หลังมอบหมายงานให้พวกหลินซิน หลินฮวงก็รีบติดต่อเจ้าแดง
สถานการณ์ของไคลี่ในเผ่าเนฟิลิกยังน่ากังวล
“ข้าจัดการธุระทางข้าเสร็จแล้ว ทางเจ้าละ?”
“ไม่ดีนัก..”เจ้าแดงตอบ”ก่อนหน้านี้ ไคลี่เลื่อนเป็นระดับเทพสูงสุดได้ เมื่อข่าวหลุดออกไป บุตรเทวะ
จากองค์กรระดับจ้าวเทวะก็มาสู่ขอทันที ตามสถานการณ์ปัจจุบัน มันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนเผ่าเนฟิลิกจะตกลงเรื่องการแต่งงาน”
หลินฮวงรู้เกี่ยวกับการเลื่อนเป็นเทพสูงสุดของไคลี่ เขาไม่แปลกใจเลย เพราะเผ่าเนฟิลิกคือเผ่าระดับหกขั้นสูงสุด ด้วยทรัพยากรของพวกเขา บวกกับพรสวรรค์และศักยภาพของไคลี่ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
แม้กระทั่งภายในองค์กรระดับ 7 เทพสูงสุดก็มีศักยภาพพอจะเป็นบุตรเทวะ นี่ทำให้องค์กรระดับ 7 มากมายเต็มใจใช้บุตรเทวะของพวกเขาเพื่อสู่ขอไคลี่
เมื่อได้ยิน คิ้วของหลินฮวงก็ขมวดเล็กน้อย นี่ไม่ใช่ข่าวดี
“งั้นข้าจะเรียกพวกเจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้”
ก่อนเจ้าแดงจะได้ตอบ การแจ้งเตือนของเสี่ยวเฮยก็ผุดขึ้นตรงหน้าหลินฮวง
“้มันไม่เป็นที่แนะนำสำหรับการเรียกการ์ดมอนเตอร์ทั้งสองกลับ เผ่าเนฟิลิกถูกพิทักษ์โดยกึ่งจ้าวเทวะที่น่าจะไม่ยอมให้ไคลี่หายไปภายใต้จมูกเขา ถ้าไคลี่เกิดหายไปอย่างไร้ร่องรอย เผ่าเนฟิลิกจะต้องพยายามออกล่านางแน่ อาจเต็มใจจ่ายราคาสูงเพื่อขอให้จ้าวเทวะจากองค์กรอื่นช่วยกันค้นหา ตราบเท่าที่มีเบาะแสเล็กน้อยทิ้งไว้ มันคงหลบหนีการตรวจจับของพวกเขาไม่ได้…”
ทันทีที่หลินฮวงอ่านการแจ้งเตือนของเสี่ยวเฮยจบ เขาก็รีบถามเจ้าแดง
“งั้นเจ้ามีทางออกอื่นไหม?”หลินฮวงถาม
“ข้ารู้หลายวิธี แต่ส่วนใหญ่เป็นแค่ทางแก้ชั่วคราว ไม่สามารถแก้ปัญหาหลัก”
“ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์อย่างการแกล้งตายด้วยจักจั่นทองคำ ตอให้ข้าคิดแผนทุกประเภทอย่างไร้ที่ติ มันก็อาจเป็นแค่การละเล่นของเด็กต่อหน้าจ้าวเทวะผู้เห็นผ่านทุกอย่างได้..เว้นแต่ระดับพลังของข้าจะเท่ากับพวกเขา ไม่มีทางออกอื่น”
“ปัจจุบัน ข้าสามารถคิดได้แค่ทางเดียวเพื่อช่วยเหลือไคลี่..”เจ้าแดงหยุดก่อนพูดต่อ”นั่นคือทำให้ไคลี่เลื่อนเป็นมอนสเตอร์ชั้น 6 ระดับจิตวิญญาณแท้จริง!”
“เมื่อไคลี่กลายเป็นชนชั้นจิตวิญญาณแท้จริง สถานะของนางในเผ่าเนฟิลิกจะไม่ใช่เบี้ยไว้เพื่อสานสัมพันธ์ุอีก นางจะมีสิทธิ์พูด นางอาจได้รับการเลี้ยงดูให้เป็นผู้นำเผ่าคนต่อไป เผ่าเนฟิลิกจะไม่มีทางยอมให้จิตวิญญาณแท้จริงภายในเผ่าตัวเองแต่งงานกับคนนอกเด็ดขาด พวกเขาจะทุ่มเททั้งหมดเพื่อฝึกฝนนาง ให้นางชักนำเผ่าเนฟิลิก…”
“แต่ทว่า แม้วิธีการนี้จะแก้ปัญหาการแต่งงานได้ แต่มันก็ยังมีผล การยกระดับสถานะของไคลี่จะทำให้นางยิ่งออกเผ่าเนฟิลิกได้ยากกว่าเดิม…”
เจ้าแดงหยุด
“จริงๆแล้ว ต่อให้นางไม่เลื่อนเป็นช้ัน 6 มันก็ยังยากมากสำหรับนางที่จะออกเผ่ามาได้ เทียบกับปัญหาทั้งสอง ปัญหาการแต่งงานกดดันเรามากกว่า”
“ตามสถานการณ์ปัจจุบัน ไคลี่คงทนได้ไม่นาน ถ้าบุตรเทวะคนแรกจากองค์กรระดับ 7 มาถึงเผ่าเนเฟิลิกจะต้องตอบตกลงโดยไม่ลังเลแน่ ต่อให้มันเป็นบุตรเทวะคนที่สองหรือสาม โอกาสที่พวกเขาจะตอบตกลงก็สูงเช่นกัน”
“งั้น เจ้ากำลังเสนอว่าเราควรหาทางให้ไคลี่เลื่อนเป็นชั้น 6ก่อนและค่อยหาทางพานางออกมาทีหลังสินะ?”
“ใช่”เจ้าแดงพยักหน้าอีกครั้ง”จริงๆแล้ว ถ้าเราไม่นำเรื่องแต่งงานมาพิจารณา ไคลี่คงได้รับการปฏิบัติเหมือนเจ้าหญิงในเผ่าเนฟิลิก สำหรับการนำนางออกมา เราสามารถคิดหาทางแก้ได้ทีหลัง เรื่องเร่งด่วนตอนนี้คือการจัดการกับการแต่งงาน”
หลินฮวงเงียบไปก่อนพยักหน้า
“ตราบเท่าที่ข้าเลื่อนเป็นเทพแท้จริง อำนาจข้าจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เวลานั้น ข้าสามารถช่วยให้ไคลี่เป็นชั้น 6 ได้ แต่หลังระดับบรรพกาล การเพิ่มชนชั้นจะไม่ได้พี่งพาแค่การ์ดเลื่อนขั้น แต่ยังต้องมีวัตถุดิบอื่น”
“อีกสักพัก ข้าจะส่งรายชื่อวัตถุดิบให้เจ้า เจ้าสามารถเริ่มเตรียมการได้ก่อน ส่วนทางข้า ข้าจะเลื่อนเป็นเทพแท้จริงให้เร็วที่สุด”
“ก่อนไคลี่จะเลื่อนเป็นชั้น 6 พยายามหาทางถ่วงเวลาไว้”
หลินฮวงไม่คิดว่าสถานการณ์ของไคลี่จะร้ายแรงขนาดนี้
ตอนแรก เขาไม่คิดว่าการปล่อยไคลี่กลับเผ่าจะกลายเป็นเรื่องแย่ แต่ไม่คิดเลยว่าเผ่าเนฟิลิกจะยอมเสียสละนางเพื่อผลประโยชน์
เรื่องนี้ยังทำให้เขาต้องเร่งยกระดับความสามารถ
หลังจบการสนทนากับเจ้าแดง หลินฮวงก็ส่งจิตสำนึกไปในตัว ทำการค้นหาอย่างรวดเร็ว
เมื่อการ์ดมอนสเตอร์ปรากฏในร่างมอนสเตอร์ จะมีภาพที่สอดคล้องภายในตัวหลินฮวง บนภาพที่แทบจะโปร่งใส เขาสามารถเห็นข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการ์ดมอนสเตอร์ได้
ในไม่ช้าเขาก็พบการ์ดของไคลี่และตรวจสอบมัน
“การ์ดมอนสเตอร์ : ไคลี่”
“ความหายาก : เทพสูงสุด”
..
“เงื่อนไขการยกระดับ”
“การ์ดเลื่อนขั้นระดับ 5 ห้าใบ เลือดของจ้าวเทวะ(ผู้ใช้กลิ่นอายสายฟ้า หนึ่งหยด เลือดของเทพสวรรค์(ผู้ใช้บัญญัติสายฟ้า) สิบหยด หัวใจของนางฟ้า(นางฟ้าชั้น 5) 12 ชิ้น…”
แค่เหลือบมองวัตถุดิบ หลินฮวงก็ปวดหัวแล้ว ไม่นับการ์ดเลื่อนขั้น เขารู้สึกว่าแม้แต่เผ่าเนฟิลิกก็ยังยากจะรวบรวมวัตถุดิบเหล่านี้
เขาอดคิดไม่ได้ว่าความยากของพวกไป่จะเป็นอย่างไร ไคลี่มีเผ่าเนฟิลิกหนุน เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับนาง สำหรับมอนสเตอร์ตัวอื่น เขากลัวว่าในฐานะเจ้านายมัน เขาต้องหาทางได้รับวัตถุดิบส่วนใหญ่ด้วยตัวเอง เมื่อคิด เขาก็ยิ่งกดดัน
แถมพวกชาโคลเองก็ต้องการวัตถุดิบสำหรับเลื่อนขั้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น มีการ์ดมอนสเตอร์แบบชาโคลกว่าสามสิบใบที่กำลังรอเลื่อนเป็นชั้น 5
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หลินฮวงก็ไม่กล้าคิดต่อ เขาสะบัดไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป ทำการคัดลอกรายชื่อวัตถุดิบและส่งมันให้เจ้าแดง…