ภายในภาพลวงตาของเวอชุโอโซ เก้าเถาวัลย์มองเขตแดนเทพของเขาจุติ มันห่อหุ้มศัตรูทั้งหมด รวมถึงบุคคลหน้ากากอง โดยไม่ลังเล เก้าเถาวัลย์อัญเชิญเนื้อเยื่อยักษ์ เนตรเพลิง นางพญางูสามหางกับศพระดับราชาอื่น
ในเขตแดนเทพของเขา เขาสามารถอัญเชิญศพได้ซ้ำ แต่มันต้องผลาญพลังเทวะเป็นจำนวนมาก เขาสามารถเติมมันได้โดยการเรียกพวกมันกลับ
แต่ว่า ศพมากมายโดนฆ่าในการต่อสู้ก่อนหน้ากับเกราะเงิน นี่หมายความว่าเก้าเถาวัลย์ไม่สามารถเติมพลังเทวะของเขาคืนได้ ทำให้เขาเสียไปเกือบ 70% แม้กระทั่งด้วยดวงวิญญาณระดับเทพของเขา ความเสียหายก็ยังรุนแรงและสภาพของเขาตอนนี้ก้ไม่สู้ดี
ตอนนี้ที่เขาเหลือพลังเทวะไม่มาก เขาจึงไม่กล้าใช้กับมันมากนัก ดังนั้น ในการปะทะครั้งนี้ เขาจึงอัญเชิญวิญญาณระดับราชามาแค่ไม่กี่ตนในศึก เขาไม่มีความกล้าจะไปพยายามใช้กลยุทธ์ฝูงมอนสเตอร์
แต่ทว่า เท่าที่เก้าเถาวัลย์คิด แค่นี้ก็พอแล้ว
ด้วยยอดฝีมือระดับราชาหลายตนที่เข้าร่วมการต่อสู้ แรงกดดันของเขาจึงลดลง
นอกจากนี้ การฟื้นฟูพลังเทวะของเขายังเร็วกว่าเดิมมากหลายเท่าในเขตแดนเทพ ตราบเท่าที่เขาไม่ใช้วิชาใหญ่โต มันเป็นไปไม่ได้ที่พลังเทวะของเขาจะหมด เขายังไม่ต้องกังวลว่าศัตรูจะพยายามผลาญพลังเทวะของเขา ตรงกันข้าม ถ้าการต่อสู้ยื้อออกไปนาน พลังเทวะในตัวของเขาจะยิ่งเติมเต็ม ซึ่งส่งผลดีต่อเขามากขึ้น
หลังการมาของเขตแดนเทพ คลื่นการต่อสู้ก็เริ่มพลิก
เก้าเถาวัลย์ตกอยู่ภายใต้การยับยั้งอย่างมากในตอนแรก แต่ตอนนี้ ด้วยความช่วยเหลือของเหล่าวิญญาณที่เขาอัญเชิญ เขาจึงเริ่มการเข่นฆ่าศัตรู
ด้วยเก้าเถาวัลย์กับวิญญาณที่ร่วมมือกัน กลุ่มขนาดเล็กจึงโดนแยกและกำจัด จำนวนนี้เริ่มเพิ่ง
ตอนเก้าเถาวัลย์กำลังยินดีกับการฆ่า สัมผัสอันตรายก็จู่โจมเขา
ก่อนเขาจะได้พบว่าภัยคุกคามใหม่นี้มาจากไหน เขาก็รู้สึกถึงคลื่นความเจ็บปวด
เขาก้มมองตัวเอง เห็นว่าตัวเองโดนผ่าแยกส่วนที่เอวโดยประกายไฟฟ้าสีแดง
ตอนเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ทุกอย่างตรงหน้าเขาก็เริ่มแตกสลาย
ทุกวิญญาณที่เขาอัญเชิญ ฝูงมอนสเตอร์ที่เขาสู้ด้วยว บุคคลหน้ากากทองกับเขตแดนเทพ…
ทุกอย่างสลายและแตกเป็นเหมือนกระจก สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลือคือลำแสงสีแดงที่ผ่าเขาเป็นสองส่วน
“ภาพลวงตา?!”เก้าเถาวัลย์ตระหนักถึงความเป็นจริง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาติดกับศัตรูตอนไหน
อีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปในระยะไกล เห็นคนสามคนยืนอยู่ตรงนั้น
คนที่แยกส่วนเขาคือบุคคลชุดดำสวมหน้ากากดำ
แต่ทว่า เก้าเถาวัลย์ก็รีบเบี่ยงความสนใจจากบุคคลชุดดำ นี่เพราะเขาเห็นว่ามีพระแปดแขนที่ยืนไม่ไกลจากบุคคลชุดดำ นอกจากนี้ ตรงหน้าพระนั่น ค่ายกลกระบี่ขนาดมหึมากำลังระเบิดพลังใส่เขา!
โดยไม่ยั้งคิด เก้าเถาวัลย์เปลี่ยนเป็นเถาวัลย์นับพันเส้นที่คล้ายงู และบินหนีไปทุกทิศทาง
เขาตัดสินใจหนีอย่างเด็ดขาดเพราะการฟันก่อนหน้าจากชายชุดดำก็แทบฆ่าเขาแล้ว
เขาเหลือพลังเทวะไม่ถึง 10%หลังการฟันนั้น เขาไม่มีแรงพอจะสู้ต่อ
แต่ทว่า ทันทีที่เขาขยับ คลื่นกระบี่นับแสนในอากาศก็เทลงมาเหมือนพายุฝน กลืนกินเขาอย่างสมบูรณ์
ตอนเขาเห็นว่าพื้นที่ภายในรัศมีหลายร้อยเมตรโดนปกคลุมด้วยค่ายกลกระบี่ของจิ่วเจี้ยน หลินฮวงก็ไม่คิดโจมตีต่อ
กระบวนท่าก่อนหน้าของเขาคือการโจมตีที่แทบรุนแรงสุดแล้ว ซึ่งส่งผลต่อร่างกายเขาอย่างมาก
เขาต้องการเวลาเพื่อพักฟื้นร่างกายสักพัก
อีกเหตุผลคือ เขากำลังลอบคำนวณรางวัลที่ได้จากการโจมตีนั้น
กระบวนท่านั้นเป็นการผสานพลังลำดับเทพระดับลึกล้ำ 12 ชนิด รวมถึงกฏสวรรค์เต๋าดาบ
การโจมตีแบบนี้มากพอจะกำจัดเทพสวรรค์ขั้นเก้าทั่วไป
แต่ทว่า เก้าเถาวัลย์โดนโจมตีตอนไม่ทันระวังตัว แต่ก็ยังไม่ตาย
วินาทีที่เขาฟันศัตรู หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ชัดว่าตัวของเก้าเถาวัลย์ได้ปล่อยพลังเทวะกับพลังลำดับเทพจำนวนมากออกมาทันทีเพื่อหักล้างการโจมตี
สุดท้าย มันดูราวกับเขาได้แยกส่วนเก้าเถาวัลย์ แต่จริงๆแล้ว การโจมตีนี้ไม่สร้างความเสียหายใดกับศัตรูเลย การโจมตีแค่ผลาญพลังเทวะส่วนหนึ่งของเก้าเถาวัลย์กับพลังกฏเทพ
‘จากที่ดู ข้าคงประมาทไม่ได้เลยตอนสู้กับเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด ความหนาแน่นของพลังเทวะพวกเขากับจำนวนกฏเทพที่ใช้ได้นั้นเกินข้าไปซะอีก เก้าเถาวัลย์ยังไม่มีเวลาใช้วิชาป้องกันอะไรด้วยซ้ำ แต่ก็ยังไม่บาดเจ็บจากการโจมตีของข้า ถ้าเราสู้กันซึ่งๆหน้า ข้าเกรงว่าการโจมตีนี้ของข้าจะไม่สามารถทำลายการป้องกันของเขาได้ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือโจมตีง่ายๆ และถ้าข้าโดนโจมตี ข้าจะต้องตายแน่ นี่คือช่องว่างในความสามารถ’
‘นอกจากนี้ ท่ามกลางเทพสวรรค์ มียอดฝีมือหลายคนที่มีความสามารถเทียบเท่ากับเก้าเถาวัลย์ และยังมีพวกที่แข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงยอดฝีมือกึ่งจ้าวเทวะ”
หลังทบทวนการต่อสู้ในหัว ภัยคุกคามที่หลินฮวงสัมผัสได้ในใจก็เพิ่ม
เดิม เขาพิจารณาว่าความสามารถปัจจุบันของเขาถือว่าอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว แต่ทว่า ตอนนี้ที่เขาพบเจอยอดฝีมือแท้จริง ในที่สุดเขาก็สามารถเห็นความแตกต่างได้
ขณะที่หลินฮวงยังทบทวนการต่อสู้ในหัว เวอชุโอโซที่อยู่ข้างเขาก็ได้กระจายจิตเทวะไปครอบคลุมพื้นที่รัศมีหลายพันกิโลเมตรเพื่อป้องกันเก้าเถาวัลย์จากการหลบหนี
สุดท้ายคลื่นกระบี่สีทองก็หยุดหลังเทลงมาหลายนาที
พื้นผิวดินที่โดนค่ายกลกระบี่ระเบิดตอนนี้ไม่เหลือชิ้นดี มันเต็มไปด้วยหลุม ในพื้นที่ทั้งหมด ไม่มีสักตารางนิ้วที่รอดพ้น ส่วนเก้าเถาวัลย์นั้นหายไปแล้ว
“มันควรตายแล้ว”จิ่วเจี้ยนแสดงความเห็นอย่างไม่แน่ใจหลังเก็บค่ายกลกระบี่และตรวจสอบสภาพแวดล้อมด้วยจิตเทวะ
เวอชุโอโซไม่ตอบสนองทันที เขาดูเหมือนจะกำลังใช้จิตเทวะเพื่อค้นหาพื้นที่อยู่หลายรอบ “จิตเทวะของข้าไม่พบสัญญาณชีพเลย ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเจ้าโจมตี พื้นที่ทั้งหมดอยู่ภายใต้รัศมีของจิตเทวะข้า ข้าไม่พบเถาวัลย์ดำใดที่สามารถหลบจากระยะโจมตีเจ้าได้..”
“งั้น เราจไปค้นหารังมันไหม?”จิ่วเจี้ยนรู้สึกสบายใจมากขึ้น
“แต่ ข้ากลับรู้สึกว่า…มันง่ายไปหน่อย”เวอชุโอโซเหลือบมองหลินฮวงหลังพูดจบ
“ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน”หลินฮวงพยักหน้า”ถ้าเจ้าหมอนั่นสามารถเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ระหว่างราชาได้จริง เราก็ไม่น่าจะฆ่ามันได้ง่ายขนาดนี้”
“ข้าคิดว่าเขาประมาทไป มันจึงทำให้เขาพลาดท่าอย่างน่าสมเพช”จิ่วเจี้ยนมั่นใจในความสามารถตัวเองมาก เขารู้สึกว่าเก้าเถาวัลย์พลังเทวะแทบหมดแล้ว และคงไม่สามารถรอดพ้นจากการโจมตีของเขาได้
หลินฮวงไม่คิดโต้เถียงเรื่องนี้ด้วย”บอกตามตรง มันไม่สำคัญอีกแล้วว่าเขาจะอยู่หรือตาย ด้วยสภาพของเขาตอนนี้ แม้เขาจะยังไม่ตาย เขาก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อเรา เราจะไปทันทีหลังเราได้รับชิ้นส่วน และเราก็ไม่น่าจะพบเขาอีกในอนาคต.”
“พอเจ้าพูดแบบนี้ ทำไมข้าถึงรู้สึกได้ถึงความหวังเล็ก ๆ ว่าเขาอาจจะยังไม่ตาย?”จิ่วเจี้ยนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้าแค่กังวลว่าเขาจะไม่เผยหน้า ถ้าเขากล้าเผยตัวเอง เราจะกำจัดเขาทันทีเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต”
เวอชุโอโซไม่พูดอะไรอีก พวกเขากลับหันไปมองทางรังของเก้าเถาวัลย์
“ไปกันเถอะ!”
พวกเขาออกวิ่งวินาทีที่พูด หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนรีบตามไป และด้วยกัน ทั้งสามมุ่งหน้าไปทางรังของเก้าเถาวัลย์ ซึ่งอยู่ไม่ไกล