ทันทีที่สี่หน้าพูด ทั้งป่าทึบภายในรัศมีพันกิโลเมตรก็ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมา เถาวัลย์นับไม่ถ้วนผุดจากกิ่งไม้ ตวัดใส่ผู้คนรอบป่า
การโจมตีของเก้าเถาวัลย์ความเศร้ามาโดยไม่มีการเตือน ฟากฟ้าพลันปกคลุมด้วยเถาวัลย์ที่บดบังแสงอาทิตย์ กระจายไปทั่ว
เทพสวรรค์ขั้นสูงนับร้อยที่เดิมยังยืนไม่มีเวลาตอบสนองเลย บางคนโดนเถาวัลย์แทงทั้งตัว กลายปเนมนุษย์รู คนอื่นโดนเถาวัลย์บีบรัดจนระเบิด
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที กองทัพนับพันก็โดนกวาดล้างจนสิ้น
ในโลกที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์ มีเพียงคนสี่คนที่ยังไม่สะทกสะท้าน พวกเขาไม่ขยับเลยแม้แต่ครึ่งก้าว
การโจมตีของเก้าเถาวัลย์ไม่ร้ายกาจพอจะรบกวนทั้งสี่ ผู้ที่มีพลังระดับกึ่งจ้าวเทวะเหมือนเขา
“เก้าเถาวัลย์ การโจมตีนี้ของเจ้าอาจจัดการพวกผู้เยาว์ได้ แต่การใช้กับเรา เจ้าไม่คิดว่าเจ้าประเมินเราต่ำไปหรือ?”เสียงคล้ายเนื้อเบียดกันของเนื่อเยื่อยักษ์ดังขึ้น เขาดูเหมือนจะไม่ใส่ใจการโจมตีของศัตรูเขาเลย
ตอนนั้นเอง เนตรเพลิงผู้ยืนอยู่ด้านข้างพลันร้องเตือน
“ระวัง!”
ก่อนเขาจะพูดจบ พวกเขาก็เห็นเถาวัลย์หนาที่เกิดจากเถาวัลย์นับร้อยบิดรัดกันพลันพุ่งขึ้นจากใต้ดิน มันเปลี่ยนเป็นตาข่ายยักษ์ที่ห่อหุ้มนางพญางูสามหางไว้
ก่อนคนอื่นจะได้ช่วยเหลือ ตาข่ายยักษ์ก็ลากนางพญางูสามหางลงใต้ดินไปแล้ว
แสงสีแดงไหววูบในดวงตาของเกราะเงิน ขณะที่เขากำลังจะพุ่งเข้าส่วนลึกของป่า เขาก็เห็นเทพสวรร์นับพันที่ล้มลงพื้นลุกขึ้นทีละคน
นี่คือเทคนิคของเก้าเถาวัลย์ความเศร้า การหว่านเมล็ดพันธุ์ปีศาจ
เขาสามารถฝังเมล็ดพันธุ์ปีศาจลงในศพ เปลี่ยนพวกมันเป็นหุ่นเชิดของเขา
ศพที่โดนฝังเมล็ดพันธุ์ปีศาจจะไม่เพียงสืบทอดความสามารถส่วนใหญ่ตอนยังมีชีวิตแต่ยังมีความสามารถมากมายของเก้าเถาวัลย์ด้วย พวกมันจะทรงพลังกว่าตอนมีชีวิตและถือเป็นร่างแยกของเก้าเถาวัลย์
ยิ่งไปกว่านั้น ตราบเท่าที่เมล็ดพันธุ์ปีศาจไม่โดนทำลาย หุ่นเชิดก็จะไม่ตาย
พวกมันจะลุกขึ้นสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า
เกราะเงินบดขยี้หุ่นเชิดทีละตัวด้วยหมัด แต่ทว่า ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าศพ ซึ่งเปลี่ยนเป็นกองเลือดกำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และกลับสนามรบอย่างรวดเร็ว
ด้านข้าง เนื้อเยื่อยักษ์กับเนตรเพลิงกลายเป็นตระหนักถึงปัญหานี้เช่นกัน
ไม่ว่าพวกเขาจะฆ่าหุ่นเชิดเหล่านี้ไปกี่ครั้ง พวกมันก็จะฟื้นกลับมาและเข้าร่วมสนามรบใหม่
ในบรรดาทั้งสาม ที่ทำตัวไม่ถูกสุดคือเนตรเพลิง ด้วยการใช้พลังจิต มันบดขยี้วิญญาณของหุ่นเชิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ดวงวิญญาณพวกมันมักกลับมาใหม่
หลังต่อสู้อยู่ประมาณสิบกว่านาที เกราะเงินก็ทนไม่ไหวอีกและใช้อาวุธ
โดยปกติ เขาจะไม่เอาจริงตอนรับมือกับพวกลิ่วล้อ แต่ทว่า การต่อสู้ไม่รู้จบทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริงๆ เขาคว้าอาวุธของเขาออกมา หอกมังกรดำ!
ระดับของหอกมังกรดำนั้นเหนือกว่าสมบัติเทพสวรรค์ทั่วไปจนถึงจุดที่มันสามารถถือได้ว่าเป็นอาวุธกึ่งเซียน
อาจกล่าวได้ว่าเกราะเงินจะเอาจริงอย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเขากวัดแกว่งหอกมังกรดำ
ด้วยการสะบัดอาวุธเขา เขาสามารถกำจัดหุ่นเชิดได้อย่างสมบูรณ์
หลังการโจมตีนี้ ในที่สุดหุ่นเชิดก็ไม่คืนชีพ
สุดท้ายเกราะเงินก็พบวิธีฆ่าหุ่นเชิดกลุ่มนี้ ทันใดนัน้ มันก็สื่อสารกับราชาอีกสองผ่านคลื่นเสียง
“ข้ารู้ปัญหาแล้ว เราต้องทำลายร่างกายพวกมันให้สมบูรณ์ ไม่ให้เหลือเนื้อหรือเลือดแม้แต่เสี้ยวเดียว”
อันที่จริง เกราะเงินยังพบกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหา เพื่อสู้กับเทคนิคหุ่นเชิดนี้ พวกเขาต้องทำลายเมล็ดพันธุ์ปีศาจที่ฝังในตัวหุ่นเชิด
นอกจากนี้ เมล็ดพันธุ์ปีศาจที่เก้าเถาวัลย์ฝังไว้ยังมีสัญชาตญาณเอาตัวรอดสูง พวกมันจะซ่อนในจุดที่ปลอดภัยเองตอนโดนโจมตี
ต่อให้มีแค่เลือดสักหยดหลงเหลือ เมล็ดพันธุ์ปีศาจก็จะซ่อนตัวในนั้นได้และรอด จากนั้นพวกมันก็จะฟื้นคืนชีพ
นี่เป็นสาเหตุให้พวกหุ่นเชิดสามารถคืนชีพได้แม้พวกเขาจะบดขยี้พวกมันไปแล้วก็ตาม
ทางเดียวที่จะทำลายเมล็ดพันธุ์ปีศาจในตัวหุ่นเชิดได้คือกำจัดทั้งร่างกายและวิญญาณของหุ่นเชิดอย่างสมบูรณ์ ทำให้มันเสียร่างสิงสถิต โดยปราศจากร่างกาย เมล็ดพันธุ์ปีศาจที่เก้าเถาวัลย์ฝังไว้ก็จะอ่อนแออย่างมาก เทพสวรรค์ขั้นสูงคนใดก็สามารถทำลายพวกมันได้
หลังได้รับทางแก้จากเกราะเงิน เนื้อเยื่อยักษ์กับเนตรเพลิงก็เข้าสู่โหมดสังหาร
“ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็ง่าย!”
หนวดของเนื้อเยื่อยักษ์ขยายออกไปอย่างบ้าคลั่ง หนวดเหล่านี้ที่ประทับด้วยพลังลำดับเทพสามารถทำลายหุ่นเชิดได้ง่ายๆ
ร่างกายของหุ่นเชิดเทพสวรรค์สลายไปอย่างรวดเร็ว
อีกด้าน ดวงตาเล็กๆนับไม่ถ้วนของเนตรเพลิงสว่างวาบ และรังสีสีดำก็พุ่งออกมาทีละหนึ่ง ห่อหุ้มหุ่นเชิดไว้
รังสีสังหารมีความสามารถทำลายล้างสูง เปลี่ยนหุ่นเชิดเป็นเถ้าถ่านภายในชั่วพริบตา
…
ขณะที่โลกภายนอกกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด ในส่วนลึกของป่าทึบ นางพญางูสามหางได้หลบหนีจากเงื้อมมือของตาข่ายยักษ์แล้ว
ในขณะเดียวกัน ศัตรูที่ทรงพลังทั้งสองกำลังยืนต่อหน้านาง มันคือสี่หน้ากับเก้าเถาวัลย์
“สามหาง ข้าไม่อยากสู้กับเจ้า ข้าจะมอบทางเลือกให้เจ้าสองทาง เข้าร่วมกับเราเพื่อสู้กับทั้งสาม หรือเจ้าจะหนีไป สาบานว่าจะไม่มีวันเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อชิ้นส่วนผนึกเจ้าปราสาท!”สีหน้าไม่โจมตีทันที
“แล้วถ้าข้าไม่เลือกละ?”นางพญางูสามหางยิ้มเย็น
“งั้นก็ตาย!”เก้าเถาวัลย์ไม่มีความอดทนที่จะเสียเวลากับนาง เขาสัมผัสได้ว่าหุ่นเชิดเหล่านั้นกำลังตาย และคงถ่วงเกราะเงินกับอีกสองไว้ได้ไม่นาน
โดยไม่รอให้สี่หน้าพูดอะไรเพิ่ม เก้าเถาวัลย์โจมตีโดยไม่ลังเล
เถาวัลย์พุ่งเข้าหานางเหมือนคลื่นสึนามิ หนาแน่นจนแทบบดบังท้องฟ้า
เก้าเถาวัลย์จับนางพญางูสามหางไว้ก่อนเพราะนางอ่อนแอสุดในบรรดาหกราชา หลังจับนางเป็นตัวประกัน เขากลับคาดไม่ถึงว่าสี่หน้าจะยังสนใจเรื่องความสัมพันธ์แทนที่จะร่วมมือกันฆ่านาง
โชคดี สี่หน้าไม่หยุดตอนเก้าเถาวัลย์โจมตี
ร่องรอยความลังเลแวบผ่านตาเขาชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นความมุ่งมั่น
พริบตาต่อมา ตอนเก้าเถาวัลย์โจมตี สี่หน้าก็ลงมือเช่นกัน
อสูรยักษ์สิบสองแขนก่อตัวกลางอากาศเหนือหัวเขา ชกหมัดหนักมาพร้อมกับเถาวัลย์
ดวงตาของนางพญางูสามหางเปลี่ยนเป็นสีดำ และแยกร่างออกเป็นสามร่าง
ร่างหนึ่งอัยเชิญน้ำดำที่ปกลุมอากาศ อีกร่างเปิดปาก พ่นหมอกม่วงไร้สิ้นสุดออกมา ขณะที่อีกร่างเปลี่ยนเป็นงูดำขนาดยักษ์ หางใหญ่ของมันฟาดใส่หมัดยักษ์เหล่านั้น
เถาวัลย์นับไม่ถ้วนเน่าสลายและโดนทำลายเมื่อใดก็ตามที่สัมผัสกับน้ำดำ
หางของงูยักษ์ปะทะกับหมัดยักษ์เสียงดังสนั่น สร้างเป็นพายุลมแรง
แต่ทว่า ปริมาณของน้ำดำก็ไม่พอที่จะเอาชนะความสามารถฟื้นฟูของเถาวัลย์ สุดท้าย เถาวัลย์ก็คลุมน้ำดำจนหมด
อีกด้าน หางงูยักษ์ยังโดนต่อยอย่างต่อเนื่อง
นางพญางูสามหางอ่อนแอสุดในบรรดาหกราชาในแง่ความสามารถ นางมีแนวโน้มที่จะแพ้มากกว่าชนะเมื่อต่อสู้กับราชาคนใดคนหนึ่ง นับประสาอะไรกับสองคนพร้อมกัน
ตามคาด นางใกล้แพ้หลังสู้ได้ไม่ถึงห้านาที
ความจริงแล้ว นางตระหนักดีถึงความอ่อนแอของนาง ดังนั้น นาทีสุดท้ายที่นางเห็นว่านางเสียเปรียบ นางจึงเลือกละทิ้งการต่อต้านอย่างสิ้นเชิง นางสลายร่างแยกทั้งสองของนาง และหนีเข้าหมอกม่วงเพื่อซ่อนตัว…