Monster Paradise – ตอนที่ 1524

หลังให้รางวัล ใต้สวรรค์ก็ไล่ทุกคนออกไปยกเว้นหลินฮวง

ช่วงเวลาแห่งความเงียบเข้าปกคลุม ใต้สวรรค์พูดขึ้น”เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเราถึงยอมแหกกฏของเคียวแห่งความตาย และทำให้เจ้าเป็นแขกรับเชิญ?”

‘เพราะข้าโดดเด่นพอไม่ใช่เหรอ?!’หลินฮวงอยากตอบแบบนี้ แต่ทว่า เขาก็คิดว่ามันฟังดูโอหัง เขาจึงเปลี่ยนคำตอบ

 

“ข้าไม่รู้”

“ตัวตนของเจ้าเป็นภัยคุกคามต่อองค์กรส่วนใหญ่ในแดนเทพ”ใต้สวรรค์พูด”มีคนน้อยมากในแดนเพี่เต็มใจเห็นอัจฉริยะมนุษย์ถือกำเนิด”

“งั้นทำไมเคียวแห่งความตายถึงไม่คิดเหมือนกัน?”หลินฮวงไม่คิดว่าใต้สวรรค์อยากจัดการเขาด้วยการพูดแบบนี้ ถ้าใต้สวรรค์อยากลงมือ เขาคงทำไปตั้งแต่ปีก่อน

 

“เพราะเรากำลังมองปัญหาจากมิติที่สูงขึ้น”แม้ใต้สวรรค์จะไม่พูดตรงๆ คำพูดต่อไปของเขาก็ได้เผยความลับของเคียวแห่งความตาย”มนุษย์กับโปรตอสไม่ใช่ศัตรูกัน เราเป็นพันธมิตรกันในจักรวาล ด้วยศัตรูร่วมกัน”

“ศัตรูร่วมกัน?!ท่านหมายถึงสิ่งมีชีวิตหุบเหวหรือเผ่าแมลง?”

“มันเป็นอะไรที่ทรงพลังยิ่งกว่า….”ใต้สวรรค์พูดเช่นนั้น ไม่เต็มใจเปิดเผยมากกว่านี้

 

หลินฮวงขมวดคิ้วและเงียบไปสักพักหลังได้ยินคำตอบนี้ เขารู้ว่าใต้สวรรค์คงไม่บอกต่อให้เขาถามเพิ่ม เขาจึงเปลี่ยนเรื่องและถามคำถามเกี่ยวกับบางสิ่งที่เขาอยากรู้

 

“บางทีสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดที่ท่านกำลังบอกข้าสามารถอธิบายได้ถึงท่าทีเป็นมิตรของเคียวแห่งความตายและตัวท่านเองที่มีต่อข้า แต่มันไม่อธิบายว่าทำไมเคียวแห่งความตายถึงยอมแหกกฏ ไม่ว่าจะมองยังไง สิทธิ์เคียวทองที่ข้าได้รับนั้นให้ผลประโยชน์กับข้ามากกว่าที่เคียวแห้งความตายจะได้รับจากข้า”

 

“ยิ่งไปกว่านัั้น พวกท่านควรรู้ดีว่าในฐานะมนุษย์ ข้าไม่สามารถเดินเตร็ดเตร่ในแดนเทพได้ตลอด สุดท้าย ข้ายังต้องกลับโลกมนุษย์ ตัดสินจากความสัมพันธ์ปัจจุบันระหว่างมนุษย์กับโปรตอส ไม่ว่าข้าจะประสบความสำเร็จแค่ไหนในโลกมนุษย์ ข้าก็สามารถตอบแทนท่านได้น้อยมาก”
“เราไม่ได้กำลังมองที่มหาพิภพ แต่เป็นจักรวาล เจ้ามีศักยภาพที่่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับมหาเทพ(จ้าวเทวะ) ตราบเท่าที่เจ้าไม่ตาย เราจะได้พันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ตอนนั้น แม้เจ้าจะไม่ได้ตอบแทนเรา แต่การมีอยู่ของเจ้าก็สามารถป้องกันไม่ให้คนจำนวนมากตายในสงครามได้ นั่นคือคุณค่าแท้จริงในตัวเจ้า”

 

จากคำพูดเหล่านี้ ในที่สุดหลินฮวงก็ตระหนักถึงจุดยืนของเคียวแห่งความตาย เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ

 

เขาพลันนึกถึงบางสิ่ง

 

“ทำไมท่านไม่ให้การปฏิบัติแบบเดียวกันกับเวอชุโอโซล่ะ?จากที่ข้ารู้ ศักยภาพของเขาไม่น้อยไปกว่าข้าเลย”

“เขาแตกต่างจากเจ้า”ใต้สวรรค์ส่ายหัว เขาลังเลเล็กน้อยแต่ยังตัดสินใจพูด”เขาคือการกลับชาติมาเกิดของผู้ทรงอำนาจ”

 

“การกลับชาติมาเกิดอาจดูเหมือนมีศักยภาพไม่ธรรมดา แต่มีข้อจำกัดอยู่ มันยากมากสำหรับเขาที่จะก้าวข้ามผ่านระดับที่เขาเกิดมา.”

“ศักยภาพไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งสำคัญสุด เรากังวล”

“เราไม่แน่ใจว่าอดีตของเวอชุโอโซเป็นยังไง เขาจงใจปิดบังข้อมูล เราไม่สามารถหาเบาะแสเจอ เราไม่สามารถแยกความแตกต่างได้ว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรู ไม่ว่าเขาจะเคยทรงพลังแค่ไหน เราก็ไม่กล้าลากเขาเข้าแวดวงหลัก”

สิ่งที่ใต้สวรรค์พูดสมเหตุสมผล

 

หลินฮวงคิดกับตัวเองสักพักพลางขมวดคิ้วแต่ก็ไม่พูดอะไร

 

เขาตระหนักถึงภูมิหลังของเวอชุโอโซและรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือสิ่งมีชีวิตกลับชาติเกิดใหม่จริง ตัวตนของเวอชุโอโซแค่ร่างแยกเพื่อปลอบตัวเป็นการกลับชาติเกิดใหม่ของผู้ทรงอำนาจ

 

เขายังรู้ว่าเวอชุโอโซเป็นสมาชิกของสโมสร เหมือนกับเขา มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะไม่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมนุษย์และโปรตอส

 

แต่ทว่า เขาไม่สามารถบอกมันกับใต้สวรรค์ได้

 

การทำเช่นนั้นเท่ากับการเปิดเผยภูมิหลังของเวอชุโอโซ มันยังเป็นการเปิดเผยตัวตนเขาในฐานะสมาชิกสโมสรด้วย

 

ในทางกลับกัน เขายังพิจารณาว่าเวอชุโอโซน่าจะมีเหตุผลส่วนตัวที่ปิดบังข้อมูลนี้จากเคียวแห่งความตาย

 

หลินฮวงไตร่ตรองสักพักแต่ไม่แสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้

 

“ถ้าเขาพูดตรงไปตรงมากว่านี้ เขาอาจกลายเป็นพันธมิตรที่ทรงคุณค่าอีกคน”ใต้สวรรค์พูด

 

“เราจะจัดการเรื่องของเวอชุโอโซเอง เจ้าควรสนใจกับเรื่องตัวเองก่อน”ใต้สวรรค์มองหลินฮวง”ระดับพลังเจ้าเลื่อนจากเทพแท้จริงขั้นหนึ่งเป็นขั้นหกในเดือนเดียว พูดตามตรง นั่นน่ากลัวมาก อย่างไรก็ตาม ระดับพลังเจ้าถือว่าต่ำไปหากเทียบกับความสามารถเจ้า ข้าขอเสนอให้เจ้าปิดประตูบ่มเพาะเพื่อปรับรากฐานให้มั่นคงก่อนเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ อย่าเร่งรีบเข้าระดับเทพสวรรค์ ถ้ารากฐานเจ้าไม่เสถียร ปัญหาจะเลวร้ายในอนาคตและจะส่งผลต่อการเลื่อนระดับพลังในอนาคต”

