หลินฮวงก้าวไปข้างหน้าและปรากฏบนหลังนกกระดูกทันที
เมื่อเห็นแบบนั้น ทุกคนก็คิดว่านกกระดูกจบสิ้นแล้ว ไม่ใช่กับแค่ตัวนกกระดูกเอง
ผู้สังเกตการณ์หลายคนลอบรำพึงว่านกโง่นี้พรากชีวิตตัวมันโดยไม่สามารถใช้สมองมันได้ แม้กระทั่งพยายามโกหก
แต่วินาทีต่อมา ทุกคนก็เห็นนกกระดูกกระพือปีกมัน นำชายชุดคลุมดำแสนลึกลับไปด้วย…
ทั้งหมดที่เหลือคือผู้สังเกตการณ์ที่ยืนจ้องหน้ากัน
“เกิดอะไรขึ้น?ชายชุดดำเชื่อคำพูดไร้สาระของนกโง่นั่นจริงๆ?”
….
สถานที่ที่นกกระดูกอาศัยอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าและออกของโลกภายนอก ห่างไม่ถึงห้านาที ในความเป็นจริง มันอยู่ด้านบนอาคาร
หลินฮวงมองหลังคายุบของอาคารสูงสองหรือสามชั้นและพบว่ามันน่าจะเป็นรังที่นกกระดูกใช้อาศัย มันถึงกับทำให้หลังคาเป็นรูปทรงของรังเพื่อหลับนอน
“ผะ-ผู้อาวุโสต้องการให้ข้าทำอะไร?”แม้มันจะตัวใหญ่กว่าหลินฮวงเป็นสิบเท่า นกกระดูกก็ยังเชื่อฟังเขาเหมือนลูกศิษย์ตัวน้อยๆ
เหนือสิ่งอื่นใด เขาฆ่ามอนสเตอร์ลูกตาด้วยการโจมตีครั้งเดียวและความสามารถมันก็ไม่ได้เหนือไปกว่ามอนสเตอร์ลูกตาเลย
“เทพแท้จริงขั้นแปด..”จากระยะประชิด หลินฮวงได้สำรวจนกกระดูก ทำให้มันตื่นตระหนก”ข้าเดาว่าเจ้าคงอยู่ในนี้มาหลายปีแล้วสินะ?”
“มะ-มันแค่ไม่กี่ปีเองครับ”นกกระดูกลังเลแต่ก็พยักหน้าอยู่ดี
“ยอดเยี่ยม”ทันทีที่หลินฮวงพูดจบ รูม่านตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ตัวของนกกระดูกแข็งค้าง ดวงตาสีแดงมันยังกลายเป็นสีดำสนิทด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
จากที่หลินฮวงเห็นมัน แม้ความสามารถของนกกระดูกจะเป็นค่าเฉลี่ย แต่มันก็ยังเป็นเทพแท้จริงขั้นแปด ยิ่งไปกว่านั้น มันอยู่ในโลกภายในมาหลายปี ความรู้มันของโลกนี้สูงกว่ามอนสเตอร์ตะกอนมาก
ดังนั้น เขาอ่านความทรงจำของนกโดยตรงโดยไม่ลังเลเลย
อาจบอกได้ว่าแม้นกกระดูกตัวนี้จะไม่ฉลาดนัก หลินฮวงก็ดึงข้อมูลเป็นประโยชน์ได้มากจากความทรงจำมัน เรื่องมากมายที่มอนสเตอร์ตะกอนไม่ค่อยรู้กลับเป็นสิ่งที่มันรู้ดี
ยังมีข้อมูลที่หลินฮวงอยากรู้ด้วย
มันคือข้อมูลที่น่าจะเกี่ยวข้องกับผู้สร้างเมืองภูตผี!
ในความทรงจำของนกกระดูก หลินฮวงพบเรื่องเล่าที่ปรากฏในตำนาน
ในยุคโบราณ มีผู้ทรงอำนาจสามคนที่เผยแพร่เคล็ดบ่มเพาะและก่อตั้งโลกภายในนี้
สามผู้ทรงอำนาจคือมังกรทอง ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่มีความงามไร้ใครเทียบเคียง และพระพุทธศาสนาตันตระ
แต่ทว่า นอกจากเรื่องเล่ามากมายภายในตำนาน ไม่มีข้อมูลอื่นเกี่ยวกับทั้งสาม
ตามความทรงจำของนกกระดูก โลกภายในไม่มีเจ้าของ เจาะจง มีแค่ยอดฝีมือระดับเทพแท้จริงขั้นเก้า 6 คนคอยดูแล
‘ตำนานเล่าว่าสามผู้ทรงอำนาจได้สร้างโลกภายในขึ้น จึงมีโอกาสที่ผนึกเจ้าปราสาทจะแบ่งเป็นสามส่วน ตอนนี้ที่มีหกคนดูแล มันเป็นไปได้สูงว่าผนึกจะอยู่กับสามในหกคนนั้น’หลินฮวงลอบวิเคราะห์ผู้ครอบครองผนึก ‘แต่ทว่า มันไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ว่าตำนานจะถูกสร้างเพื่อปกปิดความจริง ในความเป็นจริง ทั้งหมดอาจครอบครองชิ้นส่วนผนึกเจ้าปราสาท..’
‘ยังมีความเป็นไปได้ที่ว่าทั้งหกต่างไร้ผนึก พวกเขาเป็นแค่เหยื่อล่อที่ผู้ถือผนึกตัวจริงสร้างขึ้นมา..’
