หวงอู่จื่อคือเจ้าชายลำดับหนึ่งของขัตติยะ หนึ่งในห้าเจ้าชายของรุ่นเยาว์
ไม่รวมหลินฮวง เขากับเฉินเตาคืออัจฉริยะฟ้าประทานที่เก่งกาจสุดในหมู่คนรุ่นเยาว์ของโลกกรวด เขายังเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดจักรพรรดิ
ปัจจุบัน เขาเองก็เป็นเทพเสมือนเหมือนกับเฉินเตา
ไม่ว่ามันจะเป็นพรสวรรค์ ศักยภาพหรือระดับพลง เขาตรงกับข้อกำหนดของหลินฮวง
เมื่อได้ยินคำพูดของหวงอู่จื่อ สมาชิกขัตติยะจำนวนมากก็ตกใจ
ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าชายลำดับหนึ่ง ต่อให้เขาจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งจักรพรรดิได้ เขาก็ยังเป็นผู้สืบทอดของหวงเทียนฟู้ในอนาคต มันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนขัตติยะจะเป็นของเขา
หลายคนเชื่อว่าหวงอู่จื่อคือคนที่อยากเห็นหลินฮวงออกจากโลกกรวดมากสุดเพราะเมื่อหลินฮวงออกเดินทาง เขาจะกลายเป็นจุดสนใจหลักของขัตติยะ
คนส่วนใหญ่ไม่คิดเลยว่าเขาจะยอมละทิ้งทุกอย่างและเดินทางไปมหาพิภพกับหลินฮวง
แม้กระทั่งหลินฮวงก็ยังแปลกใจ
“เจ้าแน่ใจนะว่าอยากไปมหาพิภพกับข้า?”หลินฮวงถามหลังเงียบไปสักพัก ในฐานะจักรพรรดิ เขาได้คุยเรื่องแผนพัฒนาในอนาคตกับหวงเทียนฟู้ไว้แล้ว เขารู้ดีกว่าใครว่าหวงอู่จื่อจะได้รับความทุ่มเทมากแค่ไหนจากขัตติยะหลังเขาไป
“บางทีอาจมีหลายอย่างที่ข้าพูดไม่ชัดเจน ถ้าเจ้าอยากเข้าร่วมองค์กรข้า เจ้าจะต้องพิจารณาให้ดี ในเมื่อองค์กรอยู่ในช่วงเริ่มต้นก่อตั้ง เจ้าจะต้องหาทรัพยากรส่วนใหญ่เอาเอง“หลินฮวงกวาดตามองทุกคน จากนั้นก็หันกลับไปที่หวงอู่จื่อ“ด้วยพรสวรรค์และศักยภาพของเจ้า เจ้าจะได้รับทรัพยากรดีกว่าถ้ายังอยู่ในขัตติยะ ถ้าเจ้าติดตามข้า เจ้าจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษอะไร“
“ข้าเข้าใจ”หวงอู่จื่อไม่ลังเล“ข้าไม่เคยไล่ตามสิทธิพิเศษ ข้าแค่อยากแข็งแกร่ง“
“ข้าตระหนักดีว่าข้าจะได้รับการฝึกฝนแบบไหนถ้าอยู่ในขัตติยะ ถ้าข้าอยู่ในโลกกรวด บางที ระดับพลังข้าอาจเพิ่มมากกว่าไปมหาพิภพ แต่ทว่า ในระยะยาว การไปมหาพิภพเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะการอยู่ในมหาพิภพ ข้าจะได้พบเจอความท้าทายมากขึ้น จากนั้นข้าถึงแข็งแกร่งขึ้นได้ ไม่ใช่แค่การยกระดับพลัง.
“สิ่งที่ข้าต้องการคือเวทีที่ใหญ่ขึ้น ข้าหวังว่าท่านจะมอบโอกาสให้ข้า ฝ่าบาท!”สายตาของหวงอู่จื่อร้อนแรง เขาตัดสินใจไปแล้วว่าจะออกโลกกรวดให้ได้
หลินฮวงจ้องเขาสักพัก เมื่อเห็นท่าทีหนักแน่น เขาก็พยักหน้า“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจไปแล้ว งั้นก็มากับเรา“
เมื่อเห็นหวงอู่จื่อเข้าร่วมกับหลินฮวงได้สำเร็จ คนอื่นต่างก็อดรู้สึกปั่นป่วนไม่ได้
หวงตู้ฟู้เป็นคนแรกที่ยืนขึ้น“ฝ่าบาท..ข้าเองก็อยากไปมหาพิภพกับท่าน!”
ทันทีที่เขาพูด เขาก็เหลือบมองหวงเทียนฟู้กับหวงอู่หนานข้างเขา
หวงอู่หนานยังสวมใบหน้าตายด้าน แต่สีหน้าของหวงเทียนฟู้กลับยิ่งดำมืด
“ตอนนี้พอก่อน ข้าจะเก็บที่ไว้ให้พวกเจ้าทุกคน เมื่อเจ้าไปถึงระดับเทพเสมือนขั้น 9 และเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าแล้ว เจ้าค่อยมาเข้าร่วมกับข้า“หลินฮวงเหลือบมองหวงเทียนฟู้ หวงอู่หนานและหวงตู้ฟู้
เหตุผลที่เขาปฏิเสธเพราะทั้งสามคือกระดูกสันหลังของขัตติยะ การที่คนใดคนหน่งไม่อยู่เท่ากับการที่ขัตติยะจะเสียสมดุลไป ยิ่งไปกว่านั้น ตำแหน่งของทั้งสามภายในขัตติยะยังไม่สามารถแทนที่ได้ง่ายๆ
นี่ทำให้หลินฮวงตั้งเงื่อนไขสองข้อสำหรับพวกเขา หนึ่งคือเป็นเทพเสมือนขั้น 9 และอีกหนึ่งคือฝึกผู้สืบทอดให้สำเร็จ
“ก็ได้ครับ“หวงตู้ฟู้ดูเหมือนจะคาดไว้แล้ว“เดิมข้าคิดว่าจะได้โอกาสทิ้งงานซะอีก ไม่คิดเลยว่าฝ่าบาทจะมองแผนข้าออก“
“เหตุผลที่ข้าตอบรับหวงอู่จื่อเพราะการเดินทางของเขาไม่ส่งผลต่อขัตติยะ พวกเจ้าสามคนควรอยู่และสร้างขัตติยะให้มั่นคง ขัตติยะคือฐานฝึกฝนคนมีพรสวรรค์ของข้า รวมถึงเป็นส่วนสำคัญขององค์กรที่ข้ากำลังจะสร้าง“
หลังคำขอของหวงตู้ฟู้ไม่สำเร็จ หลายคนในห้องประชุมก็พากันขอเข้าร่วมองค์กรของหลินฮวง แต่หลินฮวงก็ปฏิเสธทั้งหมด
คำตอบของเขาคือ“พวกเจ้าควรเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้นสูงกันก่อน“
แม้หลินฮวงจะตั้งข้อกำหนดที่เทพเสมือน มันก็มีไว้เฉพาะอัจฉริยะอย่างหวงอู่จื่อ สำหรับพวกที่ศักยภาพไม่พอ ถ้าระดับพลังพวกเขาไม่ถึงเทพเสมือนขั้นสูง มันคงยากที่จะเอาตัวรอดในมหาพิภพ
ทันทีที่การประชุมจบ หลินฮวงก็ตรงไปผู้ปลดปล่อย
ที่ผู้ปลดปล่อย เขายังตั้งเงื่อนไขเดียวกันกับขัตติยะ
ผู้ปลดปล่อยเองก็รวมอยู่ในแผนฝึกฝนผู้มีพรสวรรค์
หลังการประชุม หลายคนแสดงความปรารถนาเข้าร่วมองค์กรของหลินฮวง แต่ก็ถูกปฏิเสธด้วยเงื่อนไขเดียวกับขัตติยะ
หลังออกมา หลินฮวงก็เรียกดาบ103
“พันธมิตรดาบเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ตลอดแปดเดือน เรารับสมัครอัจฉริยะชั้นยอดได้ 23 คน และอัจฉริยะทั่วไป 318 คน ผู้บ่มเพาะดาบอัจฉริยะส่วนใหญ่เป็นขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง และส่วนใหญ่ก็เนขององค์กรหลักเช่นรัฐบาลกลาง สมาคมนักล่า พวกเขาจึงไม่คิดเปลี่ยนฝ่าย“
“โน้มน้าวพวกที่สามารถ แต่อย่าบังคับใคร นอกจากนี้ อย่าใช้ความรุนแรงโน้มน้าวด้วย“หลินฮวงพูดต่อ“เจ้าควรให้ความสนใจกับอัจฉริยะฟ้าประทานคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้บ่มเพาะดาบด้วย“
ก่อนหน้านี้ หลินฮวงอยากสร้างพันธมิตรดาบเพราะเขาได้รับมรดกเต๋าดาบมามาก นอกจากนี้ ทาสดาบทั้งหมดยังเป็นผู้บ่มเพาะดาบที่ทรงพลัง มันง่ายที่จะฝึกผู้บ่มเพาะดาบ
