ตอนที่ 1606 ชาน้ําผึ้งหิมะ
ดาวน้ำผึ้งหิมะอยู่ในเขตดาวทางช้างเผือก มันคือดาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะทั้งปี และมันก็ผลิตน้ำผึ้งแข็ง
พืชที่นี่มีความต้านทานอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ และส่วนใหญ่ก็เบ่งบานได้ที่อากาศ -80 องศา
บนดาวนี้มีผึ้งสายพันธ์พิเศษมากอาศัย ผึ้งน้ำแข็ง ที่มีเกล็ดผลึกน้ําแข็งพิเศษบนตัว พวกมันทนอากาศหนาวได้ถึง-200องศา และน้ำผึ้งที่พวกมันผลิตก็อร่อยมาก
สภาพอากาศและผลิตภัณฑ์พิเศษนี้ที่ทําให้ดาวมีชื่อนี้
เมืองที่แออัดดบนดาวคือเมืองน้ำแข็ง
ดาวน้ำผึ้งหิมะอยู่ในเขตดาวทางช้างเผือก มันคือดาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะทั้งปี และมันก็ผลิตน้ำผึ้งแข็ง
พืชที่นี่มีความต้านทานอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ และส่วนใหญ่ก็เบ่งบานได้ที่อากาศ -80 องศา
บนดาวนี้มีผึ้งสายพันธ์พิเศษมากอาศัย ผึ้งน้ำแข็ง ที่มีเกล็ดผลึกน้ำแข็งพิเศษบนตัว พวกมันทนอากาศหนาวได้ถึง-200องศา และน้ำผึ้งที่พวกมันผลิตก็อร่อยมาก
สภาพอากาศและผลิตภัณฑ์พิเศษนี้ที่ทําให้ดาวมีชื่อนี้
เมืองที่แออัดดบนดาวคือเมืองน้ำแข็ง
ปัจจุบัน หลินฮวงอยู่ที่หนึ่งในร้านชาไข่มุก ขณะรอให้เป้าหมายปรากฏเขาก็แวะมาชิมซาน้ำแข็งชื่อดังที่เรียกว่าชาหวาน
เขารับภารกิจ 26 อันจากเคียวแห่งความตายในรวดเดียวและก็ทําเครื่องหมายพิกัดเป้าหมายภารกิจทั้งหมดทีละหนึ่ง จากนั้นก็วางแผนเส้นทางตามตําแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย จากง่ายสุดไปยากสุด
เขตดาวทางช้างเมืองอยู่ห่างจากเขตดาวนักล่าปีศาจไม่ถึงสามหมื่นปีแสงประตูมิติพาเขาตรงมาได้เลย
ดังนั้น เป้าหมายของดาวน้ำผึ้งหิมะจึงกลายเป็นรายชื่อแรกของหลินฮวง
รอบนี้ เป้าหมายของเขาคือเอสเต้ เจ้าเมืองน้ำแข็ง ผู้เป็นเจ้าของทั้งเขตดาวทางช้างเผือก
เส้นทางบ่มเพาะหลักของเขาคือธาตุน้ำแข็ง ในแง่ความสามารถ เขาเป็นอันดับ97บนรายชื่อ เทพสวรรค์ของแดนเทพและถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือ
เขามีความหลงใหลในการแช่แข็งคนทั้งเป็นให้กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งซึ่งเขาจะนําไปวางในห้องจัดแสดงของเขา ในชุดสะสมประติมากรรมน้ำแข็งของเขา ไม่เพียงแค่โปรตอส แต่มนุษย รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นก็ด้วย เขามีประติมากรรมเหล่านี้เป็นพัน
เป็นผลให้เขาภาคภูมิใจในชุดสะสมของเขาและกําหนดให้ตัวเองเป็น ‘นักประติมากรรมน้ำแข็ง’
หลินฮวงพ่อตัวเองด้วยเสื้อโค้ทหนา ไม่ใช่เพราะเขาหนาว แต่เพราะทุกคนต่างสวมมัน
เขาจิบชาเย็น รอให้เอสเต้ปรากฏตัว
ตามข้อมูลที่เขาได้รับ เอสเต้จะมาที่ร้านนี้เพื่อซื้อชาเย็นทุกเช้า
พอดื่มได้สักพัก หลินฮวงก็ค่อยๆเหลือบมองขึ้นและเห็นว่าเป้าหมายภารกิจของเขากําลังเข้ามาใกล้ รอยยิ้มอ่อนผุดขึ้นที่มุมปากเขา
แสงสีแดงวาบขึ้นที่แขนเสื้อเขา
วินาทีต่อมา เอสเต้ผู้มีเคราสีฟ้าน้ำแข็งก็หยุดชะงักและล้มลงกับพื้นทันทีหลังจากนั้น
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าแหวนเก็บของบนนิ้วของเอสเต้หายไปอย่างไร้ร่อยรอง พร้อมกันเขตแดนเทพในตัวเขา
ในเวลาเดียวกัน หลินฮวงก็หายตัวไปในอากาศ
ยอดฝีมือที่เป็นอันดับ97บนกระดานเทพสวรรค์โดนกําจัดภายในเวลาเสี้ยววินาที ทั้งอย่างนั้น
พูดตามตรง หลินฮวงคงพบว่ามันยากที่จะฆ่าเอสเต้ในการเผชิญหน้าตรงๆ
แต่ทว่า เขาใช้มีดบินพลังจิตเพื่อลอบโจมตี ด้วยความเร็วของมัน เอสเต้จึงไม่มีทางหลบได้เลย
นอกจากนี้ หลินฮวงยังผสานพลังลําดับเทพ 18 ชั้นกับกฎสวรรค์เต่าดาบลงในมีดบิน
ต่อให้มันจะเป็นใต้สวรรค์หรือคิงคอง พวกเขาก็อาจไม่มีเวลาตอบสนองเช่นกันถ้าพวกเขาพบกับการลอบโจมตีเช่นนี้
หลังจัดการเป้าหมายแรก หลินฮวงก็ถอนตัวทันที่และจากไปโดยไม่ลังเลใดๆ
“เป้าหมายสอง กู่หมิง”
หลังฆ่าเป้าหมายแรก หลินฮวงไม่วางแผนพัก เขาตรงไปตําแหน่งของเป้าหมายสองและเริ่มการล่าครั้งสอง
วันแรกหลังรับภารกิจ เขาฆ่าเป้าหมาย 17 เป้าหมายได้ภายในเวลาแค่ 24 ชั่วโมง
เป้าหมายแต่ละเป้าหมายโดนฆ่าด้วยมีดบินพลังจิต หลินฮวงไม่ต้องใช้เล่มที่สองเลย
เขาฆ่าเทพสวรรค์ชั้นเก้า 17 คนภายในหนึ่งวัน 13 คนติดร้อยอันดับบนกระดานเทพสวรรค์ และหลินฮวงก็ฆ่าทั้งหมดภายในเวลาไม่กี่วินาที!
นี่ทําให้องค์กรใหญ่ทั้งหมดตื่นตัว
องค์กรระดับห้าและหกรู้สึกราวกับว่าพวกเขากําลังเผชญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจและกลัวว่าองค์กรของพวกเขาจะโดนกําหนดเป้า เหนือสิ่งอื่นใด เทพสวรรค์ขั้นเก้าครอบครองพลังต่อสู้สูงสุดแล้วภายในองค์กรพวกเขา การเสียเทพสวรรค์จะทําให้องค์กรเหล่านี้หมดอํานาจ
องค์กรใหญ่ต่างคาดเดากันว่านักฆ่าคนนี้เป็นใคร
แน่นอนว่าข่าวยังกระจายไปยังเคียวแห่งความตายด้วย ไม่นานนัก สมาชิกเคียวแห่งความตายก็พบว่ามีคนรับภารกิจยาก ๆ มากมายในรายการภารกิจ นอกจากนี้ ทั้ง17คนที่ตายยังเป็นเป้าหมายของภารกิจเหล่านี้ ภารกิจยังไม่ส่งมอบ พวกเขาจึงไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ทํา
แต่ทว่า หลายคนในวงในของเคียวแห่งความตายสงสัยว่าใต้สวรรค์จะเป็นผู้รับผิดชอบ
นี่เพราะเป้าหมายทั้ง13อยู่ในร้อยอันดับแรกบนกระดานเทพสวรรค์และก็โดนฆ่าแทบทันทีเท่าที่พวกเขารู้ในบรรดาเคียวทองคําทั้งหมด ใต้สวรรค์เป็นคนเดียวที่ทําได้
หลังยุ่งวุ่นวายทั้งวัน หลินฮวงก็ไม่ช้าลงในวันที่สองเช่นกัน
เขากําจัดเป้าหมายที่ 18 19 และเป้าหมายอื่นๆที่ตามมา
รุ่งเช้าวันที่สาม หลินฮวงทําภารกิจทั้ง 24 สําเร็จ
เหลือแค่สองเป้าหมายเท่านั้น เซินเจวี่ยและเซินอวี่
อาณาเขตของฝาแฝดตั้งอยู่ในเขตหลักของแดนเทพ เป็นศักดินาที่นครหลวงเทพ จัดสรรให้พวกเขา
นี่เป็นสิ่งยากสุดเกี่ยวกับภารกิจ
สาขาใหญ่ของนครหลวงเทพได้รับการปกป้องโดยจ้าวเทวะ ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีกิ่งจ้าวเทวะหลายคน
ที่ดินของเชินอวี่กับเซินเจวี่ยอยู่ไม่ไกลจากอาณาเขตของกึ่งจ้าวเทวะ
ดังนั้น ความยากที่สุดในการฆ่าทั้งคู่จึงไม่ได้อยู่แค่ความสามารถของทั้งคู่ แต่หลินฮวงจําต้องหลบหนีออกอาณาเขตของนครหลวงเทพให้ได้หลังฆ่าทั้งคู่
ตามข้อมูลที่เกี่ยวแห่งความตายให้ไว้ หลินฮวงต้องฆ่าทั้งสองภายในสามวินาที จากนั้นจึงย้ายออกมาเพื่อทําภารกิจให้สําเร็จ
ถ้าไม่เช่นนั้น ถึงจ้าวเทวะจะปรากฏตัว
นอกจากนี้ พอถึงจ้าวเทวะลงมือ จ้าวเทวะที่เฝ้านครหลวงเทพก็จะส่งจิตสํานึกของเขาไปทันที
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อกิ่งจ้าวเทวะเป็นคนเคลื่อนยไหว หลินฮวงก็จะตายคาที่ถ้าเขาไม่สามารถหลบหนีได้ทัน
‘ข้ามีโอกาสโจมตีครั้งเดียว ไม่ว่าข้าจะฆ่าได้หรือไม่ ข้าก็ต้องออกมาทันที’ หลังเข้าเขตดาว หลินฮวงก็เก็บตัวสันโดษและตอนนี้ก็กําลังคิดถึงการทําภารกิจให้สําเร็จ
เขายังรู้ว่าการสังหารหมู่สองวันติดมานี้ทําให้องค์กรใหญ่ตื่นตัว รวมถึงนครหลวงเทพ ซึ่งเป็นองค์กรระดับเจ็ด
เหนือสิ่งอื่นใด คนที่ฆ่าทั้งหมดล้วนเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้า ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีชื่อเสียงในกระดานเทพสวรรค์ ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังโดนฆ่าตายทันทีและไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย
องค์กรระดับเจ็ดหลายแห่งค่อนข้างกังวลว่าอัจฉริยะของพวกเขาจะตกเป็นเป้า
เหนือสิ่งอื่นใด คนที่โดนเลือกล้วนมีศักยภาพเป็นจ้าวเทวะและมีพรสวรรค์อย่างมาก
พี่น้องเซินเจวี๋ยกับเซินอวี่ดันเป็นคนเหล่านั้น
นครหลวงเทพเป็นแหล่งรวมโปรตอสเลือดบริสุทธิ์และสมาชิกส่วนใหญ่ก็ดูถูกชนเผ่าอื่น ในทางทฤษฎี พวกเขาไม่คิดว่าจะมีอะไรผิดปกติกับฝาแฝด มากสุด พวกเขาก็คิดแค่ว่าพฤติกรรมพวกเขาค่อนข้างโหดร้าย ไม่มีใครสั่งสอนพวกเขาเช่นกัน
เบื้องบนของนครหลวงเทพไม่ได้ไม่รู้ถึงสิ่งที่ทั้งคู่ทําลับหลังพวกเขา พวกเขาแค่ทําเป็นหลับตาและทําเหมือนไม่เห็น
นี่ทําให้ตลอดหลายปี สองพี่น้องกลายเป็นโหดมากขึ้น
แต่ทว่า พฤติกรรมของทั้งคู่ไม่สามารถให้อภัยได้เลยในสายตาหลินฮวง