หลังมาถึงชั้นกลาง หลินฮวงก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างพื้นที่นี้กับที่สนามรบโบราณมังกรหุบเหว
แรงโน้มถ่วงที่นี่รุนแรงกว่า และกฏมิติก็ยังวุ่นวาย
หลินฮวงขยายจิตเทวะเขา พบว่ามันถูกยับยั้ง รัศมีของจิตเทวะเขาเหลือประมาณ 120 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแค่หนึ่งในสิบของสนามรบโบราณมังกรหุบเหว
แต่ทว่า สิ่งนั้นที่ทำให้หลินฮวงไม่สบายใจสุดคืออากาศที่ปนเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหวหนาแน่นที่พยายามเจาะตัวเขาผ่านทุกรูขุมขนและเซลล์ผิว
‘ด้วยพลังงานหุบเหวหนาแน่นเช่นนี้ ข้าเกรงว่าแม้กระทั่งเทพแท้จริงขั้นเจ็ดหรือแปดก็คงไม่สามารถต้านทานได้นานนัก’เมื่อสัมผัสได้ถึงความเร็วการเผาผลาญพลังเทวะเพื่อต่อต้านพลังงานหุบเหว หลินฮวงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สภาพแวดล้อมนี้เทียบได้กับสวรรค์ของพวกมอนสเตอร์หุบเหว
โดยไม่รอให้เขาปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ หลินฮวงยกหัวขึ้น จ้องมองไกลออกไป
ทันทีหลังสแกนพื้นที่ด้วยจิตเทวะ เขาสังเกตเห็นมอนสเตอร์หลายตัวใกล้ๆ เขายังสัมผัสได้ชัดว่าเขาโดนจับตา
มอนสเตอร์ที่จ้องเขามีสายตาน่ากลัวมาก พวกมันยังไม่พยายามปกปิดเจตนาร้ายเลย
มุมปากของหลินฮวงยกขึ้นเล็กน้อย จากระยะไกล เขามองมอนสเตอร์ตัวแรกที่กำลังเข้าใกล้เขาด้วยความเร็วสูง
แทบจะทันที มอนสเตอร์ตัวนั้นกระโดดข้ามระยะทางประมาณสิบกิโลเมตร เปิดปากที่เต็มไปด้วยเลือด กระโจนใส่หลินฮวง
หลินฮวงยืนนิ่งราวกับเขาโดนหยุดด้วยความกลัว มีแค่แสงสีแดงที่พุ่งจากแขนเสื้อเขา
วินาทีถัดมา หัวของมอนสเตอร์ปากใหญ๋ผิวแดงก็ระเบิด ตัวมันล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง ปัดกลุ่มควันและฝุ่นขึ้นฟ้า
ตอนนี้ มอนสเตอร์อีกสองตัวเพิ่งมาถึง ก่อนพวกมันจะได้ลงมือ พวกมันได้เห็นฉากนี้ตรงหน้าพวกมันและสัญชาตญาณพวกมันก็บอกพวกมันให้หนี
แต่ทว่า มันสายเกินไปแล้ว
ทันทีที่หลินฮวงยกหัวขึ้น ดวงตาของเขาก็กวาดมองมอนสเตอร์สองตัวที่หลบหนี คลื่นแสงสีแดงสองสายยิงออกจากแขนเสื้อเขาอีกครั้ง
“มันแย่ที่มีขั้นเก้าแค่ตัวเดียว ข้ายังขาดอีกสาม…”หลินฮวงบ่นด้วยความเสียใจ มองกงล้อชีวิตของเขาดูดซับไฟเทวะขั้นเก้าไปอีกหนึ่ง
หลังเก็บศพของมอนสเตอร์ทั้งสามไป เขาก็ไม่อยู่ต่อ แต่เคลื่อนไปส่วนลึกของชั้นกลางอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทาง เขาพบมอนสเตอร์หลายตัวที่พยายามลอบโจมตีเขา แต่หลินฮวงยังฆ่าพวกมันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เขาเสียใจที่ไม่มีตัวใดเป็นขั้นเก้า กงล้อชีวิตภายในตัวเขาปฏิเสธไฟเทวะเหล่านั้น
ในความเป็นจริง ระหว่างทาง หลินฮวงยังสัมผัสได้ถึงมอนสเตอร์จำนวนมากด้วยจิตเทวะ แต่เขายังไม่ริเริ่มการโจมตีใด เพราะการล่าพวกมันไม่มีประโยชน์ พวกที่เขาฆ่าคือพวกที่โจมตีเขาก่อน
หลังเดินทางอยู่กว่าสิบนาที ในที่สุดหลินฮวงก็พบเทพแท้จริงขั้นเก้า ซึ่งเป็นสายพันธ์ุผิดปกติ
มันดูเหมือนมนุษย์ผู้ชายกล้ามโต แต่ขนาดมันยังขยายกว่าสามเมตร หน้าอกกับหลังมันเต็มไปด้วยรูที่พ่นก๊าซเขียวกัดกร่อน
มือขวามันดูเหมือนแขนมนุษย์ปกติและกำลังถือดาบใบกว้าง อีกแขนผิดรูปและปูดบวม ยาวกว่าสองเมตร ขนาดของแขนนี้แทบเทียบได้กับเอวมัน และมันยังปกคลุมด้วยเกล็ดสีฟ้าอมเขียว
หลินฮวงไม่เคยเห็นสายพันธ์ุผิดปกติอย่างนี้ในสารานุกรมมอนสเตอร์มาก่อน แต่เขายังสามารถบอกได้ว่ามันต้องเคยเป็นมนุษย์มาก่อน
มันโดนกัดกร่อนโดยพลังงานหุบเหวจนถึงจุดที่วิญญาณมันเองก็โดนกัดกร่อนด้วยหลังตัวมันบิดเบือนอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น มันจึงเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดทั้งภายในและภายนอก
มอนสเตอร์ที่เกิดจากมนุษย์แปดเปื้อนมักเป็นชั้นนำในหมู่มอนสเตอร์
เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายของมอนสเตอร์ตัวนี้ หลินฮวงยังกลายเป็นระมัดระวังขึ้น
จากมุมมอง อีกฝ่ายต้องเคยเป็นผู้บ่มเพาะดาบมาก่อนตาย และเนื่องจากมันกล้าเข้าชั้นกลาง นั่นหมายความว่ามันต้องไม่อ่อนแอ
โดยปกติ มันไม่น่าจะเป็นเทพแท้จริงขั้นเก้าที่โดนกัดกร่อนด้วยพลังงานในชั้นกลาง ดังนั้น หลินฮวงจึงมุ่งมั่นว่าอีกฝ่ายต้องโดนกัดกร่อนหลังพบการต่อสู้ครั้งใหญ่จนพลังเทวะมันหมด
จนถึงตอนนี้ หลินฮวงซ่อนตัวใกล้ๆ สังเกตในที่ลับ
แต่ทว่า สายพันธ์ุผิดปกติพลันมองไปในทิศทางของหลินฮวง วินาทีต่อมา เต๋าดาบของมันก็เริ่มแผ่ออกมา
“เต๋าดาบระดับจิตแท้?!”หลินฮวงตกใจ อีกฝ่ายเองก็มาถึงแก่นแท้เต๋าดาบระดับสามเหมือนกับเขา
ตอนนี้ เต๋าดาบภายในตัวหลินฮวงดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลโดยพลังงานของอีกฝ่าย ผันผวนเล็กน้อย
ทันทีทันใด เขารู้สึกว่าเต๋าดาบของมันจับเข้ากับเขา
หลินฮวงกระโจนขึ้นจากพุ่มไม้ เขาไม่คิดว่าเต๋าดาบของเขาจะทรยศเขาอย่างนี้
เขามองสายพันธ์ุผิดปกติด้านหน้า สายตาเขาจริงจังขึ้น
ความจริงที่เต๋าดาบภายในตัวเขาสามารถตอบสนองพลังงานของอีกฝ่ายได้หมายความว่าเต๋าดาบของอีกฝ่ายต้องอยู่ระดับเดียวกับเขา
แต่ทว่า หลินฮวงไม่โดนข่มขู่เลยแม้แต่น้อย
ทั้งคู่มีแก่นแท้ระดับเท่ากัน เขาไม่เชื่อว่าเขาจะอ่อนแอกว่าอีกฝ่าย
ภายใต้การดึงของพลังงานอีกฝ่าย เต๋าดาบทั้งสองฝ่ายไหลออกจากตัว เริ่มพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว
สุดท้าย สายพันธ์ุผิดปกติก็ยังอ่อนแอว่า
ภายใต้การกดขี่จากเต๋าดาบของหลินฮวง สุดท้ายมันก็ทนไม่ไหวอีกและโจมตี
ดาบใบกว้างในมือมันฟันมาข้างหน้าเหมือนลมกระโชกแรง สร้างคลื่นดาบนับหมื่นในชั่วพริบตา คลื่นดาบสีดำสนิทมันควบแน่นกันเหมือนคลื่น พุ่งใส่หลินฮวงเหมือนสึนามิ
การโจมตีนี้มากพอจะเฉือนเทพแท้จริงขั้นเก้าเป็นชิ้นๆ
อย่างไรก็ตาม หลินฮวงไม่หวั่นเกรงเลย ในความเป็นจริง เขายังดีใจ เขาไม่พบคู่ต่อสู้ที่คู่ควรมานานแล้ว
วินาทีนั้นเอง ดาบสีแดงใบแคบก็ควบแน่นกันในมือหลินฮวง เขาเคลื่อนไหวเล็กน้อย และดาบใบแคบก็แทงไปด้านหน้า
ลมสีแดงเลือดเหมือนพายุยิงออกจากปลายดาบ
พายุขยายทันทีที่มันสัมผัสกับอากาศ เริ่มแยกตัวอย่างรวดเร็ว ขยายเป็นพายุขนาดใหญ่สิบสองลูก
ถ้ามียอดฝีมือเต๋าดาบระดับจิตแท้ พวกเขาคงมองออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับการโจมตี ในความเป็นจริง เขาปลดปล่อยการโจมตีแบบเดียวกันถึงสิบสองครั้ง แต่วิถีการโจมตียังเหมือน และความเร็วของพวกมันยังสูงมาก มันดูเหมือนเขาทำการโจมตีแค่ครั้งเดียว
เหมือนเสาสูงเสียดฟ้าสิบสองเสา พายุทั้งสิบสองข่มสึนามิ จากนั้นก็ทำลาย…
ทุกอย่างในเส้นทางของพายุสีแดงเลือดเปลี่ยนเป็นฝุ่น…
มีมอนสเตอร์ขั้นเจ็ดกับแปดมากมายที่ได้รับผลกระทบ พวกมันโดยพายุกลืนเข้าไป
คลื่นพลังงานน่ากลัวปลดปล่อยไปทุกทิศทาง ดึงดูดความสนใจของนักล่าคนอื่น
“ข้าไม่เคยเห็นการโจมตีแบบนี้มาก่อน ดูเหมือนจะเป็นผู้มาใหม่”
“แก่นแท้เต๋าดาบที่ทรงพลังถึงขั้นนั้น…นั่นคือผู้บ่มเพาะดาบระดับแก่นแท้!”
“มันมาจากทางนั้น…จะมีใครสามารถล่าสัตว์ประหลาดแบบนั้นได้ด้วยเหรือ?!”
…