Monster Paradise – ตอนที่ 1582 คนนอก

รูม่านตาของหน้ายักษ์ที่เก้าเถาวัลย์สร้างกลางอากาศหรี่ลง

 

ไม่ไกลในอากาศ ร่างนั้นค่อย ๆ เผยตัวเองและเดินไปทางเก้าเถาวัลย์

 

ร่างนั้นสวมชุดคลุมและค่อนข้างผอมแต่กำยำ ในมือมันถือไม้เท้าสีดำและสวมหน้ากากทอง

 

ต่อให้ไม่เห็นหน้า เก้าเถาวัลย์ก็ยังสัมผัสได้ถึงรัศมีพิเศษที่แผ่ออกมา

 

“คนนอก?!”เก้าเถาวัลย์ระบุตัวตนอีกฝ่ายได้ทันที

 

“ถูก แต่เสียใจด้วย ไม่มีรางวัลให้”หน้ากากทองบนหน้าของชายคนนั้นปรากฏเป็นรอยยิ้ม

“คนนอก เจ้ามาเห่าในอาณาเขตข้าเพื่อยั่วยุข้าหรือ?”เก้าเถาวัลย์ไม่โจมตีทันที

 

หนึ่งในเหตุผลที่เขาไม่ทำเพราะเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้ใหญ่มา และพลังเทวะกับแรงกายก็ลดไปมาก อีกเหตุผลคือเขาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากอีกฝ่าย แม้บุคคลผู้นี้จะปกปิดพลังไว้ แต่ตัดสินจากที่เขาสัมผัสได้อีกฝ่ายต้องเป็นยอดฝีมือระดับราชา ความสามารถอาจไม่ด้อยไปกว่าสี่หน้าหรือเกราะเงิน

 

พูดตามตรง พอพิจารณาว่าเขาไม่ได้อยู่ในสภาพสูงสุด เก้าเถาวัลย์จึงไม่อยากปะทะกับอีกฝ่ายรตงๆ

 

“ไม่ ข้าไม่ได้พยายามยั่วยุเจ้า..”ชายสวมหน้ากากยกแขนสองข้าง แต่ทว่าก็ลดลงทันทีในวินาทีต่อมา”ข้าแค่อยากฆ่าเจ้า!”

 

ทันทีที่พูดจบ มอนสเตอร์นับร้อยที่มีกลิ่นอายน่ากลัวก็ควบแน่นในอากาศ พวกมันกู่ร้องขณะพุ่งใส่เก้าเถาวัลย์

 

“ผู้ควบคุม?!”เก้าเถาวัลย์อุทานด้วยความแปลกใจ

 

คู่ต่อสู้ของเขาสามารถควบคุมมอนสเตอร์ระดับเทพสวรรค์ขั้นเก้าได้หลายร้อย แต่ละตัวยังมีกลิ่นอายเป็นจุดสูงสุด และยังมีมากกว่าสิบที่มีกลิ่นอายไม่ต่ำกว่าระดับราชา

 

ตอนนี้เอง เก้าเถาวัลย์จึงรู้สึกเหมือนโดนกรรมตามสนอง เขาจำได้ว่าเขาเองก็ใช้อะไรทำนองนี้เพื่อฆ่าเกราะเงินไป เขาไม่คิดเลยว่าผลกรรมจะย้อนกลับมาเร็วขนาดนี้

 

เขาตั้งสติเล็กน้อย และรีบปล่อยเถาวัลย์นับไม่ถ้วนออกไป พยายามป้องกันตัวเองจากฝูงมอนสเตอร์

 

“เขาติดกับแล้ว”

 

ไม่ไกลนัก ชายสวมหน้ากากทองส่งคลื่นเสียงสองคลื่นไปในทิศทางหนึ่ง

 

วินาทีที่เขาพูด ร่างสองร่างก็เข้ามาในมุมมอง พวกเขาปรากฏข้างชายสวมหน้ากากพร้อมกัน

 

หนึ่งในนั้นสวมชุดคลุมสีเทาแบบพระ หัวของเขาไร้ผมอย่างสิ้นเชิงและเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นทั่วไปแบบพระชาวพุทธ ความแตกต่างที่มากสุดระหว่างตัวเขากับพระธรรมดาคือเขามีแปดแขน

 

ในขณะเดียวกัน อีกคนสวมชุดคลุมดำ และยังสวมหน้ากากดำใต้ฮู้ด ชุดคลุมดำตัวหลวมคลุมทั้งตัวเขา ปกป้องเขาจากการตรวจสอบใดๆ สิ่งเดียวที่บ่งบอกได้คือเขาตัวสูง เต็มไปด้วยมัดกล้าม

 

ทั้งสามคือเวอชุโอโซ จิ่วเจี้ยนกับหลินฮวงนั่นเอง

 

ขณะที่เขามองเก้าเถาวัลย์ที่ยืนนิ่งเหมือนคนปัญญาอ่อน หลินฮวงก็ถามจากใต้หน้ากากดำ”เราจะฉวยโอกาสโจมตีตอนนี้เลยไหม?”

 

“ไม่ต้องรีบ รออีกหน่อย”เวอชุโอโซกลับใจเย็นมาก

 

“ถ้าเขายังอยู่ในจุดสูงสุด งั้นมันคงควรโจมตีเขาทันทีที่เขาติดกับเพราะเขาอาจสลัดหลุดภาพลวงตาข้าได้ตลอดเวลา แต่ทว่า ข้าเดาว่าในสภาพนี้ เขาคงเหลือความสามารถแค่30%-40% โอกาสที่เขาจะหลุดจากการควบคุมของข้านั้นไม่สูงเลย ให้เขาจมอยู่ในนั้นไปปสักพัก มันยังไม่สายเกินไปถ้าเราจะโจมตีทีหลัง”

 

โดยธรรมชาติ หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนเข้าใจคำอธิบายของเวอชุโอโซ

 

ตามความสามารถจริงของเก้าเถาวัลย์ มันไม่น่าจะติดกับของเวอชุโอโซได้ ต่อให้เผลอโดน เขาก็จะหลุดพ้นในเวลาอันสั้น ดังนั้น พวกเขาจึงต้องรีบโจมตี

 

แต่ทว่า ตอนนี้ที่เก้าเถาวัลย์ผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่มา พลังเทวะภายในตัวเขาจึงลดลงไปมาก และจิตเทวะของเขาก็เสื่อมถอย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงติดกับเวอชุโอโซง่าย ๆ แต่ทว่า เก้าเถาวัลย์ไม่ได้โดนตัดจากการรับรู้โลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเขาแค่ติดในภาพลวงตา ทันทีที่เขาพบความผิดปกติในโลกภายนอก เขาอาจรู้ตัวว่าเขาตกอยู่ในภาพลวงตา

 

นั่นทำให้เวอชุโอโซถึงบอกให้หลินฮวงกับเวอชุโอโซอย่าเพิ่มลงมือ

 

เวอชุโอโซอยากให้เก้าเถาวัลย์ดำดิ่งลงไปลึกกว่านี้ เมื่ออีกฝ่ายยุ่งกับภาพลวงตา เขาย่อมไม่แรงมาสัมผัสความผิดปกติในโลกภายนอก จากนั้น มันถึงเป็นเวลาโจมตี

 

หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนสามารถได้ยินความมั่นใจในน้ำเสียงเวอชุโอโซ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่พูดอะไรอีกและรออย่างอดทน

 

ในขณะเดียวกัน เก้าเถาวัลย์ที่ติดในภาพลวงตาก็กำลังเจอกับวิกฤตครั้งใหญ่แบบที่ไม่เคยเจอ

 

ถ้าตัวต่อตัว มันมีมอนสเตอร์อัญเชิญไม่มากที่สามารถคุกคามเขาได้

 

แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกลำบากคือฝูงมอนสเตอร์นี้ไม่ได้สู้แบบตัวต่อตัว พวกมันกลับจับกลุ่มเล็ก ๆ ทุกกลุ่ม จะมีตัวที่มีความสามารถป้องกันสูงไว้หนึ่งหรือสอง พร้อมกับสายควบคุมและสนับสนุนไว้คอยช่วยเหลือพวกที่มีความสามารถโจมตีรุนแรง

 

สิ่งที่ทำให้ยากเข้าไปใหญ่คือไม่ว่าเขาจะเข้าไปสู้กับกลุ่มไหน อีกกลุ่มจะเข้ามาแทรกแซงทันที ทำให้กลุ่มแรกผละจากการต่อสู้ได้ชั่วคราว

 

กว่าสิบนาทีผ่านไป และเก้าเถาวัลย์ก็ไม่มีความคืบหน้าเลย เขาไม่สามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้สักตัว(เวลาในภาพลวงตาคือการรับรู้ของจิตสำนึก ไม่ได้เกี่ยวกับกระแสเวลาจริงในโลกจริง)

 

เก้าเถาวัลย์เริ่มตื่นตระหนก เขาตระหนักดีว่าในสภาพนี้ เขาไม่เหมาะกับการต่อสู้ยืดเยื้อ ยิ่งยื้อนาน โอกาสที่เขาจะแพ้ก็ยิ่งสูง

 

หลังลังเลสักพัก เขาก็ตัดสินใจกางเขตแดนเทพอีกครั้งและครอบคลุมทั้งรัศมี

 

มันไม่ใช่แค่มอนสเตอร์อัญเชิญหลายร้อยที่ตกเข้าเขตแดนเทพเขา แม้กระทั่งชายหน้ากากทองก็ยังอยู่ในรัศมีด้วย

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เก้าเถาวัลย์ไม่รู้คือในโลกจริงด้านนอกภาพลวงตา ริมฝีปากใต้หน้ากากทองยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

 

วินาทีที่เก้าเถาวัลย์ลดการรับรู้โลกภายนอกลง เสียงของเวอชุโอโซก็ดังขึ้นในหูของหลินฮวงกับจิ่วเจี้ยน

 

“ไป!”

 

โดยไม่ลังเล หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนโจมตีเหมือนสายฟ้าฟาด

 

หลินฮวงไม่รั้งเลยในการโจมตีนี้

 

มันเป็นการผสานของพลังลำดับเทพทั้งสิบสองกับกฏเทพสวรรค์เต๋าดาบอย่างสมบูรณ์ ซึ่งควบแน่นเป็นคลื่นดาบสีแดงเลือดสว่างประดุจดวงอาทิตย์

 

มันพุ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วเหมือนสายฟ้าฟาด

 

กระบวนท่านี้แทบจะถึงขีดจำกัดของที่หลินฮวงทำได้ในสภาพร่างกายปัจจุบัน

 

แม้กระทั่งตาของเวอชุโอโซก็ยังฉายแววประหลาดใจ

 

ในขณะเดียวกัน อีกด้าน ในที่สุดจิ่วเจี้ยนก็เผยไพ่ตายของเขา ซึ่งเขาแทบไม่เผยออกมา

 

คลื่นกระบี่สีทองนับล้านควบแน่นในอากาศตรงหน้าเขา

 

แขนทั้งแปดของเขาชี้ขึ้นฟ้า และคลื่นกระบี่สีทองนับล้วนก็รวมกันเป็นค่ายกลกระบี่ทั้งแปด จากนั้นแปดค่ายกลกระบี่ก็ผสานเข้าด้วยกันเป็นค่ายกลกระบี่ขนาดมหึมา

 

พอถูกเสริมด้วยค่ายกลกระบี่ยักษ์นี้ กลิ่นอายของกฏสวรรค์เต๋ากระบี่ของจิ่วเจี้ยนก็ทรงพลังขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่า

 

ในอากาศ คลื่นกระบี่นับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นมังกรทองขนาดมหึมา มันเปิดปากและพุ่งใส่เก้าเถาวัลย์….

Monster Paradise

Monster Paradise

Type: Author:
800ปีก่อน มีประตูมิติกว่า3000ที่เปิดกว้างทั่วโลก ในขณะที่ดวงตาที่แตกต่างกัน3000ดวงเปิดกว้างขึ้น ฝูงสัตว์ประหลาดนับล้านก็ได้พรั่งพรูออกมาจากมัน บางตัวสามารถที่จะทำลายกำแพงเมืองด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียว : พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตเท่ายักษ์และกินมนุษย์ บางตัวจะยึดติดกับมนุษย์ พวกมันจะดูดซับสารอาหารในร่างกายและทำให้มนุษย์เป็นทาส บางตัวจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองมนุษย์ ปลอมตัวเป็นมนุษย์ธรรมดาขณะที่ดูดเลือดเพื่อความเป็นอยู่ของมัน ในเวลากลางคืน มนุษย์จะกลายเป็นด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร โลกได้กลายเป็นสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าสัตว์ประหลาด 800 years ago, 3000 dimensional gates opened across the entire world. In that moment, it was as if 3000 different colored eyes opened across the world as hordes of monsters swarmed out of these gates like tears. Some could destroy city walls with one strike; They had bodies the size of a giant and fed on humans Some latched onto humans, absorbing their bodies’ nutrients and enslaving humans Some infiltrated the humans’ cities, disguising themselves as normal human beings while feeding upon human blood to sustain themselves. In a night, the Human race fell to the bottom of the food chain. The world had turned into a paradise for monsters…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset