Monster Paradise – ตอนที่ 1453

เมื่อเขากลับจากเมืองแรกไปเมืองจักรพรรดิ หลินฮวงได้ปิดประตูบ่มเพาะ

 

แต่ทว่า การปิดประตูบ่มเพาะรอบนี้ไม่ได้มุ่งที่การพัฒนาความสามารถเขา แต่มันเพื่อให้เขาพิจารณาว่าจะสื่อสารกับเจตจำนงโลกอย่างไร

 

ตามที่หัวใจจักรพรรดิบอก ใครที่ใช้พลังกฏเทพก็สามารถสื่อสารกับเจตจำนงของโลกกรวดได้

 

แต่ทว่า หัวใจจักรพรรดิไม่เปิดเผยว่าจะสื่อสารกับเจตจำนงโลกอย่างไร มันแค่บอกว่าความตั้งใจสื่อสารของเจตจำนงโลกจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน

 

สำหรับวิธีการกลั่นและผสานเศษเสี้ยวเขตแดนเทพ สิ่งเดียวที่หัวใจจักรพรรดิพูดคือทางเข้าแกนโลกจะได้รับอนุญาตก็ต่อเมื่อเจตจำนงโลกนั้นยอมรับ

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่เป็นเหมือนเกมทายคำเพี่อผ่านด่าน

 

“ในเกมทายนี้ ข้าต้องเลือกให้ถูก ไม่งั้นก็ต้องเสนอสิ่งที่อีกฝ่ายชอบจึงสามารถพิชิตเป้าหมายได้…”ความคิดนี้ทำให้หลินฮวงรู้สึกอึดอัด”แต่ไม่มีตัวเลือก   ABCDให้เลือกเพื่อใช้สื่อสารกับเจตจำนงโลก ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันชอบของขวัญแบบไหน..”

ท่ามกลางความไม่แน่นอนมากมาย หลินฮวงตัดสินใจลองดูว่าเขาจะสื่อสารกับเจตจำนงโลกได้หรือไม่ก่อน

คลื่นท่วมท้นของจิตเทวะเอ่อจากภายในตัวเขา กระจายออกไปทุกทิศทางเหมือนระลอก ขยายออกไป

 

100เมตร!

1000เมตร!

10000หมื่น!

10000กิโลเมตร!

100000กิโลเมตร!

500000กิโลเมตร!

สุดท้าย คลื่นก็หยุดลงที่ 600000 กิโลเมตร

จิตเทวะของหลินฮวงสามารถครอบคลุมพื้นที่โลกกรวดได้มากกว่าครึ่งโลก

ยอดฝีมือระดับเทพเสมือนจำนวนมากสัมผัสได้ถึงคลื่นจิตเทวะ

 

จิตเทวะของหลินฮวงเป็นที่จดจำได้ทันที ไม่ใช่แค่ขัตติยะ แต่ยังรวมถึงผู้ปลดปล่อย รัฐบาลกลาง สมาคมนักล่าและเทพเสมือนจากองค์กรเช่นผีเสื้อลึกลับ นักฆ่าเงาและนอกรีต

แต่ทว่า เทพเสมือนหลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับหลินฮวงต่างคิดว่ามียอดฝีมือทรงพลังมาถึงโลกกรวดอีกครั้ง นี่ทำให้เกิดความตกใจ บางคนยังลอบติดต่อกับรัฐบาลกลางเพื่อรายงานสถานการณ์ รัฐบาลกลางเองก็ไม่แน่ใจว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดีเพราะพวกเขาต้องช่วยอธิบายว่านั่นคือจิตเทวะของหลินฮวง

 

สมาชิกทุกคนของขัตติยะไม่รู้ว่าทำไมหลินฮวงถึงส่งจิตเทวะเขาออกมาในลักษณะนี้

 

“ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทปิดประตูบ่มเพาะหรือ?ไมจู่ๆเขาถึงทำให้เกิดความวุ่นวายเฉกเช่นนี้?”

 

คุณฟู่ยังส่งจิตเทวะเขาไปสอบถามหลินฮวงว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“ไม่มีอะไร ข้าแค่กำลังทดลอง”หลินฮวงตอบ

 

องค์กรอื่นเริ่มคาดเดากันเองว่าหลินฮวงอาจมีแผนการอะไรบางอย่าง

 

“หรือเขากำลังพยายามหาสมบัติ?”
“เขาอาจกำลังหาใครบางคน”

“หรือเขาอาจแค่อยากแสดงพลังของเขา”

 

ท่ามกลางการคาดเดาต่างๆนานๆ หลินฮวงพลันรู้สึกได้ถึงคลื่นจิตสำนึกที่ตอบรับกับเขา

 

คลื่นจิตสำนึกไม่ได้ถ่ายทอดข้อมูลทางวาขา แต่สิ่งที่ส่งมาหาหลินฮวงกลับเป็นอารมณ์สนุกสนาน

 

“เจตจำนงโลก?!”หลินฮวงตกตะลึงไปชั่วขณะแต่ก็ดึงตัวเองเข้าหามัน

 

ความคิดเดิมเขาคือการขยายจิตเทวะและตรวจสอบก่อน จากนั้นก็ลองสื่อสารกับพลังกฏเทพไม่สมบูรณ์ต่างๆในมิติ หลังจากนั้น เขาก็จะค้นหาร่องรอยของพลังกฏเทพเหล่านี้เพื่อหาเบาะแสที่ทิ้งไว้โดยเจตจำนงโลก

 

แต่ทว่า เขาไม่คิดว่าในเวลาไม่ถึงสิบวินาทีหลังส่งจิตเทวะออกไป เจตจำนงโลกจะเริ่มค้นหาเขาด้วยเช่นกัน

ตามที่หัวใจจักรพรรดิได้อธิบายไว้ เจตจำนงโลกยังอญู่ในช่วงวัยทารกเนื่องจากกฏที่ไม่สมบูรณ์ของโลกกรวด พฤติกรรมส่วนใหญ่เป็นไปตามสัญชาตญาณ ในความเป็นจริง จิตสำนึกส่วนตัวมันไม่แข็งแกร่งมาก มันยังไม่สามารถเข้าใจภาษามนุษย์ได้

 

เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความปรารถนาในการเชื่อมต่อที่เจตจำนงโลกกรวดถ่ายทอด จิตเทวะของหลินฮวงก็ส่งข้อความไป

 

ทันทีที่เขาถ่ายทอดเจนา เจตจำนงโลกก็ยิ่งตื่นเต้น

 

หลินฮวงคาดเดาว่าที่เจตจำนงโลกแสดงความเป็นมิตรกับเขาเช่นนี้คงเพราะเขาฆ่าผู้รุกรานจากนิกายพันงู

 

แม้เจตจำนงโลกจะไม่มีสติปัญญาสูง มันก็ยังตระหนักดีว่านิกายพันงูคือคนที่เคยสะกดมัน

 

หลังควบแน่นจิตเทวะและเล่นสนุกกับเจตจำนงโลกเล็กน้อย หลินฮวงก็ชี้นำเจตจำยงโลกไปยังขอบนอกของขอบเหวนรก

 

จิตเทวะของหลินฮวงแปลงเป็นมือใหญ่และยื่นนิ้วออกไป ชี้ไปทางขอบเหวนรก

 

ในเวลาเดียวกัน หลินฮวงยังส่งความคิด’ข้าต้องหาทางแก้ปัญหาของขอบเหวนรก’

 

ถึงแม้เจตจำนงโลกจะสื่อสารด้วยคำพูดไม่ได้ มันก็สามารถจับใจความสำคัญได้บ้าง

 

เจตจำนงโลกทะลุเข้าไปชั้นสามของขอบเหวนรกทันที

เมื่อเข้าไป อารมณ์ของเจตจำนงโลกก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

 

จิตเทวะของหลินฮวงแปลงเป็นมือใหญ่อีกครั้ง ชี้ไปทางอุโมงค์มิติ

 

จากนั้นเจตจำนงโลกก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าหลินฮวงหมายถึงอะไร มันพยักหน้าอย่างรวดเร็ว บ่งชี้ว่ามันต้องการความช่วยเหลือของหลินฮวงเพื่อแก้ปัญหานี้

 

โดยไม่รอให้หลินฮวงกล่าวคำขอเพื่อกลั่นและผสานเศษเสี้ยวเขตแดนเทพ เจตจำนงโลกได้ท่องผ่านมิติและมาถึงเมืองจักรพรรดิ มนแปลงเป็นเมฆหนาทึบที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ ปรากฏในวังจักรพรรดิ

 

ก่อนหลินฮวงจะได้ตอบสนอง อีกฝ่ายก็พลันพบตำแหน่งเขา เขาเห็นเมฆหมอกร่างมนุษย์กำลังมุ่งหน้ามาทางเขา

 

หลินฮวงรู้สึกว่าวิสัยทัศน์เขาปกคลุมไปด้วยหมอก เขารู้สึกสับสนไปชั่วขณะ เมื่อเขากลับมามีสติอีกครั้ง เขาก็อยู่ในความว่างเปล่าแล้ว

 

ในความมืดมิด หลินฮวงเห็นแผ่นสีทองแดงบางๆอยู่ไม่ไกล มันมีขนาดเท่าฝ่ามือ แผ่นโปร่งแสงมีรูปร่างผิดปกติ มันดูเหมือนไพ่ครึ่งใบที่ขาด

เขายื่นมือไปทางแผ่นกระดาษเพื่อตรวจสอบ วางมันบนฝ่ามือ กำลังจะตรวจสอบมัน แต่ก็พบว่ามันสลายเป็นประกายไฟสีทองแดงนับไม่ถ้วน จากนั้นก็รวมกันเป็นจุดนับไม่ถ้วนของแสงดาวที่กรูกันเข้าไปในตัวเขา

 

หลินฮวงรีบส่งจิตสำนึกเข้าไปในตัวเองเพื่อตรวจสอบ พบว่าประกายไฟเหล่านั้นตกลงไปภายในสวรรค์แห่งมอนสเตอร์ของเขา

 

แต่ทว่า สิ่งที่แปลกสุดคือประกายไฟ ซึ่งตกลงไปด้วยโมเมนตัมเหมือนดาวตกไม่ได้ทำความเสียหายให้สวรรค์แห่งมอนสเตอร์เลย หลังตกไปในเขตแดนเทพเขา พวกมันกลับสร้างชั้นของระลอกขึ้นในความว่างเปล่า จากนั้นก็สลายหายไปอย่างสมบูรณ์

 

ก่อนหลินฮวงจะได้ตอบสนอง เขาก็ตระหนักว่าการผสานเสร็จสมบูรณ์แล้ว

 

“แค่นั้น?”เขาสะดุ้ง ยังพบว่ามันยากจะเชื่อ”การกลั่นและการผสานเสร็จง่ายๆแบบนี้?!”

 

หลินฮวงตรวจสอบเขตแดนเทพเขา ยังมีข้อสงสัย

 

เขตแดนเทพเขาไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่หลินฮวงพบหมอกหนาทึบในรูปร่างมนุษย์แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ทั้งหมด

 

“เจตจำนงโลกสามารถเข้าเขตแดนเทพข้าได้?!”หลังเห็นเจตจำนงโลกปรากฏ หลินฮวงก็สามารถยืนยันได้ว่าเขาผสานและกลั่นเศษเสี้ยวเขตแดนเทพเรียบร้อยแล้ว

 

‘ข้าจะใช้พลังของเจตจำนงโลกเพื่อลอกขอบเหวนรกชั้นสามได้อย่างไร?’ขณะที่เกิดความสงสัยนี้ เขาก็พลันได้รับประสบการณ์บางอย่าง เมื่อเขาได้สติ เขาก็พบว่ามุมมองเขาแตกต่างไปจากเดิม

 

ไม่ว่าเขาจะมองยังไง ก็ไม่มีวัตถุแข็งอีก มีแค่จุดและเส้นหลากสีที่กระจัดกระจายทั่ว รวมถึงเมฆแปรปรวน

 

หลินฮวงต้องใช้เวลาสักพักถึงรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น’นี่คือมุมมองของเจตจำนงโลก?!ข้ากลายเป็นเจตจำนงโลก?!’

