หลินฮวงแช่จิตสำนึกเขาเข้าความทรงจำ ค้นหาความทรงจำที่เกี่ยวกับการสร้างบัญญัติเทพ และหวังหาบางสิ่งมาเป็นข้อมูลอ้างอิง
สิ่งแรกที่เขามองหาคือมรดกจอมเทพ
สำหรับจอมเทพที่ปกครองเขตแดนเทพในยุคนั้น ประสบการณ์ของจอมเทพถือเป็นสมบัติสำหรับหลินฮวง นั่นทำให้สิ่งแรกที่หลินฮวงทำคือตรวจสอบความทรงจำของจอมเทพที่เกี่ยวกับการสร้างบัญญัติเทพ
หลังจัดการกรอบเวลาของความทรงจำไปถึงตอนก่อนสร้างบัญญัติเทพ หลินฮวงก็รีบค้นดูความทรงจำส่วนนี้
ยิ่งเขาผ่านความทรงจำเหล่านี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่น
จอมเทพคือยอดฝีมือตัวจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เขาใช้พลังกฏเทพระดับสมบูรณ์ได้ 9 ประเภทตอนเป็นเทพแท้จริงขั้น 9
เพื่อสร้างบัญญัติเทพ ความคิดของเขาคือการรวบห่วงโซ่ลำดับเทพทั้งเก้าเป็นหนึ่งและเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ขั้น 9 โดยตรง
แต่ทว่า สิ่งต่างๆไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เขาคิด เมื่อห่วงโซ่ลำดับเทพชุดสองควบแน่น ร่างกายและวิญญาณของเขาก็เริ่มโดนกดดัน เขาต่อต้านแรงกดดันนี้อย่างหาญกล้า แต่ทว่าก็จบลงที่การควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพที่สี่ นี่เพราะการสร้างห่วงโซ่ลำดับเทพที่สี่ทำให้ร่างกายและวิญญาณของเขาเริ่มแสดงท่าทีสลายตัว แม้แต่เขตแดนเทพภายในตัวเขาก็ยิ่งเริ่มพังทลาย
ถ้าไม่ได้รับการปราบปรามอย่างทันท่วงโดยหยินหยิน นิ้วทองคำของเขา เขาคงตายไปแล้ว
นี่พิสูจน์แล้วว่าวิธีการของจอมเทพไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ ด้วยพลังปัจจุบันของร่างกายและวิญญาณของหลินฮวง มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะรองรับห่วงโซ่ลำดับเทพสักสาย
หลังควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพทั้งสี่ จอมเทพยังใช้พวกมันเป็นลำต้นและพลังกฏเทพกับการตรัสรู้ธาตุก็คือกิ่งก้านกับใบ เขาผสานพวกมันเข้ากับเขตแดนเทพภายในตัวเขา สร้างกฏโลกของมัน…
หลังดูทั้งกระบวนการก่อสร้างบัญญัติเทพ หลินฮวงก็พิจารณามัน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ปิดความทรงจำของจอมเทพ และลุกขึ้น ผลักประตู เดินออกวังจอมเทพ
เมื่อเห็นหลินฮวงก้าวออกจากวังจอมเทพ ดาบ 1 ก็ลุกขึ้นยืนด้วยแววตาประหลาดใจ
มันผ่านไปแค่สองวัน และหลินฮวงก็ได้เลื่อนจากเทพเสมือนขั้น6เป็นเทพเสมือนขั้น 9 …จากการมอง มันเป็นไปได้ที่เขาอาจทะลวงเป็นเทพแท้จริงซะตอนนี้
สิ่งที่ดาบ 1 ประหลาดใจยิ่งกว่าคือแม้กลิ่นอายของหลินฮวงจะถูกยับยั้งไว้ เขาก็ยังปล่อยสัมผัสอันตรายออกมา
โดยไม่รอให้ดาบ 1 ทักทายเขา หลินฮวงพูดก่อน”เรียกรวมทาสดาบทั้งหมดภายใรบริเวณของวังจอมเทพมา”
“ขอรับ ท่านจอมดาบ!”ดาบ 1 ตอบรับโดยไม่ถามอะไร
เมื่อดาบ 1 ออกประกาศถึงการรวมตัว ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ดาบ 1-100ก็มาถึง ไม่มีสักคนที่ขาดหายไป
ทาสดาบทั้งหมดที่นี่เต็มไปด้วยความกังวล รวมถึงคาดหวัง พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมจอมดาบถึงเรียกตัวพวกเขามา
หลินฮวงกวาดตามองทุกคน เขาสามารถเห็นความไม่สบายใจและความคาดหวังของทุกคนและประกาศเสียงดัง”ข้าเรียกพวกเจ้ามาเพราะความต้องการในการบ่มเพาะ ข้าอยากดูกระบวนการสร้างบัญญัติเทพของพวกเจ้า เจ้าไม่ต้องให้มรดกการบ่มเพาะกับข้า ข้าแค่อยากดูภาพความทรงจำของเจ้าระหว่างการควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพและการสร้างบัญญัติเทพ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินฮวง หลายคนก็แสดงความประหลาดใจ
แน่นอน พวกเขาสามารถสัมผัสได้ชัดว่าระดับพลังของหลินฮวงยังไม่ใช่เทพแท้จริง พูดตามเหตุผล เขายังอยู่ห่างไกลจากการสร้างบัญญัติเทพ
แต่ทว่า เนื่องจากจอมดาบร้องขอ ในฐานะทาสดาบ พวกเขาย่อมไม่ปฏิเสธ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ทาสดาบก็เต็มใจจะมอบความทรงจำเหล่านี้ให้หากจอมดาบต้งอการ
ดาบ 1 เป็นคนแรกที่ก้าวไปข้างหน้า จำลองความทรงจำนี้ เขาแตะฝ่ามือหลินฮวงด้วยนิ้วและภาพความทรงจำก็ไหลเข้าหัวหลินฮวง
หลินฮวงไม่ตรวจสอบ เขาแค่พยักหน้าให้ดาบ 1 ส่งสัญญาณให้ทาสดาบคนต่อไป
หลังจากนั้น ดาบ2ก็มา ตามด้วยดาบ 3…ทีละคน ทาสดาบก้าวมาข้างหน้า ส่งภาพความทรงจำให้หลินฮวง
หลังการส่งครั้งสุดท้ายจากดาบ 100 เสร็จสิ้น หลินฮวงก็พยักหน้าเล็กน้อยให้ทุกคน”ข้าจะกลับไปปิดประตูบ่มเพาะ พวกเจ้าไปได้แล้ว”
ทาสดาบจากไป ส่วนหลินฮวงก็หมุนตัว กลับเข้าวังจอมเทพไปหใม่
เมื่อเข้าวัง หลินฮวงก็นั่งสมาธิ หลับตา แช่จิตสำนึกลงในมหาสมุทรแห่งจิตสำนึกและเริ่มมองผ่านความทรงจำของเหล่าทาสดาบ
ภาพความทรงจำคลี่ออกตรงหน้าหลินฮวงเหมือนภาพ VR ทุกรายละเอียดนั้นชัดเจน
หลินฮวงตรวจสอบกระบวนการสร้างบัญญัติเทพของทาสดาบทีละคน และความคิดของเขาก็ชัดเจนขึ้น
“บนผิวเผิน การสร้างบัญญัติเทพดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับห่วงโซ่ลำดับเทพ แต่จริงๆแล้วมันขึ้นอยู่กับเขตแดนเทพภายในตัว กระบวนการสร้างบัญญัติเทพคือการวางโครงสร้างกฏโลกภายในตัว สร้างเจตจำนงโลกขึ้นมา จากนั้นก็ผสานเจตจำนงของคนเข้ากับเจตจำนงโลก…”
“ห่วงโซ่ลำดับเทพของเทพสวรรค์และกฏต่างๆที่ได้รับไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบัญญัติเทพ พวกมันแค่เป็นภาชนะสำหรับบัญญัติเทพ…”
“บัญญัติเทพคือเจตจำนงโลกของเขตแดนเทพและยังเป็นเจตจำนงของเทพสวรรค์ ซึ่งทำให้เทพสวรรค์เป็นผู้ควบคุมกฏโลกในเขตแดนเทพอย่างสมบูรณ์…”(เขตแดนเทพคือโลกภายในตัวเองที่สร้างขึ้น ตอนนี้โลกกรวดก็ถือเป็นเขตแดนเทพของหลินฮวง)
“การเพิ่มพลังของบัญญัติเทพไม่เพียงต้องการการบ่มเพาะส่วนตัวของเจ้าของเขตแดนเทพ แต่ยังต้องการความมีส่วนร่วมของสิ่งมีชีวิตอื่นภายในเขตแดนเทพ ทุกกฏเทพที่พวกเขามี ต่อให้ซ้ำ มันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกฏโลกและภาชนะในการเพิ่มพลังของบัญญัติเทพ…”
หลังอ่านกระบวนการสร้างบัญญัติเทพของทาสดาบทั้งร้อย ในที่สุดหลินฮวงก็สามารถได้รับแนวคิดที่ถูกต้อง
“เขตแดนเทพของข้าได้รวมเข้ากับโลกกรวดแล้ว กฏเทพประเภทต่างๆภายในตัวข้าได้กลายเป็นกฏโลกของโลกกรวดและแม้กระทั่งเจตจำนงของข้าก็ยังรวมเข้ากับเจตจำนงของโลกกรวด….ในระดับหนึ่ง เจตจำนงโลกกรวดก็คือบัญญัติเทพในรูปแบบอ่อนแอ เหตุผลว่าทำไมมันถึงไม่ควบแน่นเป็นบัญญัติเทพที่แท้จริงก็เพราะพลังกฏเกณฑ์เหล่านี้ยังไม่ทรงพลังพอ หรือมีจำนวนไม่มากพอจนทำให้เจตจำนงโลกควบแน่นเป็นบัญญัติเทพ….”
“นั่นหมายความว่าถ้าข้าอยากสร้างบัญญัติเทพ ข้าจะต้องควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพเพื่อให้ทั้งพลังงานและภาชนะสำหรับเจตจำนงโลก หรือข้าจะวางพลังกฏลงในเขตแดนเทพจนพลังมันเทียบได้กับห่วงโซ่ลำดับเทพ…”
สำหรับหลินฮวง การสร้างห่วงโซ่ลำดับเทพไม่ได้มีปัญหาอะไรนัก
อย่างมาก มันก็แค่ต้องใช้การ์ดเห็นแจ้งสักสองสามใบ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาเชี่ยวชาญพลังกฏเทพที่ระดับควบคุมแล้ว และมันไม่ยากเกินจะถึงระดับสมบูรณ์ ถ้าเขาอยากพัฒนาต่อ เขาก็แค่ต้องใช้การ์ดเห็นแจ้ง
แต่ทว่า หลินฮวงไม่อยากทำแบบนี้เพราะเขาได้เห็นข้อจำกัดของมันจากกระบวนการก่อสร้างบัญญัติเทพของเหล่าทาสดาบ
เทพสวรรค์ทั่วไปสามารถควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพได้มากสุดแค่เก้าสาย
สำหรับบุคคลทั่วไป จำนวนนี้เพียงพอแล้วเพราะมีคนไม่มากที่สามารถใช้พลังกฏต่างๆได้ถึงระดับสมบูรณ์
แต่ทว่า สำหรับอัจฉริยะที่แท้จริง นี่ถือเป็นข้อจำกัด
ตัวอย่างเช่นยอดฝีมืออย่างจอมเทพ ตอนเขาเป็นเทพแท้จริงขั้น 9 จำนวนกฏที่เขาใช้ได้ก็เกินกว่าหลินฮวงไปแล้ว เขายังเชี่ยวชาญกฏระดับสมบูรณ์เก้าประเภท
เหตุผลที่จอมเทพแสวงหาวิธีควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพทั้งเก้าในคราเดียวก็เพราะมีโอกาสควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพแค่เก้าครั้งที่ระดับเทพสวรรค์
เขาสามารถครอบงำทั้งยุคได้เพราะเขาสามารถควบแน่นห่วงโซ่ลำดับเทพได้อย่างน้อยสี่สายต่อครั้ง สุดท้าย เขาก็มีห่วงโซ่ลำดับเทพถึง 42 สาย มากกว่าคนส่วนใหญ่อย่างน้อยสี่เท่า
นี่ไม่ใช่แค่ความสามารถที่เพิ่มขึ้นสี่เท่า!มันเพิ่มขึ้นนับร้อยเท่า นับพันเท่า!
แต่สิ่งที่หลินฮวงต้องการกลับมากกว่านั้น…