ตอนนี้เป็นวันที่สามของเดือนสิบสอง เมืองหิมะถูกเปลี่ยนเป็นโลกสีขาวราวกับหิมะเหมือนเมื่อสี่ปีก่อน
สองพี่น้องมองดูเกล็ดหิมะลอยลงจากฟ้า ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย และประตูบ้านก็ถูกผลักเปิดโดยใครบางคน
คนที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าประตูไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลินซวน
“ข้าคาดไว้แล้วว่าพวกท่านต้องมาถึงวันนี้ ข้าจึงมาก่อนเพื่อเก็บของ ซื้อของสำหรับงานเฉลิมฉลองและตกแต่งบ้าน”หลินซวนยิ้มอบอุ่น
“เจ้ามาถึงเร็วจริงๆ เรามาช้าไปไม่ถึงสิบนาที และเจ้าก็มาก่อนแล้ว”หลินฮวงเดินไปหาหลินซวน
“ก่อนหน้านี้ข้าตั้งพิกัดประตูมิติไว้ เนื่องจากไม่มีอะไรเร่งด่วน ข้าจึงแจ้งหวงเทียนฟู่หลังจบสายและรีบมาทันที”หลินซวนอธิบาย
ตอนนี้ หลินซินมายืนตรงหน้าหลินซวนแล้ว ยืดคอเธอเพื่อแหงนมองชายหนุ่มที่สูงกว่าเธอครึ่งหัว”เสี่ยวซวน…ทำไมมันถึงรู้สึกแปลกๆตอนเรียกเจ้าด้วยชื่อนั้น?”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น น้องก็เรียกเขาว่าต้าซวนซะสิ”หลินฮวงเสนอ
ใบหน้าของหลินซวนดูอึดอัด แต่เขาไม่คัดค้าน ด้วยความที่หนาตาเขาดูแก่กว่าหลินฮวง เขาจึงรู้สึกอึดอัดใจที่ถูกหลินซินเรียกว่าเสี่ยวซวน
“ต้าซวนเรียกได้ไม่กระดากปากกว่า งั้นจากนี้ไป ข้าจะเรียกเจ้าว่าต้าซวน”วินาทีที่หลินซินพูดจบ นางก็รีบพูดเสริม”ชื่อของเจ้าอาจเปลี่ยนไป แต่อย่าลืมว่าข้ายังเป็นพี่สาวของเจ้า ต้าซวน!”
ถึงแม้นางจะเต็มใจให้หลินซวนเปลี่ยนชื่อเรียก แต่หลินซินก็ยังไม่ยอมละทิ้งตำแหน่งพี่สาว
สีหน้าของหลินซวนบ่งบอกว่าเขาไม่มีทางเลือกมากนัก แต่ก็ไม่คัดค้านเช่นกัน
“เอาละ รีบทำความสะอาดบ้านกันดีกว่า”หลินฮวงเสนอ ปัดเป่าความอึดอัดของหลินซวน
เนื่องจากพวกเขาไม่ได้พบกันเลยตลอดสี่ปีและหลินซวนก็ผ่านเรื่องราวมามาก รวมถึงความทรงจำของโม่ขุ่ยที่ตื่นขึ้น การที่จะกลมกลืนกับครอบครัวนี้จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
หลินฮวงเต็มใจให้เวลากับหลินซวนเพื่อปรับตัว
ภายใต้คำแนะนำของหลินฮวง ทั้งสามเริ่มทำความสะอาดกัน
ทั้งสามต้องใช้เวลาทั้งบ่ายก่อนจะทำความสะอาดบ้านจนหมด ทั้งภายในและภายนอก
“ผ้าปูเตียงและผ้านวมในตู้อยู่มาหลายปีแล้ว ใช้อันใหม่เถอะ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เสื่อมสภาพ ทุกอย่างในตู้เย็นหมดอายุ…”ขณะพูด หลินฮวงยังจดของที่ต้องซื้อ”ทั้งคู่ไปเดินเล่นดูและดูว่าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง”
หลินซินกับหลินซวนพูดถึงหลายสิ่ง หลินฮวงเขียนทั้งหมดและทำรายการตรวจสอบ
หลินซินกับหลินซวนพูดหลายสิ่ง หลินฮวงเขียนทั้งหมดและทำรายการตรวจสอบ
ทั้งสามไปทานอาหารกลางวัน จากนั้นก็มุ่งตรงไปซูเปอร์มาร์เก็ต พวกเขาซื้อทุกอย่างตามรายการ กลับไปบ้านและทำการตกแต่งอีกรอบ ด้วยอากาศเย็น บรรยากาศแห่งเทศกาลจึงรื่นเริง
หลายวันต่อมา สามพี่น้องไม่ได้ออกไปไหนมากนัก
หลินฮวงใช้เวลาส่วนใหญ่กับการบ่มเพาะไร้รอยต่อและเพิ่มจำนวนด้ายพลังจิตของเขา
หลินซินชักชวนหลินซวนให้มาซ้อมกับนาง แน่นอน สนามฝึกของทั้งคู่ไม่ใช่ในเมืองหิมะ การให้เทพเสมือนขั้น9กับเทพแท้จริงขั้น 1สู้กันต้องเกิดผลพวงที่ทำให้ทั้งเมืองพินาศแน่ สนามต่อสู้ของพวกเขาจึงเป็นเขตแดนเทพของหลินซวน
ในชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปกว่าสัปดาห์
ด้ายพลังจิตของหลินฮวงเพิ่มอีกสองหมื่นเส้น ทำให้จำนวนนวมจึงเป็นสองแสนห้าหมื่น ทักษะการต่อสู้ของหลินซินยังเลื่อนอีกระดับ
