ในความว่างเปล่า หลินฮวงสามารถเห็นเป้าหมายแรกเขาได้จากระยะไกล
“มันน่าเกลียดกว่าที่ข้าคิดไว้…”
ก่อนหน้านี้ เขาได้อ่านเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของมันในภาพความทรงจำของเทพแท้จริงมาแล้ว แต่เมื่อเขาเห็นมันกับตา เขาก็ยังอดบ่นไม่ได้
เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะร่างกายของดาวเจิดจรัสยิ่งย่ำแย่หรือเพราะเหตุผลบางประการ
หลินฮวงสามารถเห็นได้ชัดว่าส่วนที่เปิดเผยของร่างกายปกคลุมด้วยตุ่มหนองหลายขนาด หัวมันยังบวมจนดูเหมือนพร้อมระเบิด
ตั้งแต่หัวจรดเท้า มันไม่หลงเหลือความเป็นฑูตสวรรค์แม้แต่น้อย
ถ้าหลินฮวงไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับดาวเจิดจรัสจากการอ่านความทรงจำเทพแท้จริง เขาคงสงสัยว่าสายพันธุ์ผิดปกติตัวนี้ตรงหน้าเขาคือมอนสเตอร์หุบเหวตั้งแต่เกิด
แม้กระทั่งหอกศักดิ์สิทธิ์ในมือขวามันก็ยังเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทหลังปนเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหว
ในระดับหนึ่ง ดาวเจิดจรัสไม่ใช่ฑูตสวรรค์อีก มันยังละทิ้งความเป็นสิ่งมีชีวิตไปส่วนหนึ่งและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งอันเดธ
หลินฮวงยังสังเกตเห็นความผิดปกติของกลิ่นอายมัน แต่ไม่ตรวจสอบเพิ่มเติม
เขาเคยเห็นเทพสวรรค์มามากแต่ไม่เคยสู้ด้วยมาก่อน
สายพันธ์ุผิดปกติตัวนี้ตรงหน้าเขาคือคู่ต่อสู้เทพสวรรค์ตัวแรก
ดังนั้น หลินฮวงจึงระมัดระวังมาก
นี่คือครั้งแรกที่เขาเอาจริงหลังเข้าสู่สถานที่นี้
ด้านนอกแดนลับ ดวงตาของเทพสวรรค์เกือบทุกคนจับจ้องหน้าจอที่แสดงหลินฮวง ตอนนี้ ผู้เข้าร่วมคนอื่นทั้งหมดไม่อยู่ในสายตาเทพสวรรค์เหล่านี้เลย
ในภาพ หลังทั้งสองพบกัน ทั้งคู่ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา
คนที่โจมตีก่อนคือดาวเจิดจรัส
ในสภาพปัจจุบันมัน มันเสียความสามารถแยกแยะระหว่างมิตรหรือศัตรูไปแล้ว โดยไม่ลังเล มันจะโจมตีทุกสิ่งมีชีวิตที่เข้าอาณาเขตมัน และแน่นอน หลินฮวงก็ไม่เว้น
บนหลังมัน ปีกค้างคาวนับสิบพลันกระพือ พริบตาต่อมา ร่างมันก็หายไป ทิ้งพายุลมหมุนไว้ตรงจุดที่มันเคยอยู่ ซึ่งกระจายออกไปทุกทิศทางเหมือนระลอกน้ำ
“เร็วมาก! ”บางคนในหมู่เทพสวรรค์ที่จับจ้องการต่อสู้อยู่พลันร้องอุทานออกมา
แม้ดาวเจิดจรัสจะเป็นเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง ความเร็วปัจจุบันที่มันสำแดงออกมาก็เทียบเท่ากับขั้นสาม
วินาทีที่ดาวเจิดจรัสแสดงความเร็วอันน่าตกใจ เทพสวรรค์หลายคนที่เฝ้ามองการต่อสู้ต่างก็คิดว่าซิวมู่น่าจะโดนฆ่า
แต่ทว่า มันกลับไม่เป็นแบบนั้น
หลินฮวงได้เตรียมพร้อมรับการโจมตีอย่างฉับพลันมาแล้ว เขาเดาไว้แล้วว่าอีกฝ่ายน่าจะชิงลงมือก่อน
วินาทีที่ดาวเจิดจรัสลงมือ เขาก็ลงมือเช่นกัน
เขาสะบัดแขนเสื้อเขาเล็กน้อย และลำแสงสีแดงคล้ายสายฟ้านับร้อยสายที่มีความเร็วไม่ด้อยไปกว่าดาวเจิดจรัสก็พุ่งออกมา
เมื่อเหล่าเทพสวรรค์ที่เฝ้าดูการต่อสู้เห็น หลายคนก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
“มีดบินของซิวมู่เร็วมาก!? ความเร็วของพวกมันเกินกว่าระดับเทพแท้จริงไปแล้ว พวกมันเร็วพอๆ กับการเคลื่อนไหวของดาวเจิดจรัสเลย! ”
“มีดบินแต่ละเล่มประกอบไปด้วยพลังกฏเทพประเภทควบคุมนับร้อย! เขาเชี่ยวชาญกฏระดับควบคุมได้มากถึงขนาดนี้เชียว?! ”
“พลังของมีดบินเขาเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ แม้จะด้วยพลังเช่นนี้ การควบคุมของเขาก็ยังแม่นยำอย่างมาก จิตเทวะของเขาอาจไปถึงระดับเทพสวรรค์แล้ว! ”
“ด้วยระดับความสามารถปัจจุบันของเขา เขาอาจยังมีโอกาสสู้กับเทพสวรรค์ขั้นหนึ่งทั่วไป แต่ทว่า อย่างที่บอก คู่ต่อสู้ของเขาคือดาวเจิดจรัสที่สามารถข่มเขาได้ อย่างน้อยตอนนี้ ข้าก็ยังไม่เห็นโอกาสที่เขาจะชนะเลย”
“เขาผสานพลังกฏเทพใส่มีดบินพลังจิตไปมากขนาดนั้น มันจะผลาญพลังเทวะเขาไปมาก แถม เขายังควบคุมมีดบินนับร้อยพร้อมกัน ซึ่งจะยิ่งผลาญพลังเทวะเขาไปแบบเท่าทวีคูณ เขาจะทนได้อีกนานแค่ไหน ไม่ต้องพูดถึงว่าพลังโจมตีเขาจะสามารถทำร้ายดาวเจิดจรัสได้หรือไม่”
บนหน้าจอ มีดบินนับร้อยของหลินฮวงก่อตัวเป็นตาข่ายในอากาศ พุ่งตรงใส่ดาวเจิดจรัสเพื่อห่อหุ้มมัน
ในความว่างเปล่า ร่างของดาวเจิดจรัสไหววูบ หลบสายฟ้าสีแดงเลือดทั้งหมด และเข้าประชิดหลินฮวงต่อ
สายฟ้าสีแดงนับร้อยสายยิงออกจากแขนเสื้อหลินฮวงอีกครั้ง บังคับให้ดาวเจิดจรัสต้องถอยห่างออกไป
แต่ทว่า หลังหลบการโจมตีจากมีดบินระลอกสอง ดาวเจิดจรัสก็หมุนตัว มุ่งกลับมาหาหลินฮวงใหม่
กลิ่นอายรอบตัวมันเริ่มไม่ค่อยมั่นคงกว่าเดิม บ่งชี้ว่ามันเกิดอารมณ์ด้านลบหลังโดนบังคับให้ต้องถอย
แต่ทว่า หลินฮวงยังไม่สะทกสะท้าน หลังดาวเจิดจรัสเข้าใกล้อีกครั้ง เขาก็สะบัดแขนเสื้ออีกครั้งและสายฟ้าสีแดงเลือดอีกร้อยสายก็พุ่งออกมา
ดาวเจิดจรัสหลบอีกครั้ง
หลังการโจมตีทั้งสามครั้ง เทพสวรรค์ด้านนอกแดนลับก็ขมวดคิ้ว
“เขาตั้งรับ? มันดูเหมือนเขากำลังโดนข่มในแง่ของความเร็ว”
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีนัก ซิวมู่ไม่สามารถโจมตีด้วยวิธีนี้ไปได้เรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้น อารมณ์ด้านลบของดาวเจิดจรัสยังมีแต่จะเพิ่ม ไม่ช้าก็เร็ว มันจะฝืนพุ่งเข้าใส่โดยไม่คำนึงถึงการโจมตีของมีดบินพลังจิต ตัดสินจากพลังปัจจุบันของมีดบิน อย่างมากก็คงแค่ทำให้เกิดรอยช้ำบนตัวดาวเจิดจรัสก็เท่านั้น”
ผู้นำเทพสวรรค์จากนครหลวงเทพอดหันไปมองใต้สวรรค์ไม่ได้”ผู้อาวุโสใต้สวรรค์ ท่านอยากให้เขาถอนตัวและเลือกเป้าหมายอื่นหรือไม่? ”
สายตาของใต้สวรรค์จับจ้องกับหน้าจอ สีหน้าของเขาไม่สามารถอ่านได้ เมื่อเขาได้ยินคำถามจากอีกฝ่าย เขาก็ส่ายหัว”ข้าเชื่อว่าเขารู้ตัวว่ากำลังทำอะไร”
บนหน้าจอ หลินฮวงได้ใช้วิธีการเดียวกันเพื่อบังคับให้ดาวเจิดจรัสถอยออกไปกว่าสิบครั้ง
มันดูเหมือนเขาจะไม่มีหนทางอื่นในการรับมือกับอีกฝ่ายเลย แต่ที่น่าแปลกก็คือ สีหน้าของเขาไม่แสดงถึงความตื่นตระหนกเลย ในความเป็นจริง เขายังดูสงบด้วยซ้ำ
หลังพุ่งเข้าใส่ หลบ จากนั้นก็ถอยอยู่หลายสิบครั้ง ความโกรธของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่หลินฮวงกลับยังคงสงบนิ่งเช่นเคย
นี่คือเทพสวรรค์ตัวแรกที่เขาต่อสู้ด้วย ดังนั้น ตั้งแต่ต้น เขาจึงไม่ตั้งใจรีบปิดฉาก
ถึงแม้เขาจะสามารถทำได้ถ้าทุ่มสุดตัว เขาก็ยังไม่คิดเปิดเผยไพ่ตายของเขาขณะโดนจับตามอง
ตามความเป็นจริง ก่อนหน้านี้ เมื่อเขาเลือกดาวเจิดจรัสเป็นเป้าหมายล่า หัวสมองของเขาก็ได้กำหนดกลยุทธ์การล่าดาวเจิดจรัสไว้แล้ว
ตอนนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด….