ตอนที่ 1600 เราจะเช่าที่ในเขตดาวนักล่าปีศาจ
ตอนหลินฮวงออกวังจอมเทพ เวลาก็ผ่านไปสามวันครึ่งในโลกภายนอก
หลินฮวงรีบมองวันที่ จากนั้นก็ก้าวผ่านประตูมิติและกลับไปเขตดาวนักล่าปีศาจ
เขาเลือกเขตดาวนักล่าปีศาจเป็นสถานีชั่วคราวของเขาเพราะมันห่างไกลจากเขตหลักของโลกมนุษย์ และไม่อยู่ใต้อํานาจขององค์กรใหญ่ใด ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีทรัพยากรพอและเหมาะกับการพัฒนาในอนาคต
อีกเหตุผลสําคัญคือทาสดาบภายใต้บัญชาของหลินฮวงคือโปรตอสหรือสมาชิกจากเผ่าอื่น มีมนุษย์ไม่ถึงสิบ ถ้าตัวตนพวกเขาโดนพบโดยองค์กรมนุษย์ เรื่องราวจะลําบาก
ไม่มีเวลาให้ล่าช้า หลินฮวงระบุตุแหน่งพวกหลินซินได้ผ่านจิตเทวะทันที
นี่คือวังที่ก่อสร้างบนภูเขาสูง
หลินฮวงพุ่งผ่านค่ายกลดาบหลายแห่งในชั่วพริบตาและเข้าสวนวัง
แทบจะทันทีกับที่เขาปรากฏ ทาสดาบก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเขาและรีบมาต้อนรับเขา
มีทาสดาบแค่สี่ที่ประจําการที่นี่ นําโดยดาบ 12 หลินฮวงสังเกตเห็นว่าดาบ 12 ได้ปลอมระดับพลังตัวเองเป็นเทพสวรรค์ชั้นหนึ่ง ขณะที่อีกสามปลอมเป็นเทพแท้จริงขั้นสูง
หลินฮวงผงะตอนแรกแต่ก็ตระหนักถึงเหตุผลทันที
“ยินดีต้อนรับกลับ ท่านจอมดาบ!”
“จุดรวมตัวนี้ที่พวกเขาพบไม่เลวเลย” หลินฮวงชมเชย
“ศูนย์ใหญ่ของพันธมิตรดาบต้องน่าประทับใจไม่น้อย” ดาบ12 หัวเราะ ขณะที่หัวล้านของเขาเปล่งแสง
“เจ้าตั้งพันธมิตรดาบแล้วหรือ?” หลินฮวงเลิกคิ้ว
แม้เขาจะกลับเขตดาวนักล่าปีศาจบ้าง แต่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานี้ เขายุ่งกับธุระตัวเอง เดิมเขาตั้งใจมาพันธมิตรดาบตอนเขามีเวลามาแบ่งเนื่องจากมันไม่เร่งรีบ เขาไม่คิดเลยว่า ดาบ12จะตั้งมันแล้ว เขาเพิ่งนึกได้ว่าเขาพูดเรื่องนี้กับดาบ12ระหว่างการคุยเล่นก่อนหน้า เกี่ยวกับการอยากตั้งพันธมิตรดาบในเขตดาวนักล่าปีศาจ
“ข้าคิดว่าข้าควรตั้งมันก่อน ข้าจึงไปลงทะเบียน จากนั้นก็ซื้อที่ดินส่วนนี้”ดาบ12อธิบายทันที “สุดท้าย เพราะข้าลงทะเบียนในนามเทพสวรรค์ นักล่าจึงระบุว่าพันธมิตรดาบเป็นองค์กรระดับ4ทันที..”
หลินฮวงพยักหน้า
เมื่อระดับพลังของเขาเลื่อนเป็นขั้นสิบ พลังของทาสดาบก็เลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นเก้า ความสามารถพวกเขาแทบกลับสู่จุดสูงสุดแล้ว
แต่ทว่า เพื่อป้องกันการเป็นจุดสนใจ ดาบ 12 จึงแสดงแค่ความสามารถระดับเทพสวรรค์ชั้นหนึ่งตอนเขาตั้งพันธมิตรดาบ ทาสดาบขึ้นเองก็ปกปิดพลัง
เนื่องจากดาบ12เป็นมนุษย์ รวมถึงยอดฝีมือเทพสวรรค์ มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่การลงทะเบียนของเขาจะผ่านการอนุมัติ
หลังตรวจสอบภูมิหลัง เจ้าหน้าที่ก็ยังเข้าหาดาบ12ด้วยข้อเสนอว่าจะตั้งเขาเป็นผู้พิทักษ์ของเขตดาบนักล่าปีศาจ
ทุกสิบปี นักล่าจะมอบหมายเทพสวรรค์ให้เป็นผู้พิทักษ์ของเขตชนบทเช่นนี้ นอกจากนี้ ไม่มีใครเต็มใจที่นี่ ถ้ามันไม่ใช่พรมแดนที่ต้องมีผู้พิทักษ์ นักล่าคงทิ้งที่นี้ไปนานแล้ว
แม้ทั้งเขตดาวจะถือว่าเจริญ ผลกําไรจริงก็ต่ำ ผลกําไรกว่าครึ่งต้องมอบให้ผู้พิทักษ์
ตอนนี้ จู่ๆเทพสวรรค์ที่กําลังจะตั้งองค์กรดันปรากฏ นักล่ายังยิ่งมีความสุขที่เขาคิด “เช่า” ที่ดิน อย่างน้อยพวกเขาก็จะมาช่วยแบ่งเบาภาระให้
ดาบ12เห็นด้วยหลังพิจารณา เหตุผลเพราะถ้าเขากลายเป็นผู้พิทักษ์ มันจะดีต่อการพัฒนาพันธมิตรดาบในเขตดาวนักล่าปีศาจ
สําหรับองค์กรระดับ6อย่างนักล่า องค์กรขนาดเล็กที่มีสมาชิกไม่ถึงสิบคนนําโดยเทพสรรค์ขั้นหนึ่ง ไม่มีนัยสําคัญอะไรพอจะเป็นภัยคุกคาม
ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากความเอื้ออาทรของนักล่าไม่ใช่ใครนอกจากดาบ12และพันธมิตรดาบ
นี่ยังดึงดูดเทพแท้จริงจํานวนมากให้เข้าร่วมพันธมิตรดาบ แต่พวกเขาก็ไม่ผ่านบททดสอบที่ดาบ12ตั้งไว้กันเลย
ไม่แปลกใจที่องค์กรอื่นบนดาวนี้จะหายไปหมด สุดท้ายหลินฮวงก็เข้าใจว่าทําไมองค์กรเพียงหยิบมือที่พิทักษ์ดาบก่อนหน้าจึงไม่อยู่อีกแล้วตอนเขาใช้จิตเทวะตรวจ
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาหลีกทางให้องค์กรพันธมิตรดาบและย้ายออกไป
ตอนหลินฮวงกําลังคุยกับดาบ12 หลินซินก็ปรากฏตัวตรงหน้าหลินฮวงในชั่วพริบตา นางเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเขา
“พี่ใหญ่”
หลินฮวงเงยหน้า หลินซินในตอนนี้สวมชุดฝึกสีดํารัดรูปที่เผยให้เห็นเรือนร่างน่ามอง
เขายังสังเกตเห็นว่าหน้าผากกับคอของนางเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ นางต้องกําลังซ้อมกับใครบางคนอยู่
หลินซวนตามหลินซินมาติด ๆ
เห็นได้ชัดว่าหลินซินต้องซ้อมมือกับหลินซวนอยู่แน่
หลินฮวงแค่ต้องเหลือบมองก็ระบุระดับพลังทั้งคู่ได้
หลินซินกลายเป็นเทพแท้จริงขั้นหนึ่งแล้ว ขณะที่หลินซวนเป็นขั้นสาม
“ไม่เลว พวกเจ้าสองเป็นเทพแท้จริงกันแล้ว” หลินฮวงพยักหน้าพอใจ
“ข้าเพิ่งเลื่อนเมื่อสองวันก่อน” หลินซินลอยไปที่ดวงจันทร์แล้วกับคําชมของหลินฮวง
ในความเป็นจริง แม้นางจะไม่อธิบาย หลินฮวงก็สามารถมองออกได้จากคลื่นพลังของนาง
“เจ้าเองก็พัฒนาขึ้นเยอะ มันแค่ไม่กี่เดือน แต่เจ้าก็เลื่อนอีกสองขั้นแล้ว” หลินฮวง มองหลินซวน
เขากลับมาที่นี่ไม่กี่ครั้งประมาณสามเดือนก่อน แต่หลินซวนก็มักอยู่ในสมรภูมิมังกรหุบเหว ดังนั้นหลินฮวงจึงไม่อาจบอกความก้าวหน้าของเขาได้เลย
“มันยังอีกห่างไกลห่างเทียบกับเจ้า” หลินชวนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่อัดแน่นในตัวหลินฮวง ตอนนี้ เขามองหลินฮวงเป็นแบบอย่างให้ไล่ตาม
“เฉินเตากับเสี่ยวโม่ไปไหน?” หลินฮวงถาม จิตเทวะของเขาตรวจหาพวกเขาไม่เจอ
แต่ทว่า เขาเดาคําตอบได้ทันทีที่คําพูดหลุดออกปาก
“จะไปไหนได้เล่า?” หลินซินเม้มปาก
ข้างนาง หลินซวนอธิบาย “เสี่ยวโม่บอกว่าเขาจะไม่ออกสมรภูมิมังกรหุบเหวจนกว่าจะ เลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้นเก้า เฉินเตาบอกว่าเขาอยากเป็นเทพแท้จริงให้เร็วที่สุด หวงอู่จื่อก็ไปกับพวกเขา”
“มันไม่ใช่เรื่องแย่ที่พวกเขามีความทะเยอทะยาน” หลินฮวงพยักหน้า
หลังจากนั้นเขาก็ถาม” แล้วเฒ่าฟู่ละ?”
นับตั้งแต่คุณฟู่เลื่อนเป็นเทพแท้จริงขั้นสอง เขาก็รู้สึกว่าความเร็วการบ่มเพาะเขาเริ่มช้าลง ต่อมา เขาก็ออกเดินทางหลังอําลาพวกหลินฮวง
แต่ทว่า มีทาสดาบคอยติดตามเขาลับๆ ด้านหนึ่งมันเพื่อรับประกันความปลอดภัย อีกด้านมันเพื่อรายงานการกระทําของคุณฟู่
“ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี” ดาบ 12 บอกข้อมูลที่เขาได้รับ” เขาเข้ามิติบางแห่ง มันเป็นแค่ซากมิติ ระดับเทพแท้จริงขั้นเก้าที่ทิ้งไว้โดยคนที่เลื่อนเป็นเทพสวรรค์ไม่สําเร็จ มันไม่อันตรายมาก”
หลินฮวงพยักหน้าหลังได้ยิน สําหรับเขา คุณฟู่ไม่ใช่แค่อาจารย์ แต่เป็นครอบครัว
หลังรายงานทุกอย่างแก่หลินฮวง ดาบ 12 ก็จากไปพร้อมสามทาสดาบ
พอทาสดาบไป หลินซินก็ทําตัวเหมือนเด็ก วิ่งวนรอบหลินฮวง อยากรู้ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
หลินซวนไม่แสดงท่าที่จะไปไหนเช่นกัน เขาเดินตามหลังสองพี่น้องเงียบๆ