หลินฮวงรู้สึกว่าเวลาที่ใช้กับการล่าในแดนลับผ่านไปเร็วมาก
พอเขาเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นหก มันก็เป็นสามวันสุดท้ายก่อนแดนลับจะปิดตัวแล้ว
เขาไม่ลืมเหตุผลหลักที่เข้าแดนลับครั้งนี้ มันแค่ว่าเขาไม่สามารถหาโอกาสไปพบไคลี่กับเจ้าแดงได้
เนื่องจากเขาสามารถสัมผัสพิกัดของมอนสเตอร์อัญเชิญของเขาได้ตลอดเวลา การเลือกเป้าหมายล่าตลอดครึ่งเดือนนั้นอาจดูเหมือนสุ่ม แต่จริงๆแล้ว เขากำลังมุ่งหน้าไปใกล้สองสาว
เจ้าแดงกับไคลี่สามารถสัมผัสได้เช่นกันว่าหลินฮวงอยู่ไหน พวกนางจึงล่ามาทางเขาเรื่อยๆ
วันที่สองหลังหลินฮวงเลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นหก ซึ่งเป็นสามวันก่อนแดนลับปิดตัว เขาพลันเลือกนักโทษตำแหน่งใกล้ชายแดนของอาณาเขตเทพสวรรค์ขั้นหนึ่งและสอง
ไคลี่กับเจ้าแดงเลือกนักโทษเทพสวรรค์ขั้นสองใกล้กับชายแดนเช่นเดียวกัน
ไม่ช้า เหล่าเทพสวรรค์ด้านนอกแดนลับก็สังเกตเห็นสถานการณ์ผิดปกตินี้
“เป้าหมายที่เจ้าหญิงน้อยจากเผ่าเนฟิลิกเลือกใกล้กับที่ซิวมู่เลือกมาก!”
“สองสาวคงไม่เผชิญหน้ากับซิวมู่หรอกใช่ไหม?”
“พวกอยู่ใกล้กันเกินไป มีวคมาเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองฝ่ายจะสัมผัสได้ถึงอีกฝ่ายทันทีที่คลื่นพลังจากการต่อสู้ขยายตัว ข้างสัยว่าซิวมู่จะไปตรวจสอบไหม”
“มันไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาจะพบกันไหม ผู้เข้าร่วมทั้งหมดรู้กฏการล่าในแดนลับ ความเป็นไปได้ที่ซิวมู่จะโจมตีสองสาวต่ำมาก”
แม้คนส่วนใหญ่จะเชื่อว่าหลินฮวงต้องไม่โจมตีทั้งคู่ คนของเผ่าเนฟิลิกก็มีสีหน้าไม่สู้ดี
เขาคงไม่กังวลถ้าไคลี่พบเจอกับยอดฝีมือเทพแท้จริงชั้นนำคนอื่นนอกจากซิวมู่กับเวอชุโอโซ
แต่ทว่า นางกลับโชคร้ายพอมาเจอกับซิวมู่ อัจฉริยะไไร้เทียมทานที่มีความสามารถบดขยี้เทพสวรรค์ขั้นสามอย่างสมบูรณ์
แม้กฏจะบอกว่าการโจมตีผู้เข้าร่วมไม่ได้รับอนุญาตในแดนลับ แต่เส้นแบ่งก็เลือนราง
องค์กรจะทำเป็นหลับหูหลับตาตราบเท่าที่ไม่มีใครถูกฆ่าหรือพิการ
ยิ่งไไปกว่านั้น ซิวมู่ยังสู้กับเวอชุโอโซมาแล้ว มันไม่น่าแปลกถ้าเขาจะโจมตีคนอื่น
กลุ่มเทพสวรรค์ยังคุยถึงประเด็นนี้กันนอกแดนลับ
ในขณะเดียวกัน ไคลี่กับเจ้าแดงก็ได้มาถึงอาณาเขตที่เป้าหมายอยู่และเริ่มโจมตี
การต่อสู้ระหว่างสองสาวกับนักโทษเทพสวรรค์ขั้นสองเพิ่งเริ่มได้ไม่ถึง 20 นาทีก่อนหลินฮวงจะมาถึงที่ที่เป้าหมายของเขาอยู่ด้วย เขาเริ่มการล่านักโทษเทพสวรรค์ขั้นสามทันที
ในความเป็นจริง ทั้งสามรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาอยู่ใกล้กัน
ทั้งสามไม่ทำอะไรผิดปกติ แค่ทำตัวตามปกติ
ในภาพเฝ้าระวัง มันดูราวกับพวกเขาไม่ตระหนักถึงการดำรงอยู่ของกันและกันเลย
ตามปกติ หลินฮวงเหนือกว่าศัตรูอย่างมาก ใช้เวลาแค่ 20 นาทีเพื่อฆ่าเหยื่อ
แต่ทว่า หลังฆ่าคู่ต่อสู้และเก็บศพไป เขากลับแหงนหน้าขึ้น จ้องไกลออกไป
มีประกายไฟฟ้าสีม่วงแดงส่องสว่างในเมฆ
การมองนี้ทำให้เทพสวรรค์เผ่าเนฟิลิกที่ดูอยู่ด้านนอกแดนลับตึงเครียด
เทพสวรรค์คนอื่นที่ดูการต่อสู้ต่างจ้องหน้าจอ ไม่อยากพลาดอะไรไป
ไม่กี่วินาทีต่อมา หลินฮวงก็ขยับตัว พุ่งไปทางสายฟ้าสีม่วงแดงอย่างรวดเร็ว
“ตามคาด พวกเขาพบกันแล้ว..”
