พอสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของเนื้อเยื่อยักษ์กับสี่หน้าทยอยหายไป เกราะเงินก็เริ่มกระวนกระวาย
เขารู้สึกว่าเขาต้องเร่งการทำลายเถาวัลย์และปะทะกับเก้าเถาวัลย์ตรงๆ
เขารู้ว่าถ้าเรื่องนี้ยื้อออกไป นางพญางูสามหางอาจตาย
มันไม่ใช่ว่าเขามีความรู้สึกผูกพันกับนางพญางูสามหาง แต่เขารู้ว่าเก้าเถาวัลย์ทรงพลังมาก เกราะเงินไม่มั่นใจว่าเขาจะเอาชนะได้ เขาหวังว่านางพญางูสามหางจะรอดและเข้าร่วมการต่อสู้กับเขา
ขณะที่ความคิดล่องลอย ความผันผวนการต่อสู้รุนแรงพลันมาจากระยะไกล
‘ทางนั้น-ไม่ใช่ว่าเป็นทางที่เก้าเถาวัลย์กำลังปกป้องหรือ—‘เกราะเงินหยุดก้าวเดินสักพักขณะเร่งไปทางที่เก้าเถาวัลย์กำลังปกป้อง’อย่าบอกข้านะว่านางพญางูสามหางหนีไปแล้ว?!’
ทั้งเขตแดนเทพ ตอนนี้มีแค่ทั้งสามที่ยังอยู่ เก้าเถาวัลย์ นางพญางูสามหางกับตัวเขาเอง
เขาไม่พบศัตรูอื่นใด ดังนั้นการต่อสู้ตอนนี้จึงเป็นแค่ระหว่างเก้าเถาวัลย์กับนางพญางูสามหาง
ทันทีที่เขาตระหนัก เกราะเงินก็ไม่ลังเลอีก เขาหมุนตัวและฝ่าชั้นเถาวัลย์ พุ่งไปทางการต่อสู้ เขาอยากผนึกกำลังกับนางพญางูสามหางก่อนนางจะตาย
แต่ทว่า ไม่นานนัก ความผันผวนการต่อสู้รุนแรงก็หยุด
หัวใจของเกราะเงินเต้นผิดจังหวะ
‘นางพญางูสามหางตายแล้ว?!’
ความสามารถของนางพญางูสามหางอ่อนแอสุดในบรรดาหกราชา ความอ่อนแอนี้ไม่ใช่แค่ในด้านความสามารถของนาง แต่เป็นทุกด้าน โดยปราศจากคนรักทั้งสอง สี่หน้ากับเกราะเงิน นางคงไม่สามารถรั้งตำแหน่งหกราชาได้ด้วยความสามารถของนาง
พูดตามตรง เกราะเงินไม่แปลกใจเลยที่นางจะโดนเก้าเถาวัลย์ฆ่าในเวลาอันสั้นเช่นนี้ มันแค่ว่าความผันผวนการต่อสู้นั้นหยุดลงกะทันหันไป
‘ไม่ นี่ไม่ถูก-กลิ่นอายของนางพญางูสามหางยังไม่สลายไป!’เกราะเงินตอบสนองทันที
แต่ว่า ความผันผวนพลังงานรุนแรงอีกระลอกก็มาจากทางอื่นแทบทันที
ทางอื่นที่ว่านั้นคือที่ที่เก้าเถาวัลย์อยู่ตั้งแต่ต้น
แม้เกราะเงินจะคิดไม่ออกอย่างสิ้นเชิงว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ยังหันไปทางนั้นโดยไม่ลังเลและเริ่มบุกฝ่าดงไปป
ด้วยความร้อนรน เขาจึงพุ่งปางความผันผวนพลังงานนั้น หลบหลีกเถาวัลย์ที่ขัดขวางเขา
เขาสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของนางพญางูสามหางเพิ่งเริ่มตกฮวบและอ่อนแอหลังคลื่นพลังงานระลอกสุดท้าย
‘ความผันผวนการต่อสู้ทีท่กินเวลาเกินกว่าสิบนาททีจะไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างเก้าเถาวัลย์กับนางพญางู มันต้องเป็นที่นี่แหละ คลื่นพลังงานระลอกล่าสุด!’
หลังพิจารณา เขาก็สามารถเดาได้คร่าวๆว่าเกิดอะไรขึ้น
‘ตาแก่นี่มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ!’
ตอนเขาสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของนางพญางูสามหางกำลังสลาย เกราะเงินก็พลันรู้สึกถึงแรงกดดันทที่เพิ่มขึ้น
การต่อสู้สองต่อหนึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นหนึ่งต่อหนึ่งแล้ว
แม้ความสามารถของนางพญางูสามหางจะไม่มาก ถ้านางยังมีชีวิต อย่างน้อยนางก็ยังเป็นผู้ช่วยให้เขาได้ ต่อให้นางจะสามารถรบกวนได้เล็กน้อย โอกาสชนะของเกราะเงินก็จะเพิ่ม
แต่ว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้ตัวต่อตัวแล้ว
—
หลังัวางแผนกำจัดนางพญางูสามหาง แรงกดดันของเก้าเถาวัลย์จากการเสียพันธมิตรก็ลดลง
ในความเป็นจริง เขาได้คิดแผนนี้ไว้ตั้งแต่วินาทีที่สี่หน้าจากไป เขาริเริ่มวางแผนหลอกนางพญางูสามหาง พิจารณาการเคลื่อนไหวทุกแง่มุมที่นางอาจใช้
สุดท้าย พอตัดทุกความเป็นไปได้ นางพญางูสามหางก็ได้เลือกอันที่มีประโยชน์ต่อเก้าเถาวัลย์สุดและตายคาที่-
“ตอนนี้ก็เหลือแค่เจ้าแล้ว”
เถาวัลย์นับไม่ถ้วนของเก้าเถาวัลย์บรรจบกันเป็นงูยักษ์ มันเชิดหัวสูง มองเกราะเงินจากระยะไกล
วินาทีต่อมา งูยักษ์ก็สลายตัว เปลี่ยนเป็นงูน้อยนับหมื่นที่รวมกันเป็นทะเลเถาวัลย์
แทบจะในเวลาเดียวกัน เถาวัลย์ในทั้งเขตแดนเทพก็เริ่มโบกสะบัดอย่างคลุ้มคลั่ง
ชั่วพริบตาเดียว เถาวัลย์รอบเกราะเงินดูเหมือนจะบ้าคลั่ง ความหนาแน่นกับความถี่ของการโจมตีเริ่มเพิ่ม แม้กระทั่งวิถีของการโจมตีก็ยังเริ่มกลายเป็นบ้าและแปลกไป ทำให้มันยากมากี่ทุกคนจะคาดเดา
เกราะเงินพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ แต่ก็แค่สักพัก หลังจากนั้น เขาก็ปรับตัวเข้ากับจังหวะต่อสู้ใหม่ได้
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ไม่ได้กดดันเกราะเงินเลย มันกลับไม่ส่งผลต่อความมั่นคงของเขา
ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากเขารู้อยู่แล้วว่าเก้าเถาวัลย์ต้องโมตีเขา
ในความเป็นจริง เขาค่อนข้างกังวลในตอนแรกเริ่ม เพื่อกรณีที่เก้าเถาวัลย์จะเปิดฉากโจมตีซึ่งๆหน้าโดยไม่หยั่งเชิงอะไร เหนือสิ่งอื่นใด นี่คือเขตแดนของเก้าเถาวัลย์ ถ้าเขาถูกโจมตีซึ่งๆหน้า เกราะเงินจะเสียเปรียบหนัก
โชคดี เก้าเถาวัลย์เลือกทางที่ระมัดระวัง
ในด้านหนึ่ง เขาใช้เถาวัลย์เพื่อสะกดข่ม ใช้ข้อได้เปรียบของจำนวนเถาวัลย์กับความถี่ของการโจมตีเพื่อทำให้เกราะเงินเผยจุดอ่อน อีกด้านหนึ่ง เขากำลังผลาญพลังเทวะภายในตัวของเกราะเงิน
แต่ว่า จากสิ่งนี้ เกราะเงินก็คาดเดาข้อมูลอีกชิ้นได้ว่า-เก้าเถาวัลย์กำลังซุ่มซ่อนอยู่ไม่ไกล
นี่เพราะเก้าเถาวัลย์ต้องอยู่ในระยะใกล้ก่อนถึงสามารถใช้กระบวนท่าสังหารเพื่อจัดการเกราะเงินในวินาทีที่เขาเปิดเผยจุดอ่อน
แต่จริง ๆแล้ว เก้าเถาวัลย์จงใจถ่ายทอดข้อความนั้นเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้เกราะเงิน
เท่าที่เก้าเถาวัลย์กังวล นี่คือเขตแดนของมัน ในเขตแดนของมัน การผลาญพลังเทวะของมันช้ากว่า ดังนั้น ยิ่งยื้อการต่อสู้ เกราะเงินจะยิ่งเสียเปรียบ ยิ่งเพิ่มแรงกดดันทางจิตให้เกราะเงิน โอกาสที่เขาจะเปิดเผยจุดอ่อนก็ยิ่งสูง
สุดท้าย เกราะเงินก็ตระหนักถึงจุดนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ตื่นตระหนก เขารักษาจังหวะต่อสู้ไว้โดยไม่เผยจุดอ่อนเลย
การต่อสู้เฉกเช่นนี้ดำเนินไปกว่าครึ่งชั่วโมง
ทันใดนั้น หอกมังกรดำในมือเกราะเงินก็สั่น ในความว่างเปล่า ระลอกสีดำพลันกระจายตัวออกไปเหมือนคลื่น
ระลอกเหล่านี้เหมือนคมมีดแหลม ทุก ๆ พื่นที่ที่พวกมันผ่าน เถาวัลย์จะโดนเฉือนเป็นชิ้นๆ
ความเร็วี่คลื่นกระจายตัวนั้นเร็วมาก ในชั่วพริบตา พวกมันก็กระจายครอบคลุมรัศมีหลายร้อยกิโลเมตร
ตอนนั้นเอง เกราะเงินไม่หยุดเลย เขากลับแทงหอกไปข้างหน้า เล็งไปในอากาศในทิศทางสุ่มๆ
ทันใดนั้น คลื่นพลังสีดำพลันยิงจากปลายหอกเขาอย่างบ้าคลั่ง กลืนกินสภาพแวดล้อมภายในรัศมีหลายร้อยกิโลเมตรจนสิ้น
ถ้าดวงตาของคนดีพอจะมองตามความเร็วการเคลื่อนไหวของเกราะเงิน พวกเขาจะสามารถเห็นได้ว่าภายในรัศมีการโจมตีของเขา เถาวัลย์ที่คล้ายลูกงูต่างโดนกลืนกินไปจนสิ้น
แต่ทว่า ลูกงูเหล่านี้ไม่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบโดยการฟันของระลอกดำ พวกมันกลับยังคงอยู่ในสภาพเดิม
วินาทีที่คลื่นพลังสีดำกลืนกินลูกงู เกราะเงินก็ประสานมืออย่างรวดเร็ว แสงสีแดงในดวงตาของเขากลับส่องสว่างจนแทบจะพ่นไฟออกมา
มังกรดำขนาดมหึมาปรากฏเป็นรูปธรรมเหนือหัวเขาภายในชั่วพริบตา
แทบจะทันทีที่ร่างรวมตัว สายตาของมังกรยักษ์ก็จับจ้องไปยังพื้นที่หนึ่งที่โดนคลื่นพลังกลืนกิน โดยไม่ลังเล มันเปิดปากขึ้นและพ่นเพลิงมังกรดำไร้สิ้นสุดไปกลืนกินทั้งพื้นที่นั้นอีกครั้ง…