**อัศวินดำโค่นอำนาจถึงตอนที่ 200 กันแล้วนะทุกคน ใครยังไม่อ่านอย่าพลาด สนุกจริงๆ เปิดใจลองอ่านกันหน่อยน้า**
——–
แปดโมงเช้า หลินฮวงกินอาหารเช้าอย่างไม่รีบร้อนก่อนกลับไปวังจักรพรรดิ
“มันเกือบถึงเวลาต้องส่งพิกัดแล้ว”
เขาเหลือบมองเวลา เปิดรายชื่อในแหวนหัวใจจักรพรรดิ เลือกเจียงฉาน หวงเทียนฟู้ จากนั้นก็ส่งข้อความให้พวกเขา
เนื้อหาของข้อความนี้คือพิกัดของอุโมงค์มิติที่นำไปสู่มหาพิภพ
หลินฮวงทุ่มความพยายามไปมากกับอุโมงค์มิตินี้
ก่อนอื่น เพื่อป้องกันคนของโลกกรวดจากการไปดินแดนเทพ เขาจึงเดินทางข้ามหลานที่ก่อนตั้งจุดเคลื่อนย้ายในดินแดนมนุษย์
ก้าวต่อไปคือป้องกันเหล่าเทพเสมือนขั้นต่ำของโลกกรวดไม่ให้ตายหลังพวกเขาไปถึงมหาพิภพ
หลังเชื่อมต่ออุโมงค์มิติ เขาลอบดัดแปลงพื้นที่รอบๆบนโลกกรวด ใช้อักขระเทวะ ห่อหุ้มมันด้วยการตรัสรู้ธาตุน้ำแข็ง
ถ้าสิ่งมีชีวิตธรรมดาเข้าใกล้อุโมงค์มิติ พวกมันจะถูกแช่แข็ง
สำหรับคนที่ยังใช้พลังกฏเทพไม่ได้ มีเพียงคนที่มีพลังเทวะเกินเทพเสมือนขั้น 6(ไม่รวมขั้น6) ถึงสามารถใช้พลังเทวะเพื่อเอาชนะการแช่แข็งและเข้าอุโมงค์มิติได้
ผู้ใช้พลังกฏเทพสามารถต่อต้านการแช่แข็งด้ เนื่องจากการตรัสรู้ธาตุที่หลินฮวงตั้งไว้ในอักขระเทะวก็แค่ระดับแรกเท่านั้น ความหนาวที่แผ่ออกมาไม่ได้มาจากพลังของการตรัสรู้ธาตุเอง มันเป็นแค่ความเย็นที่แยกตัวจากการตรัสรู้ธาตุ
สำหรับผู้บ่มเพาะที่ต่ำกว่าเทพเสมือนและใช้พลังกฏเทพไม่ได้ ตราบเท่าที่พวกเขาหนีทัน ความหนาวจากการตรัสรู้ธาตุก็จะสลายหายไปเอง แต่ทว่า ถ้าพวกเขาดึงดัน พวกเขาก็จะถูกแช่แข็ง
อย่างไรก็ตาม หลินฮวงไม่บอกใครว่าเขาเป็นคนจัดการเรื่องนี้ เขาแค่พูดในข้อความที่ส่งไปด้วยว่า”พื้นที่รอบอุโมงค์มิติหนาวมาก เทพเสมือนที่ต่ำกว่าขั้นสูงน่าจะไม่สามารถผ่านได้”
เขาทำไปเพื่อทุกคนในโลกกรวด
นี่เพราะแหล่งทรัพยากรส่วนใหญ่ของมหาพิภพถูกยึดโดยองค์กรใหญ่และเล็ก
ใครก็ตามที่ต่ำกว่าเทพเสมือนขั้นสูงจะเข้าร่วมองค์กรในมหาพิภพได้ยาก ต่อให้โชคดีเข้าองค์กรระดับ 3 หรือ 4 ได้ พวกเขาก็จะได้แค่งานรับเงินเดือนทั่วไ มันยากมากที่จะได้รับทรัพยากรบ่มเพาะ
ถ้าเป็นพวกฉายเดี่ยว ไม่เพียงอัตราเสียชีวิตจะสูงมาก แต่พวกเขายังต้องส่งมอบของอย่างน้อย 50%ทุกครั้งที่เข้าเขตลับของคนอื่น องค์กรโหดเหี้ยมบางแห่งจะรับกว่า 70 % หรือต่อให้โชคดีพบเขตลับไร้เจ้าของ มันก็ยังเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะบ้าบิ่นไม่กลัวตาย ถ้าไม่มีองค์กรคอยรักษากฏระเบียบ อันตรายก็จะเพิ่มขึ้น
ข้อยกเว้นคือผู้มีพรสวรรค์และศักยภาพน่าทึ่งอย่างเฉินเตา และหวงอู่จื่อ ระหว่างนี้ คนอื่นต้องผ่านการท้าทาย
ถ้าเป็นเช่นนี้ในอดีต หลินฮวงต้องไม่ทามความพยายามมากนัก เขามักเป็นคนที่ไม่ชอบปัญหามาตลอด
แต่ทว่า ตอนนี้เขาได้กลั่นโลกกรวด ความคิดของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามีความคิดคลุมเครือที่ว่าคนเหล่านี้เป็นคนของข้า นั่นทำให้เขาทำงานหนักเพื่อเตรียมการเหล่านี้
คนที่ได้รับข้อความมีความคิดต่างไป
หวงเทียนฟู้กับกู่จื่อไม่สงสัยถึงข้อความที่หลินฮวงส่ง พวกเขายังไม่สงสัยคำเตือน หลินฮวงต้องมีเหตุผลถึงระบุว่าเทพเสมือนที่ต่ำกว่าขั้นสูงไม่ควรลองข้ามอุโมงค์มิติ พวกเขาทำตามที่หลินฮวงพูด หลินฮวงยังบอกพวกเขาว่าอย่าเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ พวกเขาจึงเก็บมันไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด
อีกด้าน ปฏิกิริยาของเจียงฉานต่างออกไป
“เขาส่งพิกัดมาให้ง่ายขนาดนี้?ไม่มีข้อกำหนดหรือการซื้อขาย?”ปฏิกิริยาแรกของเจียงฉานคือสงสัยความถูกต้องของพิกัด หลินฮวงให้ข้อมูลง่ายเกินไป ถึงกระนั้น เขาก็รีบขับไล่ความคิดนี้ทันทีเพราะพิกัดที่ผิดพลาดเปิดเผยได้ง่ายเกินไป ทั้งหมดที่เขาทำคือส่งคนไปตรวจสอบและก็จะรู้ว่าเป็นของจริงหรือปลอม กระบวนการนี้ใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งชั่วโมง
“พื้นที่รอบอุโมงค์มิติปกคลุมด้วยความเย็น คนที่ไม่ใช่เทพเสมือนขั้นสูงไม่ควรเข้าไป?”เจียงฉานสงสัยคำเตือนนี้”งั้น พวกเทพเสมือนขั้นต่ำและกลางก็จะเข้าอุโมงค์มิติไม่ได้?”
สำหรับข้อมูลส่วนนี้ที่บอกว่าห้ามกระจายข้อมูล เจียงฉานไม่สงสัยเลย ข้อมูลนี้ถือเป็นข้อมูลลับสุดยอด เขาจะเอาไปแจกฟรีทำไม?
หลังอ่านข้อความของหลินฮวงสามครั้ง ทวนว่าไม่มีข้อความซ่อน เจียงฉานก็ปิดข้อมูล ติดต่อสองรองหัวหนารวมถึงเจ้าหน้าที่อาวุโสเพื่อจัดประชุม
…
ตอนเก้าโมงเช้า ทุกคนมารวมกันตรงหน้าวังจักรพรรดิ
หวงเทียนฟู้และเจ้าหน้าที่อาวุโสของขัตติยะมายืนกันเงียบ ๆ
นอกจากหลินฮวงกับหลินซิน คุณฟู่ หลินซวน เสี่ยวโม่ เฉินเตาและหวงอู่ฉีต่างมากันครบ
สำหรับหยี่เสิ่นและหยี่เยว่หยู่ เล้งเยวี่ยซิน และหลี่หลาง ระดับพลังพวกเขายังเป็นจักรพรรดิ พวกเขายังไม่เป็นเทพเสมือน หลินฮวงจึงไม่อยากพาไปด้วย
สำหรับเจ้าอ้วน แม้เขาจะมีศักยภาพดีหลังใช้การ์ดไร้ที่ติ แต่เวลาส่วนใหญ่ของเขาก็ทุ่มกับร้านอาหาร จำนวนเวลาที่เขาอุทิศให้กับการบ่มเพาะน้อยกว่าคนอื่น
หลินฮวงมองทุกคน จากนั้นก็พยักหน้า”ไปกันเถอะ!”
หลังพูดอย่างนั้น เขาก็ยื่นมือออกไป และวังวนคล้ายหลุมดำก็ก่อตัวขึ้น
เฉินตากับคนอื่นผงะ มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นความสามารถแบบนี้
หลินซินกับหลินซวนก้าวนำ หายไปในวังวน คุณฟู่กับคนอื่นตามหลังไป ก้าวไปทีละคน หลินฮวงเป็นคนสุดท้าย
ก่อนเข้าวังวน เขาหันมามองพวกหวงเทียนฟู้
“ดูแลตัวเองด้วย ฝ่าบาท!’หวงเทียนฟู้กับคนอื่นตะโกน โบกมือลาหลินฮวง
จากนั้นหลินฮวงถึงหันกลับ ก้าวเข้าไป
หลังจากนั้นไม่นาน วังวนตรงหน้าวังจักรพรรดิก็ค่อย ๆ หายไป
“เราไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะกลับมาอีกตอนไหน…”
พวกหวงเทียนฟู้เฝ้าดูวังวนหายไปก่อนแยกย้าย
เมื่อก้าวออกวังวน พวกหลินซินก็พบว่าตัวเองอยู่ในทะเลลึก
ไม่ไกลออกไปคือซากเรือขนาดใหญ่ที่จมอยู่ใต้ทรายครึ่งหนึ่ง พวกเขาสามารถเห็นได้แค่รูปร่างของเรือใหญ่
หลังจากนั้นไม่นาน หลินฮวงก็ก้าวออกมา
เขาจ้องซากเรืออับปากตรงหน้าครู่หนึ่งก่อนหันไปทางหนึ่ง
ตอนนี้ หลินซวนขมวดคิ้วเล็กน้อย”มีคนมาที่นี่?!”
“มันคือคนของรัฐบาลกลาง ข้าส่งพิกัดให้เจียงฉานครึ่งชั่วโมงก่อน”หลินฮวงอธิบายด้วยใบหน้าสงบ”พวกเขาคงมาตรวจสอบ”
ขณะพูด หลินฮวงก็กดมือลงบนไหล่หวงอู่จื่อ ประทับการตรัสรู้ธาตุน้ำแข็งส่วนหนึ่งเข้าตัวเขา
คุณฟู่กับหลินซวนเป็นเทพแท้จริงแล้ว ส่วนหลินซินคือเทพเสมือนขั้น 9 เสี่ยวโม่กับเฉินเตาเองก็เป็นเทพเสมือนขั้น 3 แต่ทั้งคู่ใช้พลังกฏเทพได้ หวงอู่จื่อนั้นเพิ่งเป็นเทพเสมือนขั้น 1 และเป็นคนเดียวที่ยังไม่เรียนรู้พลังกฏเทพ เขาจึงเป็นคนเดียวที่ไม่สามารถเข้าอุโมงค์มิติได้เอง
หวงอู่จื่อเพิ่งรู้สึกหนาวสั่น แต่ก็ถูกแทนด้วยสัมผัสลี้ลับทันที ก่อนเขาจะได้รับรู้รายละเอียดเพิ่ม กลุ่มคนรัฐบาลกลางก็มาถึง
อย่างน่าแปลกใจ หัวหน้าของคนรู้จักเก่าของหลินฮวง กวนจง หัวหน้าหน่วยพิเศษ
เมื่อเห็นพวกหลินฮวง สีหน้าของกวนจงก็เปลี่ยนไป
“ฝ่าบาท!”อย่างไรก็ตาม เขายังเป็นฝ่ายริเริ่มทักทายหลินฮวง”ท่านจะไปแล้ว?”
หลินฮวงเหลือบมองกองทัพของกวนจง มีสมาชิกไม่มาก แค่หกคน และระดับพลังพวกเขาก็ต่างกัน พวกเขาคือเทพเสมือนขั้น 1 3 6 7และ9
แม้กวนจงจะเป็นแค่เทพเสมือนขั้น 4 แต่เขาก็มีตำแหน่งสูงสุด
“ใช่”หลินฮวงพยักหน้าอย่างไม่แยแส เขาไม่มีความคิดเห็นพิเศษอะไรเกี่ยวกับกวนจง และไม่มีความขัดแย้งอะไรด้วย มันแค่ว่าพวกเขามีจุดยืนต่างกันและยากจะเป็นเพื่อน
“งั้น..พวกท่านจะเข้าไปกันก่อนไหมครับ?”แน่นอน กวนจงไม่กล้าข้ามคิวของหลินฮวง
“ไม่ต้องห่วง ข้าอยากเห็นผลการสำรวจของเจ้า”หลินฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม
กวนจงไม่คิดว่าหลินฮวงจะพูดแบบนี้ แต่ก็รีบตอบกลับ
“งั้นก็โปรดรอสักครู่ ฝ่าบาท เราจะลองก่อน”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ให้เทพเสมือนขั้น 1 กับขั้น 3 เข้าซากเรือก่อน
เทพเสมือนขั้น 1 เข้าใกล้ซากเรือ แต่ก่อนจะเข้าระยะร้อยเมตร ชั้นน้ำค้างแข็งสีขาวก็เริ่มกลั่นตัวบนตัวเขาโดยไม่มีคำเตือน เขาพยายามก้าวเพิ่ม แลละความเร็วที่ตัวเขาถูกแช่แข็งก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันสายเกินจะถอย
ตอนนี้ เทพเสมือนขั้น 9 จากรัฐบาลกลางลงมือ เถาวัลย์ยาวตวัดออกมา พันรอบเอวเทพเสมือนขั้น 1 ที่ยังไม่แข็งตัวอย่างสมบูรณ์ กระชากเขาออกมา
โชคดี เทพเสมือนขั้น 1 ยังไม่ถูกแช่แข็ง หลังออกซากเรือ ตัวของเขาก็เริ่มละลาย แต่ทว่า ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความกลัว “มันเย็นมาก มันเหมือนความหนาวเย็นที่ทำให้วิญญาณของข้าแข็งตัวไปพร้อมกับร่างกาย..หลังก้าวสองก้าวสุดท้าย ข้าไม่สามารถขยับตัวได้เลย..”
หลังเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เทพเสมือนขั้น 3 ก็ยิ่งระวังตัว เขาก้าวช้ากว่าคนแรก
ทันทีที่เขาอยู่ในระยะร้อยเมตร ตัวของเขาก็เริ่มแข็ง แต่เขาก็ฝืนสู้กลับโดยใช้พลังเทวะภายในตัว ถึงกระนั้น ความเย็นก็ยังแผ่ซ่าน พลังเทวะของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว..