ปัจจุบัน ความสามารถของนางไม่อ่อนแอไปกว่าคุณฟู่ก่อนปิดประตูบ่มเพาะเลย
วันปีใหม่ วันแรกของเดือนจันทรคติใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในที่สุดหลินฮวงก็หยุดการบ่มเพาะ หลินซินกับหลินซวนเองก็เช่นกัน
วันปีใหม่เป็นปีใหม่ของยุคใหม่ แต่ทุกคนคุ้นเคยกับการเฉลิมฉลองวันสิ้นสุดปีเก่าของปฏิทินจันทรคติ ดังนั้นวันปีใหม่จึงมีความสำคัญน้อยกว่า
แต่ปัจจุบัน ยังมีเวลาอีกสองเดือนก่อนสิ้นปีจันทรคติ หลินฮวงไม่คิดอยู่ในโลกกรวดนานนัก
ในคืนวันปีใหม่ หลินฮวงเปิดวิดิโอห่อเกี๊ยวให้น้องๆเขาดู
แม้จะมีร้านเกี๊ยวในโลกกรวด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หลินซินกับหลินซวนได้ทำเกี๊ยวเอง ทั้งคู่สนใจและแสดงความกระตือรือร้นอย่างมาก
อาหารเย็นที่ทั้งสามทานนั้นเรียบง่ายมาก แต่ละคนมีเกี๊ยวหนึ่งชามและก็ไม่ได้กินมากนัก เกี๊ยวที่ยังไม่สุกจะถูกเก็บเข้าช่องแช่แข็ง
คืนนั้น หิมะตกหนักมาก
หลินฮวงและน้องๆของเขานั่งรอบเตาไฟ คุยกันอย่างมีความสุขถึงประสบการณ์น่าขบขันที่พวกเขาพบเจอ
เพียงเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงระฆังส่งท้ายปีเก่า ทั้งสามคนก็เลิกคุย หันไปจ้องมองนอกหน้าต่างพร้อมกัน ด้านนอก ดอกไม้ไฟจำนวนนับไม่ถ้วนทะยานขึ้นฟ้า ระเบิดเป็นแสงสวยงามตระการตา
แม้อุณหภูมิจะต่ำกว่าศูนย์ เมืองหิมะคึกคักและมีชีวิตชีวาแม้จะเป็นเวลาเช้าตรู่
ถนนการค้าที่อยู่ไม่ไกลจากหลินฮวงและย่านเล็กๆของสามพี่น้องเต็มไปด้วยคนที่มาและไป ยังมีหลายคนที่หยุดมองดูดอกไม้ไฟ
ในบ้านสกุลหลิน ทุกอย่างเงียบผิดปกติ
เปลวไฟริบหรี่ในเตาผิงทำให้เกิดแสงสีเหลืองอบอุ่น ส่องใบหน้าทั้งสาม
ไม่มีใครพูดอะไร พวกเขาแค่มองดอกไม้ไฟบนฟ้าเงียบๆ
ดอกไม้แสดงอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนหยุด จากนั้นหลินฮวงกับน้องๆถึงร้องไห้ออกมา
“สี่ปีก่อน พวกเขาปล่อยการแสดงดอกไม้ไฟที่คล้ายๆกัน”หลินฮวงเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบ
“ถูกต้อง ข้าจำได้ชัด มันเป็นอย่างนี้ เราจุดเตาไฟในบ้าน..”หลินซวนพยักหน้า
“ข้าจำได้ว่ามันต่างเล็กน้อย ต้าซวนและข้าวิ่งไปหน้าต่างเพื่อดูดอกไม้ไฟ จากนั้นมันก็เริ่มมีหิมะตก เราจึงวิ่งออกไปด้านอกเพื่อปาหิมะเล่นกัน”หลินซินรำพึง หัวเราะ”ตอนที่เรากลับมาหลังเล่นกันเสร็จ ดอกไม้ไฟก็จบไปนานแล้ว”
หลินซวนหัวเราะเบาๆอย่างเขินอาย แน่นอน เขาจำได้ แต่เขารู้สึกอาย
ทั้งสามคุยกันอย่างเฉยเมยก่อนหลินซวนจะหันมาถามหลินฮวง”เมื่อปีใหม่จบ ท่านจะไปมหาพิภพตอนไหน?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ หลินซินก็เงี่ยหูฟังด้วย
“เราจะอยู่ต่ออีกวัน ในวันที่สาม เราจะกลับไปเมืองจักรพรรดิก่อน ให้ข้าจัดการธุระก่อน จากนั้นเราค่อยไป”หลินฮวงมีแผนการเดินทาง
เมื่อหลินซินได้ยิน นางก็เงียบไป”พี่…ในอนาคต เราจะยังกลับมาโลกกรวดได้ไหม?”
“แน่นอน”หลินฮวงยิ้ม”ถ้าต้องการ พวกเจ้าสามารถกลับมาได้ตามใจชอบ”
“การกลับจากมหาพิภพดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่าย”หลินซินขมวดคิ้วขณะถาม
“ไม่ต้องห่วง ในเมื่อข้าพูดไปแล้ว ข้าก็ต้องทำได้”หลินฮวงหัวเราะและตบไหล่หลินซวน เขาไม่อธิบายเพิ่ม
เมื่อเขาได้ยินหลินฮวงพูดแบบนี้ หลินซวนก็เก็บงำความสงสัยไว้ แต่ก็ไม่ถามต่อ เลือกเชื่อใจหลินฮวงแทน เหนือสิ่งอื่นใด ชายคนนี้สามารถทำหลายสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถบรรลุได้