ตอนเก้าโมงเช้า ผู้นำระดับเทพสวรรค์ของนครหลวงเทพได้เปิดประตูสู่แดนลับ
นักล่าจากองค์กรกว่า 20 แห่งก้าวไปข้างหน้าทีละกลุ่ม
กลุ่มแรกเป็นองค์กรระดับเจ็ด
ผู้นำกลุ่มเทพสวรรค์ของนครหลวงเทพมองกลุ่มเคียวแห่งความตายต่อ
“ผู้อาวุโสใต้สวรรค์ เชิญ”
แต่ละคนจะถูกส่งไปยังสถานที่ที่ต่างกันและนักล่าก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล้นกัน ลำดับที่พวกเขาเข้าแดนลับไม่เกี่ยวข้องกันเลย
ทุกคนไม่มีความเห็นเรื่องที่เคียวแห่งความตายได้เข้าก่อนใครเพื่อนหลังองค์กรระดับเจ็ด เพราะมันเองก็เป็น 1 ใน องค์กรระดับ 6 ชั้นนำ และใต้สวรรค์ก็ยังเป็นผู้นำกลุ่มเองในรอบนี้
หลินฮวงเหลือบมองไปยังทิศทางของเผ่าเนฟิลิก เดินตามกลุ่มเคียวแห่งความตายเข้าแดนลับไป
ทันทีที่เขาก้าวผ่านประตู หลินฮวงก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังมิติที่ห่อหุ้มตัวเขาและดึงเขาเข้าไป
เมื่อได้สติ เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่ที่ต่างไปจากเดิม
พื้นดินแห้งแตกอยู่ด้านหน้าเขา ไม่มีร่องรอยของชีวิตเลย ไม่แม้แต่ใบหญ้า
เขาเดาว่าอุณหภูมิในอากาศคงสูงอย่างน้อยสองร้อยองศา ร่วมกับคลื่นความร้อนเป็นครั้งคราว มันรู้สึกราวกับเขาอยู่ในหม้อทอดอบลมร้อน
เห็นได้ชัดว่าสภาพอากาศดังกล่าวไม่เหมาะกับการใช้ชีวิต อุณหภูมิที่สูงเพียงอย่างเดียวมากพอจะเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ผู้หลุดพ้นให้แห้งตาย
เมื่อมองไปทั่ว มันแทบจะไม่มีพืชเลย นับประสาอะไรกับสัตว์
หลินฮวงสำรวจสภาพแวดล้อมเขาอีกครั้ง จากนั้นก็เปิดใช้จิตเทวะ
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“สมกับเป็นคุก การยับยั้งจิตเทวะรุนแรงมาก..”
หลังหลินฮวงวิวัฒนาการเป็นเทพแท้จริง พลังของจิตเทวะก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ร่วมกับการบ่มเพาะไร้รอยต่อ ภายใต้สภาวะปกติ พลังของจิตเทวะของเขาควรมีระยะพอคลุมทั้งดาว
แต่ทว่า ในดินแดนลับนี้ จิตเทวะของเขาซึ่งเทียบได้กับเทพสวรรค์กลับโดนจำกัดอยู่ที่ระยะ 30 กิโลเมตร และพลังการยับยั้งก็ยังเหนือยิ่งกว่าสนามรบมังกรหุบเหว
เมื่อเห็นว่าจิตเทวะของเขาโดนยับยั้งอย่างหนัก เขาก็สามารถเดาได้ว่าจิตเทวะของนักล่าคนอื่นจะโดนยับยั้งไปมากแค่ไหน
“กฏประเภทมิติถูกห้าม…”หลินฮวงลอบระดมพลังกฏต่างๆ และพบว่ากฏมิติของแดนลับนี้โดนยับยั้งเช่นกัน
หลังปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ หลินฮวงก็หันไปมองทิศทางหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ ขณะตรวจสอบด้วยจิตเทวะเขา บุคคลสองคนปรากฏตัวในระยะตรวจจับ ทั้งคู่คือเทพแท้จริงขั้น 9 และคนที่อยู่ใกล้สุดก็ห่างจากเขาไม่ถึง 5 กิโลเมตร
บุคคลนี้เป็นชายหัวล้าน รูปร่างสันทัด สูงกว่าสองเมตร กล้ามเนื้อของเขาเป็นก้อนจนน่ากลัว
ตัดสินจากรูปลักษณ์อย่างเดียว มันเป็นไปได้มากว่าเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะสายต่อสู้
“เขาดูแข็งแกร่งมาก”ถ้าหลินฮวงเปรียบเทียบบุคคลสองคนที่เขาตรวจพบ ตามกลิ่นอาย ชายหัวล้านที่อยู่ใกล้กว่านั้นแข็งแกร่งกว่า
หลินฮวงรีบเลือกเป้าหมายการล่าเขา ในการเคลื่อนไหวแค่ครั้งเดียว เขาไปปรากฏตัวต่อหน้าชายหัวโล้นแทบจะทันที
สิ่งที่เขาใช้ไม่ใช่กฏมิติ แต่เป็นการตรัสรู้ธาตุแสง
เขาอยากคว้าโอกาสนี้ล่าเทพสวรรค์บางคน แต่เนื่องจากทุกการเคลื่อนไหวโดนจับตามอง นั่นจะทำให้ความสามารถของเขาโดนเปิดเผยอย่างเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น เขาจึงไม่มีเจตนาปิดบังพลังเขา แต่เขาก็ไม่ตั้งใจใช้เต๋าดาบหรือมอนสเตอร์อัญเชิญ
ชายหัวล้านเห็นหลินฮวงปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน หน้าของเขาถึงกับเปลี่ยนสี
เขาคือผู้บ่มเพาะสายต่อสู้ และพลังจิตเทวะก็อ่อนแรงมาก ภายในคุกนี้ รัศมีการตรวจจับของจิตเทวะเขาไม่ถึง 1 กิโลเมตร มันน้อยกว่าระยะสายตาซะอีก
ดังนั้น ทุกครั้งที่เกิดการทดสอบ เขาจะรอให้นักล่าคนอื่นเข้าหาเขาก่อน
ครั้งนี้ก็ไม่เว้น แต่เขาไม่คิดว่านักล่าจะเข้าถึงตัวเขาเร็วขนาดนี้
เมื่อสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของหลินฮวงก็แค่เทพแท้จริงขั้น 9 ทั่วไปไร้พรสวรรค์ของอัจฉริยะ มุมปากของเขาก็ยกยิ้มเป็นรอยยิ้มโหดเหี้ยม
ไม่มีความกลัวในสายตาเขาตอนเขามองหลินฮวง ในความเป็นจริง มันราวกับเขากำลังมองลูกแกะ
“เจ้าโชคร้ายมากที่วิ่งมาเจอข้าเป็นคนแรก เจ้าหนู เจ้าทำได้แค่โทษตัวเองที่โชคร้ายแล้วล่ะ”ชายหัวล้านแสยะยิ้ม
“ข้าคิดว่าเจ้าอาจสับสนว่าใครกันแน่ที่โชคร้าย”หลินฮวงยิ้ม
“ปากเก่งนักนะ! ’
เมื่อชายหัวล้านพูด ตัวของเขาก็เปลี่ยนไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ผมสีแดงเลือดงอกขึ้นบนหัวที่เคยล้านของเขา เหมือนสิ่งมีชีวิตที่ปล่อยกลิ่นเหม็นของเลือดออกมา
ตัวของเขาขยายอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา เขาก็สูงกว่าสิบเมตร กล้ามเนื้อของเขาพองจนเป็นสีม่วงเข้ม ผิวหนังของเขาควบแน่นเป็นชั้นเกล็ดหนา
กระดูกสันหลังของเขาเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ด้วยการขยายร่างกาย กระดูกสันหลังครึ่งหนึ่งของเขาจึงแทงออกจากผิวหนัง กลายเป็นเปลือกสีม่วงเข้มที่ปกคลุมส่วนหลังคล้ายตะขาบ แม้กระทั่งกระดูกก้นกบของเขาก็ยังยื่นไปกว่าสิบเมตรจนถึงเท้า เปลี่ยนเป็นหางเดือยกระดูกยาว
เมื่อเห็นฉากนี้ หลินฮวงก็เข้าใจเหตุผลที่อีกฝ่ายโดนจองจำ
“โปรตอสหุบเหว…”
โปรตอสหุบเหวเป็นผลมาจากการที่โปรตอสโดนกัดกินด้วยพลังงานหุบเหว
โปรตอสเป็นเผ่าพันธ์ุที่ภาคภูมิใจตัวเองสูง และมักมองว่าโปรตอสหุบเหวเหล่านี้ที่โดนพลังงานหุบเหวกัดกินคือศัตรู องค์กรที่เกิดจากโปรตอสสายเลือดบริสุทธิ์ เช่น นครหลวงเทพซึ่งยิ่งชิงชังและจะฆ่าโปรตอสหุบเหวทันทีโดยไม่ถามไถ่ ความจริงที่ชายหัวล้านตรงหน้าเขายังมีชีวิตและโดนขังในคุกแห่งนี้ก็หมายความว่าเขาน่าจะโดนส่งมาโดยองค์กรอื่นที่ไม่ใช่นครหลวงเทพ
หลินฮวงดึงความสนใจของผู้ชมจำนวนมากนอกแดนลับ
“เร็วมาก มีคนพบกับไป๋หลินแล้ว โชคร้ายยิ่งนัก! ”
“แม้พลังของไป๋หลินจะไม่สูงนัก แต่การป้องกันของเขาก็ไม่ใช่อะไรที่เทพแท้จริงขั้น 9 ทั่วไปจะทำลายได้ การจะทำลาย มันต้องใช้กฏเทพระดับควบคุมเป็นอย่างน้อย แต่ทว่า กฏระดับควบคุมอย่างมากก็ได้แค่ทำลายการป้องกันของเขา มันยังยากเกินจะฆ่าเขาจริงๆ เจ้าหนูนี่อาจล้มเหลว…”
“ถ้าข้าจำไม่ผิด ข้าคิดว่าเจ้าหนูนี่เป็นเด็กใหม่ในเคียวแห่งความตาย? ”ทันทีที่มีคนพูดเช่นนั้น เหล่าเทพสวรรค์ก็หันไปจ้องใต้สวรรค์
สีหน้าของใต้สวรรค์สงบนิ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีเจตนาจะแสดงความคิดเห็นใด
ต่อหน้าความเงียบของใต้สวรรค์ คนอื่นมีการคาดเดาทุกประเภท แต่ทว่า ส่วนใหญ่รู้สึกว่าความสามารถของเด็กใหม่นี่น่าจะธรรมดา
“ทำไมเราไม่มาวางเดิมพันกันละ? ”บางคนเสนอ
“ข้าขอลงข้างไป๋หลินด้วยสมบัติเทพสวรรค์ขั้นกลางสองชิ้น! ”
“ข้าขอลงข้างไป๋หลินด้วยสมบัติเทพสวรรค์ขั้นสูงหนึ่งชิ้น! ”
…
เทพสวรรค์กว่าสิบเข้าร่วมการเดิมพันและส่วนใหญ่ก็ลงข้างไป๋หลิน
เมื่อเห็นว่ามีคนกว่าสิบคนที่ยังไม่ร่วมเล่น เจ้ามือก็ตะโกน”มีใครอีกไหม? ”
“สมบัติเทพสวรรค์ขั้นสูง 10 ชิ้น..”ใต้สวรรค์ปรากฏตัวข้างโต๊ะเดิมพัน”ข้าพนันข้างซิวมู่”
เมื่อเห็นใต้สวรรค์ส่งมอบสมบัติเทพสวรรค์สิบชิ้นให้เจ้ามือ หลายคนก็หน้าซีด
เหนือสิ่งอื่นใด ใต้สวรรค์เป็นคนเดียวที่รู้ถึงความสามารถของเด็กใหม่
นอกจากนี้ เขายังลงเดิมพันด้วยสมบัติเทพสวรรค์ขั้นสูง 10 ชิ้น มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ทำมันเพื่อศักดิ์ศรีของเคียวแห่งความตาย แต่มันมาจากความมั่นใจ
ใบหน้าของเจ้ามือก็ซีดลงเล็กน้อยเมื่อเห็นของที่ใต้สวรรค์ส่งให้เขา เขายิ้มให้ใต้สวรรค์ขณะพูด”ท่านใต้สวรรค์ เราแค่เล่นกัน ไม่จำเป็นที่ท่านต้องวางเดิมพันก้อนโตแบบนี้”
ใต้สวรรค์จ้องเจ้ามือ
หลังจากนั้นสักพัก เมื่อเห็นว่าใต้สวรรค์ปฏิเสธที่จะรับของคืน เจ้ามือก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับการเดิมพัน
“มีใครอยากเดิมพันอีกไหม? ถ้าไม่ ข้าจะปิดโต๊ะแล้วนะ”
ทันทีที่เขาพูด เทพสวรรค์หลายคนก็เข้าร่วม พวกเขาทำตามใต้สวรรค์ ลงข้างหลินฮวง แต่ไม่ลงมากนัก
เมื่อทุกคนวางเดิมพันเรียบร้อย เจ้ามือก็ปิดโต๊ะทันที
ทุกคนต่างหันไปมองภาพวิดิโอ รอคอยผลลัพธ์ของการต่อสู้นี้…