ถึงแม้จะทำการวิเคราะห์ หลินฮวงก็ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน
‘แม้ข้าจะไม่สามารถแน่ใจได้ว่าใครคือผู้ถือผนึก อย่างน้อยมันก็มีเบาะแสใหม่..’
หลินฮวงตั้งเป้าไปที่ราชาโลกภายในทั้งหก ต่อให้พวกเขาไม่มีชิ้นส่วนผนึกกับตัว เขาก็มั่นใจว่าพวกเขาต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับผนึกเจ้าปราสาท
แต่ทว่า หลินฮวงไม่ตั้งใจใช้กำลังกับทั้งหก เขามีแผนอื่น
เมื่อดวงตาสีดำสนิทของเขาหายไป นกกระดูกก็ค่อยๆได้สติ
พอหัวมันโล่งอย่างสมบูรณ์ หลินฮวงก็ได้หายไปจากสายตามันแล้ว
“เขาไปไหน?”นกกระดูกกวาดตามอง แต่ไม่เห็นหลินฮวง”เกิดอะไรขึ้น?”
มันนึกย้อน แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้า มันจำได้เลือนรางว่ามีวังวนคล้ายหลุมดำที่ดูเหมือนจะปรากฏใต้ฮู้ดดำ…
เนื่องจากนกกระดูกนึกไม่ออก มันจึงไม่คิดเสียเวลาใช้เซลล์สมองแสนน้อยนิดของมัน มันสะบัดหัว ขับไล่ความทรงจำเหล่านี้ถึงไปหลังหัว
ในโลกภายใน สองวันผ่านไปราวกับโกหก
หลินฮวงมาถึงตึกที่สูงสุดในย่านใจกลางเมือง
เขาหาที่นั่งที่ร้านอาหารเปิดโล่ง สั่งเครื่องดื่ม รอจิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซอย่างอดทน
สองวันก่อน ทั้งสามตกลงมาพบกันภายใต้ตึกที่สูงสุดที่นี่
แม้พวกเขาไม่รู้ในตอนแรกว่าเมืองภูตผีมีโลกพื้นผิวกับโลกภายใน หลินฮวงก็รู้ว่าเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนต้องมาตึกนี้ในโลกภายในแทนตึกบนโลกพื้นผิว
ตามคาด จิ่วเจี้ยนปรากฏใต้ตึกไม่นานหลังจากนั้น
หลินฮวงมองเขา ราวกับสัมผัสได้ถึงสายตาเขา จิ่วเจี้ยนหันไปมองทางหลินฮวงเช่นกัน
เมื่อสังเกตเห็นหลินฮวง จิ่วเจี้ยนก็เดินตรงไปโต๊ะที่เขากำลังนั่งโดยไม่ลังเล จากนั้นก็นั่งตรงข้ามหลินฮวง
“เจ้าจะสั่งอะไร?”หลินฮวงถามด้วยรอยยิ้ม
จิ่วเจี้ยนมองแก้วกาแฟตรงหน้าหลินฮวง”เหมือนกับเจ้าละกัน”
พนักงานนำกาแฟมาให้จิ่วเจี้ยนในไม่ช้าและทั้งคู่ก็คุยกันขณะดื่ม พวกเขาไม่พูดถึงผนึกเจ้าปราสาทเลย
เวอชุโอโซยังมาไม่ถึง มันจึงไม่สมเหตุสมผลที่พวกเขาจะรีบคุย
หลังพวกเขาคุยกันสักพัก หลินฮวงก็ตระหนักว่าเขาดื่มกาแฟหมดแล้วและก็อดเหลือบมองเวลาไม่ได้”มันเกือบถึงเวลาที่เราตกลงกันแล้ว เขาจะมาสายอีกแล้วงั้นเหรอ?”
จิ่วเจี้ยนพูดอย่างเคืองๆ”แทนที่จะเลือกนิสัยดีๆของร่างต้น มันกลับเลือกนิสัยแย่ๆ!”
โชคดี เวอชุโอโซมาตรงเวลา
เขามาถึงตอนเก้าโมงตรง
เขาจับสายตาของหลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนได้ทันที รีบเดินมาหาทางคู่ นั่งลงโดยไม่มีการทักทาย
“วันนี้เจ้ามาตรงเวลานะ”หลินฮวงแสดงความคิดเห็น
“แน่นอน ข้าบอกว่าข้าจะมาที่นี่เก้าโมง ข้าก็มาเก้าโมงตรงพอดี!”เวอชุโอโซตอบด้วยน้ำเสียงดีใจกับความสำเร็จของตัวเองมาก
“ข้าสงสัยว่ามันเป็นใครที่ไม่เคยตรงต่อเวลาแม้จะตกลงเวลากันแล้วก็ตาม”จิ่วเจี้ยนกระชากพรมออกจากใต้เท้าเวอชุโอโซแบบไม่ใยดี
เวอชุโอโซเมินคำดูถูกของจิ่วเจี้ยน และพูดกับทั้งสอง”มาเข้าเรื่องกันเลยเถอะ”
เมื่อเห็นว่าเวอชุโอโซจริงจัง จิ่วเจี้ยนจึงยอมปล่อยวาง
“การสอบสวนของพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?บอกข้ามาทีละเรื่อง”เวอชุโอโซตรงเข้าประเด็น