ในอากาศ จิ่วเจี้ยนยืนตระหง่าน คลื่นกระบี่วนรอบตัวเขาเหมือนปลา กำจัดเถาวัลย์ที่รุกล้ำอย่างสบาย ๆ
เขาเริ่มประสานมือและกลิ่นอายที่แผ่จากตัวเขาก็เริ่มเกรี้ยวกราด
โดยธรรมชาติ เก้าเถาวัลย์สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน แต่ไม่สนใจมากนัก
หลังการโจมตีสองรอบ เขาก็ได้เข้าใจระดับของจิ่วเจี้ยนและรู้สึกว่าการโจมตีของจิ่วเจี้ยนไม่มีภัยคุกคามพอ ความสนใจของเขาจึงมุ่งไปที่หลินฮวงกับเวอชุโอโซกว่า
เขาไม่ได้เมินจิ่วเจี้ยนอย่างสมบูรณ์ แต่กลับส่งเถาวัลย์ไปรบกวนจิ่วเจี้ยนและยังเพิ่มความถี่ของเถาวัลย์ พยายามขัดขวางการเคลื่อนไหวของจิ่วเจี้ยน
แต่ทว่า คลื่นกระบี่ที่แหวกว่ายรอบตัวจิ่วเจี้ยนดูเหมือนจะมีชีวิต ไม่เพียงจะเพิ่มจำนวนตามเถาวัลย์ แต่การเคลื่อนไหวของพวกมันยังตอบสนองต่อความถี่การโจมตี
อีกครั้ง มือของจิ่วเจี้ยนประสานกันเป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ ด้วยความไวสูงขึ้น
วินาทีที่เขาทำเสร็จ ดวงตาทั้งสองของเขาก็เปล่งแสงสีทอง
ประมาณหนึ่งเมตรตรงหน้าเขา คลื่นกระบี่ทองได้ควบแน่นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
มีแค่กระบี่เดียว ซึ่งค่อยๆยืดยาวเป็นหนึ่งเมตร มันไม่ได้ดูต่างจากกระบี่ทองนับล้านที่จิ่วเจี้ยนสร้างก่อนหน้าเลย
แต่ทว่า มีแค่จิ่วเจี้ยนถึงรู้ว่าคลื่นกระบี่นี้แตกต่างจากอันก่อนหน้า
แก่นแท้ของคลื่นกระบี่นี้คือค่ายกลกระบี่ที่ร่างหลักของจิ่วเจี้ยนทิ้งไว้ นอกจากนี้ พลังงานสีเงินยังถูกสอดใส่เข้ามัน
ค่ายกระบี่นี้เดิมหมายถึงหลักประกันชีวิตของจิ่วเจี้ยน วินาทีที่จิ่วเจี้ยนตาย มันจะปลดปล่อยการโจมตีที่เทียบได้กับการจู่โจมของจ้าวเทวะ
โดยธรรมชาติ ผลที่จิ่วเจี้ยนกระตุ้นนั้นอ่อนแอกว่านั้น
ประการแรก นี่เพราะจิ่วเจี้ยนยังไม่เชี่ยวชาญค่ายกลกระบี่นี้และดังนั้นจึงสำแดงพลังสิบส่วนของมันไม่ได้
เหตุผลสองคือเขากระตุ้นมันด้วยตัวเอง ซึ่งหมายความว่าพลังสีเงินที่ร่างหลักของเขาใส่มาไม่อาจใช้ได้ พลังที่ขับดันค่ายกลนี้จะเป็นพลังเทวะของตัวจิ่วเจี้ยนเอง
แม้บนผิวเผินมันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจพบพลังของกระบี่นี้ หลินฮวงกับเวอชุโอโซก็สัมผัสได้ชัดถึงพลังงนาน่ากลัว
แต่ทว่า เก้าเถาวัลย์กลับรู้ตัวช้า แต่มันก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่แผ่จากคลื่นกระบี่ สัมผัสอันตรายจากมันลึกล้ำยิ่งกว่าการโจมตีสองครั้งก่อนของเวอชุโอโซซะอีก
โดยธรรมชาติ เก้าเถาวัลย์ไม่รู้ภูมิหลังของจิ่วเจี้ยน แต่ทว่า นี่ไม่หยุดเขาจากการมองมันเป็นทักษะลับ
‘ดูเหมือนข้าจะประเมินผู้บ่มเพาะกระบี่คนนี้ต่ำไป!’
ในความเป็นจริง เขาไม่เคยดูถูกศัตรูทั้งสามที่เขาเผชิญด้วย แต่ทว่า เขาไม่คิดว่าจิ่วเจี้ยนจะมีความสามารถมากขนาดนี้
เก้าเถาวัลย์ตื่นตัวเต็มที่ขณะมองคลื่นกระบี่ควบแน่นอย่างสมบูรณ์ภายในชั่วพริบตา
วินาทีที่คลื่นกระบี่ทองจับตัวเป็นรูปธรรม มันก็เปลี่ยนเป็นประกายไฟฟ้าและยิงไปข้างหน้า
‘เร็วมาก!’
เก้าเถาวัลย์ไม่ใช่คนเดียวที่คิดงั้น แม้กระทั่งหลินฮวงกับเวอชุโอโซก็อดอุทานลับ ๆ ไม่ได้
การโจมตีเร็วจนหลินฮวงรู้สึกว่ามันอาจเป็นการโจมตีที่เร็วสุดที่เขาเคยเห็นตั้งแต่เขาเริ่มเดินบนเส้นทางผู้บ่มเพาะ
เขาไม่สามารถมองตามการโจมตีได้เลย แม้กระทั่งตอนเขาใช้จิตเทวะ เขาสามารถมองได้แค่วิถีที่การโจมตีทิ้งไว้
‘กระบวนท่าอะไรกัน….ถ้าข้าเป็นศัตรูกับเขา ข้าอาจตายก่อนจะได้ใช้กระจกด้วยซ้ำ’หลินฮวงลอบถอนหายใจ
เขาสามารถจินตนาการได้ว่าการโจมตีจะรุนแรงแค่ไหนตามความเร็ว
เหนือสิ่งอื่นใด มันคือไพ่ตายที่ทิ้งไว้โดยร่างหลักของจิ่วเจี้ยน!
ในฐานะร่างแยกของผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน เวอชุโอโซจึงสามารถเห็นได้มากกว่าหลินฮวง
แค่เหลือบมอง เขาก็ตระหนักว่าจิ่วเจี้ยนไม่ได้สำแดงพลังเต็มที่ของไพ่ตายนี้ เวอชุโอโซสามารถเดาเหตุผลได้คร่าวๆ
‘ตามคาด การโจมตีอ่อนแอกว่าตอนเขาใช้มันด้วยตัวเอง’เวอชุโอโซคิด และลูบคาง’มันยังห่างไกลกับพลังแท้จริง…การโจมตีเช่นนี้ไม่น่าจะฆ่าเก้าเถาวัลย์ได้’
เวอชุโอโซเริ่มวางแผนขั้นต่อไปโดยไม่รอผลลัพธ์
ในขณะเดียวกัน เก้าเถาวัลย์ผู้เห็นการโจมตีนี้กลับตึงเครียดอย่างมาก
การโจมตีนี้เร็วมาก แม้กระทั่งเก้าเถาวัลย์ก็มองเห็นได้ไม่ชัด มันโชคดีที่ครอบครองจิตเทวะอันทรงพลังและสามารถสัมผัสวิถีของคลื่นกระบี่ได้
วินาทีที่เก้าเถาวัลย์จับวิถีของคลื่นกระบี่ได้ เขาก็โจมตีโดยไม่ลังเล
เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งใส่คลื่นกระบี่ทอง
เขาไม่ได้หวังสูงว่าแค่นี้จะป้องกันการโจมตีได้ เขาแค่หวังว่าจะสามารถใช้เถาวัลย์เพื่อลดทอนพลังโจมตี
ตอนคลื่นกระบี่ทองระเบิดใส่เก้าเถาวัลย์ มันก็หลุดพ้นจากการควบคุมของจิ่วเจี้ยนไปอย่างสมบูรณ์
พอเจอกับชั้นของเถาวัลย์ มันไม่มีเจตนาจะอ้อม มันกลับเจาะผ่านพวกมันโดยตรง ทุกที่ที่มันผ่าน การทำลายล้างจะตามมา
เถาวัลย์ไม่สามารถหยุดคลื่นกระบี่ได้เลย พวกมันโดนบดขยี้เป็นผุยผงทันทีที่เข้าภายในระยะสิบเซนติเมตร
แต่ทว่า เกาเถาวัลย์ไม่ตื่นตระหนกตอนเห็นสิ่งที่เกิด
คลื่นกระบี่ดูเหมือนจะไม่หม่นแสงลงเลย แต่เก้าเถาวัลย์มั่นใจว่าทุกครั้งที่มันโดนเถาวัลย์ของเขา มันจะอ่อนแอลง
ครั้งนี้ เขาใช้เทคนิคที่หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนใช้เพื่อโต้ตอบเขาก่อนหน้า เขาลอบผสานเถาวัลย์ทั้งหมดด้วยความสามารถดูดซับและผลาญพลังเทวะ
คลื่นกระบี่ดูไม่อ่อนแอลงมากหลังปะทะกับเถาวัลย์สองหรือสามครั้ง แต่ทว่า ถ้ามันปะทะกันเป็นร้อยหรือพันครั้งละ?แล้วจะเป็นไงถ้าหมื่นครั้ง?!
แม้กระทั่งเก้าเถาวัลย์ก็ยังไม่คิดว่าจะสามารถนำเอาวิธีนี้มาใช้ได้เร็วนัก
ไม่นานนักก่อนหลินฮวงกับคนอื่นจะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
แม้หลินฮซงจะไม่รู้ว่าสีหน้าของเวอชุโอโซเป็นไงภายใต้หน้ากา เขาก็เห็นจิ่วเจี้ยนขมวดคิ้ว หลินฮวงไม่มั่นใจว่าจิ่วเจี้ยนไม่พอใจกับการโจมตีของเขาหรือว่าเขาหงุดหงิดที่เก้าเถาวัลย์ใช้เทคนิคของเขามาต่อต้านเขา
แต่ทว่า ภายใต้หน้ากากเขา หลินฮวงดูทำอะไรไม่ถูก
เขาเองก็ไม่คิดว่ากลยุทธ์ที่เขากับจิ่วเจี้ยนใช้กับเก้าเถาวัลย์จะถูกนำมาใช้กับเขาเอง
ในความว่างเปล่า เถาวัลย์นับไม่ถ้วนได้ล้อมรอบคลื่นกระบี่ทอง
คลื่นกระบี่ทองยังเคลื่อนไหวเหมือนมีดร้อนผ่านเนยโดยไม่มีที่ท่าว่าจะช้าลง มันเจาะผ่านชั้นอุปสรรคและไปถึงตัวเก้าเถาวัลย์ภายในชั่วพริบตา
เก้าเถาวัลย์ไม่คิดหลบ รู้ว่ามันเปล่าประโยชน์ที่จะลอง
เขาไม่มีทางหลบการโจมตีนี้พ้น
ดังนั้น เขาจึงเลือกโต้ตอบเต็มกำลัง
เขาปล่อยเภาวัลย์นับไม่ถ้วนสร้างเป็นป้อมปราการ ก่อตัวเป็นชั้นโล่เงินทรงกลมขนาดยักษ์ตรงหน้า
เพื่อความมั่นใจ มันสร้างโล่ซ้อนทับกันถึง 18 ชั้น
พวกมันเหมือนกำแพงเมือง 18 กำแพงที่ตั้งเรียงกันตรงหน้าเก้าเถาวัลย์
โล่แต่ละชั้นพัวพันไปด้วยห่วงโซ่ลำดับเทพเกือบ 20 ประเภท
ในเวลาแค่หนึ่งลมหายใจ คลื่นกระบี่ทองก็ได้ปะทะกับโล่ยักษ์
แสงสีเงินกับทองปะทุขึ้น สะเทือนถึงชั้นฟ้า ในชั่วพริบตา มันก็ราวกับว่าทั้งโลกนี้เหลือเพียงแค่สีทองกับเงิน
แม้กระทั่งผู้สังเกตการณ์ทั้งสอง หลินฮวงกับเวอชุโอโซก็ยังอดหรี่ตาไม่ได้
แต่ทว่า นอกจากแสงสีทองกับเงิน พวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย
อึดใจต่อมา แสงทั้งสองก็ค่อย ๆ จางหายไป และในที่สุดหลินฮวงกับเวอชุโอโซก็มองเห็นสนามรบได้อีกครั้ง
โล่คล้ายกำแพงหนา18ชั้นโดนเจาะทะลวงอย่างสมบูรณ์ ทิ้งรูใหญ่เท่าท่อน้ำไว้
ในขณะเดียวกัน เก้าเถาวัลย์ที่หดหัวอยู่หลังโล่ก่อนหน้านี้กลับมองไม่เห็น
‘เก้าเถาวัลย์..ตายแล้วเหรอ?!’หลินฮวงไม่อยากเชื่อสายตา