หลังฟังคำอธิบายของเจียงฉาน หลินฮวงก็ครุ่นคิดสักพักก่อนถามเพิ่ม
“ท่านบอกว่าพวกเขาขาดการติดต่อทีละคน นั่หมายความว่าระหว่างการเดินทางยังมีการสื่อสารอยู่?”
“ถูกต้อง”เจียงฉานยืนยัน”นอกจากนี้ ท่านยังรู้ว่าไม่มีสัญญาณในมหาสมุทรสันติสินะ มีน้อยที่ในนั้นถึงมีสัญญาณ นั่นทำให้เราสั่งให้ทีมสำรวจที่สองและสามรายงานกลับทันทีที่พวกเขาไปถึงที่ที่มีสัญญาณ ไม่ว่าพวกเขาจะค้นพบความผิดปกติหรือไม่ก็ตาม”
เมื่อมาถึงจุดนี้ เสียงของเจียงฉานก็ลดลง”แต่ทว่า นี่คือส่วนที่แปลกสุดของเรื่องทั้งหมด ข้อความทั้งหมดที่ส่งกลับมาหาเราบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ”
“เมื่อทีมลงไปในทะเล นอกจากครั้งแรกที่จำนวนคนรายงานกลับมาเป็นปกติ ทุกครั้งที่จำนวนคนส่งข้อความกลับมามักน้อยลง แต่ไม่มีสักข้อความที่บอกว่าพบสิ่งผิดปกติ มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่รู้เลยว่าจำนวนคนในกลุ่มน้อยลง.
“ไม่ใช่แค่นั้น เมื่อเราพบจำนวนสมาชิกทีมเราลดลง เรายังส่งคำเตือนและออกคำสั่งถอยกับคนที่ยังส่งข้อความกลับมาตามปกติ แต่เราไม่เคยได้รับการตอบกลับใดๆ ตอนเราได้รับข่าวจากพวกเขาและพยายามติดต่อกลับไปทันที กลับไม่มีทางติดต่อได้ถึง ข้อความพวกเขาสามารถผ่านมาได้เป็นครั้งคราวเท่านั้นและการสื่อสารก็เป็นฝ่ายเดียว”
“เราทำได้แค่เฝ้าดู เมื่อเห็นจำนวนคนที่ส่งข้อความกลับมาลดลงเรื่อยๆจนในที่สุด เราก็ขาดการติดต่อกับทุกคน”
เมื่อได้ยิน หลินฮวงก็ยิ่งขมวดคิ้ว
“จากสิ่งที่ท่านอธิบาย ข้าสามารถคิดได้สามความเป็นไปได้”
“หนึ่งคือ พวกเขาตกอยู่ภายใต้ภาพลวงตาและไม่รู้ตัว”
“สองคือมีบางอย่างปลอมตัวเป็นสมาชิกทีม จากนั้นก็มีสมาชิกถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆ”
“สามคือคนที่ส่งข้อความกลับมาไม่ใช่สมาชิกทีมจริงๆของพวกเขา”
“อีกเรื่องคือที่ท่านพูดถึงว่าไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะได้รับข้อความจากท่าน และทั้งการติดต่อแบบเสียงและวิดิโอก็ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ กระแสสื่อสารเป็นแบบทางเดียว นี่ไม่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่สิ่งมีชีวิตในทะเลลึกจะทำได้ พวกมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแหวนหัวใจจักรพรรดิคืออะไร”
“ดังนั้น นี่ต้องเกิดโดยฝีมือมนุษย์หรืออาจเกิดโดยมอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาสูงซึ่งเคยติดต่อกับเผ่ามนุษย์มาก่อน แน่นอน ความเป็นไปได้ของอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมเองก็ไม่สามารถตัดออกไปได้”
“มีความเป็นไปได้ไหมว่า…อุโมงค์มิติที่ท่านพูดถึงถูกพบและผู้รุกรานจากมหาพิภพกำลังบุกมาโลกกรวดเราจากมหาสมุทรสันติ?”เจียงฉานลังเล ก่อนถามคำถาม
“ตามความรู้สึกข้า โอกาสนั้นต่ำมาก”หลินฮวงส่ายหัว แต่ในใจ เขารู้ว่าโอกาสเป็นศูนย์
นอกจากความจริงที่ปัจจุบันไม่มีอุโมงค์มิติบนมหาสมุทรสันติแล้ว ต่อให้มีสักอัน ความผันผวนมิติจากการที่โลกอื่นข้ามมาก็ไม่อาจเล็ดรอดสายตาของเจตจำนงโลกไปได้ ถ้ามีใครข้ามมา หลินฮวงย่อมรู้ทันที
ทางเดียวคือ เนื่องจากหลินฮวงปกปิดความจริงจากรัฐบาลกลาง เขาจึงไม่สามารถบอกสถานการณ์จริงตรงๆได้ เขาทำได้แค่หาทางอื่นเพื่ออธิบายเจียงฉาน
“นิกายพันงูและวังเผ่าหมื่นคณนานับไม่มีทางรู้ตัวเร็วขนาดนี้ ไม่ใช่แค่นั้น นิกายพันงูก็ไม่มียอดฝีมือที่เหนือกว่าเทพเสมือนแล้ว ถ้าวังเผ่าหมื่นคณนานับรุกรานจริงๆ พวกเขาต้องส่งกองทัพมาตั้งแต่วันแรกที่พบอุโมงค์มิติ พวกเขาไม่ต้องรอถึงหกเดือนหรอก”
“ถ้ามีองค์กรใดในมหาพิภพพบอุโมงค์ อย่างมากพวกเขาก็จะสำรวจแค่วันหรือสองวัน เมื่อพวกเขายืนยันว่าอุโมงค์ไร้ปัญหา พวกเขาจะเปิดฉากโจมตีทันที ไม่รอให้นานถึงขนาดนี้”
“เรื่องนี้ทำให้บุคลากรระดับสูงในรัฐบาลตื่นตระหนก เราเสียเทพเสมือนส่วนใหญ่ไปและไม่มีใครให้ส่งไปเพิ่ม”สีหน้าของเจียงฉานดูกระวนกระวาย”ข้าหมดหนทาง..หวังว่าฝ่าบาทอาจยื่นมือมาช่วยเราแก้ไขวิกฤตนี้!”
วิธีที่เจียงฉานพูดกับหลินฮวงเปลี่ยนไปเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเรียกหลินฮวงว่าจักรพรรดิหลินมาตลอด แต่ตอนนี้เขาเรียก
หลินฮวงว่าฝ่าบาท
“ประธานเจียง ไม่ต้องทำแบบนั้น เรื่องนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เทพเสมือนขั้น 9 สองคนได้หายไป มันเปล่าประโยชน์ที่ท่านจะส่งคนไป”หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อย”ในเมื่อข้ายังอยู่ในโลกกรวด ข้าก็จะเดินทางไปเอง”
หลังได้ยินคำตอบของหลินฮวง เจียงฉานก็โล่งใจมาก
ตอนแรก เขากลัวว่าหลินฮวงจะปฏิเสธหรือฉวยโอกาสเพื่อเรียกราคาสูงเกินจริง แต่หลินฮวงไม่ทำอย่างนั้น ในความเป็นจริง เขาตกลงพิจารณาเรื่องนี้โดยไม่ลังเล
ถ้านี่เกิดก่อนหน้า หลินฮวงอาจเพิ่มเงื่อนไขบางอย่าง แลกกับบริการสำหรับการบ่มเพาะหรือแหล่งข้อมูล แต่ทว่า ตอนนี้ รัฐบาลกลางไม่มีอะไรที่เขาสนใจเลย
อีกเหตุผลหนึ่งที่หลินฮวงเห็นด้วยเร็วขนาดนี้เพราะทั้งโลกกรวดเป็นดินแดนเขาแล้ว การแก้ปัญหาโลกกรวดหมายถึงการแก้ปัญหาของเขตแดนเทพภายในตัวเขา
เมื่อเขาตกลง หลินฮวงก็สอบถามรายละเอียดเรื่องอื่นๆก่อนตัดสาย
หลินซินกลับมาห้องนั่งเล่นหลังเห็นว่าหลินฮวงคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว
“พี่ ประธานเจียงมีเรื่องสำคัญอะไรงั้นเหรอ?”
“มีเรื่องเกิดขึ้นที่มหาสมุทรสันติ”หลินฮวงอธิบาย”ข้าต้องเดินทางไปที่นั่น”
“ข้าสามารถไปกับพี่ได้ไหม?”หลินซินถามทันที”ข้าเป็นเทพเสมือนขั้น 9 แล้วนะ”
“มันดีกว่าที่น้องจะอยู่ในเมืองหวันเปา และเดินเล่นดูว่าน้องชอบอะไรไหม”หลินฮวงส่ายหัว”สถานการณ์ที่นั่นซับซ้อน พี่จะรู้สึกดีกว่าถ้าไปคนเดียว”
“น้องไม่ต้องกังวล ถ้ามันเร็ว วันเดียวควรพอ ถ้ามันมีเรื่องอะไรที่ต้องใช้เวลา สองหรือสามวันควรพอ”หลินฮวงพูดเสริม”พี่จะเรียกแม่มดน้อยมาอยู่กับน้อง”
เมื่อพูดจบ เขาก็ได้บดขยี้การ์ดแม่มดในมือขวาแล้ว
“แม่มดน้อย!”ทันทีที่นางเห็นแม่มด อารมณ์ของหลินซินก็ดีขึ้น
เมื่อเห็นสองสาวเริ่มคุยกัน หลินฮวงก็เรียกแหวนเก็บของออกมาสองวงและส่งให้หลินซินกับแม่มด”ภายในแหวนคือหินเทวะ ถ้ามีอะไรที่น้องอยากได้ ก็ซื้อเลย ไม่ต้องกลัวเงินหมด แม่มดน้อยก็ด้วยนะ!’
ภายในแหวนสองวงของหลินฮวงมีหินเทวะประมาณล้าน มากพอจะซื้อสมบัติเทพชั้นสูงครบชุด
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากอาวุธเซียนทั้งสามชิ้นที่หลินฮวงมีอยู่ในตัว ปัจจุบันอุปกรณ์ที่เหลือยังเป็นสมบัติเทพชั้นสูงทั้งหมด เขาไม่ต้องใช้เงินเลย
หินเทวะประมาณล้านพอจะใช้จ่าย
ตอนนี้ที่หลินซินมีแม่มดข้างๆ หลินฮวงจึงหยุดกังวลได้ ถึงแม้น้องสาวเขาจะเป็นเทพเสมือนขั้น 9 แล้ว ความสามารถนางก็ไม่อ่อนแอนัก เขายังกลัวว่าหลินซินอาจเสียเปรียบ
หลังเขาจัดการเรื่องของหลินซิน จากนั้นหลินฮวงถึงอำลาสองสาว ด้วยการโบกมือ เขาก้าวเข้าวังวนมิติไป…