หลินฮวงไม่ได้ดูการต่อสู้นานเกินไป เขายังคงล้อเล่นกับเจ้าแดงสักพักหลังลอบบดขยี้การ์ดเลื่อนขัั้นให้ไคลี่
เมื่อตะรหนักว่าเจ้าแดงกำลังแสดงท่าทางเย็นชากับเขา หลินฮวงจึงจากไป
เขาไม่ได้คุยกับไคลี่เลย
แต่ทว่า นางสัมผัสได้ถึงพลังงานที่รุกล้ำเข้าตัวนาง นางยังเข้าใจว่านางอยู่ห่างจากการเลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริงแค่ก้าวเดียว(ตอนก่อนแปลผิดเป็นเทพสูงสุด เทพสูงสุดมันชั้น 5 จิตวิญญาณแท้จริงคือชั้น 6)
ในขณะเดียวกัน อีกด้าน เจ้าแดง ผู้เพิ่งแสร้งทำเป็นเย็นชาต่อหลินฮวงยังสัมผัสได้ถึงพลังงานของการ์ดเลื่อนขั้นเช่นกัน
หลินฮวงได้บดขยี้การ์ดเลื่อนขั้นระดับ 4 ห้า ใบเข้าตัวนางด้วย
ในความเป็นจริง เจ้าแดงคือกึ่งเทพสูงสุดชั้น 4.5 และสามารถเลื่อนเป็นเทพสูงสุดได้โดยตรงด้วยความช่วยเหลือของการ์ดเลื่อนขั้น แต่ทว่า นางระงับมันไว้ นางยังไม่เลือกบุกทะลวงตอนนี้
ปัจจัยหนึ่งคือแดนลับกำลังจะปิด การเลื่อนขั้นของนางจะไม่เสร็จสมบูรณ์ แถม นางยังไม่อยากให้ใครคิดว่าการเลื่อนขั้นของนางเกี่ยวข้องกับหลินฮวง
หลินฮวงรู้สึกสบายใจขึ้นมากหลังบรรลุเป้าหมายจริงของการเข้าร่วมแดนลับ
เขาสังเกตไคลี่กับเจ้าแดง ทั้งคู่ทำได้ดีมาก พวกนางไม่โดนรังแกด้วยเผ่าเนฟิลิกนัก นั่นทำหใ้เขาโล่งใจ
เขาไม่ต้องกังวลเรื่องการแต่งงานอีก
เหตุผลก็คือไคลี่มีวัตถุดิบเลื่อนขั้นครบแล้ว ขณะที่เขาได้มอบการ์ดเลื่อนขั้นให้นาง มันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนนางจะกลายเป็นจิตวิญญาณแท้จริง นางจะต้องปิดประตูบ่มเพาะเพื่อทะลวงผ่านอย่างไม่ต้องสงสัยทันทีที่แดนลับปิดตัว
ถ้าตอนนี้ตัวตนของไคลี่ในฐานะเจ้าหญิงเป็นแค่สัญลักษณ์ ผลประโยชน์สูงสุดที่นางมีต่อเผ่าก็คือการจับแต่งงาน แต่ทว่า ไคลี่ สิ่งมีชีวิตระดับจิตวิญญาณแท้จริงจะเป็นราชินีที่แท้จริงแห่งเผ่าเนฟิลิก หรือบางทีอาจเป็นคนที่มีอำนาจเหนือเผ่าทั้งหมด
ทันทีที่นางเลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริง ชนชั้นสูงของเผ่าเนฟิลิกจะไม่คิดฝันถึงการแต่งงานอีกต่อให้พวกเขาจะปัญญาอ่อนแค่ไหนก็ตาม เหตุผลเพราะไคลี่สามารถนำทั้งเผ่าให้ก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยนางเอง
แต่งงาน?
ไม่มีโปรตอสผู้ชายคนไหนที่สามารถเทียบเคียงนางได้
เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีสิ่งมีชีวิตระดับจิตวิญญาณแท้จริงสักตนทั่วทั้งแดนเทพในยุคสมัยนี้
ทันทีที่ไคลี่ยกระดับชีวิต นางสามารถข่มอัจฉริยะได้ทั้งหมดในแดนเทพ
ในความเป็นจริง การที่เจ้าแดงเสนอให้หลินฮวงช่วยไคลี่เลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริงถือเป็นอะไรที่กล้าหาญมาก
การตัดสินใจนี้ดูเหมือนจะแก้วิกฤตทั้งหมดของไคลี่ได้ แต่ทว่า มันกลับมีความหมายลึกซึ้งและซับซ้อนที่นางไม่ได้เปิดเผยต่อหลินฮวง
อีกเรื่องคือไคลี่จะเข้าควบคุมเผ่าเนฟิลิกทันทีที่นางเลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริง ในความเป็นจริง มันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนไคลี่จะเป็นบุคคลทรงอำนาจ พอถึงตอนนั้น มันก็หมายความว่าหลินฮวงจะมีองค์กรระดับหกหรือแม้กระทั่งองค์กรระดับเจ็ดภายใต้การปกครอง
หลินฮวงไม่รู้ว่าเจ้าแดงมีความทะเยอทะยานถึงเพียงนี้
หนึ่งในเหตุผลที่เขาตกลงช่วยไคลี่ให้เลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริงก็เพื่อแก้ปัญหาการแต่งงาน ยิ่งไปกว่านั้น เขาเต็มใจที่จะเพิ่มพลังให้กับมอนสเตอร์อัญเชิญทุกตัวของเขาอยู่แล้ว
ถ้าสถานการณ์เอื้ออำนวย เขาก็กระตือรือร้นที่จะยกระดับมอนสเตอร์ทั้งหมดภายใต้เขาให้เป็นจิตวิญญาณแท้จริง หรือสูงกว่านั้น ซึ่งเป็นชั้น 7 และชั้น 8
เขาต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองในขณะนี้ นั่นเพราะความสามารถของมอนสเตอร์ไม่สามารถไล่ตามความเร็วการพัฒนาของเขาได้ มอนสเตอร์ของเขาไม่สามารถสู้กับศัตรูที่เขาพบเจอได้
ถ้าไคลี่ ไป่ แลนเซล็อตและที่เหลือสามารถเลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริงได้ จะมีงานมากมายที่เขาสามารถมอบหมายให้พวกมัน เขาจะไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองอีก
หลังพบกับไคลี่ หลินฮวงก็ลอบวางแผนทิศทางการพัฒนาของเขาต่อไป
ด้วยความที่เขากลายเป็นเทพแท้จริงขั้นหกแล้ว ระดับพลังของทาสดาบเขาจึงเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ขั้นหก เทียบกับแต่ก่อน ทาสดาบทั้ง 358 ตนของเขาถือว่าพัฒนาขึ้นมาก
เทพสวรรค์ขั้นหกสามารถช่วยเหลือเขาจัดการได้หลายเรื่อง
ต่อไปจะเป็นมอนสเตอร์อัญเชิญของเขา
ไคลี่กำลังจะเลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริงในไม่ช้า ขณะที่เจ้าแดงควรกลายเป็นเทพสูงสุด
นอกจากทั้งคู่ เขามีมอนสเตอร์อัญเชิญระดับเทพสูงสุดสามตน รวมถึงจอมสังหาร กู่หรงและเกล็ดดำ ด้วยความสามารถของทั้งสาม มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกมันที่จะเลื่อนเป็นเทพสวรรค์
มีไป่กับถังหราน(ผู้นำนิกายพันงู)ที่เป็นกึ่งเทพสูงสุด ทั้งคู่ต้องการแค่การ์ดเลื่อนขั้นระดับ 4 เพื่อเลื่อนเป็นเทพสูงสุด
ในขณะเดียวกัน ตัวตลก ชาร์โคล แลนเซล็อต ราชินีเผ่าแมลงและตัวอื่นยังเป็นระดับบรรพกาล ชั้น4 หลินฮวงพิจารณาที่จะเริ่มจัดเตรียมวัตถุดิบให้พวกมัน
เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งมีชีวิตชัน้ 4 สูญเสียสถานะที่เคยมีไปเมื่อมาถึงมหาพิภพ
นอกจากนั้น ราชาแมลงกับองครักษ์แมลงชั้น 4 กว่า 5000 ตัวภายใต้ราชินียังมีพลังต่อสู้น่ากลัวมาก แต่ทว่า หลินฮวงมีากร์ดเลื่อนขั้นไม่พอสำหรับพวกมัน พวกมันทำได้แค่พึ่งพาตัวเอง
“ข้าจะเลื่อนไป่กับถังหรานให้เป็นเทพสูงสุดก่อนเมื่อข้าออกไปจากที่นี่ จากนั้นข้าจะเตรียมวัตถุดิบเลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริงให้จอมสังหารกับที่เหลือ รวมถึงวัตถุเลื่อนเป็นเทพสูงสุดสำหรับชาร์โคลและตัวอื่น..แต่ทว่า ข้าจะต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อของเหล่านั้น อืม บางทีข้าควรปล่อยให้พวกมันล่าและหาเงินกันเอง.”
หลินฮวงคิดถึงมอนสเตอร์โดดเด่นที่ควรเรียนจากไคลี่ พวกมันควรเรียนรู้ที่จะหาวัตถุดิบเลื่อนขั้นด้วยตัวเอง เหนือสิ่งอื่นใด การจัดหาการ์ดเลื่อนขั้นให้พวกมันก็ยากพอแล้วสำหรับเขา
‘ถ้าทุกคนสามารถเป็นเหมือนไคลี่ ได้รับวัตถุดิบด้วยตัวเอง ข้าจะยกภาระออกจากบ่าขึ้นได้มาก..’หลินฮวงพึมพำเสียงเบา’ไม่เพียงข้าจะต้องจัดหาการ์ดเลื่อนขั้นให้พวกมัน แต่ข้ายินดีจะทำให้พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตชั้น 7 หรือ 8 ด้วยซ้ำ’
แม้เขาจะคิดแบบนั้น เขาก็รู้ว่ายิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงขึ้น วัตถุดิบยิ่งหายาก
ไคลี่สามารถรวบรวมวัตถุดิบเลื่อนเป็นจิตวิญญาณแท้จริงได้เพราะนางมีขุมกำลังระดับหกเบื้องหลังนาง ซึ่งเป็นเผ่าเนฟิลิก ถ้าจอมสังหารกับที่เหลือต้องหาของด้วยตัวเอง มันอาจไม่ง่ายแบบนั้น
หลังคิดกับตัวเองสักพัก ในไม่ช้าหลินฮวงก็เริ่มออกล่า
เมื่อเขาเริ่มล่า เจ้าแดงกับไคลี่ก็เพิ่งเสร็จสิ้นการล่า
สองสาวมองหน้ากันหลังเก็บศพมอนสเตอร์ไป
พวกนางไม่พูดอะไร แต่กลับลอบสื่อสารกันด้วยคลื่นเสียง
“ได้ผลไหม?”
“ได้”
“อย่าเพิ่งยกระดับตอนนี้ เจ้าต้องปิดประตูบ่มเพาะเพื่อทะลวงผ่านหลังแดนลับปิดตัว”เจ้าแดงเตือน
“ใช่ แดนลับกำลังจะปิดตัวในไม่ช้า เราไม่มีเวลาพอ และข้าก็ไม่อยากโดนจับตาดูตลอดกระบวนการวิวัฒนาการ”ไคลี่ตอบ
“ข้ามีพลังงานเข้ามาในตัวข้าเช่นกัน ข้าสามารถกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพสูงสุดได้ทุกเมื่อ”เจ้าแดงพูดเสริม
ไคลี่มองเจ้าแดงด้วยดวงตาคู่งาม นางไม่แปลกใจเลย”เราจะปิดประตูบ่มเพาะด้วยกันหลังแดนลับปิดตัว”
“ได้”
ไม่นาน ทั้งสองสาวก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง พวกนางเริ่มการล่ารอบใหม่เช่นกัน