ภายในทรงกลมยักษ์ที่ทำจากเถาวัลย์ เก้าเถาวัลย์ไม่บาดเจ็บทางกายเลย แต่ทว่า ตอนนี้ เขารู้สึกเคร่งเครียด
จริงอยู่ที่การโจมตีของพวกหลินฮวงไม่ทำให้เขาบาดเจ็บ แต่ทว่า ครั้งนี้พลังเทวะของเขากลับลดลงไปมากกว่าการปะทะแรก
นี่คงเป็นเพราะพวกหลินฮวงใช้เทคนิคที่ดูดและผลาญพลังเทวะของเขา ดังนั้นมันจึงลดลงอย่างมาก
แม้เก้าเถาวัลย์จะสามารถป้องกันตัวเขาจากคลื่นกระแทกของเวอชุโอโซได้ โดยรวม พลังเทวะของเขาก็ลดลงไปมาก เขาเสียพลังเทวะไปเกือบหนึ่งในสาม
ถ้านับพลังเทวะจากการต่อสู้รอบแรก เขาเสียพลังเทวะไปกว่าครึ่งจากการโจมตีสองรอบ
นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเก้าเถาวัลย์เลย
ไม่ว่าความสามารถของเขาจะทรงพลังแค่ไหน โดยปราศจากพลังเทวะ เขาไม่สามารถทำอะไรได้
พอตระหนักว่าหลินฮวงกับอีกสองเจาะจงเขา เก้าเถาวัลย์ก็เริ่มคิดหากลยุทธ์โต้ตอบ
ในขณะเดียวกัน แม้หลินฮวงกับคนอื่นจะตระหนักว่าการจู่โจมรอบนี้ไม่พอจะทำร้ายเก้าเถาวัลย์ พวกเขาก็ยังพอใจ
พวกเขาไม่รู้ว่าเก้าเถาวัลย์เสียพลังเทวะไปกี่ส่วน แต่พวกเขาก็เดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องเสียไปมากพอสมควร
ถ้ารอบแรกไม่พอจะผลาญพลังเทวะของเก้าเถาวัลย์ให้หมด พวกเขาก็แค่ต้องโจมตีซ้ำ สุดท้าย พลังเทวะของอีกฝ่ายก็จะหมด
เก้าเถาวัลย์ตระหนักดี พลังเทวะกว่าครึ่งในตัวเขาโดนผลาญจากการโจมตีแค่สองรอบ ถ้าเขาปล่อยให้อีกฝ่ายโจมตีต่อ อย่างมากสุดแค่สองรอบพลังเทวะของเขาก็จะหมดลง
เมื่อคิดได้ เขาก็เริ่มโจมตีทันทีที่คลื่นพลังสลาย
โล่ทรงกลมขนาดยักษ์แยกตัวและจู่โจม เถาวัลย์นับไม่ถ้วนพุ่งใส่จุดที่หลินฮวงกับอีกสองอยู่
ทั้งสามรีบหลบ ขณะทำลายเถาวัลย์บางส่วน
แต่ทว่า เถาวัลย์นั้นไร้สิ้นสุด ทุกครั้งที่เถาวัลย์โดนทำลาย พวกมันจะฟื้นฟูภายในชั่วพริบตาและโจมตีทั้งสามต่อ
ด้วยความที่มีเถาวัลย์มากพอ ทั้งสามจึงทำได้แค่ดิ้นรน พวกเขาทำได้แค่ป้องกัน ไม่มีแรงจะไปโจมตีอีก
สุดท้ายเก้าเถาวัลย์ก็เหนือกว่าในการต่อสู้รอบนี้
แต่ทว่า หลินฮวงกับอีกสองไม่ตื่นตระหนกเลย พวกเขายังลอบสื่อสารกันผ่านคลื่นเสียง
“เจ้าหมอนี่คลั่งแล้ว?ทำไมจู่ ๆ มันถึงใช้การโจมตีแบบนี้?!”จิ่วเจี้ยนอดบ่นไม่ได้
“มันพิสูจน์ว่าการโจมตีสองรอบก่อนหน้าของเราผลาญพลังเทวะอีกฝ่ายไปได้มาก มันเลยไม่กล้ายื้อ มันจึงริเริ่มควบคุมการต่อสู้เพื่อจะรีบจบ”เวอชุโอโซมองแผนของเก้าเถาวัลย์ออกทันที
“เจ้าพูดถูก แต่ไม่หมด”หลินฮวงกลับแหงนหน้ามองขึ้นฟ้า
นอกจากเถาวัลย์ที่กำลังโจมตีทั้งสาม มีเถาวัลย์มากขึ้นพุ่งผ่านเหนือหัวพวกเขาและตอนนี้ยังแผ่ขยายไปไกล
“การโจมตีนี้แค่ฉากบังหน้า เป้าหมายจริงของมันคือเปลี่ยนสนามรบ!”ทันทีที่หลินฮวงพูดจบ เถาวัลย์ทั้งหมดก็ได้ล้อมพวกเขาแล้ว บดบังทุกสิ่งอย่าง
วินาทีต่อมา หลินฮวงกับอีกสองก็โผล่ในโลกที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์
คลื่นเถาวัลย์อันท่วมท้นถาโถมใส่ทั้งสามทันที
“เราลำบากแล้ว เราโดนลากเข้าเขตแดนเทพ..”สีหน้าของจิ่วเจี้ยนเปลี่ยนไป
แม้ทั้งสามจะทรงพลัง ระดับพลังของพวกเขาก็ยังเป็นแค่เทพแท้จริง เขตแดนเทพพวกเขาไม่ได้ใกล้เคียงกับเก้าเถาวัลย์เลย พวกเขาไม่มีทางป้อกันตัวเองจากการโดนกลืนเข้าเขตแดนเทพได้
ในเขตแดนเทพ เก้าเถาวัลย์ถือเป็นพระเจ้าของโลกนี่ พลังเทวะของเขาแทบไร้ขีดจำกัด
ดังนั้น แผนที่หลินฮวงกับอีกสองคิดขึ้นก่อนหน้าจึงไร้ประโยชน์ที่นี่
ถ้าพวกเขายังใช้ผลาญพลังเทวะของเก้าเถาวัลย์ต่อ พวกเขาอาจหมดแรงตาย
“เราจะทำยังไงกันดี?!”จิ่วเจี้ยนมองหลินฮวงสลับกับเวอชุโอโซ
เวอชุโอโซไม่พูดอะไร เขายังดูเหมือนกำลังคิดกลยุทธ์โต้ตอบ
หลินฮวงพูดขึ้น”มีแค่สองทางถึงออกจากเขตแดนเทพได้ หนึ่งคือฝืนทำลายเขตแดนเทพ อีกทางคือฆ่าผู้ใช้เขตแดนเทพ”
“ด้วยพลังโจมตีของเรา เราจึงไม่มีทางทำอย่างแรกได้ เราจึงได้แค่เลือกอย่างหลัง”
คนเราจะสามารถทำลายเขตแดนเทพด้วยกำลังได้ก็ต่อเมื่อพลังการโจมตีพวกเขาเกินขีดจำกัดที่เขตแดนเทพจะทนได้ ด้วยความสามารถของเก้าเถาวัลย์ การทำลายเขตแดนเทพของเขาต้องเป็นพลังโจมตีของยอดฝีมือกึ่งจ้าวเทวะขึ้นไปเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าหลินฮวง เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนไม่ได้ครอบครองความสามารถเช่นนั้น ดังนั้น ตัวเลือกทำลายด้วยกำลังจึงมหดไป
แต่ทว่า พอได้ยินหลินฮวงบอกว่ามีแค่ตัวเลือกสองให้พวกเขา จิ่วเจี้ยนก็อดเม้มปากแน่นไม่ได้ ลอบบ่นในใจ
ถ้าพวกเขาไม่สามารถกำจัดเขตแดนเทพด้วยกำลังได้ แล้วพวกเขาจะฆ่าเก้าเถาวัลย์ที่อยู่ภายในเขตแดนเทพของตัวเองได้ไง?!
จากน้ำเสียงของหลินฮวง เขาพูดเหมือนการฆ่าเก้าเถาวัลย์เป็นเรื่องง่ายๆ
“หลินฮวงพูดถูก ถ้านี่เป็นก่อนเก้าเถาวัลย์จะใช้เขตแดนเทพ เราคงยังมีตัวเลือกเยอะ ถ้าเราไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา เราก็สามารถละทิ้งการต่อสู้และหนีได้ แต่ทว่า ตอนนี้เราไร้ทางเลือก เราทำได้แค่ฆ่าเขาเพื่อออกไปจากเขตแดนเทพ”สุดท้ายเวอชุโอโซก็เปล่งเสียง
จิ่วเจี้ยนดูหมดหนทางตอนได้ยิน”ปัญหาคือ เราจะฆ่าเขาได้ไง?!ถ้าเราอยู่ด้านนอกเขตแดนเทพเหมือนเดิม เราคงยังค่อย ๆ ผลาญพลังเทวะเขาได้ แต่ทว่า ตอนนี้ที่เราอยู่ในเขตแดนเทพของเขา พลังเทวะภายในตัวเขาจะไร้ขีดจำกัด ถ้าเรายังพยายามผลาญพลังเทวะของเขาเหมือนที่เราทำก่อนหน้า เราจะเป็นฝ่ายตายเสียก่อน”
เวอชุโอโซเหลือมองจิ่วเจี้ยนหลังได้ยินและพูดอย่างสงบ”นั่นทำให้เราต้องเอาไพ่ตายที่แท้จริงออกมากันบ้างแล้ว ไม่งั้นเราสามคนจะตายกันจริง”
จิ่วเจี้ยนเงียบไปหลังเวอชุโอโซพูดแบบนั้น
เวอชุโอโซไม่กดดันเขาต่อ พวกเขารอคำตอบของจิ่วเจี้ยนอย่างใจเย็นขณะหลบการโจมตี
พวกเขากำลังรอฟังจิ่วเจี้ยนพูดเพราะพวกเขากังวลว่าไพ่ตายตัวเองอาจไม่สามารถฆ่าเก้าเถาวัลย์ได้ในคราเดียว ถ้าพวกเขาโจมตีกับจิ่วเจี้ยน โอกาสสำหรับจะเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กล้าเคลื่อนไหวบุ่มบ่ามก่อนได้รับคำตอบจากจิ่วเจี้ยน
จิ่วเจี้ยนเงียบไปนาน สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจ
“ได้ ข้าจะลุยก่อน!ถ้าข้าฆ่าเขาไม่ได้ พวกเจ้าก็ค่อยลงมือ.”
เหตุผลที่เขาตัดสินใจแบบนี้คือเขารู้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายไปเรื่อยๆถ้าพวกเขายื้อต่อไป สุดท้าย เขาอาจไม่เหลือพลังเทวะพอจะใช้ไพ่ตาย
โดยธรรมชาติแล้ว เก้าเถาวัลย์ตระหนักดีว่าทั้งสามกำลังคุยกันถึงกลยุทธ์โต้กลับ แต่ทว่า เขาไม่ได้ยินรายละเอียดที่เป็นรูปธรรมและไม่สนใจกับสิ่งที่พวกเขาคุย
ในความคิดเขา ทั้งสามเหมือนหนูติดจั่น ไม่มีที่ให้หนี
เขาไม่คิดจะเปลืองความพยายามเพื่อใช้การโจมตีทรงพลังกับทั้งสาม เหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถทั้งสามไม่อ่อนแอ การจู่โจมที่รุนแรงอาจไม่ทำให้เขาได้เปรียบมากนัก ดังนั้น เขาจึงเลือกใช้กลยุทธ์ที่ทั้งสามเคยใช้ ซึ่งคือใช้เถาวัลย์เพื่อผลาญพลังเทวะอีกฝ่าย เมื่อพลังเทวะของอีกฝ่ายหมด ทั้งสามก็จะกลายเป็นเป็ดโง่
น่าเสียดาย เขาไม่รู้ถึงภูมิหลังของเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยน
ถ้าเขารู้ เขาจะทุ่มสุดตัวเพื่อฆ่าทั้งสามแน่
แต่ทว่า สิ่งนี้ก็ได้ช่วยสร้างโอกาสให้พวกหลินฮวง