรอยแยกในทรงกลมสีแดงที่สร้างขึ้นด้วยมีดบิน
“หือ?!”เมื่อเขาเห็น หลินฮวงก็อดอุทานด้วยความประหลาดใจไม่ได้ การโจมตีของศัตรูเป็นกลเม็ดของหมาจนตรอก ทำให้เขามีโอกาสสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ทว่า ความแปลกใจของหลินฮวงนั้นเกิดขึ้นชั่วขระ และมุมปากเขาก็ยกยิ้มขึ้น
เถิงหรานไม่ลีลา และออกแรงมากขึ้น เร่งความเร็วขึ้น พุ่งผ่านรอยแยกในทรงกลม
ขณะที่เขากำลังจะหลบหนีต่อ เขาก็พบว่ามีร่างหนึ่งได้ปรากฏตรงหน้าเขาแล้ว
เขาจับจ้องร่างนี้ รู้สึกถึงความหนาวสั่นที่วิ่งผ่านร่าง มันคือหลินฮวงที่ขวางทางเขา
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าหลินฮวงปรากฏตัวตอนไหน
ความตกใจของเถิงหรานปรากฏแค่ชั่วขณะก่อนกลายเป็นตระหนัก
‘เขาคือผู้ใช้พลังจิต เขาต้องเชี่ยวชาญการโจมตีระยะกลางถึงไกลเท่านั้น เขามั่นใจว่าเขาอ่อนแอในการต่อสู้ระยะประชิด แต่การต่อสู้ระยะประชิดคือความถนัดของข้า ตราบเท่าที่ภัยคุกคามของมีดบินเหล่านี้ถูกกำจัด เขาก็ไม่มีอะไรน่ากลัว!’
ด้วยความคิดนี้ ความกล้าของเถิงหรานจึงกลับคืนมา
ร่างของเขาพลันกลับเป็นขนาดปกติ หอกทองลอยตรงหน้าเขา เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อโจมตีหลินฮวง
ในชั่วพริบตา หอกก็เต็มไปด้วยพลังกฏเทพ
ด้วยการโจมตีนี้ เถิงหรานไม่ได้รวมแค่พลังกฏเทพระดับควบคุม แต่ยังใส่กฏเทพทั้งหมด 67 ประเภทที่เขาใช้ได้
ในชั่วพริบตา เขาโยนตัวเองเข้าหาศัตรู หอกเขาพุ่งผ่านอากาศจากระยะห่างตัวหลินฮวงไม่ถึงเมตร ทุกที่ที่ปลายหอกเจาะผ่าน มันดูเหมือนมิติเวลาจะแหลกสลาย
เมื่อเถิงหรานเห็นหลินฮวงยังสวมสีหน้าเฉยชาตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็คิดว่ามันเพราะระยะห่างนั้นใกล้เกินไป และความเร็วของการโจมตีเขาคงเร็วจนหลินฮวงไม่สามารถควบคุมมีดบินได้ทัน
แต่ทว่า วินาทีที่หอกเขาแทงไปข้างหน้า เถิงหรานก็สังเกตเห็นฝักดาบสีเลือดปรากฏในมือหลินฮวง
‘คมดาบละ?’ความสงสัยผุดขึ้น เขาพลันรู้สึกถึงความเย็นจากคอ
เมื่อเขามองหลินฮวงอีกครั้ง เขาก็ตระหนักว่าคมดาบเป็นดาบสีเงินแคบ และมันก็ย้อมด้วยเลือดสีแดงทอง
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหน”ดาบในมือหลินฮวงค่อยๆสลายหายไป เขามองเถิงหรานด้วยสายตาสงสาร
นี่ยังเป็นคำพูดสุดท้ายที่เถิงหรานได้ยินก่อนสติเขาจะเลือนหยาไป
หัวของงูยักษ์ค่อยๆเลื่อนหลุด และศพไร้หัวก็ล้มลง
ด้ายพลังจิตของหลินฮวงพุ่งผ่านอากาศและศพไร้หัวก็ถูกเก็บไว้ในมิติเก็บของเขา แต่ทว่า ด้ายอีกเส้นกลับแขวนหัวของเถิงหรานไว้ตรงหน้าหลินฮวง ขนานกับหัวเขาเอง
เมื่อหลินฮวงจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าคล้ายเพชรในหัวงู รูม่านตาเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน เหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
กฏเทพระดับควบคุม การอ่านสมองถูกใช้ทันที
การอ่านสมองคือกฏเทพประเภทที่ดีสุดในการอ่านความทรงจำของสมองที่ยังไม่ตายอย่างสมบูรณ์ แต่ได้เสียพลังปกป้องตัวเองไปแล้ว
นี่ทำให้หลินฮวงไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิตเถิงหราน
ไม่เหมือนมองใจ ซึ่งตรวจสอบระดับของวิญญาณในช่วงเวลาของอาณาจักรวัตถุ การอ่านสมองต้องใช้เวลาเฉพาะเจาะจง
หลินฮวงรอให้แถบความคืบหน้าการอ่านสมองค่อยๆเพิ่มขึ้นขณะมองการแจ้งเตือนที่เสี่ยวเฮยเพิ่งส่งมา
“ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ ท่านได้รับการ์ดมอนสเตอร์สมบูรณ์ เถิงหราน(กึ่งเทพสูงสุด)
‘ได้รับการ์ดมอนสเตอร์?!’หลินฮวงแปลกใจเล็กน้อยและรีบตรวจสอบการ์ด
“การ์ดมอนสเตอร์ : เถิงหราน”
“ความหายาก : เทพสูงสุด(เทียม)”
“ชื่อมอนสเตอร์ : เถิงหราน”
“ประเภทมอนสเตอร์ : เผ่างูกลายพันธ์/เผ่างูมีปีก”
“สายเลือด : งูปีศาจ(ยังไม่ตื่น)”
“ระดับพลัง : เทพแท้จริงขั้น 6 (เทพแท้จริงขั้น 9 )
“วิชาหลัก : เต๋าหอก การตรัสรู้ธาตุลม การตรัสรู้ธาตุน้ำ”
“ทักษะหลัก : หอกสังหารเทพ พายุถล่มเทพ..”
“ทักษะรอง : ทะเลลวงตา..”
“เต๋าหอก : ระดับแก่นราก”
“กฏเทพ : แหลม…”
“การตรัสรู้ธาตุ : ลมพายุ ทะเลความพิโรธ..”
“สิทธิ์การอัญเชิญ : ทำงาน”
“หมายเหตุการ์ด : ฝึกได้!”
“หมายเหตุ : แนะนำให้เริ่มการฝึกด้วยการทำให้สายเลือดสัตว์อสูรบริสุทธิ์”
เมื่อเขาเห็นว่ามีทักษะนับร้อยในช่องทักษะของเถิงหราน แม้กระทั่งช่องพลังกฏเทพก็ยังแน่นหนา หลินฮวงก็รู้สึกเหมือนได้รับโชค
เสี่ยวเฮยยังให้หมายเหตุถึงทิศทางการฝึกอบรน เห็นได้ชัดว่าการ์ดเถิงหรานนั้นดี
‘ถ้าสัตว์อสูรมีศักยภาพบรรลุชั้น 6จริงอย่างที่แผ่นหินพูด งั้นเถิงหรานก็ต้องได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม!’
หลินฮวงเริ่มวางแผนเงียบๆถึงวิธีการฝึกเถิงหราน…