เขาก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว ทันทีที่อยู่ระยะ 50 เมตร ตัวของเขาก็เริ่มแข็ง เมื่อจำได้ถึงความโชคร้ายของเพื่อน เขาก็ไม่กล้าฝืนเดินต่อ เขาตัดสินใจจุดระเบิดไฟเทวะ ส่งร่างเขาให้ลอยกลับไป
“ไม่ดี ข้าสามารถทำได้สูงสุดประมาณ 50 เมตร ข้าคิดว่าข้าคงถูกแช่แข็งถ้าก้าวต่ออีกสองก้าว…”ตัวของเขาสั่นสะท้าน เขาหันไปมองกวนจง
กวนจงรีบส่งผลึกเทวะเพื่อให้อีกฝ่ายเติมพลัง
เทพเสมือนขั้น 3 สามารถไปถึงได้แค่ 50 เมตร ดังนั้นเทพเสมือนขั้น 4 ก็ไม่ควรลอง เขาหันไปพยักหน้าให้เทพเสมือนขั้น 6
เทพเสมือนขั้น 6 ดูเคร่งขรึม แต่ก็ยังเริ่มเข้าหาซากเรือ
ไม่กี่นาทีต่อมา ในที่สุดเขาก็มาถึงซากเรือ แต่วินาทีที่เขาก้าวเหยียบซากเรือ ชั้นน้ำแข็งก็พลันลุกลานขึ้นขาเขาเหมือนสิ่งมีชีวิต
เทพเสมือนขั้น 9 จากรัฐบาลกลางมีเถาวัลย์อยู่ในมือแล้ว พร้อมช่วยเหลือทุกเมื่อ
เทพเสมือนขั้น 6 เปิดใช้พลังเทวะภายในตัว แต่หลังต่อต้านสักพัก พลังเทวะของเขาก็หมด เมื่อเห็นน้ำแข็งห่อหุ้มตัวเพื่อนเขา เทพเสมือนขั้น 9 ก็ลงมืออีกครั้ง
เพียงเมื่อเถาวัลย์สัมผัสกับเอวของเทพเสมือนขั้น 6 และกำลังจะดึงเขากลับ น้ำแข็งก็เริ่มลุกลามมาที่เถาวัลย์ด้วย วินาทีที่เทพเสมือนขั้น 9 ออกแรงดึง ส่วนเถาวัลย์รอบเอวอีกฝั่งก็ขาด
“บัดซบ!”หัวใจของเทพเสมือนขั้น 9 แทบเด้งหลุดออกมา
แต่ทว่า วินาทีนั้น ตัวของเทพเสมือนขั้น 6 ก็ลอยขึ้นไปในอากาศราวกับเขาถูกดึงกลับด้วยวัตถุที่มองไม่เห็น
คนจากรัฐบาลกลางรีบใช้จิตเทวะ จากนั้นก็พบด้ายพลังจิตที่พันรอบเอวอีกฝ่าย สายตาของพวกเขาหยุดที่หลินฮวง
“ไม่ต้องขอบคุณ”หลินฮวงยิ้มให้พวกเขา
เขาช่วยอีกฝ่ายเพราะจุดประสงค์ของเขาไม่ใช่การฆ่าคน แต่เป็นการป้องกันคนที่ไม่ทรงพลังพอจากการเร่งรีบไปมหาพิภพ
หลังเทพเสมือนขั้น 6 ถูกตัดสิน สีหน้าของเทพเสมือนขั้น 7 ก็ดำมืด แต่ก็ยังก้าวเท้าออกไปอย่างมั่นคง
พลังเทวะของเขาพุ่งพล่านไปทั่วทั้งตัว เขาก้าวไปที่ซากยาน ขณะที่เท้าของเขาสัมผัสซากเรือ น้ำแข็งก็เริ่มกลั่นตัวที่ขาสองข้างเขา แค่ก็ถูกพลังเทวะเขายับยั้งไว้
เขาลังเลสักพักแต่ตัดสินใจก้าวเดินต่อ หลังเข้ารูในซากเรือ เขาก็เดินลงตามพิกัดที่หลินฮวงมอบให้
โชคดี มันค่อนข้างราบรื่น
หลังเข้าซากเรือ กลิ่นอายเทพเสมือนขั้น 7 ก็ไม่ลดลงมาก
หลังผ่านไปประมาณสิบนาที เขาก็ถอนตัวจากซากเรือ ตัวเขาปกคลุมด้วยน้ำแข็ง แม้เขาจะดูเหนื่อยล้า แต่ก็ยังโล่งใจ
“เป็นไงบ้าง?เจ้าเห็นอุโมงค์มิติไหม?”กวนจงถาม
“ข้าเห็นมัน”
“ความเย็นรุนแรงแค่ไหน?”เทพเสมือนขั้น 9 ถามจากด้านข้าง
“พลังเทวะปัจจุบันข้าสามารถผ่านความหนาวเย็นไปได้ แต่ทว่า แค่การเข้าและออกครั้งเดียวก็ทำให้พลังเทวะข้าแทบหมด”เทพเสมือนขั้น 7 อธิบาย”นอกจากนี้ ยิ่งเข้าใกล้อุโมงค์มิติ ความเย็นยิ่งรุนแรงและยิ่งผลาญพลังเทวะ การคาดเดาของข้าคือเทพเสมือนขั้น 6 จะไม่มีทางผ่านไปได้ต่อให้นำผลึกเทวะติดตัวมามากแค่ไหนก็ตามเพราะอัตราการผลาญพลังเทวะจะสูงกว่า”
“ข้าจะไปตรวจสอบ”เทพเสมือนขั้น 9 พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เดินตรงไป คิดตรวจสอบมันเอง
แม้เทพเสมือน ขั้น7 จะกลับมาได้ เทพเสมือนขั้น 9 ก็ยังระวังตังมาก มันใช้เวลาประมาณสิบนาทีเขาจึงเดินออกมา
เขากลับไปหากวนจง
หลังจากนั้น กวนจงก็หันมามองหลินฮวง
“ฝ่าบาท ขออภัยที่ทำให้ท่านต้องรอนาน”
หลังจากนั้น เขาก็หันไปหาเสี่ยวโม่ เฉินเตาและหวงอู่จื่อ”พวกเจ้าเห็นผลการทดสอบแล้ว ข้าเกรงว่าพวกเจ้าคงผ่านไปไม่ได้”
เมื่อเห็นผลลัพธ์ เฉินตากับคนอื่นก็กังวล
“ขอบคุณที่เตือน”หลินฮวงพยักหน้าให้กวนจง เขาไม่ปฏิเสธคำพูดของกวนจง แค่นำกลุ่มเขาเข้าไป
พวกกวนจงจ้องพวกเฉินเตา อยากดูว่าหลินฮวงจะทำอย่างไร แต่ด้วยความแปลกใจ กลุม่ของหลินฮวงเดินอย่างราบรื่น
ภายในซากเรือ เฉินตากับเสี่ยวโม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น วินาทีที่ทั้งคู่เข้าระยะร้อยเมตร พลังกฏเทพภายใต้ตัวเองทำงานเอง แยกความหนาวเย็นออกจากตัว
สำหรับหวงอู่จื่อ ผู้ยังไม่เรียนพลังกฏเทพ หลินฮวงได้ประทับการตรัสรู้ธาตุให้เขาเป็นการป้องกัน เพราะเหตุนั้น เขาจึงไม่รู้สึกหนาวเลย
คนจากรัฐบาลกลางเฝ้าดูกลุ่มหลินฮวงหายไป วินาทีต่อมา ความผันผวนมิติก็แผ่ออกจากซากเรือ และกลิ่นอายของพวกหลินฮวงก็หายไป
กวนจงเงียบไป
“พวกเขาทำได้ยังไง?”
ตอนนี้ เทพเสมือนขั้น 9 พูดขึ้น”มันอาจเป็นเพราะพลังกฏเทพ หลินฮวงได้ประทับพลังกฏเทพให้เทพเสมือนขั้น 3 สองคนและเทพเสมือนขั้น 1”