 

หลินฮวงมองไปรอบๆสวรรค์แห่งมอนสเตอร์และค้นพบอุโมงค์มิติอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกได้ว่าฝั่งตรงข้ามของอุโมงค์มิติคือกลิ่นอายของโลกกรวด

หลังลังเลสักพัก เขาก็พุ่งเข้าไป

 

เมื่อเขาออกอุโมงค์มิติ หลินฮวงก็พบว่าเขากลับมาโลกกรวดแล้ว

 

‘ข้าจะไปที่ขอบเหวนรกได้อย่างไร?’ เขาไม่สามารถเห็นของแข็งได้ เขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่าทางไหนเป็นทางไหน ท่ามกลางความกังวล ร่างเขาพลันเปลี่ยนไป ไม่นาน เขาก็มาปรากฏตรงทางเข้าขอบเหว

 

แม้มันจะแตกต่างจากที่เขาเห็นในโลกแห่งวัตถุ แต่หลินฮวงก็พอจำได้ว่านี่คือขอบเหวนรก

 

“เมื่อใดก็ตามที่ข้าคิดถึงสถานที่ ข้าจะไปปรากฏที่นั่นทันที ความสามารถประเภทนี้น่าอิจฉาจริงๆ!’หลินฮวงพึมพำ วินาทีต่อมา เขาก็ปรากฏบนชั้นสาม

 

อย่างรวดเร็ว เขาเห็นอุโมงค์มิติทั้งหมด 33 แห่ง ตอนนี้ การมองพวกมันจากมุมมองของเจตจำนงโลกทำให้เขาเห็นแค่วังวนสีดำขนาดใหญ่ 33 อันที่คล้ายกับรูหนอน

 

หลังสังเกตสั้นๆ หลินฮวงก็ตัดสินใจโดยไม่ลังเล”ลอกมันออก!’

 

ทันทีที่เขาพูดจบ ขอบเหวนรกชั้นสามก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

ในเวลาแค่ไม่กี่วินาที ขอบเหวนรกชั้นสามก็ถูกแยกออกจากโลกกรวด โยนเข้าไปในความว่างเปล่า มันหายลับไปอย่างไร้ร่องรอย มันเหมือนกับกันชนหลังของรถคันเก่าที่หลุด ถูกทิ้งไว้ข้างหลังขณะที่รถยังคงเคลื่อนตัว

Monster Paradise

Monster Paradise

Type: Author:
800ปีก่อน มีประตูมิติกว่า3000ที่เปิดกว้างทั่วโลก ในขณะที่ดวงตาที่แตกต่างกัน3000ดวงเปิดกว้างขึ้น ฝูงสัตว์ประหลาดนับล้านก็ได้พรั่งพรูออกมาจากมัน บางตัวสามารถที่จะทำลายกำแพงเมืองด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียว : พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตเท่ายักษ์และกินมนุษย์ บางตัวจะยึดติดกับมนุษย์ พวกมันจะดูดซับสารอาหารในร่างกายและทำให้มนุษย์เป็นทาส บางตัวจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองมนุษย์ ปลอมตัวเป็นมนุษย์ธรรมดาขณะที่ดูดเลือดเพื่อความเป็นอยู่ของมัน ในเวลากลางคืน มนุษย์จะกลายเป็นด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกได้กลายเป็นสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าสัตว์ประหลาด 800 years ago, 3000 dimensional gates opened across the entire world. In that moment, it was as if 3000 different colored eyes opened across the world as hordes of monsters swarmed out of these gates like tears. Some could destroy city walls with one strike; They had bodies the size of a giant and fed on humans Some latched onto humans, absorbing their bodies’ nutrients and enslaving humans Some infiltrated the humans’ cities, disguising themselves as normal human beings while feeding upon human blood to sustain themselves. In a night, the Human race fell to the bottom of the food chain. The world had turned into a paradise for monsters…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset