หลังล่าสายพันธ์ุผิดปกติระดับเทพสวรรค์ขั้นหนึ่งได้สำเร็จ หลินฮวงก็มุ่งหน้าลึกเข้าไปในเขตเทพสวรรค์ต่อ
ด้วยประสบการณ์ล่าแรกนี้ เขาจึงยิ่งหยิบยืมห่วงโซ่ลำดับเทพภายในตัวเขาได้คล่องขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นจิตเทวะเขายังเทียบได้กับเทพสวรรค์ เขายังมีอาวุธเซียนพลังจิตที่เทียบได้กับสมบัติเทพสวรรค์รวมถึงพลังลำดับเทพ ด้วยสามสิ่งเหล่านี้รวมกัน การล่านักโทษในเขตเทพสวรรค์ของหลินฮวงจึงราบรื่น
แต้มฆ่าเขาเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
ทุกครั้งที่เขาล่าสำเร็จ แต้มของเขาจะพุ่งขึ้นร้อยแต้ม ขณะที่อันดับสองมีแค่เลขหลักเดียว
ตอนแรก ทุกคนตกใจเมื่อเห็นชื่อ’ซิวมู่’มีแต้มเพิ่มขึ้นหนึ่งร้อย หลายคนคิดว่าเขาคงโชคดี พบเทพสวรรค์ที่อ่อนแอ
แต่ทว่า เมื่อแต้มของหลินฮวงเพิ่มขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดทุกคนก็ตระหนักว่าไม่เพียงม้ามืดคนนี้จะโชคดี แต่เขายังมีความสามารถสูงล้ำ
ข้อสงสัยแรกเริ่มที่มีต่อหลินฮวงหายลับไปอย่างรวดเร็ว
แน่นอน ยังมีคนจำนวนน้อยที่สงสัยว่าหลินฮวงโกง
แต่ทว่า ด้านนอกแดนลับ ผู้นำเทพสวรรค์หลายคนสามารถเห็นการต่อสู้ของหลินฮวงได้ชัดเจน
เริ่มด้วยสายพันธ์ุผิดปกติ หลินฮวงเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดตามทาง เผชิญหน้ากับนักโทษเทพสวรรค์ทีละคนโดยตรง บดขยี้พวกมันทั้งหมด ฝีมือของเขาบดบังความสำเร็จของผู้เข้าร่วมคนอื่นไว้มิด
ผู้นำองค์กรระดับเจ็ดหลายคนรู้สึกอิจฉามาก
“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนเขายังไม่เอาจริง?เขาดูเหมือนจะจัดการได้สบายๆไม่ว่าจะพบกับคู่ต่อสู้แบบไหน”
“หรือว่าความสามารถของซิวมู่จะเทียบได้กับเทพสวรรค์ขั้นสอง?!”
“เราจะรู้ในไม่ช้าก็เร็ว”ผู้นำเทพสวรรค์ของนครหลวงเทพเหลือบมองใต้สวรรค์ขณะยังรักษาใบหน้าตายด้าน”ด้วยเส้นทางการบินปัจจุบันของเขา เขาน่าจะมุ่งไปหาเนตรปีศาจ”
เมื่อเทพสวรรค์ที่นี่ได้ยิน พวกเขาก็รีบมองเส้นทางของหลินฮวง
เนตรปีศาจไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับพวกเขาเลย
เนตรปีศาจคือสิ่งมีชีวิตหุบเหวอย่างแท้จริง เผ่ามันเป็นของเผ่าที่เรียกว่ามอนสเตอร์ลูกตายักษ์
นี่เพราะรูปลักษณ์พวกมันคือลูกตาขนาดใหญ่ แต่มีหนวดเนื้อหลายร้อยเส้นที่ยังเชื่อมต่อกับส่วนล่างของมัน
เนตรปีศาจก็ไม่เว้น มันถือว่าแข็งแกร่งกว่าเพื่อนในเผ่ามันด้วยและกลายพันธ์ุตั้งแต่เกิด
มันชอบใช้ภาพลวงตาเพื่อบงการจิตคนอื่น และมันยังมีความสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตอื่น
หลังโดนนครหลวงเทพจับและขังในแดนลับ เนตรปีศาจก็เคยก่อเหตุร้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง มันได้ควบคุมมอนสเตอร์ระดับเทพสวรรค์นับร้อย หลายตัวเป็นขั้นสองและทำการกดขี่ข่มเหงทั้งเขตเทพสวรรค์
หลังนครหลวงเทพพบว่ามันทำอะไรลงไป พวกเขาจึงส่งคนไปบังคับให้มันจำนน
หลังข่าวเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเนตรปีศาจหลุดออกไป อัจฉริยะเทพแท้จริงหลายคนจากองค์กรใหญ่ที่มีความสามารถระดับเทพสวรรค์ก็ตั้งเป้าการล่าไปยังเนตรปีศาจ
เมื่อแดนลับเปิดระหว่างนั้น ยอดฝีมือเทพแท้จริงหลายคนได้เข้าร่วมการล่าเนตรปีศาจ
สุดท้าย การล่าก็ล้มเหลว แม้กระทั่งอัจฉริยะจากวิหารเทพนักรบก็ยังโดนฆ่า
อัจฉริยะที่เหลือได้รับการช่วยเหลือจากคนของนครหลวงเทพ
หลังศึกนี้ ก็ไม่มีนักล่าคนใดกล้าโจมตีเนตรปีศาจเป็นเวลานาน
หลายหมื่นปีต่อมา มีอัจฉริยะหลายคนที่พยายามโจมตีเนตรปีศาจ แต่ความพยายามทั้งหมดก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ บางคนยังต้องจ่ายด้วยชีวิต
นับจากนั้น เนตรปีศาจก็กลายเป็นสิ่งต้องห้ามในแดนลับ และไม่มีใครกล้าแม้แต่จะคิดโจมตีมันอีก
แต่ครั้งนี้ เมื่อแดนลับเปิด ม้ามืดคนนี้กลับเล็งเป้าหมายไปที่มัน
ในความเป็นจริง เหตุผลที่หลินฮวงเลือกเนตรปีศาจนั้นเรียบง่ายมาก มันแค่เพราะเนตรปีศาจอยู่บนเส้นทางที่เขาต้องใช้เดินทาง หลินฮวงขี้เกียจเกินจะอ้อมเพื่อหาเป้าหมายล่าใหม่
เทพสวรรค์จำนวนมากด้านนอกแดนลับไม่รู้เหตุผลของหลินฮวง พวกเขาคิดว่าซิวมู่คงรู้ตั้งแต่ต้นว่าเนตรปีศาจทรงพลังแค่ไหนและวางแผนการล่ามันมาตั้งแต่ต้น เพื่อให้เขาพิสูจน์ได้ว่าเขาแข็งแกร่งสุดในบรรดาเทพแท้จริง!
แน่นอน หลินฮวงเคยได้ยินเรื่องราวของมันมาบ้าง
ข้อมูลที่ใต้สวรรค์ให้ได้อธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับเนตรปีศาจไว้ชัด
แต่ทว่า ในมุมมองของหลินฮวง มอนสเตอร์ตัวนี้แทบไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขา
หลินฮวงยังไม่รู้ว่าการตัดสินใจของเขาจะทำให้หัวใจของใต้สวรรค์เต้นกระหน่ำเล็กน้อย
แม้ใต้สวรรค์จะมั่นใจในความสามารถของหลินฮวงมาโดยตลอด แต่เขาก็ยังไม่มองโลกแง่ดีเกี่ยวกับผลลัพธ์การต่อสู้นี้
เนื่องจากเนตรปีศาจมีความเชี่ยวชาญในภาพลวงตาและเทคนิคพลังจิต ผู้บ่มเพาะที่จิตไม่แกร่งพอจะตกเป็นเหยื่อมันทันที
แม้เนตรปีศาจจะเป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง พลังจิตมันก็เทียบได้กับขั้นสอง บวกกับผลของห่วงโซ่ลำดับเทพประเภทลวงตาสองชนิด เทพสวรรค์ขั้นสองส่วนใหญ่ที่จิตอ่อนแอกว่ามันจะต้องยอมจำนนต่อพลังมัน แถม พลังแท้จริงของหลินฮวงก็เป็นแค่เทพแท้จริงขั้นหนึ่ง
แต่ทว่า สีหน้าของใต้สวรรค์ทรยศต่อความคิดเขา
นี่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในหมู่ผู้ชมที่อยากเริ่มการเดิมพันอีกครั้ง
ตอนนี้เอง ผู้นำกลุ่มนครหลวงเทพพูดขึ้นหลังลังเลสักพัก
“ข้าจะเป็นเจ้ามือสำหรับการต่อสู้ครั้งนี้เอง มาเริ่มกัน!”
“เหล่าคนที่เลือกข้างเนตรปีศาจ ให้วางเดิมพันบนมือซ้ายข้า คนที่ลงข้างซิวมู่ ให้วางเดิมพันบนมือขวาข้า..”
เทพสวรรค์จำนวนมากวางเดิมพันทีละคนและเหมือนกับก่อนหน้า หลายคนเลือกเนตรปีศาจ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลงานน่าทึ่งของหลินฮวงก่อนหน้า จึงมีคนที่เลือกเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หลังเกือบทุกคนวางเดิมพันแล้ว ใต้สวรรค์จึงก้าวออกมาและหยิบแหวนเก็บของเขาออกมาอีกครั้ง
ในแหวนวงนี้ไม่ได้มีแค่สมบัติเทพสวรรค์ขั้นสูงสิบอันที่เขาใช้เป็นของเดิมพันครั้งแรก แต่ยังรวมถึงของเดิมพันทั้งหมดที่เขาชนะจากสองเกมแรก
เขาหยิบแหวนขึ้นมาด้วยสองนิ้ว วางมันลงข้างซิวมู่โดยไม่ลังเลเลย
นี่ไม่ใช่เพราะเขามั่นใจในตัวหลินฮวง แต่มันแค่ว่า ต่อให้เขาแพ้ เขาก็เสียแค่สมบัติเทพสวรรค์ขั้นสูงสิบชั้น สำหรับสิ่งที่เขาได้จากสองเกมก่อน อย่างมากก็แค่คืนกลับไป ในฐานะผู้นำกลุ่มของหลินฮวง เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเลือก’หลินฮวงแพ้’มีอยู่มาตั้งแต่ต้น
ภายในแดนลับ หลินฮวงเร่งความเร็วไปพร้อมกับตรวจสอบสิ่งต่างๆภายในตัว
“ข้าล่าเทพสวรรค์ไปเจ็ด มันจึงมีห่วงโซ่ลำดับเทพเจ็ดสายเสริมเข้ามากับข้า จำนวนกฏยังเพิ่มขึ้นกว่าสี่หมื่นประเภท ทำให้ตอนนี้โดยรวมแล้วมีถึงแปดหมื่นประเภท ไฟเทวะข้ายังแกร่งกว่าเดิม และพื้นที่ของแดนเทพภายในตัวข้ายังขยายไปกว่าเดิมถึงห้าเท่า…”
นี่แตกต่างจากทาสดาบ ที่มีแค่กฏที่พวกมันใช้ได้ถึงเข้าสู่โลกภายในตัวหลินฮวง การล่าเทพสวรรค์ของหลินฮวงทำให้เขาสามารถปล้นทุกอย่างจากพวกมันได้ รวมถึงกฏทั้งหมดภายในตัวพวกมัน พลังเจตจำนงโลกของพวกมัน และแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในตัวพวกมัน
มันแค่ว่าหลินฮวงยังไม่แน่ใจว่าเขาจะเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นสองได้อย่างไร…