ตอนนั้น เขาไม่พิจารณารับคนอื่นเพราะเขากลัวว่าจะเป็นการฉุดรั้งผู้บ่มเพาะสายอื่น แต่ตอนนี้ ความคิดเขาเปิดกว้างกว่าเดิม แม้เขาจะได้รับมรดกประเภทอื่นมาน้อยมาก ทาสดาบก็ถือเป็นเทพสวรรค์ขั้นสูงกันหมด เป็นผุ้ที่แทบจะครอบครองมรดกประเภทอื่นจนหมด นอกจากนั้น พวกเขายังเคยสู้กับยอดฝีมือสายอื่นมาก่อน ความสามารถพวกเขาในการชี้จุดบกพร่องต้องไม่ธรรมดา ดังนั้น พวกเขาจึงเหมาะแก่การสอนคน
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะมาจากขัตติยะหรือผู้ปลดปล่อย อัจฉริยะที่พวกเขาส่งมายังองค์กรของเขาในอนาคตต้องไม่ใช่ผู้บ่มเพาะดาบทั้งหมดแน่
หลังดาบ103จากไป หลินฮวงก็หันไปมองทิศทางที่คุณฟู่กำลังปิดประตูบ่มเพาะ เขาสามารถสัมผัสได้ว่าคุณฟู่กำลังฝ่าด่านเทพแท้จริงอยู่
“จากที่ข้าเห็น เขาจะสามารถฝ่าได้ในไม่กี่วัน..”หลินฮวงฉีกยิ้ม
‘การฟื้นฟูพลังงานวิญญาณ‘ของโลกกรวดเป็นประโยชน์ต่อคุณฟู่มาก
คืนนั้น หลินฮวงบอกกับคนอื่นว่าจะปิดประตูบ่มเพาะ แต่ลอบวางโลกกรวดไว้ในตัวเขา จากนั้นก็ย้ายตัวเองกลับไปวังจอมเทพ
หลังออกวังจอมเทพและเดินทางตามแผนที่ที่เจ้าแดงให้มา เขาก็เดินทางด้วยตัวเองหลายวัน ผ่านจุดเคลื่อนย้ายนับสิบก่อนมาถึงดินแดนมนุษย์ของมหาพิภพ
บนดาวห่างไกลไร้คนอาศัยภายในดินแดนมนุษย์ หลินฮวงเปิดอุโมงค์มิติไปสู่โลกกรวด อีกด้านของอุโมงค์มิติเชื่อมต่อกับถ้ำใต้มหาสมุทรสันติที่ซ่อนอยู่ใต้ซากเรือ
หลังเตรียมการเสร็จ หลินฮวงก็กลับไปโลกกรวดอีกครั้ง
เมื่อกลับมา คุณฟู่ก็เลื่อนเป็นเทพแท้จริงได้สำเร็จและออกจากการปิดประตูบ่มเพาะตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว
ทันทีที่เขาผลักเปิดประตูของวังจักรพรรดิ หลินฮวงก็ได้ยินเสียงของคุณฟู่
“ในที่สุดเจ้าก็ออกจากการปิดประตูบ่มเพาะ ศิษย์ข้า“
“ขอแสดงความยินดีกับท่านอาจารย์ที่เลื่อนเป็นเทพแท้จริงได้สำเร็จ!”หลินฮวงยิ้มและส่งคลื่นเสียงกลับไป
“ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ได้“คุณฟู่ยินดีมาก
หลังจากนั้นไม่นาน คุณฟู่ก็ถาม”เจ้าจะไปมหาพิภพตอนไหน?”
“อาจารย์อดใจไม่ไหวแล้ว?”หลินฮวงหัวเราะ
“หลังเลื่อนเป็นเทพแท้จริง ข้ารู้สึกว่าทุกอย่างในโลกกรวดดูหม่นหมอง..”ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนจะมีความเศร้าในน้ำเสียงของคุณฟู่
“งั้นก็ออกเดินทางกันเก้าโมงเช้าวันพรุ่งนี้ ข้าจะแจ้งให้คนอื่นทราบ“หลินฮวงกำหนดเวลาทันที
ก่อนกลับไปมหาพิภพเพื่อเตรียมการ เขาได้บอกหลินซินกับคนอื่นล่วงหน้า บอกว่าเขาจะกำหนดเวลาเดินทางเมื่อออกจากการปิดประตูบ่มเพาะ นี่เพื่อให้ทุกคนเตรียมตัว
หลังคุยกับคุณฟู่ หลินฮวงก็รีบส่งข้อความให้ทุกคนรู้
“ไปเจอกันที่จัตุรัสตรงทางเข้าวังจักรพรรดิตอนเก้าโมงเช้าวันพรุ่งนี้…”