ในความว่างเปล่า แสงสีทองที่ปล่อยออกมาส่องสว่างในทันที จากนั้นก็ค่อย ๆ หม่นลง
หลินฮซงสามารถสัมผัสได้ว่าพอแสงสีทองปล่อยแสงสว่างออกมา กลิ่นอายของเวอชุโอโซก็ลดฮวบ
เวอชุโอโซจึงพูดผ่านคลื่นเสียงอย่างอ่อนแรง
“ไม่เป็นไร-วิญญาณเทพของข้าเสื่อมถอยเล็กน้อย แต่ทว่า ข้าไม่มีแรงเหลือพอจะสู้ต่อแล้ว”
หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อยและเหลือบมองจิ่วเจี้ยน ผู้อยู่ในสภาพเดียวกัน”ไม่ต้องห่วง ข้าจะปกป้องพวกเจ้าสองคนจนกว่าพวกเจ้าจะฟื้นคืนพลังได้”
วินาทีที่หลินฮวงพูดจบ ทั้งสามก็หันไปมองทางที่แสงสีทองระเบิดออกมาแทบพร้อมกัน
สีหน้าของจิ่วเจี้ยนดูไร้คำอธิบาย
ในขณะเดียวกัน เวอชุโอโซก็พูดกับหลินฮวงผ่านคลื่นเสียง”วิ่งให้เร็วที่สุด!อย่าสนใจเรา!”
แต่ทว่า หลินฮวงยังยืนกับที่ไม่ขยับ เขาหรี่ตาเล็กน้อย จ้องจุดที่เถาวัลย์นับไม่ถ้วนกำลังโบกสะบัด
เก้าเถาวัลย์ยังไม่ตาย!
ในความเป็นจริง สิ่งที่น่าตกใจสุดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดคือไพ่ตายที่เวอชุโอโซเพิ่งใช้นั้นคือการโจมตีจิตวิญญาณ นอกจากนี้ พวกเขาสัมผัสได้ว่าวิญญาณเทพของเก้าเถาวัลย์ดูเหมือนจะโดนลบล้างไปอย่างสิ้นเชิงในการโจมตี
ความตายของจิตวิญญาณย่อมไม่ต่างจากความตายของร่างกาย
พูดโดยทั่วไป สำหรับยอดฝีมือมากมาย ความตายของร่างกายเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ตราบเท่าที่จิตวิญญาณพวกเขายังคงอยู่ มันก็มีหลายทางให้พวกเขาคืนชีพตัวเอง
แต่ถ้าจิตวิญญาณของผู้บ่มเพาะโดนกวาดล้าง นั่นก็หมายความว่าพวกเขาตายจริง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะมีวิธีคืนชีพ
แต่ทว่า เก้าเถาวัลย์กลับทำได้ จิตวิญญาณของมันโดนลบล้างไประหว่างการโจมตี แต่มันคืนชีพตัวเอง ไม่เพียงแค่นั้น มันยังดูไร้บาดแผล
เทคนิคเช่นนี้จะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
โดยธรรมชาติ เก้าเถาวัลย์สังเกตเห็นว่าหลินฮวงกับคนอื่นตกใจแค่ไหน มันพูดอีกครั้ง โดยที่ร่างกายยังไม่ฟื้นคืนดี
“ไพ่ตายของเจ้าทรงพลังมาก อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าแต่ละคนใช้พวกมันได้แค่ครั้งเดียว ถ้าพวกเจ้าสามคนฆ่าข้าคนละครั้ง พวกเจ้าก็จะยังฆ่าข้าได้สามครั้ง…”ตอนนี้ เก้าเถาวัลย์ยิ้มอย่างมีความสุขพอพูด”แต่ข้ามีชีวิตมากกว่าสามชีวิต!”
“พวกเจ้าสามคนควรหยุดดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์”
ตอนจิ่วเจี้ยนได้ยิน ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นน่าเกลียด
เวอชุโอโซชำเลืองมองหลินฮวง พอเห็นว่าหลินฮวงไม่หนี เขาก็กำลังจะพูดกับเขาผ่านคลื่นเสียง ขอให้เขาหนี อย่างไรก็ตาม เขาสังเกตเห็นว่ากลิ่นอายของหลินฮวงกำลังพุ่งทะยาน
ภายในเวลาแค่หนึ่งลมหายใจ เขาก็เลื่อนจากเทพแท้จริงเป็นเทพสวรรค์ทันที
กลิ่นอายของเขาทรงพลังกว่าเดิมเป็นสิบเท่า
จิ่วเจี้ยนที่อยู่ใกล้กับหลินฮวงสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาเช่นกันและตกใจ
เขาเคยเห็นคนใช้วิชาพิเศษเพื่อยกขั้นพลังตัวเอง แต่ไม่เคยเห็นใครที่ยกระดับฐานบ่มเพาะตัวเองได้มาก่อน
เหนือสิ่งอื่นใด มีช่องว่างมหาศาลระหว่างเทพแท้จริงขั้นเก้ากับเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง
แต่ทว่า หลินฮวงกลับทำได้ ราวกับมันเป็นแค่เรื่องง่ายเหมือนการหายใจ
หลินฮวงเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเขาไม่ได้ใช้ทักษะลับเพื่อยกระดับพลัง เขาแค่ใช้การ์ดเพิ่มพลังชั่วคราว
ตอนเขาบดขยี้การ์ด การยกระดับพลังก็เป็นแค่เรื่องง่าย เขาเลื่อนจากเทพแท้จริงขั้นเก้าเป็นเทพสวรรค์ขั้นหนึ่งโดยตรง
หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ชัดว่าตอนนี้เขาทรงพลังขึ้นแค่ไหน ทุกอณูในตัวเขากับวิญญาณเขาดูเหมือนจะผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เขาก้าวไปข้างหน้าและหายไปจากมุมมองของเวอชุโอโซและจิ่วเจี้ยนอย่างสมบูรณ์
พวกเขาไม่สามารถรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของหลินฮวงด้วยสายตาได้ แม้กระทั่งจิตเทวะของพวกเขาก็ยังไม่สามารถจับวิถีของเขาได้
เก้าเถาวัลย์ที่ร่างกายเพิ่งฟื้นฟูเสร็จตอนนี้เองก็รู้สึกเหมือนกับเวอชุโอโซและจิ่วเจี้ยน
ภายใต้เกราะเงิน รูม่านตาของมันหดลง มันบังคับให้ตัวเองสงบและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง”ข้าบอกเจ้าแล้ว ต่อให้เจ้าฆ่าข้าอีกครั้ง มันก็เปล่าประโยชน์ ข้าจะคืนชีพอีกครั้ง…”
“ถ้าเป็นงั้น ข้าก็อยากดูว่าเจ้าจะคืนชีพได้สักกี่ครั้ง!’
เสียงพลันดังขึ้น และร่างคล้ายวิญญาณก็ปรากฏตรงหน้าเก้าเถาวัลย์
วินาทีถัดมา คลื่นสีแดงเลือดก็แยกเก้าเถาวัลย์เป็นสองส่วน
หลินฮวงเก็บดาบเข้าฝักและลอยในอากาศ
กลิ่นอายของเขาน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก มันไม่แสดงสัญญาณของการเสื่อมถอยเลย
เขายังยืนอยู่จุดที่เขาฆ่าเก้าเถาวัลย์ มันไม่ดูเหมือนว่าเขากำลังขยับ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเฝ้าศพเก้าเถาวัลย์
เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนโล่งใจตอนเห็นกลิ่นอายของหลินฮวงยังอยู่ที่ระดับเทพสวรรค์โดยไม่ลดลง
แต่ทว่า พวกเขาอยากรู้เล็กน้อยว่าการโจมตีก่อนหน้านี้ของหลินฮวงทรงพลังแค่ไหน
นี่เพราะเขาขยับและโจมตีเร็วเกินไปจนพวกเขามองได้ไม่ชัด
พวกเขาเห็นแค่หลินฮวงหายตัวไป ตอนเขาปรกาฏใหม่ คลื่นดาบสีแดงเลือดก็ได้ฆ่าเก้าเถาวัลย์แล้ว
ทั้งสองยังสัมผัสไม่ได้ถึงคลื่นพลังเทวะในการโจมตี นับประสาอะไรกับพลังลำดับเทพในนั้น
และเก้าเถาวัลย์ก็คืนชีพใหม่ ณ จุดนั้น
หลินฮวงไม่ได้ขยับทันที เขากลับรอให้ร่างกายของอีกฝ่ายฟื้นคืนอย่างอดทน
“นั่นคือการลอบโจมตี เจ้าช่างไร้ซึ่งเกียรติ!”เก้าเถาวัลย์สบถอย่างโมโหทันทีที่ได้สติคืน
“เจ้าช้าไป”หลินฮวงหัวเราะเย้ยหยัน
แม้จะสังเกตเห็นว่าเก้าเถาวัลย์กำลังระดมเถาวัลย์มาสร้างเป็นโล่ หลินฮวงก็ไม่คิดหยุด
เขาแค่จ้องเก้าเถาวัลย์ราวกับเขาเป็นคนโง่
เมื่อร่างของเก้าเถาวัลย์ก่อตัวอย่างสมบูรณ์ โล่ขนาดมหึมาก็ก่อตัวเสร็จ
“เสร็จยัง?”หลินฮวงถาม
เก้าเถาวัลย์เมินเขา มันกลับฉวยเวลาทุกวินาทีเพื่อสร้างชั้นป้องกันเพิ่ม
ตอนหลินฮวงเห็น เขาก็ไม่คิดรออีก
เขาคว้าด้ามดาบ และชักดาบออกมาในชั่วพริบตา
ครั้งนี้ คลื่นดาบระเบิดออกไปเหมือนสายฟ้าฟาด เล็งไปที่ใจกลางของโล่ขนาดมหึมาเหล่านั้น
วินาทีต่อมา โล่ทุกชั้นก็แตกเป็นเศษ
มันเหมือนกระสุนที่ทะลุผ่านชั้นกระจกบางง่าย ๆ
โล่ร้อยชั้นโดนเจาะทะลุง่ายๆ
ดาบคล้ายสายฟ้าสีแดงค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงหลังมันพุ่งผ่านโล่ มันเจาะผ่านตัวเก้าเถาวัลย์โดยตรง ทิ้งรูขนาดเท่าชามไว้
วินาทีที่รูปรากฏ ตัวของเก้าเถาวัลย์ก็แตกเหมือนกระจกและสลายเป็นเศษ
พลังชีวิตของเขาพลันสลายหายไป
ภายในเวลาแค่สองถึงสามลมหายใจ หลินฮวงฆ่าเก้าเถาวัลย์ไปถึงสองครั้ง
ขณะพวกเขามองสิ่งีท่เกิด เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนก็พูดไม่ออก
แม้พวกเขาจะรู้ว่าหลินฮวงทรงพลัง พวกเขาก็มองหลินฮวงเป็นยอดฝีมือระดับเดียวกับพวกเขา
แต่ทว่า ตอนนี้ ในที่สุดทั้งสองก็เห็นไพ่ตายจริงของหลินฮวง
แม้พลังของการโจมตีเขาไม่ทรงพลังเท่ากับไพ่ตายพวกเขา แต่เรื่องน่ากลัวคือไพ่ตายของหลินฮวงไม่ใช่การใช้ครั้งเดียว
เมื่อพลังต่อสู้ของเขาเพิ่มเป็นเทพสวรรค์ เขาสามารถเอาชนะเก้าเถาวัลย์ได้ต่อเนื่อง นั่นทำให้มันน่ากลัวกว่าไพ่ตายพวกเขา