“เรา…ออกดินแดนหุบเหววิบัติแล้ว?”
เวอชุโอโซถามเช่นนี้เพราะเขาสามารถสัมผัสได้ชัดว่าอารมณ์ด้านลบซึ่งปะปนอยู่รอบตัวพวกเขาตลอดเวลาได้หายไป
ในไม่ช้าคนอื่นก็สังเกตเห็นเช่นกัน
“ข้าคิดว่างั้น”หลินฮวงเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แม้เขาจะสัมผัสได้ว่าอารมณ์ด้านลบรอบตัวพวกเขาหายไป เขาก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก”เราจะไปไหนกัน?”
“เจ้าสัมผัสอะไรได้บ้าง?”เวอชุโอโซถาม
“มีกลุ่มยักษ์กินเนื้อทาง 10 นาฬิกา ประมาณ 600 กิโลเมตร”
“ทาง 11 นาฬิกา ประมาณ 1100 กิโลเมตรด้านหน้ามีป่าพิษย่อยสลาย”
“มีกลุ่มหมาไนกินศพทาง 12 นาฬิกา ประมาณ 500 กิโลเมตร”
“มีบึงหมอกพิษทาง 1 นาฬิกา ประมาณ 1300 กิโลเมตร แต่สถานการณ์แน่ชัดไม่อาจทราบ”
“ทาง 2 นาฬิกา ประมาณ 800 กิโลเมตรมีกลุ่มมอนสเตอร์วิญญาณความตายขนาดใหญ่”
“ถ้าเรามุ่งหน้าไปทาง 9 นาฬิกาและ 3 นาฬิกา เราจะกลับไปดินแดนหุบเหววิบัติ”
หลินฮวงหันไปมองเวอชุโอโซ สังเกตว่าพวกเขากำลังขมวดคิ้ว เขาจึงอถามไม่ได้”เจ้าไม่มีจุดหมายปลายทางในหัวสินะ?”
จากนั้นเวอชุโอโซถึงมองเขา”สถานที่ที่ข้าอยากไปเรียกว่าเมืองภูตผี วัตถุประสงค์ของข้าคือการปลดผนึกของผู้เฝ้าปราสาท ข้ารู้พิกัดแน่นอนของเมืองภูตผีหลายแห่ง ปัญหาคือข้าไม่แน่ใจว่าตอนนี้เราอยู่ไหน นั่นเพราะมีดินแดนวิบัติกว่าร้อยจนถึงพันในหุบเหว และยังมีวงกตแมลงปีศาจมากกว่านั้น แม้จะมีเมืองภูตผีมากมาย มันก็ไม่ง่ายที่จะพบเจอสักเมือง”
“งั้นเราควรไปทางไหน?”หลินฮวงถาม
เวอชุโอโซลังเลก่อนตัดสินใจ”บึงพิษ”
หลินฮวงอดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อได้ยินคำตอบของเขา
“เจ้าอาจอยากคิดให้ดีกว่านี้ นั่นอาจเป็นสถานที่ที่อันตรายสุดในบรรดาตัวเลือก เทคนิคตรวจจับของข้าจะโดนขวางในหมอกเช่นกัน และเราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในนั้น”
“แค่ไป เราสามารถเห็นรายละเอียดที่เหลือได้ด้วยการมองกับตาอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ทางเข้าของเมืองภูตผีมักอยู่ในที่ที่พบได้ยาก”เวอชุโอโซนั้นไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว”ถ้ามีเมืองภูตผีแถวนี้จริง ทางเข้าน่าจะอยู่ในบึง มาลองเดิมพันกัน!”
“พวกเจ้าทุกคนคิดว่าไง?”หลินฮวงเหลือบมองคนอื่น
“เนื่องจากเมืองภูตผีคือจุดหมายเรา ไม่ว่ายังไง เราก็ยังต้องหาทางเข้าให้ได้ ตำแหน่งทางเข้าอื่นอาจไม่ปลอดภัยพอๆกับบึงอยู่แล้ว”สิ่งที่หลานหลิงพูดเป็นสิ่งที่หลินฮวงไม่คาดคิด
สำหรับเขา นางเป็นเด็กสาวขี้อาย
“ข้าคิดว่าหลานหลิงพูดถูก”ถูทงเห็นด้วยทันที
“ไปกันเถอะ”จิ่วเจี้ยนตรงไปตรงมากว่า
เนื่องจากเขาเห็นว่าทุกคนตกลงกันได้แล้ว หลินฮวงจึงไม่ค้านอีก
เขาไม่กังวลเลยว่าเขาอาจตาย เหนือสิ่งอื่นใด เขามีความสามารถจากสวรรค์แห่งมอนสเตอร์ ตราบเท่าที่เขาไม่โดนจ้าวเทวะฆ่า เขาจะคืนชีพมาพร้อมพลังเต็มที่
เขาตั้งใจหยิบยกประเด็นนี้ตั้งแต่แรกเนื่องจากเขากังวลว่าถูทงกับหลานหลิงอาจไม่มีความสามารถพอ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้งสองเห็นด้วย เขาจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
หลังกำหนดทิศทางได้ พวกเขาก็ตรงไปบึงหมอก
“เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรา ในความเป็นจริง มีบึงหมอกเช่นนี้มากมายในหุบเหว มันไม่ควรเป็นปัญหาตราบเท่าที่เราระวัง”หลานหลิงพูดกับหลินฮวงผ่านคลื่นเสียงขณะที่เดินทาง”นอกจากนี้ คาถาตรวจจับข้ายังได้ผลดีในพื้นที่หมอกแบบนั้น”
หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ตอบ
ทั้งหมดรีบเดินทางและในไม่ช้าก็ถึงบึงหมอกที่หลินฮวงพูดถึงก่อนหน้านี้
หมอกขาวปกคลุมพื้นที่สุดลูกหูลูกตา หนาเท่าเมฆ
พวกเขาไม่สามารถเห็นอะไรได้เลย
ถ้ามีใครเดินเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ทว่า พวกเขาอาจตกลงในบึงทันทีและโดนพิษกัดกร่อนจนตาย
พวกหลินฮวงจึงหยุดตรงหน้าหมอก
เวอชุโอโซกับคนอื่นมองหลานหลิง
นางเองก็ตระหนักว่ามันถึงเวลาที่นางต้องแสดงความสามารถ
นางถกแขนเสื้อสองข้างขึ้น ประสานมือเป็นชุดกันอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมา อักขระคล้ายงูตัวเล็กก็ปรากฏบนแขนนางทันที เลื้อยคลานอย่างรวดเร็วเหมือนพวกมันมีชีวิต
นางกดฝ่ามือสองข้างลงบนพื้นและอักขระก็เริ่มมุดลงดิน
หลังจากนั้น นางก็นั่งสมาธิและหลับตา
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดหลานหลิงก็ลืมตาขึ้นช้าๆ แต่ทว่า นางอดขมวดคิ้วไม่ได้”เทคนิคตรวจสอบของข้าพบว่ามีการขวางในพื้นที่หมอกนี้”
“เจ้าตรวจสอบได้ไกลแค่ไหน?”เวอชุโอโซถามทันที
“ระยะทางนั้นสั้นกว่าวงกตแมลงปีศาจ มากสุด 10 กิโลเมตร”หลานหลิงพูด”หมอกนี้ดูเหมือนจะมีความสามารถดูดซับคาถาและหักเหพวกมัน ยิ่งข้าตรวจสอบ คาถาของข้ายิ่งเสื่อมเร็ว”
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด คาถาเจ้าไม่ใช่สิ่งเดียว”หลินฮวงปล่อยจิตเทวะออกมาขระพูด ตามคาด มันประสบกับการขวางกั้นอย่างรุนแรง
เขาสามารถสัมผัสได้ชัดว่าหมอกกำลังดูดซับพลังจิตเทวะเขา เมื่อจิตเทวะเขาโดนหมอกกลืน มันจะหายเข้าไปอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งการตอบรับข้อมูลก็ยังได้รับผลกระทบด้วย
“ข้าไม่สามารถใช้จิตเทวะได้เช่นกัน”หลินฮวงรายงานผลการทดลองของเขา จิตเทวะของเขาสามารถขยายได้เพียงประมาณพันเมตรในหมอกนี้
เวอชุโอโซกับคนอื่นพยายามใช้จิตเทวะพวกเขาเช่นกันหลังได้ยินสิ่งที่หลินฮวงพูดและได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
“เราทำได้แค่พึ่งพาเจ้าแล้ว”ถูทงยิ้มให้หลานหลิง
“นำทางเลย เสี่ยวหลานหลาน”เวอชุโอโซหันไปมองหลานหลิงเช่นกัน
นางพยักหน้าทันที”เข้าไปในบึงจากทาง 12 นาฬิกา และตรงไปเรื่อยๆ”
“แต่ระวังตัวด้วย บึงเต็มไปด้วยคางคกและกบลูกศรพิษจำนวนมาก ถ้าเราโดนโจมตี มันคงไม่คุกคามชีวิต แต่ถ้าเราเกิดตกลงไปในบึง มีโอกาสสูงที่เราจะแปดเปื้อนด้วยพลังงานหุบเหวหนาแน่นและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตหุบเหว”
“อย่าทำให้มันฟังดูน่ากลัวนักสิ?”ถูทงฝืนยิ้ม”สถานที่นี้อันตรายมากพอแล้ว พอเจ้าพูดแบบนี้ ข้ายิ่งไม่อยากเข้าไป”
“แล้วสภาพหุ่นเจ้านั่นมันอะไร!”หลานหลิงเม้มปาก”เจ้าดูดี แต่ไร้ประโยชน์”
“ข้าจะนำทางเอง”หลินฮวงอาสา
เขาไม่ทำเช่นนี้เพื่ออวดแต่เขาครอบครองกระจก เทคนิคป้องกันที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
ถ้าเขานำ นี่จะช่วยลดการสูญเสียของสมาชิก
“เราสองจะอยู่แนวหลัง”จิ่วเจี้ยนพยักหน้า
โดยปกติ เขาหมายถึงเขากับเวอชุโอโซตอนพูดว่าเราสอง
เมื่อทั้งสามรับตำแหน่ง อีกสองจึงย่อมต้องยืนตรงกลาง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยสุด