แดนลับนี้ของนครหลวงเทพดำรงมานานกว่าเจ็ดแสนปีและยังเปิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน
หลังร่วมมือกับองค์กรใหญ่อื่นและรับนักโทษมากขึ้น ความถี่ของการเปิดสถานที่นี้ก็เพิ่มขึ้นมาก ปัจจุบัน มันสามารถเข้าถึงได้ทุกสองถึงสามร้อยปี
ดังนั้น ตอนแรก ผู้นำกลุ่มจากองค์กรใหญ่จึงเป็นเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด มาตรฐานค่อย ๆ ลดลง จากนั้นก็กลายเป็นเทพแท้จริงขั้น 9 จนถึงทุกวันนี้ ความสามารถของผู้นำกลุ่มยิ่งต่ำ จนถึงจุดที่เทพสวรรค์ขั้นสูงขององค์กรบางแห่งยอมปล่อยให้พวกขั้นกลางนำกลุ่มถ้าพวกเขาไม่ว่าง โดยพื้นฐาน มีกลุ่มน้อยมากที่ผู้นำจะเป็นเทพสวรรค์ขั้น 9
ดังนั้น ทุกคนจึงแปลกใจตอนเห็นใต้สวรรค์ สงสัยว่าทำไมเขาถึงนำกลุ่มเคียวแห่งความตายมา
ในฐานะบุคคลชั้นนำในหมู่เทพสวรรค์ ใต้สวรรค์อาจกล่าวได้ว่าเหนือกว่าทุกคนที่นี่ ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถหรือความอาวุโส
ทันทีที่เขามาถึง หัวหน้ากลุ่มทั้งหมดขององค์กรอื่นก็เริ่มทักทายเขา แม้กระทั่งผู้นำกลุ่มขององค์กรระดับเจ็ดทั้งสองก็ด้วย
นี่ยิ่งชัดเจนสำหรับกลุ่มที่มาถึงหลังเคียวแห่งความตาย ด้วยผู้นำบางคนที่เข้าหาเขาเองเพื่อทักทาย เหนือสิ่งอื่นใด ด้านนอกของเคียวแห่งความตาย มันยากมากที่คนอื่นจะได้ติดต่อกับใต้สวรรค์
ตอนประมาณ 8 โมง 50 นาที ทุกคนมากันครบ
หลินฮวงยังเห็นไคลี่กับเจ้าแดงในหมู่พวกคนจากเผ่าเนฟิลิก ผู้หญิงทั้งสองนั้นจำหลินฮวงได้ผ่านพันธสัญญา
แต่ทว่า ทั้งสามสบตากันชั่วขณะก่อนหลบสายตากัน
สิ่งที่ทำให้หลินฮวงพอใจคือไคลี่เป็นเทพแท้จริงขั้น 9 แล้ว ขณะที่เจ้าแดงก็เลื่อนเป็นขั้น8
ผู้นำกลุ่มจากเผ่าเนฟิลิกเป็นเทพสวรรค์ขั้น 9 อีกคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาถึง และเห็นใต้สวรรค์ เขากลับทักทายเขาด้วยคำว่า”ท่าน”
‘หลังเข้าไป พวกเจ้าจะถูกสุ่มเคลื่อนย้ายไปยังเขตที่ตรงกับระดับพลังพวกเจ้า เทพเสมือนขั้น 9 จะถูกส่งไปยังบริเวณนักโทษเทพเสมือนขั้น 9 ส่วนเทพแท้จริงขั้น 9 ก็จะถูกส่งไปยังบริเวณที่นักโทษเทพแท้จริงขั้น 9 อยู่.
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกเจ้าจะได้รับแต้มการล่าโดยการล่านักโทษที่มีระดับพลังเท่ากันหรือสูงกว่าเท่านั้น เจ้าจะไม่ได้รับแต้มถ้าล่านักโทษที่ระดับต่ำกว่า”
“อีกอย่างหนึ่ง-ข้าได้ย้ำเรื่องนี้ในข้อมูลที่ส่งให้ไปแล้ว นักโทษเหล่านี้ไม่ใช่มอนสเตอร์สติปัญญาต่ำที่เจ้าเคยล่า พวกมันจะใช้ทุกวิธีการเพื่อพยายามฆ่าเจ้าและเอาชีวิตรอด”
“ตามกฏ ไม่อนุญาตให้นักล่าและนักโทษจับกลุ่มกัน และทุกการต่อสู้จะต้องเป็นแบบตัวต่อตัว นักโทษจะใช้สภาพแวดล้อมของพวกเขาเป็นจุดแข็ง พวกเขาอาจวางกับดัก”
“ความผันผวนพลังงานที่เกิดจากการต่อสู้จะเปิดเผยตำแหน่งของเจ้าและดึงดูดนักโทษเหล่านี้ให้มา เจ้าควรรู้ว่าบุคคลที่โดนกักขังในสถานที่แบบนี้ต้องเป็นพวกบ้า ต่อให้พวกมันจะไม่ได้บ้าก่อนโดนขังที่นี่ แต่ก็คงใช้เวลาไม่นานนักก่อนจะเปลี่ยนเป็นพวกบ้าถ้าอยู่ที่นี่”
“เจ้าอยากล่านักโทษเหล่านี้เพื่อรับแต้ม ส่วนพวกมันก็อยากล่าเจ้าเพื่อรับทรัพยากร!”
“ทุกอย่างที่ข้าพูดรวมอยู่ในข้อมูลที่ข้าส่งไปให้กว่าเดือนก่อน ข้าเน้นย้ำอีกครั้งเพราาะกลัวว่าพวกเจ้าบางคนจะไม่ได้อ่านข้อมูล”ใต้สวรรค์กวาดมองกลุ่มหลินฮวง จงใจหยุดที่เวอชุโอโช มันเห็นได้ชัดว่าเขาหมายถึง
เวอชุโอโช
เวอชุโอโชไม่ได้ใส่ใจคำพูดของใต้สวรรค์ แต่ทว่าทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับเขา
เหมือนกับหลินฮวง พวกเขาไม่ค่อยสนใจคำพูดใต้สวรรค์นัก
ใต้สวรรค์ยังสังเกตเห็นความสนใจของเวอชุโอโช เขากระแอม”มีเรื่องสุดท้ายที่ข้าอยากย้ำอีกครั้ง อาณาเขตของนักโทษอยู่ภายใต้การดูแลของนครหลวงเทพ ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรภายในนั้น เราสามารถเห็นได้ชัดจากภายนอก ระหว่างการล่า พวกเจ้าได้รับอนุญาตให้แค่ล่านักโทษและมอนสเตอร์จากแดนลับ ห้ามโจมตีนักล่าที่เป็นสมาชิกขององค์กรอื่น และโดยเฉพาะห้ามโจมตีสมาชิกขององค์กรตัวเอง!”
ใต้สวรรค์เหลือบมองทั้งเวอชุโอโชและหลินฮวงตอนเขาพูดเช่นนี้ เขากังวลเล็กน้อยว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่จะทำให้ทั้งสองเริ่มสู้กันในแดนลับ
“เมื่อพบว่ามีคนโจมตีผู้เข้าร่วมคนอื่น พวกเขาจะโดนลงโทษอย่างหนักตอนออกมา!”
เมื่อได้ยิน เวอชุโอโชก็อดไม่ได้ที่จะม้วนปาก จ้องหลินฮวงด้วยรอยยิ้ม”กฏน่าเบื่อ”
หลินฮวงหัวเราะเบาๆ เช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเวอชุโอโชไม่ได้ดูข้อมูลที่ใต้สวรรค์ส่งไปเลย แต่หลินฮวงได้อ่านมัน ดังนั้น เขาจึงรู้ดีว่าใต้สวรรค์จงใจอธิบายกฏเพื่อป้องกันตัวเขาเองและเวอชุโอโชจากการสู้กัน
ในความเป็นจริง กฏของแดนลับคือคนเราสามารถโจมตีนักล่าอื่นได้ภายในระยะจำกัด อนุญาตให้แบ่งแต้มกันได้ ตราบเท่าที่ไม่ได้ฆ่าหรือทำให้ผู้อื่นไร้ความสามารถ ยังสามารถลอบโจมตีหรือจงใจวางกับดักได้
ตราบเท่าที่นักล่าประพฤติตัวเหมาะสม พวกเขาก็สามารถสู้กันเองได้
นครหลวงเทพสนับสนุนให้มีการปล้นแต้ม ตราบเท่าที่ทั้งสองฝ่ายตั้งจำนวนกันล่วงหน้า ผู้แพ้จะต้องจ่ายแต้มให้ผู้ชนะตามตกลงกัน
แม้แต่นักล่าคนอื่นก็สามารถใช้แต้มตัวเองเพื่อวางเดิมพันกับผู้ชนะหรือผู้แพ้ได้ถ้าพวกเขาเป็นผู้ชม
“ข้ามีคำถาม”เวอชุโอโชดูเหมือนจะนึกอะไรได้ เขาถามใต้สวรรค์”ถ้านักล่าคนอื่นโจมตีข้าก่อน ข้าสามารถฆ่าพวกมันได้ไหม?”
“เจ้าสามารถสู้กลับได้ แต่ไม่สามารถฆ่าหรือทำให้พิการได้”หลังใต้สวรรค์พูดเช่นนี้ เขาก็ย้ำอีกครั้ง”ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรในแดนลับ โลกภายนอกจะเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะมีเจตนาร้ายหรือไม่ ข้าเชื่อว่าทุกคนคงมองออก”
“กฏเหล่านี้ไร้เดียงสาเหมือนกับเด็กเล่นกันในบ้าน”เวอชุโอโชบ่นด้วยความไม่พอใจ
“เอาล่ะ ถ้าเจ้ามีคำถามอื่น ถามมาเลย”ใต้สวรรค์มองเวลา”แดนลับจะเปิดในเวลาไม่ถึงห้านาที”
“ข้ามีคำถาม”หลินฮวงไม่ถามเสียงดัง แต่ส่งให้ใต้สวรรค์ผ่านคลื่นเสียง”ในแดนลับ การเก็บแต้มล่าจะวัด
ตามระดับพลังจริงหรือระดับพลังหลังปลอมแปลง?”
“หลังปลอมแปลง พูดให้ถูก มันเป็นระดับพลังที่เจ้าลงทะเบียน”ใต้สวรรค์ตอบกลับ”แต้มการล่าเจ้าจะคำนวณโดยเจ้าหน้าที่ของนครหลวงเทพตามจำนวนการล่าและระดับของเป้าหมาย ในความเป็นจริง พวกเขาไม่สามารถมองระดับพลังเจ้าออกผ่านหน้าจอตรวจสอบ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่คำนวณตามข้อมูลที่เจ้าลงทะเบียน”
“ไม่เคยมีกรณีทุจริตเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาก่อน ในแง่หนึ่ง องค์กรใหญ่เต็มไปด้วยคนที่ภาคภูมิใจ ในการแข่งขันเล็กๆแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องฉ้อโกง เพราะถ้ามันถูกพบ พวกเขาจะเป็นที่หัวเราะเยาะไปทั่วแดนเทพ ในอีกแง่หนึ่ง ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นเทพเสมือนกับเทพแท้จริงขั้น 9 มีน้อยคนที่จะอยู่ระดับอื่น เมื่อพวกเขาปรากฏ องค์กรใหญ่อาจสังเกตเห็น มันจึงยากที่จะโกง”เมื่อใต้สวรรค์พูด เขาก็เหลือบมองเจ้าแดงจากเผ่าเนฟิลิก
“งั้น ระดับพลังที่ท่านลงทะเบียนให้ข้า…”หลินฮวงถาม
“เจ้าขอให้ข้าลงทะเบียนว่าเจ้าเป็นเทพแท้จริงขั้น 9 ไม่ใช่หรือ?”ใต้สวรรค์ตอบกลับ
‘ไหนบอกว่าไม่เคยมีการโกงมาก่อนไง?!’
หลินฮวงอุทานในใจเงียบๆ เขาถามเพราะเขากังวลว่าใต้สวรรค์จะลงทะเบียนให้เขาเป็นขั้น 1
แต่อย่างไม่คาดคิด ใต้สวรรค์กลับตอบเขาด้วยความมั่นใจ