 

“ข้ารู้”แม้หลินฮวงจะพูดแบบนี้ เขาก็รู้ดีกว่าใครอื่นว่าไม่มีเทพแท้จริงที่สามารถแข่งขันกับเขาได้ในแง่ของรากฐาน

 

หลังทั้งคู่คุยกันเกือบครึ่งชั่วโมง ใต้สวรรค์ก็ขอตัวลา

 

หลินฮวงยังออกจากศูนย์ใหญ่เคียวแห่งความตาย ตรงไปยังเขตดาวนักล่าปีศาจ

 

เมื่อเขาไปถึง คุณฟู่กับหลินซินก็ได้ออกสมรภูมิมังกรหุบเหวมาแล้ว ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังปิดประตูบ่มเพาะ

 

ในกลุ่มสามคน หลินซวนเป็นคนเดียวที่ยังอยู่ในสมรภูมิมังกรหุบเหว

 

ในขณะเดียวกัน กลุ่มเทพเสมือนสามคนของเฉินเตา เสี่ยวโม่กับหวงอู่จื่อก็ได้เข้าสมรภูมิมังกรหุบเหวเป็นครั้งที่สองแล้วหลังเติมเสบียง

 

หลังตรวจสอบว่าพวกเขาปลอดภัยดี หลินฮวงก็ไม่คิดไปหาพวกเขา แต่ตรงกลับไปวังจอมเทพ

 

การฝึกอู่ห่าวราบรื่นมาก อู่ห่าวเพิ่งเลื่อนเป็นจักรพรรดิ แต่เขาใช้ทักษะดาบระดับต่ำกว่าบรรพกาลที่หลินฮวงเลิกให้เขาได้หมดแล้ว

 

เขายังทะลวงผ่านแก่นแท้เต๋าดาบระดับแรก ยุทธ์แท้

 

หลินฮวงไม่ได้สอนอู่ห่าวถึงทักษะดาบระดับสูงขึ้น แต่กลับส่งทักษะดาบระดับต่ำกว่าบรรพกาลนับล้านที่ยังไม่ได้คัดเลือกให้

 

ถึงแม้เจ้าหนูนี่จะเก่งในเต๋าดาบ ทักษะดาบจำนวนนี้ก็พอให้เขาต้องฝึกไปสักพัก

 

หลังจัดการเรื่องศิษย์เขา อู่ห่าว หลินฮวงก็เข้าวังจอมเทพ

 

เมื่อเข้าข้างใน เขานั่งลงและตรวจสอบสภาพของมอนสเตอร์เขา

 

มอนสเตอร์เทพสูงสุดสามตัวของเขา จอมสังหาร เกล็ดดำ และกู่หรงได้เลื่อนเป็นเททพสวรรค์แล้ว

 

ท่ามกลางมอนสเตอร์กึ่งเทพสูงสุด เถิงหรานได้เลื่อนเป็นเทพสวรรค์เช่นกัน แต่ทว่า ไป่ยังเป็นเทพแท้จริงขั้นเก้า

 

ตัวอื่น ตัวตลก ชาร์โคล แลนเซล็อต ราชินีเผ่าแมลงกับอื่นๆได้เลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นสูง ตัวที่ระดับพลังต่ำสุดคือเทพแท้จริงขัั้นเจ็ด ส่วนระดับพลังสูงสุดคือตัวตลก ที่เลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นเก้า

 

“ข้าสามารถเริ่มเตรียมวัตถุดิบสำหรับพวกตัวตลกได้แล้ว ระดับบรรพกาลนัั้นต่ำไปหน่อย..”หลินฮวงมองการ์ดมอนสเตอร์และสายตาก็หยุดที่ไป่กับเถิงหราน

 

เขาขยับนิ้วเล็กน้อย และการ์ดมอนสเตอร์ทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นประกาย รวมกันที่ปลายนิ้วเขา

วินาทีต่อมา การ์ดสองใบก็เปลี่ยนเป็นกลุ่มก้อนแสง รวมกันเป็นสองร่าง

 

หนึ่งมีผมขาวประดุจหิมะ สวมชุดคลุมดำที่มีลวดลายสีแดงคล้ายมีชีวิต ดวงตาของเขาเป็นสีดำ เขามีผลึกสีแดงเลือดระหว่างคิ้ว ททั่วตัวของเขาปกคลุมด้วยหมอกสีแดง

 

อีกร่างมีผมสีอง ผมแต่ละเส้นให้ความรู้สึกเหมือนงูที่สามารถกินคนได้ ดวงตาของเขาเป็นรูม่านตางู ซึ่งทำให้คนที่จ้องมองกลัว การปรากฏตัวของเขาทำให้อากาศโดยรอบเย็นลง

 

“เจ้าทั้งคู่คือมอนสเตอร์กึ่งเทพสูงสุด…”การ์ดเลื่อนขั้นระดับสี่ 10 ใบปรากฏในมือหลินฮวง แต่ไป่กับเถิงหรานมองไม่เห็น”กึ่งเทพสูงสุดไม่นับเป็นอะไรในมหาพิภพ ดังนั้น เขาจึงเรียกพวกเจ้าทั้งสองมาเพื่อทำให้พวกเจ้าเป็นเทพสูงสุด”

 

สีหน้าของไป่สงบ เขารู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง

 

ในทางกลับกัน เถิงหรานกลับตกใจ แม้มันจะสื่อสารกับมอนสเตอร์ตัวอื่นระหว่างนี้และรู้ว่าหลินฮวงมีวิธียกระดับชีวิตของมอนสเตอร์เขา เถิงหรานก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับมันด้วย

 

มอนสเตอร์กึ่งเทพสูงสุดไม่ต้องใช้วัตถุดิบ พวกมันสามารถใช้การ์ดเลื่อนขั้นได้โดยตรง  ดังนั้น หลินฮวงจึงไม่ว่าอะไรที่จะให้เถิงหรานมีความอาวุโสในหมู่มอนสเตอร์

 

เขามีนิ้วทองคำ เสี่ยวเฮยอยู่แล้ว เขาจึงไม่สงสัยความภักดีของมอนสเตอร์เขาเลย

 

ขณะที่เขาบดขยี้การ์ดสิบใบในมือ การ์ดก็รวมกันเป็นลำแสงสีทองสองสาย ซึ่งเจาตะัวไป่กับเถิงหราน

 

ร่างของทั้งคู่เปลี่ยนเป็นรังไหมขนาดใหญ่สองอันด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า…

Monster Paradise

Monster Paradise

Type: Author:
800ปีก่อน มีประตูมิติกว่า3000ที่เปิดกว้างทั่วโลก ในขณะที่ดวงตาที่แตกต่างกัน3000ดวงเปิดกว้างขึ้น ฝูงสัตว์ประหลาดนับล้านก็ได้พรั่งพรูออกมาจากมัน บางตัวสามารถที่จะทำลายกำแพงเมืองด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียว : พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตเท่ายักษ์และกินมนุษย์ บางตัวจะยึดติดกับมนุษย์ พวกมันจะดูดซับสารอาหารในร่างกายและทำให้มนุษย์เป็นทาส บางตัวจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองมนุษย์ ปลอมตัวเป็นมนุษย์ธรรมดาขณะที่ดูดเลือดเพื่อความเป็นอยู่ของมัน ในเวลากลางคืน มนุษย์จะกลายเป็นด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกได้กลายเป็นสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าสัตว์ประหลาด 800 years ago, 3000 dimensional gates opened across the entire world. In that moment, it was as if 3000 different colored eyes opened across the world as hordes of monsters swarmed out of these gates like tears. Some could destroy city walls with one strike; They had bodies the size of a giant and fed on humans Some latched onto humans, absorbing their bodies’ nutrients and enslaving humans Some infiltrated the humans’ cities, disguising themselves as normal human beings while feeding upon human blood to sustain themselves. In a night, the Human race fell to the bottom of the food chain. The world had turned into a paradise for monsters…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset