ตอนนั้นเอง โลกที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ก็สั่นสะเทือนอย่างแรง
คลื่นความร้อนนี้ไม่ใช่คลื่นความร้อนธรรมดาแต่เป็นพลังลำดับเทพแสนน่าหวาดหวั่น
แม้กระทั่งเก้าเถาวัลย์ก็ไม่รู้ว่าพลังลำดับเทพนี้คืออะไร เขาตัดสินว่ามันคือไฟที่มีพลังทำลายล้างถึงขีดสุด
ในระดับหนึ่ง ไฟประเภทนี้ร้ายกาจยิ่งกว่าเพลิงมังกรซะอีก
ร่างจริงของเก้าเถาวัลย์หนีลงใต้ดินอย่างหวาดกลัว ในเวลาเดียวกัน เขาก็ควบคุมเถาวัลย์นับไม่ถ้วนให้ต้านไฟ เขาไม่มีความหวังที่ว่าจะดับไฟได้ เขาแค่หวังให้มันช่วยต้านคลื่นไฟสักนิด รวมถึงลดขอบเขตของมันง
‘เกราะเงินมันบ้าถึงขั้นระดับตัวตายเชียวรึ?’เก้าเถาวัลย์ลอบสาปแช่งขณะหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่กล้าปลดปล่อยพลังเทวะเพื่อทำการตรวจสอบอะไรด้วยซ้ำ กลัวว่าไฟจะเผาจิตวิญญาณเขา
แต่ทว่า ไม่ช้า เขาก็ถอนการคาดเดาเดิม
นี่เพราะเขาสัมผัสได้ว่านอกจากตัวเขาแล้ว ยังมีกลิ่นอายอื่นหลงเหลือในเขตแดนเทพ
เกราะเงินยังไม่ตาย!
ไม่ใช่แค่นั้น มอนสเตอร์ร่างมนุษย์ยังค่อยๆ ก่อตัวจากไฟสีแดงเข้มภายในหลุมลึกไหม้เกรียม
อย่างน่าประทับใจ ร่างกายของมอนสเตอร์คล้ายกับเกราะเงิน 70%-80% แต่หัวกลับใหญ่กว่ามาก เขาในตอนนี้สูงอย่างน้อยพันเมตร
ไม่เหมือนกับตัวเขา ซึ่งเป็นสีแดงเข้ม มันมีกลุ่มไฟสีขาวร้อนแรงในจุดที่ควรเป็นลูกตาเขา
เขายืนอยู่กับที่ราวกับตกอยู่ในภวังค์ แต่ไฟสีขาวในดวงตาของเขากลับยิ่งทวีความรุนแรง
ทั้งหมดที่เขาทำคือยกขาเล็กน้อย และเขาก็สามารถก้าวออกจากหลุมลึกที่เพิ่งโดยไฟระเบิดได้ ทุกครั้งที่เขาก้าวเท้า พื้นจะแยก และลาวาสีแดงก็จะพุ่งจากรอยแยก
เขาเดินอย่างไร้จุดหมายไปข้างหน้า เหวี่ยงหมัดหนักใส่ทุกอุปสรรคที่ขวางทางอย่างป่าเถื่อน
ภูเขา แม่น้ำ บึง…ทุกที่ที่เขาผ่าน สถานที่นั้นจะกลายเป็นทะเลลาวา
โดยธรรมชาติ เก้าเถาวัลย์เองก็สัมผัสได้ว่าเขตแดนเทพของเขาปนเปื้อนอย่างรุนแรง
ทุกก้าวที่เกราะเงินเดิน และทุกหมัดที่เขาชก มันจะทำลายเขตแดนเทพของเก้าเถาวัลย์
หลังยับยั้งตัวเองเป็นเวลานาน สุดท้าย เก้าเถาวัลย์ก็ไม่สามารถทนได้อีกและกระจายจิตเทวะเพื่อสัมผัสสถานการณ์
ขณะที่จิตเทวะของเขากวาดผ่าน เขาก็พลันสังเกตเห็นมอนสเตอร์ไฟที่ดูเหมือนจะคลุ้มคลั่ง
แม้กลิ่นอายกับขนาดจะเปลี่ยนไปมาก เก้าเถาวัลย์ก็บอกได้ว่ามันคือเกราะเงินเพราะร่องรอยกลิ่นอายของเกราะเงินยังอยู่บนตัว
“เจ้าหมอนั่นเปลี่ยนเป็นตัวประหลาดแบบนี้ได้ไง?!”เก้าเถาวัลย์ตกตะลึง นี่คืออีกสิ่งมีชีวิตอย่างสิ้นเชิง
แต่ทว่า ไม่ช้า เก้าเถาวัลย์ก็ไม่สามารถไตร่ตรองเรื่องได้อีกเพราะเขาสัมผัสได้ว่าสายตาของเกราะเงินกำลังจับจ้องมาทางเขา
การตรวจสอบด้วยจิตเทวะได้เปิดโปงตัวเขาเอง!
เก้าเถาวัลย์หนีโดยไม่ยั้งคิด
ในขณะเดียวกัน ยักษ์ไฟที่อยู่ห่างไปอย่างน้อยหมื่นกิโลเมตรก็ได้จับเข้ากับกลิ่นอายของเก้าเถาวัลย์ ดวงตาของเขาพ่นประกายไฟสีขาวออกมาขณะวิ่งใส่เก้าเถาวัลย์เหมือนคนบ้า
เก้าเถาวัลย์เร็ว แต่ยักษ์ไฟเร็วกว่า
ในเวลาแค่สิบนาที ยักษ์ไฟก็ไล่ทันเก้าเถาวัลย์
ส้นเท้าของยักษ์กระทืบลงโดยไม่ลังเลและทั้งผิวดินก็ทรุด
รอยร้าวลุกลาม เปลี่ยนเป็นลาวาหลอมเลวที่เริ่มกระจายไปทุกทิศทาง
การกระทืบดุร้าย แต่เก้าเถาวัลย์สามารถหลบมันได้ทัน พอดีกับที่เท้ายักษ์กระทืบลง เก้าเถาวัลย์ก็แหวกออกจากพื้นและหลบการโจมตีได้พอดี
แต่ทว่า การหลบของเขาก็ได้เปิดเผยรูปลักษณ์ของเขาออกมาอย่างสมบูรณ์
มันคือเถาวัลย์สีดำที่ประกอบกันเป็นงูยักษ์ด้วยผิวสะท้อนที่ดูเหมือนเกล็ดงู
แค่มอง ขนาดของเก้าเถาวัลย์นั้นดูใหญ่จริง มันหนากว่าครึ่งเมตร และยาวอย่างน้อยร้อยเมตร แต่ทว่า ตอนนี้ ต่อหน้ายักษ์ไฟ เขาไม่แตกต่างจากปลาดุก
ตอนนี้ คนตกปลากับปลาดุกดูเหมือนจะสลับตำแหน่งกัน
เก้าเถาวัลย์รู้ว่าเขาไม่สามารถหลบหนีได้
ขณะสังเกตกเราะเงินเงียบๆ เขาเองก็รีบตรวจสอบรอยประทับของเหล่าวิญญาณคืนชีพ พยายามอัญเชิญพวกมันใหม่
“เกราะเงิน ทำไมเราไม่จบการต่อสู้ของเราไว้แค่นี้ละ”เก้าเถาวัลย์พยายามซื้อเวลาให้ตัวเขา”ดูสิ เราใช้ไพ่ตายกันหมดแล้ว ถ้าเรายังสู้กันต่อ มันจะมีแต่ความตาย ไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนั้นหรอก..”
แต่ทว่า ยักษ์ไฟเมินสิ่งที่เก้าเถาวัลย์พูดอย่างสิ้นเชิง โดยไม่รอให้เขาพูดจบ ฝ่ามือยักษ์ก็ตบลงใส่จุดที่เก้าเถาวัลย์อยู่
ท้องฟ้าดูเหมือนจะถล่มลงมาพร้อมฝ่ามือ
เก้าเถาวัลย์ไม่กล้าต่อต้านตรงๆ และรีบหลบอีกครั้ง
เขาไม่สามารถต่อสู้กับเกราะเงินได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถเคลื่อนย้ายสั้นๆเพื่อหลบการโจมตีได้
ยักษ์ไฟคลุ้มคลั่งตอนการโจมตีพลาดและเริ่มโจมตีทุกอย่างรอบตัว ความคิดของเก้าเถาวัลย์เริ่มผ่อนคลาย และเขาก็เริ่มคิด
ความคิดของเกราะเงินเห็นได้ชัดว่าไม่อยู่กับเนื้อกับตัวในสภาพนี้ มันสามารถบอกได้ว่าเขาพึ่งพาแค่สัญชาตญาณต่อสู้อย่างเดียว
แม้คู่ต่อสู้ของเขาจะทรงพลังมากในสภาวะนี้ แต่สำหรับเก้าเถาวัลย์ มันมีจุดอ่อนร้ายแรง
นี่เพราะตอนสู้โดยใช้สัญขาตญาณ เกราะเงินจะไม่มีความสามารถคำนวณ เขาทำได้แค่ใช้ท่าที่ตรงไปตรงมา และการกระทำทั้งหมดก็สามารถอ่านออกได้ง่ายๆ
นี่ทำให้เก้าเถาวัลย์โล่งใจขึ้นม เขาไม่รีบหนี เขากลับยืนอยู่ที่เดิมและจัดการกับยักษ์ไฟ
ขณะหลบการโจมตีซ้ำๆของงยักษ์ไฟ เขาก็วางแผนโจมตี
การระเบิดอย่างฉับพลันที่เกิดจากการแปลงร่างของเกราะเงินได้ทำลายศพคืนชีพทั้งหมดที่เก้าเถาวัลย์อัญเชิญ
ส่วนใหญ่ไม่เพียงโดนทำลายร่างกาย แต่รอยประทับวิญญาณพวกมันยังสลายไปด้วย
ที่การทำลายระดับนี้ เก้าเถาวัลย์จึงไม่มีทางอัญเชิญพวกมันได้ไหม
แต่ทว่า โชคดี ยังมีหยิบมือหนึ่งที่โดนทำลายแค่ร่างกาย รอยประทับวิญญาณพวกมันยังไม่บุบสลาย ไม่ใช่แค่นั้น ที่เหลือยังเป็นพวกที่ทรงพลังสุด
เก้าเถาวัลย์กระตือรือร้นมากตอนสัมผัสได้ถึงรอยประทับวิญญาณที่เหลือ
เขาลอบรวบรวมพลังเทวะและรอโอกาสอัญเชิญเงียบๆ
สิบกว่านาทีผ่านไป
วินาทีที่ยักษ์ไฟกระทืบพื้น เถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็โผล่ออกมาและรัดคอกับแขนขาของยักษ์ไว้
แม้ไฟบนตัวยักษ์จะทำลายเถาวัลย์อย่างบ้าคลั่ง เถาวัลย์ก็ยังพุ่งมาไม่รู้จบ ยับยั้งการเคลื่อนไหวไว้ชั่วคราว
ด้วยการยับยั้งชั่วคราวนี้ เก้าเถาวัลย์จึงอัญเชิญวิญญาณขึ้นใหม่โดยไม่ลังเล
เนื้อเยื่อยักษ์ เนตรเพลิง นางพญางูสามหาง..ยอดฝีมือทั้งหมดระดับราชากับพวกที่ใกล้เคียงกับระดับราชาถูกเรียกมาใหม่
ทันทีที่ผู้คืนชีพกว่าสิบปรากฏ พวกมันก็ร่วมมือกันโดยไม่ลังเลเพื่อโจมตียักษ์ไฟ ที่ตอนนี้ขยับตัวไม่ได้
แม้กระทั่งเก้าเถาวัลย์ก็ยังฉวยโอกาสสู้ ปลดปล่อยกระบวนท่าไม้ตาย
เถาวัลย์นับไม่ถ้วนเริ่มกินพลังเทวะภายในตัวของยักษ์ไฟ
พอการจู่โจมระลอกนี้เริ่ม ยักษ์ไฟก็คำรามและพยายามสลัดเถาวัลย์ให้หลุด
แต่ทว่า เขายังช้าไป เขาทำได้แค่ป้องกันตัวเองจากการโจมตีส่วนน้อย ส่วนใหญ่นั้นโดนเขาเข้าจังๆ
แม้ยักษ์ไฟจะไม่ตาย ขนาดของมันก็ลดลงไปมาก ขณะที่สีบนตัวหม่นลง
ตอนเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เก้าเถาวัลย์ก็รู้ว่ากลยุทธ์ของเขาถูก
“โจมตีต่อไป ผลาญพลังเทวะมัน!’
ในสภาพนี้ เกราะเงินต้องใช้พลังเทวะภายในตัวมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า แต่ทว่า มันกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพนัก
การโจมตีของเขาทรงพลังขึ้นแค่เพราะทุกครั้งที่เขาโจมตี การผลาญพลังเทวะของเขาจะสูงกว่าเดิม
ตัดสินโดยการเปลี่ยนแปลงในขนาดกับสีของยักษ์ไฟ อีกฝ่ายไม่ได้มีพลังเทวะไร้สิ้นสุด มันสามารถผลาญได้
เก้าเถาวัลย์โล่งใจหลังค้นพบ
เขตแดนเทพนี้คือเขตแดนของเขา ถ้าแข่งกันในแง่การผลาญพลังเทวะ เขาไม่กลัวใครเลย
เก้าเถาวัลย์เริ่มสงบขึ้น
เขาไม่ปะทะกับยักษ์ไฟตรงๆอีก เขากลับควบคุมผู้คืนชีพนับสิบให้ใช้กลยุทธ์กองโจรก่อกวนยักษ์เรื่อยๆและผลาญพลังเทวะ
ทุกครั้งที่ยักษ์ไฟโจมตี เก้าเถาวัลย์จะควบคุมผู้คืนชีพให้หลบและหนี เลี่ยงการปะทะโดยตรงให้มากที่สุด
กว่าครึ่งชั่วโมงผ่านไป
มันเหลือผู้คืนชีพแค่ครึ่งเดียวภายใต้การควบคุมของเก้าเถาวัลย์ แม้เขาจะควบคุมพวกมันให้หลบการโจมตีแล้ว แต่ก็มีบ้างที่พวกมันหลบไม่ทัน
แต่ทว่า ขนาดของยักษ์ไฟก็หดจนสูงแค่ร้อยเมตรแล้ว และไฟบนตัวก็เริ่มไม่เสถียร
เก้าเถาวัลย์ยื้อการต่อสู้อย่างอดทน
หลังผ่านไปอีกสิบนาที ขนาดของยักษ์ไฟก็หดลงอย่างมาก เก้าเถาวัลย์ตกตะลึงตอนเห็น
เขารีบหยุดการโจมตีและรอให้คู่ต่อสู้ของเขาแปลงร่างจนเสร็จ
ภายในเวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจ ความสูงกว่าร้อยเมตรของยักษ์ไฟก็หดลงเหลือประมาณสองเมตร หรือ-แม้กระทั่งเล็กกว่าขนาดดั้งเดิมของเกราะเงิน
หลังตัวของเขาหยุดหด ไฟบนตัวของเกราะเงินก็ค่อยๆหายไป
สองถึงสามนาทีต่อมา ไฟได้หายไปอย่างสมบูรณ์ เผยให้เห็นร่างใหม่
แทนที่จะเป็นเกราะเงิน ร่างนี้กลับสวมเกราะทอง
เกราะทองแดงดูค่อนข้างอ่อนแอ มันเล็กกว่าเกราะเงินมาก
ถ้าเก้าเถาวัลย์สัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นอายของเกราะเงินที่หลงเหลืออยู่ เขาอาจสงสัยว่ามันเป็นคนอื่น
“งั้นนี่ก็คือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อเปลี่ยนเป็นยักษ์ไฟ?”เก้าเถาวัลย์ฉีกยิ้มและมองชายเกราะทองแดงที่กลิ่นอายตกฮวบอย่างมาก
ชายเกราะทองแดงตรงหน้าเขาครอบครองพลังต่อสู้แค่เทพสวรรค์ขั้นแปด เขาตกลงมาถึงหนึ่งขั้น!
เก้าเถาวัลย์จ้องชายเกราะทองแดงที่ไม่ได้สติสักพัก แต่ไม่ฆ่า เขากลับปล่อยเถาวัลย์สีดำออกไป แทงมันเข้าใส่หัวใจของชายเกราะทองแดง
ครู่ต่อมา เถาวัลย์ก็หดกลับ รอยยิ้มบนหน้าของเก้าเถาวัลย์ยิ่งกว่างกว่าเดิม
“ช่างเป็นเตียงเพาะเมล็ดที่สุดยอดจริงๆ”
ตอนนี้ที่การต่อสู้กับเกราะเงินจบ เก้าเถาวัลย์จึงถอนหายใจยาวเหยียด ต่อมา เขตแดนเทพของเขาก็เริ่มสลายไปช้าๆ เผยให้เป็นป่าโบราณดั้งเดิม
ตอนนี้เองที่เขตแดนเทพของเขาถูกเรียกกลับ เก้าเถาวัลย์ก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่ลอยเข้าหูเขา
“การต่อสู้ระหว่างพวกเจ้าสองคนยืดเยื้อมากจนข้าเกือบหลับ”