สติทช์ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขณะที่อีกสองหัวมันระเบิด
ด้านนอกแดนลับ กลุ่มเทพสวรรค์ประหลาดใจ พวกเขาอยากรู้ว่าหลินฮวงทำอะไรกับสติทช์ แต่พวกเขาไม่สามารถเห็นอะไรผ่านกรงมีดบินพลังจิตได้ พวกเขาทำได้แค่ใช้จินตนาการของตัวเอง
“เสียงกรีดร้องบาดใจนี้ฟังดูเหมือนมันกำลังบาดเจ็บ”
“เขาทำอะไร สติทช์ถึงได้กรีดร้องอย่างน่าสังเวชขนาดนี้?”
“เขาเอาอะไรยัดเข้าทวารหนักของสติทช์หรือเปล่า?”
“สติทช์มีทวารหนักด้วยหรือ?!”
…
ด้วยการทำลายอีกสองหัว สติทช์จึงเสียความสามารถไปมาก
ปีกมันเริ่มหดทีละปีก และร่างมันก็ทรุดลงกับพื้น มีแค่ปีกไม่กี่ปีกที่ยังรักษาความสามารถป้องกันไว้ แต่พวกมันไม่สามารถกระพือหรือบินได้อีก
เห็นได้ชัดว่าหัวที่ควบคุมความสามารถการบินของสติทช์โดนทำลายไปแล้ว
นอกจากนี้ หลินฮวงยังสังเกตเห็นว่าพลังเทวะมันกลายเป็นไม่เสถียร
ทุกครั้งที่การโจมตีของเขาโดนสติทช์ พลังเทวะที่มันใส่เพื่อป้องกันตัวมันนั้นต่างออกไป
บางครั้ง พลังเทวะมันจะถูกทำลายโดยมีดบินพลังจิตเสียง่ายๆ ขณะที่บางคน มันจะป้องกันไว้ได้
ด้วยการสูญเสียความสามารถบิน ความสามารถหลบของสติทช์จึงลดลงถึงขีดสุด แม้การโจมตีมีดบินพลังจิตของหลินฮวงจะไม่มีอัตราความสำเร็จเต็มร้อย มันก็เกิน 95% ดังนั้น สติทช์จึงไม่สามารถหลบการโจมตีส่วนใหญ่ได้
อีกด้านหนึ่ง การสูญเสียการควบคุมพลังเทวะของสติทช์ยังทำให้ระบบป้องกันมันเริ่มไม่มั่นคง
การโจมตีด้วยมีดบินของหลินฮวงสร้างความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเพิ่มขึ้นของปัจจัยต่างๆทำให้โอกาสชนะของหลินฮวงเพิ่มขึ้น
ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที มีดบินของหลินฮวงก็ทำลายการป้องกันของสติทช์อีกครั้ง และแทงผ่านหัวอีกหัว
ด้วยการทำลายหัวนี้ ห่วงโซ่ลำดับเทพและพลังกฏเทพในตัวสติทช์จึงเริ่มยุ่งเหยิง
เมื่อรู้ว่ามันกำลังจนตรอก มันก็เริ่มไม่สนใจที่จะป้องกันมีดบินพลังจิต พยายามฝืนฝ่าพื้นที่วงกลมที่สร้างโดยมีดบินพลังจิตและโจมตีหลินฮวงในระยะประชิดแทน
แต่ทว่า หลินฮวงมองแผนการมันออก และก็ไม่มีทางที่เขาจะเต็มใจปล่อยให้มันทำแบบนั้น
ไม่ว่ามันจะเคลื่อนตัวไปทางไหน หลินฮวงก็จะเร่งมีดบินพลังจิตทางนั้นด้วยพลังของห่วงโซ่ลำดับเทพสองสาย ผลักมันกลับไป
ทุกครั้งที่มันพยายามฝืนผ่าน มันจะต้องโดนผลักกลับมา เมื่อสัมผัสว่ามันเหลือพลังเทวะไม่มาก สติทช์ก็กู่ร้องด้วยความสิ้นหวัง
ร่างของหลินฮวงลอยอยู่ในอากาศนอกรัศมีกรงมีดบินพลังจิตและยังคงรอให้การต่อสู้จบอย่างไม่แยแส
เขาไม่รู้สึกเห็นใจมันเลย เหนือสิ่งอื่นใด มันคือวิญญาณร้ายจากหุบเหว
อย่างไรก็ตาม เขายังยอมรับในความสามารถของมัน
ด้านนอกแดนลับ เทพสวรรค์ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของสติทช์อีกครั้ง แต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกกชินแล้ว
ไม่รวมสิบนาาทีแรก มันเพิ่งผ่านมาประมาณ 20 นาทีตั้งแต่เริ่มสู้จริง หลังสติทช์ติดในกรงมีดบินพลังจิต พวกเขาก็ไม่รู้แล้วว่ามันส่งเสียงร้องโหยหวนมากี่รอบ
เสียงร้องทุกครั้งฟังดูน่าสังเวชอย่างที่สุด
“แม้ข้าจะไม่รู้ว่าซิวมู่ทำอะไร ข้าก็รู้สึกว่าสติทช์กำลังจะแพ้”
“ข้ารู้สึกเหมือนกัน เสียงร้องของมันน่าหดหู่มาก”
“เสียงนี้ทำให้ข้านึกถึงวัยเด็กของข้า และฝูงหมูในโรงฆ่าสัตว์ที่ยังดิ้นรนแม้จะถูกมัดและจับแขวน..”
“เจ้าทำให้ข้านึกได้ว่าข้าไม่ได้กินเนื้อหมูมากว่าแปดพันปีแล้ว เมื่อข้าเสร็จงานนี้ ข้าจะไปกินหมูให้หมดคอกเลย!”
ในกรงมีดบินพลังจิต สติทช์กลายเป็นเป้าหมายเคลื่อนที่ได้
แม้มันจะฝืนบังคับให้ตัวมันขยับหลบ แต่การกระทำนี้ก็เปล่าประโยชน์
ลำแสงสีแดงเลือดกระพริบในความว่างเปล่า ทิ้งแผลไว้บนตัวสติทช์ไม่หยุด
ภายใต้การโจมตีของมีดบินพลังจิต พลังเทวะของสติทช์ถดถอยอย่างรวดเร็ว
หลินฮวงไม่คลายความระมัดระวัง เขาไม่มีเจตนายอมให้อีกฝ่ายมีเวลาพักหายใจ
มีดบินพลังจิตเทลงใส่สติทช์เหมือนพายุลูกเห็บ
ในเวลาไม่ถึงห้านาที ไม่มีร่างกายส่วนใดของสติทช์ที่ไร้บาดแผล
อีกสองหัวมันโดนทำลายทีละหัว และสุดท้ายก็เหลือแค่หัวเดียว
หัวสุดท้ายนี้คือหัวที่ควบคุมระบบป้องกัน
สติทช์เสียการควบคุมร่างกายทั้งหมด และไม่สามารถขยับตัวได้เลยด้วยซ้ำ มันกลายเป็นเป้านิ่ง
ถึงกระนั้น สติทช์ก็ยังใช้ปีกป้องกันมัน ที่เต็มไปด้วยรูเพื่อป้องกันหัวสุดท้าย
แต่การกระทำนั้นก็เปล่าประโยชน์ ในเวลาไม่ถึงนาที มีดบินพลังจิตของหลินฮวงก็ฉีกผ่านแนวป้องกันสุดท้ายของมันได้และเจาะผ่านหัวสุดท้ายมัน
ตอนนี้เอง ในที่สุดการแจ้งเตือนก็ปรากฏตรงหน้าหลินฮวง
แทบจะทันที เขารู้สึกได้ถึงห่วงโซ่ลำดับเทพหลายสายที่บรรจุไปด้วยพลังกฏเทพจำนวนมาก
การล่ารอบนี้ได้เพิ่มจำนวนกฏในตัวหลินฮวงขึ้นกว่าแสนประเภท
แม้กระทั่งหลินฮวงเองก็ยังประหลาดใจ
สิ่งที่เขาไม่รู้คือขณะที่สติทช์เอาอวัยวะของคนอื่นมาเป็นส่วนหนึ่งของมัน สติทช์ยังกลืนเขตแดนเทพของคนอื่นด้วย
แต่ตอนนี้ ผลการทำงานหนักทั้งหมดของสติทช์ได้กลายมาเป็นของหลินฮวงแล้ว
พลังกฏเทพกว่าสองแสนเจ็ดหมื่นประเภายในตัวของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเกือบสี่แสนในคราเดียว
“ด้วยประสิทธิภาพเช่นนี้ ข้าต้องล่ามอนสเตอร์อีกแค่สามหรือสี่ตัวก่อนระดับพลังข้าจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง”หลินฮวงพึมพำ
แน่นอน เขารู้ดีว่าสาเหตุหลักที่ทำให้พลังกฏเทพเขาเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้เพราะความพิเศษของสติทช์ เทพสวรรค์ขั้นสามคนอื่นคงไม่มอบผลประโยชน์ให้เขามากขนาดนี้
เขาขยับนิ้วเล็กน้อย และมีดบินพลังจิตที่ก่อตัวเป็นกรงก็กลับเข้าแขนเสื้อ
ด้วยกรงที่หายไป เทพสวรรค์ที่เฝ้าดูการต่อสู้จากด้านนอกแดนลับถึงเห็นร่างของสติทช์ได้ ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยรูพรุนเหมือนตะแกรง
การได้เห็นสภาพศพของสติทช์นั้นทำให้ทุกคนรู้ว่าสติทช์นั้นตายไปแล้ว
แม้ทุกคนจะเดาผลลัพธ์นี้ได้สักพักแล้ว พวกเขาก็ยังอดตกใจไม่ได้ตอนเห็นศพของสติทช์
‘เขาทำมันได้จริงๆ…’แม้กระทั่งใต้สวรรค์ก็ยังตกใจ
สำหรับใครบางคนในระดับเทพแท้จริงที่จะฆ่าเทพสวรรค์ขั้นสามได้นั้น มันไม่ใช่ว่าไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของแดนเทพ แต่บุคคลเหล่านั้นต่างก็กลายเป็นจ้าวเทวะกันโดยไม่มีข้อยกเว้น
สำหรับแดนนักโทษลับนี้ หลินฮวงเป็นผู้เข้าร่วมคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการล่าเทพสวรรค์ขั้นสาม
ผู้นำของนครหลวงเทพและวิหารเทพนักรบ รวมถึงองค์กรอื่นที่ส่งอัจฉริยะตัวเองมาเข้าร่วมกลับมีสีหน้าไม่สู้ดี
เดิมที พวกเขามั่นใจมากในตัวอัจฉริยะของพวกเขา เชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าพวกเขาจะสามารถแสดงผลงานแสนโดดเด่นได้ระหว่างการทดสอบนี้และอวดมันต่อองค์กรอื่น
ยอดฝีมือเทพแท้จริงชั้นนำภายใต้พวกเขาต่างมีความสามารถล่าเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง บางคนยังสู้กับเทพสวรรค์ขั้นสองได้
แต่ทว่า หลังเห็นหลินฮวงล่าสติทช์ได้สำเร็จ พวกเขาก็รู้ว่าบุคคลที่พวกเขานำมาด้วยครั้งนี้ได้กลายเป็นกองขยะไป
มันเปล่าประโยชน์!นี่เป็นการเอาชนะอย่างสมบูรณ์!
ไม่มีใครสามารถล่าเทพสวรรค์ขั้นสามได้แบบที่หลินฮวงทำ
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหลินฮวงได้บดบังความสามารถของคนอื่นไปโดยสิ้นเชิง