เพื่อช่วยให้ไคลี่กลายเป็นชั้น 6 จิตวิญญาณแท้จริง หลินฮวงต้องเดินทางไปแดนลับ
หลินฮวงเคยเข้าแดนจอมเทพภายใต้ตัวตนของเซี่ยหลิน สุดท้าย แม้เขาจะแกล้งตายและไม่ถูกส่งออกมา แต่หลายองค์กรในแดนเทพก็พอเดาได้ว่ามันไม่ใช่เขาไม่ถูกส่งออก แต่เขาได้รับมรดกของแดนจอมเทพและซ่อนตัวต่างหาก
แม้เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเกือบปีแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนในแดนเทพที่มองหาเวี่ยหลิน หวังยึดมรดกจอมเทพ
ดังนั้น ตัวตนของเซี่ยหลินจึงไม่สามารถใช้ได้อีก อย่างน้อยก็ต่อหน้าสาธารณะ
หลังอ่านข้อมูลที่เจ้าแดงให้ หลินฮวงก็ไตร่ตรองสักพักก่อนติดต่อใครบางคน
เสียงรอสายยังไม่ดังด้วยซ้ำ การสื่อสารก็เชื่อมต่อแล้ว และเสียงผุ้ชายก็ดังจากอีกด้าน
“เซี่ยหลิน?!”
“ผู้อาวุโสใต้สวรรค์ ข้าต้องการความช่วยเหลือ”หลินฮวงเอ่ยปากขอทันที
“ว่ามา”ใต้สวรรค์ไม่ลังเล
“ข้าอยากเข้าแดนลับของนครหลวงเทพในเดือนหน้า”หลินฮวงเข้าเรื่อง
“มันไม่ยากสำหรับข้าที่จะช่วยให้เจ้าผ่านเข้าไป แต่ทว่า เจ้าควรรู้ว่าถ้ามีคนจำเจ้าได้ แม้กระทั่งเคียวแห่งความตายก็ปกป้องเจ้าไม่ได้”ใต้สวรรค์ตอบตรงๆ
หลินฮวงเคยเลือกไม่ยอมรับการคุ้มครองของเคียวแห่งความตาย แต่เลือกหายตัวไปทันทีที่ได้รับมรดกจอมเทพ ซึ่งทำให้พวกระดับสูงของเคียวแห่งความตายไม่พอใจ
หากตัวตนของหลินฮวงถูกเปิดเผยระหว่างการเข้าร่วมนี้ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเคียวแห่งความตายที่จะก้าวออกมาช่วยเหลือเขาเว้นแต่เขาจะเต็มใจยอมละทิ้งมรดกจอมเทพ แต่ทว่า ใต้สวรรค์รู้ว่าหลินฮวงไม่มีทางทำแบบนั้น
“ข้ารู้ ข้าจะเปลี่ยนชื่อ และข้าจะเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ข้าด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ระดับพลังข้าเลื่อนเป็นเทพแท้จริงแล้ว ไม่ควรมีใครประติดประต่อข้ากับเซี่ยหลิน”
“เนื่องจากเจ้าร้องขอ ข้าก็จะช่วย”ใต้สวรรค์ไม่ถามเพิ่ม”หาสาขาเคียวแห่งความตายและไปสมัครด้วยตัวตนใหม่ จากนั้นบอกชื่อใหม่กับข้า หลังจากนั้น ข้าจะส่งจดหมายเชิญหาเจ้าเอง”
หลังจบสายกับใต้สวรรค์ หลินฮวงก็โทรหาหยางหลิง
น่าแปลก อุปกรณ์สื่อสารแจ้งเตือนว่า”หมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดใช้บริการ”
หลินฮวงขมวดคิ้ว ขณะที่พยายามจะโทรใหม่ ก็มีสายจากหมายเลขไม่คุ้นเคย
เขาต่อสายทันที
“เข้าเรื่อง”เสียงนั้นเป็นเสียงของหยางหลิง
“ทำไมหมายเลขเจ้าถึงไม่เปิดใช้บริการ?”หลินฮวงถาม
“ข้าเจอปัญหาเล็กน้อย”หยางหลิงดูเหมือนไม่เต็มใจพุดมากกว่านี้”แล้วเจ้าต้องการอะไร รีบบอกมา.
หลังลังเลสักพัก หลินฮวงก็ตัดสินใจไม่ถามเพิ่ม เขาบอกหยางหลิงว่าเขาต้องการอะไร”ข้าอยากได้ตัวตนปลอมในแดนเทพ ตัวตนที่ข้าสามารถใช้ลงทะเบียนกับเคียวแห่งความตายได้”
“งั้นครั้งนี้ข้าจะทำให้เจ้าหลายตัวตน”หยางหลิงพูด”แค่ส่งภาพกับข้อมูลส่วนตัวหลังปลอมตัวให้ข้าก็พอ นอกจากนี้ อย่าติดต่อข้าถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน”
เมื่อได้ยินหยางหลิงพูดแบบนี้ หลินฮวงก็ตระหนักว่าปัญหาที่เพื่อนของเขากำลังเผชิญอาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
“มีอะไรให้ข้าช่วยไหม?”
หยางหลิงเงียบไปก่อนตอบด้วยเสียงต่ำ”มันเป็นไปได้ที่ข้าจะถูกพวกไรเดอร์จับตามอง…เจ้าช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก แค่ทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะไม่โดนไปด้วย”
หลังพูดแบบนี้ เขาก็หยุด แต่ไม่วางสาย เขาดูเหมือนจะลังเลก่อนพูดต่อ”ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับข้า ช่วยดูแลหงซวงด้วย”
หลังได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินฮวงก็กะพริบตาด้วยความแปลกใจ เพียงเมื่อเขากำลังจะถามถึงหงซวง หยางหลิงก็ตัดสายไปแล้ว
‘อย่าบอกนะว่าเขาเกิดรักหงซวงจริงๆ…’
ไม่ว่ามันจะเป็นร่างกายหรือหน้าตา หงซวงถือเป็นสาวงาม แต่ทว่า นิสัยของนางมักทำให้หลินฮวงไม่อยากเข้าใกล้นาง
ต่อให้เขาจะมั่นใจว่าความสามารถในตอนนี้ของเขาเหนือกว่าหงซวงมาก เขาก็ยังระวังต่อผู้หญิงคนนี้
ดูจากสภาพของหยางหลิงแล้ว เขายิ่งรู้สึกว่านางน่ากลัวเข้าไปอีก
เขาส่ายหัว ละทิ้งเรื่องของหยางหลิงกับหงซวงไว้ชั่วคราว เขาสวมพันหน้า ปลอมเป็นหน้าตาต่างๆ และถ่ายรูป
หลังจากนั้น เขาก็ตั้งตัวตนสำหรับหน้าตาใหม่ต่างๆและส่งรูปให้หยางหลิง
วินาทีต่อมา หยางหลิงก็ตอบกลับ
“สามวัน เจ้าสามารถไปรับพวกมันได้ที่แผนกต้อนรับของโรงแรม”
หลินฮวงตกใจ เขาลืมบอกหยางหลิงว่าเขาอยู่ดาวไหน แม้โรงแรมที่เขาพักจะเป็นโรงแรมผิดกฏหมายซึ่งไม่ต้องยืนยันตัวตน แต่มันเห็นได้ชัดว่าหยางหลิงรู้ว่าเขาอยู่ไหน
เพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดพัสดุที่หยางหลิงจะส่งมา หลินฮวงจึงไม่ปิดประตูบ่มเพาะ เขาแค่บ่มเพาะไร้รอยต่อ
หลินฮวงไม่รู้ว่ามันเพราะเขาได้พัฒนาเป็นเทพแท้จริงแล้วหรือเปล่า แต่เขาสังเกตเห็นว่าการบ่มเพาะไร้รอยต่อของเขาเร็วกว่าเดิมสิบเท่า
นับตั้งแต่เขาก้าวสู่ระดับเจ็ดของไร้รอยต่อ ในอดีต อัตราการเพิ่มด้ายพลังจิตของเขาอยู่ที่สองร้อยต่อชั่วโมง แต่ทว่า ตอนนี้จำนวนเพิ่มเป็นสามพันต่อชั่วโมง
ในช่วงเวลาหนึ่งวัน จำนวนด้ายพลังจิตก็เกินกว่าสามแสนไปแล้ว และการบ่มเพาะไร้รอยต่อยังก้าวสู่ระดับแปด
หลังจากนั้น ความเร็วการบ่มเพาะไร้รอยต่อของเขาก็ลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังสร้างได้ถึงสองพันเส้นต่อชั่วโมง
สามวันผ่านไปทั้งอย่างนั้น หลังกินข้าวเช้า หลินฮวงก็ไปรับพัสดุจากหยางหลิง
เมื่อเปิด ภายในเขาก็พบแหวนตัวตนสี่วง แต่ละวงมีรูปทรงต่างกัน
เขาลองแต่ละอันและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาก่อนเก็บสามวงไปและสวมอีกวง หลังจากนั้น เขาก็ตรงไปสาขาของเคียวแห่งความตาย
หลังผ่านไปสิบนาที เขาก็ได้รับสถานะสมาชิกสำรองของเคียวแห่งความตาย
“ชื่อ : หวงมู่”
“เผ่า : ไม่รู้”
“ระดับพลัง : เทพแท้จริงขั้นเก้า”
“การบ่มเพาะ : พลังจิต”
…
“ตราบเท่าที่ข้าใช้การปลอมตัวมากพอ จะไม่มีใครรู้ว่าข้าเป็นใคร!”หลินฮวงยิ้ม
การไม่รู้เผ่าเป็นเรื่องปกติในแดนเทพ มีหลายเผ่าในแดนเทพ และเด็กหลายคนก็กำพร้าหลังคลอด โดยไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นของเผ่าใด
สำหรับระดับพลัง หลินฮวงปลอมตัวเป็นเทพแท้จริงขั้นเก้าเพื่อเลี่ยงการดึงดูดความสนใจหากเขาพัฒนาเร็วเกินไป
สำหรับเส้นทางบ่มเพาะ เนื่องจากทุกคนรู้ว่าเขาคือผู้บ่มเพาะดาบตอนเขาอยู่ในแดนจอมเทพ เขาจึงไม่สามารถใช้ดาบได้อย่างเปิดเผย ไม่งั้น ผู้คนอาจสงสัยว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเซี่ยหลิน ผู้ได้รับมรดกจอมเทพ นอกจากนี้ ผู้ควบคุมยังหายากมากในแดนเทพ เขาจึงต้องเลือกว่าเป็นผู้ใช้พลังจิต
หลินฮวงทำสำเนาข้อมูลตัวตนนี้และส่งต่อให้ใต้สวรรค์
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ใต้สวรรค์ก็ส่งจดหมายเชิญมาโดยตรงโดยไม่พูดอะไรสักคำ
แต่ทว่า หลินฮวงยังตอบกลับ”ขอบคุณ!”
ตอนนี้ที่เขาได้รับจดหมายเชิญเข้าแดนลับ หลินฮวงจึรู้สึกเหมือนภาระโดนยกออกจากบ่า
เขาเดินลงไปเช็คเอาท์ออกจากห้องพัก จากนั้นก็กลับไปวังจอมเทพ
หลังตั้งค่าการแจ้งเตือนสำหรับวันออกเดินทาง หลินฮวงก็บดขยี้การ์ดห้องแห่งกาลเวลา ก้าวเข้าไปในนั้นอีกครั้งเพื่อทำการปิดประตูบ่มเพาะ