“เล่นเกมกับข้าก่อน..”
ทันทีที่เวอชุโอโซเริ่มพูด สายฟ้าสีแดงเลือดนับหมื่นก็พุ่งออกจากแขนเสื้อของหลินฮวง
มีดบินพลังจิตเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงเลือดที่ปกคลุมท้องฟ้า ข้ามอากาศ โจมตีใส่เวอชุโอโซจากทุกทิศทาง
“ข้าไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมาเล่นกับเจ้า”หลินฮวงลงมือทันที เป็นการบอกปฏิเสธ
แม้กฏในแดนลับจะไม่อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมฆ่ากัน มันก็เป็นเวอชุโอโซที่ยั่วโมโหเขาก่อน หลินฮวงจึงไม่สามารถโดนตำหนิได้ที่โต้ตอบ
ยิ่งไปกว่านั้น ตราบเท่าที่ไม่ฆ่าหรือทำให้พิการ พวกเขาก็จะไม่โดนว่าอะไร
หลินฮวงไม่ได้วางแผนฆ่าเวอชุโอโซ เขาแค่คิดสั่งสอนบทเรียน
ด้านนอกแดนลับ กลุ่มเทพสวรรค์พากันตกใจตอนเห็นการโจมตีของหลินฮวง
พวกเขาไม่คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จะแย่ขนาดนี้
หลายคนเหลือบมองใต้สวรรค์ ตอนนี้ คิ้วของใต้สวรรค์ขมวดกันแน่นเป็นปม นี่บ่งบอกว่าเขาเองก็ไม่อยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น มันร้ายแรงจนเขาลืมควบคุมสีหน้า
ตอนนี้ ผู้นำขององค์กรระดับเจ็ดลอบยินดีที่ซิวมู่กับเวอชุโอโซสู้กันเอง นี่หมายความว่าโอกาสที่หนึ่งในนั้นจะออกจากเคียวแห่งความตายจะสูงขึ้น ตอนนี้ หลายคนได้ลอบวางแผนที่จะชิงตัวพวกเขาจากเคียวแห่งความตาย มันไม่สำคัญว่าจะเป็นซิวมู่หรือเวอชุโอโซ การได้รับใครสักคนก็ถือว่าดีมากแล้ว
มีดบินพลังจิตหมื่นลมเทลงมาเหมือนพายุฝน แต่เวอชุโอโซกลับยืนนิ่งไม่ขยับ
เขาไม่หลบ หรือแสดงวิชาป้องกันอะไร
วินาทีต่อมา ร่างนั้นก็โดนกลืนด้วยสายฟ้าสีแดงนับไม่ถ้วน
เมื่อเห็น ผู้ชมด้านนอกแดนลับก็ตกใจ
พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเวอชุโอโซถึงไม่ยอมป้องกันตัวเอง
มันควรรู้ว่าการโจมตีของซิวมู่นั้นฆ่าได้แม้กระทั่งเทพสวรรค์ขั้นสาม
“หรือเขาคิดว่าซิวมู่จะดึงมีดกลับในวินาทีสุดท้าย?!”
“เวอชุโอโซคงไม่ถูกฆ่าง่ายๆแบบนี้หรอกมั้ง?”
“สำหรับการโจมตีปัจจุบันของซิวมู่ มีดบินพลังจิตของเขาพ่วงด้วยพลังลำดับเทพสองสาย ซึ่งมากพอจะฆ่าเทพสวรรค์ขั้นสาม เวอชุโอโซโดนโจมตีโดยปราศจากการป้องกัน เราไม่ควรสงสัยถึงผลลัพธ์เลย”
ขณะที่กลุ่มเทพสวรรค์กำลังคุยกัน หลินฮวงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาสามารถสัมผัสได้ว่าการโจมตีของเขาพลาด
ไม่มีมีดบินสักเล่มที่โดนเวอชุโอโซ มันน่าแปลก แต่ทว่า จิตเทวะของเขาสัมผัสได้ว่าเวอชุโอโซยังยืนอยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหน
‘นี่คือพลังลำดับเทพพิเศษ?!’
พูดตามตรรกะ การโจมตีประเภทกฏต้องโดนเป้าหมายแน่เว้นแต่อีกฝ่ายจะใช้พลังกฏเกณฑ์เพื่อหลบหรือป้องกัน
ถ้าแม้กระทั่งมีดบินพลังจิตที่ผสานด้วยพลังลำดับเทพยังไม่โดนศัตรู คำอธิบายเดียวก็คืออีกฝ่ายใช้พลังลำดับเทพเพื่อหลบ
สำหรับจิตเทวะเขาที่สัมผัสได้ว่าเวอชุโอโซไม่ขยับ นั่นหมายความว่าพลังลำดับเทพของเขานั้นมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถหลอกจิตเทวะได้
แม้การโจมตีของหลินฮวงจะไม่โดนอีกฝฝ่าย เขาก็ไม่คิดยอมแพ้ เขากลับควบคุมมีดบินให้โจมตีต่อ
“อย่าเสียแรงเปล่าเลย”เสียงของเวอชุโอโซดังผ่านมีดบินพลังจิตนับไม่ถ้วนที่ล้อมเขา”ต่อให้เจ้าใช้พลังเทวะจนหมด การโจมตีแบบนี้ก็ไม่สามารถทำร้ายข้าได้หรอก”
ทันทีที่เวอชุโอโซพูด เขาก็ค่อยๆเดินผ่านกรงมีดบินพลังจิตออกมา
จากนั้นหลินฮวงถึงสังเกตเห็นว่าแม้มีดบินจะเจาะทะลุตัวของเวอชุโอโซโดยตรง พวกมันกลับไม่ทำอันตรายต่อเขาเลย
ด้านนอกแดนลับ เทพสวรรค์ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาเห็น
แต่บางคนกลับจ้องมองเวอชุโอโซจนตาแทบถลน
“มันคือพลังลำดับเทพ เทพอำพราง…”
“มันกลับมีคนที่ใช้พลังลำดับเทพในตำนานแบบนี้ได้จริงๆ!”
“เดิมข้าคิดว่าซิวมู่คนนี้ไร้เทียมทานแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเวอชุโอโซจะร้ายกาจยิ่งกว่า?”
สีหน้าของใต้สวรรค์ไม่สู้ดีนัก แน่นอน เขารู้ถึงพลังลำดับเทพที่เวอชุโอโซครอบครอง แต่ไม่คิดว่าเขาจะใช้มันต่อสาธารณะเช่นนี้
แต่ทว่า ตอนนี้ บนจอ เวอชุโอโซกลับหันหัวมาทางพวกเขาและฉีกยิ้มให้กล้อง”สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ตอนนี้ พวกท่านไปดูการแสดงของคนอื่นเถอะ”
ทันทีที่เวอชุโอโซพูดแบบนั้น เขาก็ดีดนิ้วและหน้าจอก็ถูกหยุดไว้ที่ภาพใบหน้าสวมหน้ากากของเวอชุโอโซ
“เปลี่ยนหน้าจอของซิวมู่กับเวอชุโอโซเป็นมุมมองอื่น!”ผู้นำนครหลวงเทพรีบสั่งการ
“ไม่มีทางเปลี่ยนได้ จอภาพใกล้เคียงทั้งหมดไม่ทำงาน!”เสียงของเจ้าหน้าที่ดังจากอีกด้านของอุปกรณ์สื่อสาร
“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไงกัน?!มันต้องใช้เวลาซ่อมนานแค่ไหน?!”ผู้นำนครหลวงเทพถามอย่างร้อนรน
“เราไม่รู้เหมือนกันครับ ตอนนี้ เราไม่แน่ใจว่ามันเกิดผิดปกติขึ้นตรงไหน เรากำลังตรวจสอบทีละจอ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าต้องใช้เวลาซ่อมนานแค่ไหน”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ สีหน้าของผู้นำนครหลวงเทพก็เปลี่ยนไป
นี่เป็นครั้งแรกที่จอภาพในแดนนักโทษลับทำงานผิดปกติ
เจ้าหน้าที่ของนครหลวงเทพประมาทไปจริงๆ
ในแดนลับ เวอชุโอโซปิดจอภาพก่อนหันมามองหลินฮวง”มันเหลือแค่เราสองแล้ว”
ทันทีที่พูดแบบนั้น เขาดูเหมือนจะนึกอะไรได้ และเหลือบมองนักโทษ”ข้าเกือบลืมไป มีบุคคลที่สามอยู่ด้วย”
หลินฮวงขมวดคิ้วเล็กน้อย”เจ้าทำอะไรลงไป?!”
“ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่ใช้ลูกไม้เล็กๆน้อยๆเพื่อปิดกั้นจอภาพชั่วคราว”น้ำเสียงของเวอชุโอโซนุ่มนวล”ในกรณีนี้ เจ้าสามารถแสดงความสามารถเจ้าได้โดยไม่ต้องรั้ง และก็ไม่ต้องกังวลว่าตัวตนจะถูกเปิดเผยด้วย”
“ข้าคิดว่าเจ้าอาจเข้าใจผิดว่าข้าเป็นคนอื่น”หลินฮวงยังอยากปิดบังตัวตนเขา เหนือสิ่งอื่นใด เขายังไม่สามารถไว้ใจอีกฝ่ายได้เรื่องการปิดกั้นจอภาพ
“ข้านะหรือ?”คิ้วของเวอชุโอโซเลิกขึ้น”เจ้ายังมีชื่ออื่น เซี่ยหลินไง แน่นอน ข้ายังรู้ว่านี่ก็ไม่ใช่ชื่อจริงเจ้าอีก ตัวตนจริงของเจ้าคือมนุษย์ เส้นทางบ่มเพาะหลักของเจ้าคือเต๋าดาบ พลังจิตก็แค่เส้นทางรอง”
“ไม่ใช่แค่นั้น แต่ข้ายังรู้บางอย่างที่แม้แต่ใต้สวรรค์จากเคียวแห่งความตายก็ไม่รู้ เจ้าคือผู้ควบคุมที่สามารถควบคุมโปรตอสได้!”
คำพูดของเวอชุโอโซทำให้สีหน้าของหลินฮวงดำมืด เขาแทบจะจินตนาการได้ถึงผลที่ตามมาถ้าเหล่าเทพสวรรค์โลกภายนอกได้ยินคำพูดนี้เข้า
“ไม่ต้องห่วง เนื่องจากข้าพูดออกมา ข้าจึงมั่นใจว่าไม่มีใครสามารถได้ยินสิ่งที่ข้าพูด”เขาพูดเสริม
“ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าเจ้าจำผิดคน”หลินฮวงยังเลือกปฏิเสธมัน เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเหล่าเทพสวรรค์จะไม่เห็นหรือไม่ได้ยินจริงๆ
“ช่างเถอะ ไม่ว่าข้าจะจำผิดหรือไม่ มันก็ไม่สำคัญ”เวอชุโอโซเข้าใจว่าหลินฮวงไม่เชื่อเขา เขาจึงไม่อยากเสียเวลาคุยเรื่องนี้ต่อ”คำขอของข้ายังเหมือนเดิม เล่นเกมกับข้าซะ”
“อย่ารีบพูดปฏิเสธ ตราบเท่าที่เจ้าผ่านเกม เจ้าจะได้รับรางวัล ข้าเชื่อว่าเจ้าจะพอใจกับรางวัลนี้”