หลังฆ่ากลุ่มปีศาจรัตติกาลของมอนสเตอร์ทั้งสาม หลินฮวงก็ไม่ทำอะไรให้วุ่นวาย
นี่เป็นสิ่งที่เขาจงใจทำ
ต่อให้มีมอนสเตอร์แถวนี้ที่สัมผัสได้ถึงความผันผวนพลังงานจากการต่อสู้ มันก็แค่ชั่วขณะ
ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่ล่าใกล้กับแกนกลางยังถูกแบ่งกัน แม้กระทั่งจิตเทวะของเจ้าของพื้นที่ล่าอีกสองแห่งใกล้ๆก็สามาตถตรวจสอบได้แค่ขอบเขตของตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ล่าของกลุ่มปีศาจรัตติกาล
เมื่อเห็นหลินฮวงตัดหัวทั้งสาม ปีกเงาก็ละทิ้งกลอุบายทั้งหมดของมัน
ตอนแรก เมื่อมันนำทางให้หลินฮวง มันไม่ได้มีเจตนาดีนัก
มันพาหลินฮวงมาหากลุ่มปีศาจรัตติกาลเพราะมันรู้สึกว่าทั้งสามนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหลินฮวง ถ้าทั้งสองฝ่ายสู้กันเอง มีโอกาสสูงที่ทั้งสองฝ่ายจะบาดเจ็บ และมันจะเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์
สิ่งที่มันไม่คาดคิดคือพลังของหลินฮวงเกินกว่าจินตนาการมัน
แม้กระทั่งกลุ่มที่แข็งแกร่งอย่างปีศาจรัตติกาลก็ยังโดนฆ่าง่าย ๆ
เราควรรู้ว่าแม้กลุ่มของปีศาจรัตติกาลจะไม่ได้ทรงพลังสุดในแกนกลาง มอนสเตอร์ทั้งสามก็เข้าขากันได้ดี พลังโดยรวมของพวกมันน่าประทับใจมาก เกือบจะอยู่ในห้าอันดับของกลุ่มทั้งหมดในแกนกลาง
นี่ทำให้ทั้งสามสามารถยึดครองพื้นที่ล่ารอบนอกแกนกลางได้
เมื่อสัมผัสได้ถึงไฟเทวะชั้น 5 ทั้งสามภายในตัวเขา หลินฮวงก็มั่นใจว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาถูกต้อง
ไฟเทวะชั้น 4 ของเขาอิ่มตัวแล้ว แต่ไฟเทวะชั้น 5 ยังดูดได้ต่อ
‘ข้าสะสมไฟเทวะชั้น 5 ได้แปดแล้ว ตามพฤติกรรมของกงล้อชีวิต มันควรอิ่มตัวหลังอีกสอง..’หลินฮวงทำการคำนวณ
“สถานการณ์ของเหยื่อชุดต่อไปเป็นอย่างไร?”หลินฮวงถาม
“เป้าหมายต่อไปที่ข้าเลือกให้ท่านเป็นกลุ่มสองคน หนึ่งคือปีศาจยักษ์ หนึ่งคือวิญญาณเน่าสลาย..”