บางคนในหมู่เทพสวรรค์อดถอนหายใจไม่ได้
หลินฮวงใช้เวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจเพื่อข้ามระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร
เมื่อไคลี่ยังต่อสู้กับนักโทษเทพสวรรค์ขั้นสอง เขาก็ได้เผยตัวเอง ยืนในอากาศห่างจากสนามรบไม่ถึงร้อยเมตร
เจ้าแดงพลันแหงนมองเขา สีหน้าของนางดูระแวดระวัง ทักษะการแสดงของนางสมบูรณ์แบบ
หลินฮวงเหลือบมองนางโดยไม่พูดอะไร
แต่ทว่า ไคลี่ที่กำลังสู้กลับเสียสมาธิอย่างเห็นได้ชัด
นางไม่ได้แสดงเลย นางเสียสมาธิจริงๆหลังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหลินฮวง
“การเสียสมาธิระหว่างต่อสู้ถือเป็นเรื่องผิดมหัน”หลินฮวงเตือนนาง”ไม่ต้องสนใจข้า ข้าสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานและคิดว่าจะมาหยุดตรวจสอบดู”
แม้เขาจะพูดแบบนี้ หลินฮวงก็ไม่แสดงเจตนาจะไปเลย เขากลับกอดอก ดูการต่อสู้ นั่งในอากาศ
ไคลี่รีบเพ่งสมาธิหลังได้ยินคำเตือนของหลินฮวง
ด้านนอกสนามรบ เจ้าแดงดูการต่อสู้ของไคลี่ขณะคอยคุ้มกันนาง
“เจ้าเป็นใคร?”
ทักษะการแสดงของเจ้าแดงสมบูรณ์แบบ ด้วยความที่ซิวมู่เพิ่งมีชื่อเสียงตอนเข้าร่วมแดนลับ ตามตรรกะทั่วไป นางย่อมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ทว่า ในฐานะเพื่อนคนสนิทของเจ้าหญิงน้อยเผ่าเนฟิลิก มันสมเหตุสมผลที่นอกจะไม่รู้จักใครอื่นนอกจากเทพแท้จริงชั้นนำ
“ซิวมู่จากเคียวแห่งความตาย”หลินฮวงเปิดเผยตัวตนเขาและมองเจ้าแดงด้วยรอยยิ้ม”ข้าเห็นพวกเจ้าสองด้านนอกแดนลับ เจ้าหญิงน้อยแห่งเผ่าเนฟิลิกกับเพื่อนคนสนิท”
ใบหน้าของเจ้าแดงซีดลงเมื่อได้ยินตัวตนของหลินฮวง มันดูเหมือนว่านางตกใจกับชื่อเขา อย่างไรก็ตาม นางยังรักษาสีหน้าขณะพูด”ดีที่เจ้ารู้ มันจะดีกว่าถ้าเจ้าไม่ได้วางแผนทำอะไรเรา!”
หลินฮวงผายมือสองข้างขณะยิ้ม แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีเจตนาโจมตี
แต่ทว่า เจ้าแดงก็ไม่ยอมลดความระมัดระวังลง
“สาวน้อย ข้าได้ยินว่าเจ้าหญิงน้อยกำลังจะแต่งงาน?”หลินฮวงถาม ทดสอบน่านน้ำ
“ไม่ นั่นเป็นข่าวปลอม!”เจ้าแดงปฏิเสธ ในความเป็นจริง การที่นางพูดแบบนี้ก็เพื่อประโยชน์ของหลายองค์กรที่กำลังดู”พี่สาวไคลี่ไม่ประทับใจผู้ชายโง่ๆอย่างเจ้าหรอก!นางกำลังจะเลื่อนเป็นเทพสูงสุด สิ่งมีชีวิตชั้น 6 และครองตำแหน่งอัจฉริยะสูงสุด!”
“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว..”หลินฮวงลูบคาง ดูเหมือนกำลังคิดลึก
ด้านนอกแดนลับ หลังได้ยินคำพูดของเจ้าแดง เทพสวรรค์ก็ตระหนักว่าไคลี่ไม่ตั้งใจจะแต่งงานด้วยตัวนางเอง
เทพสวรรค์เผ่าเนฟิลิกดูอับอาย โดยปกติ เขารู้ถึงแรงบันดาลใจของไคลี่ อย่างไรก็ตาม เขาก็เหมือนกับชนชั้นสูงของเผ่าเนฟิลิกและคิดว่านางไม่มีความสามาราถเช่นนั้น มีแค่การจับนางแต่งงานถึงเป็นประโยชน์ต่อเผ่ามากสุด
เหล่าเทพสวรรค์เห็นสีหน้าอึดอัดของเทพสวรรค์เผ่าเนฟิลิกและรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าการเตรียมงานแต่งนั้นขัดต่อเจตนาของไคลี่
แม้บางองค์กรจะไม่สนใจและรู้สึกว่าสิ่งที่นางต้องการไม่สำคัญตราบเท่าที่การแต่งงานเกิดขึ้น แต่องค์กรอื่นรู้สึกว่าการแต่งงานแบบโดนบังคับจะนำความโชคร้ายมาให้ พวกเขาเริ่มพิจารณาว่าควรละทิ้งแผนการขอแต่งงานหรือไม่
สิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือภายใต้กล้อง หลินฮวงได้ลอบบดขยี้การ์ดเลื่อนขั้น 5 ใบและฝังในตัวไคลี่ นี่จะช่วยให้นางทะลวงผ่านได้และประสบความสำเร็จในการเลื่อนเป็นเทพสูงสุด…
ปล.ฝากติดตามเพจแอดกันด้วยน้า จะได้ตามตอนใหม่กันทัน