หลินฮวงไม่ใช่ไม่คุ้นเคยกับมอนสเตอร์ทั้งสองเพราะพวกมันมีอธิบายในสารานุกรม
ปีศาจยักษ์คือยักษ์ขนดำและสูงประมาณสิบเมตร เหตุผลว่าทำไมมันถึงโดนเรียกว่าปีศาจเพราะหน้ามันมีแค่อวัยวะเดียว ปากยักษ์ 6 แฉกที่สามารถเปิดได้เหมือนดอกไม้บาน ด้านในแต่ละปากเต็มไปด้วยฟันแหลม นอกจากนี้ ยังมีลิ้นที่เต็มไปด้วยเข็มพิษ ลิ้นนี้เป็นอาวุธที่สามารถยิงออกจากปากและขยายออกไปได้เป็นพันเมตร มันเร็วกว่างวงช้าง
ความสามารถป้องกันมันยังน่าตกใจ มันมีกล้ามเนื้อแขนหนาสี่ชั้น สำหรับมือมัน พวกมันคล้ายกับกรงเล็บเหล็ก
สำหรับวิญญาณเน่าสลาย มันคือมอนสเตอร์สีเขียวรูปร่างคล้ายตะกอน ทั่วตัวมันแผ่ฟองกลิ่นเน่าเหม็นตลอดเวลา มันสามารถเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ใดก็ได้ที่มันต้องการตอนสู้ แต่รูปแบบทั่วไปสุดของมันคือบ่อตะกอนที่มีหนวดนับไม่ถ้วน
ตัวมันปกคลุมด้วยพิษถึงตาย ต่อให้จะโดนหนวดมันจิ้มเล็กน้อย พิษก็ยังมากพอทำให้สิ่งมีชีวิตระดับเดียวกับมันตาย
กลุ่มมอนสเตอร์สองตัวนี้ถือว่าน่ากลัว พวกมันถือเป็นอันดับสามภายในชั้นกลาง
แม้พวกมันจะมีแค่สอง ความสามารถพวกมันก็เหนือกว่ากลุ่มปีศาจรัตติกาล
หลินฮวงตามหลังปีกเงา หลังเดินทางอยู่สองหรือสามนาที พวกมันก็มาถึงดินแดนของปีศาจยักษ์และวิญญาณเน่าสวลาย
ก่อนหลินฮวงจะเห็นมอนสเตอร์ทั้งสอง กลิ่นเหม็นในอากาศก็ลอยมาแต่ไกล
นี่คือกลิ่นที่ปล่อยออกจากตัววิญญาณเน่าสลาย ไม่เพียงแต่จะเหม็นจนน่าสะอิดสะเอียน แต่ยังมีพิษร้ายแรงอีกด้วย
แม้จะไม่คำนึงถึงพิษ แต่นอกจากปีศาจยักษ์ ก็คงมีน้อยมากที่เต็มใจร่วมมือกับวิญญาณเน่าสลาย นี่เพราะสิ่งมีชีวิตหุบเหวส่วนใหญ่ไม่สามารถทนต่อกลิ่นได้ ส่วนปีศาจยักษ์นั้นไม่มีสัมผัสกลิ่น แถมตัวมันยังมีภูมิคุ้มกันต่อสารพิษส่วนใหญ่
หลินฮวงรีบปิดระบบทางเดินหายใจนอกร่างกาย จากนั้นเขาถึงปิดกลั้นกลิ่นเหม็นได้ ความจริงคือความอดทนต่อกลิ่นเหม็นเขานั้นสูงมาก แม้จะต้องเจอกับซากศพเน่าเปื่อยต่างๆและอวัยวะภายใน เขาก็ไม่ตอบสนองมากนัก แต่ทว่า กลิ่นเหม็นแบบนี้เกินขีดจำกัดของสิ่งมีชีวิตมากมายไปมาก ทำให้พวกเขาต้องอาเจียน นี่ไม่ใช่ประเด็นว่าใครจะทนกลิ่นได้
ปีกเงาใช้จิตเทวะคลุถมตัวเอง ไม่เต็มใจยอมให้ร่างกายมันสัมผัสกับกลิ่นนี้
“ถ้าเจ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำไมถึงยังเลือกเหยื่อแบบนี้?”หลินฮวงลอบก่นด่าปีกเงาในใจ
วินาทีต่อมา ทั้งคู่ก็เห็นมอนสเตอร์สองตัวด้านล่าง
ปีศาจยักษ์ ซึ่งเดิมนั่งพิงเนินเขาลูกเล็กยืนขึ้น เงยหน้าที่ไร้ใบหน้ามองมาทางหลินฮวง
ไม่ไกลจากมัน บ่อตะกอนสีเขียวที่มีฟองยังขยายหนวดมันทีละเส้นเหมือนหน่ออ่อนที่กำลังงอก
ทันใดนั้น หนวดนับร้อยก็พุ่งขึ้น ยิงใส่หลินฮวงกับปีกเงา
แทบจะพร้อมกัน ปีศาจยักษ์ก็กระโดดขึ้น
แม้ขนาดตัวมันจะใหญ่โต ความเร็วมันก็ไม่ได้ช้า มันปรากฏเหนือหลินฮวงกับปีกเงาแทบจะทันที
หลินฮวงไม่คิดว่ามอนสเตอร์ทั้งสองจะเลือกโจมตีก่อน
เขาแปลกใจไปชั่วขณะแต่ก็ตอบสนองทันที
ดาบในมือของเขาชักออกจากฝักมันอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นคลื่นดาบสองสายที่ต่างกัน
คลื่นดาบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับทะเลเลือด ม้วนตัวไปบนพื้น บดขยี้ด้วยพลังมหาศาลใส่วิญญาณเน่าสลายด้านล่าง ในขณะเดียวกัน คลื่นดาบอีกสายเปลี่ยนเป็นจันทร์เสี้ยวสีเลือด ระเบิดใส่ปีศาจยักษ์ด้านบน
คลื่นจากทะเลเลือดบดขยี้วิญญาณเน่าสลายเหมือนสึนามิ ทุกที่ที่มันผ่าน หนวดทั้งหมดของวิญญาณเน่าสลายจะโดนกำจัดทันที ก่อนที่มันจะได้หลบหนี มันก็จมอยู่ใต้ทะเลเลือด เสียงร้องโหยหวนของมันดังอยู่ได้สองวินาทีก่อนดับลง
อีกด้านหนึ่ง จันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดที่หลมคมอย่างน่ากลัวได้โจมตีปีศาจยักษ์
ปีศาจยักษ์ดูเหมือนจะรับรู้ถึงอันตรายของการโจมตีนี้และรีบหดแขนขาทั้งสี่ไว้ด้านหน้ามัน ซ้อนกันเป็นรูปโล่ เสริมด้วยพลังกฏเทพหลายชนิด
จากมุมมองมัน ด้วยความสามารถป้องกันแต่กำเนิดของมันรวมถึงพลังกฏเทพ มันมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันตัวเองต่อทุกการโจมตีได้ ยกเว้นแต่พวกเทพแท้จริงขั้นสูงสุด
แต่ทว่า วินาทีต่อมา ใบหน้ามันก็ต้องสั่นกระตุก
นี่เพราะมันเห็นว่าตอนคลื่นดาบสัมผัสแขนมัน พลังกฏเทพนับสิบที่มันเสริมตัวเองได้สลายไปทีละชั้น
จันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดไม่พบการต่อต้านเลย มันตัดแขนขาทั้งสี่ของปีศาจยักษ์ด้านหน้าลำตัวมัน ก่อนจะผ่านร่างของมันไปเหมือนตัดเต้าหู้…
มันเป็นการฆ่าชั่วพริบตาอีกครั้ง!
ปีกเงินมองหลินฮวงด้วยความกลัวและความเคารพที่เพิ่มขึ้น
ตอนนี้ หลินฮวงไม่สนใจสิ่งรอบตัว เขาจมลงไปในโลกตัวเองและมองกงล้อชีวิตทั้งสิบ
ในกงล้อชีวิตทั้งสอบ ไฟเทวะชั้น 5 ทั้งสิบเต็มแล้ว
เดิมหลินฮวงกังวลว่าเขาต้องล่ามอนสเตอร์ต่ออีกไหมหลังสองตัวนี้ แต่ทว่า ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันไม่จำเป็นเมื่อสัมผัสได้ถึงความพึงพอใจที่แผ่จากกงล้อชีวิต
หลังไฟเทวะชั้น 5 เข้ากงล้อชีวิต เขาก็เตรียมพร้อมสำหรับการเป็นเทพแท้จริงแล้ว
ที่เหลือก็แค่การกลั่นและดูดซับ…
เขาถอนจิตสำนึกออก เหลือบมองปีกเงาข้างๆ”เจ้าเป็นอิสระแล้ว”
ปีกเงาตกใจตอนได้ยิน”ท่านไม่ต้องการล่าต่ออีกแล้วหรือ?”
“ไม่”หลินฮวงส่ายหัว”ข้ากำลังจะออกจากสนามรบโบราณมังกรหุบเหว”
หลังพูดแบบนี้ เขาก็ไม่มองปีกเงาอีก เขาส่งด้ายพลังจิตออกไป รวบรวมของบนพื้นก่อนพุ่งตรงไปทางออกของชั้นกลาง
ปีกเงายืนนิ่งด้วยความงงงวย มองหลินฮวงจากไป หลังหลินฮวงหลุดออกระยะจิตเทวะมัน มันถึงได้สติและพึมพำกับตัวเอง”ข้าเกรงว่ามนุษย์คงกำลังจะสร้างเรื่องน่าตกใจขึ้นมาในยุคนี้…”