ตอนที่ 1668 ทําการผสาน
ขั้นแรกของการผสาน จบลงไปง่ายๆแบบนั้น
รวมเวลาที่ห่วงโซ่ลําดับเทพสําแดงเป็นสิ่งมีชีวิต กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาที
หลังห่วงโซ่ลําด ข้าเขตแดนเทพภายในตัวหลินฮวง พวกมันก็รวมกันเป็นรอยประทับเต๋าในสวรรค์เหนือเขตแดนเทพเขา
เมื่อรอยประทับเต๋านับล้านรวมกันอย่างสมบูรณ์ พวกมันก็เริ่มปลดปล่อยพลังเทวะ
ในเวลาเดียวกัน เขตแดนเทพของหลินฮวงก็สําแดงขึ้นด้วยตัวมันเองรอบเขา ขนาดของเขตแดนเทพเขาเหมือนจักรวาลไร้ขอบเขตที่จุติสู่อาณาจักรเสมือน
หลินฮวงไม่รู้ว่าปัจจุบันมันครอบคลุมที่เขตดาว
แต่ทว่า เขาสามารถสัมผัสได้ชัดเจนว่ามีวอยด์มากแค่ไ
แดนของเขา
โชคดี เขาไม่สัมผัสถึงตัวตนที่คุกคาม
เหนือสิ่งอื่นใด ตอนนี้เขาอยู่ในมหาพิภพ ไม่ใช่จักรวาล
ปัจจุบัน มหาพิภพไม่มีแม้แต่จ้าวเทวะขั้นกลางที่มองเห็นได้ตามทั่วไป มีน้อยนักที่จะตายและกลายเป็นวอยด์ ย้อนกลับไปในยุคโบราณ ตอนทรัพยากรในมหาพิภพมีเหลือเฟือ มีจ้าวเทวะขั้นสูงไม่มากที่จะอยู่ในมหาพิภพ และก็มีน้อยมากที่ตายในมหาพิภพและกลายเป็นวอยด์
นี่คือเหตุผลหลักที่ทําไม่หลินฮวงถึงกล้าผสานในอาณาจักรเสมือน
แต่ทว่า เขาไม่มีทางแน่ใจว่าการผสานจะดึงดูดศัตรูที่ทรงพลังจากจักรวาลไหม
หลินฮวงเมินวอยด์ที่บรรจุอยู่ในเขตแดนเทพเขา
เขาเพ่งความสนใจทั้งหมดกลับสู่กระบวนการผสาน
นี่คือขั้นตอนที่สองของการผสาน การรวมเป็นหนึ่ง
พูดง่ายๆ นี่คือการเปลี่ยนห่วงโซ่ลําดับเทพเป็นรอยประทับเต๋า ซึ่งจะรวมเข้ากับผนึกเต๋า
ขั้นตอนนี้ยังเป็นช่วงที่มีอัตราความล้มเหลวสูงสุด กว่า 80%ล้มเหลวที่ขั้นตอนนี้
นี่เพราะกระบวนการของห่วงโซ่ลําดับเทพในการควบรวมเป็นผนึกเต๋านั้นจะปลดปล่อยพลังงานน่ากลัวออกมา ซึ่งคล้ายกับปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน มันเป็นการทดสอบสามอย่างสําหรับร่างกาย วิญญาณเทพและเขตแดนเทพของคนที่ทําการผสาน
พลังงานที่ปล่อยจากห่วงโซ่ลําดับเทพที่รวมเข้ากับนึกเต๋าจะส่งผลต่อเขตแดนเทพก่อน ในเวลาเดียวกัน พลังงานบางส่วนจะรั่วไหลออกมาและส่งผลต่อร่างกายกับวิญญาณเทพต่อ
การผสานจะล้มเหลวถ้าเขตแดนเทพ ร่างกายหรือวิญญาณเทพไม่อาจรองรับผลกระทบได้ ดังนั้น สําหรับผู้บ่มเพาะส่วนใหญ่นี่จึงเป็นขั้นตอนที่อันตรายมาก แต่ทว่า หลินฮวงนั้นต่างออกไป
แม้จะเร็วพอๆกับระดับจักรพรรดิ เขตแดนเทพของเขาก็ต่างจากทุกคน ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาสามารถหลอมและผสานเขตแดนเทพของคนอื่นได้
ต่อมา แม้จะเพิ่งเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ เขาก็สามารถผสานเขตแดนเทพของกิ่งจ้าวเทวะได้ รวมถึงเขตแดนเทพของจ้าวเทวะขั้นต่ํา
สําหรับผู้บ่มเพาะทั่วไป มีขีดจํากัดของจํานวนเขตแดนเทพที่จะหลอมและผสานได้ ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีข้อจํากัดเข้มงวดเกี่ยวกับพลังของการหลอม พวกเขาไม่อาจเพิ่มพลังได้ไร้ขีดจํากัดเหมือนอย่างที่หลินฮวงทํา
จอมเทพ ผู้ทรงพลังพอจะสะกดทั้งยุคก็ยังมีแค่ 42 ห่วงโซ่ แต่ทว่า จากเทพสวรรค์ชั้นหนึ่งถึงเก้า เขากลับกล้าหลอมแค่เขตแดนเทพของเทพสวรรค์ชั้นเก้าเท่านั้น
นั่นคือขีดจํากัดของเขาแล้ว
ในทางกลับกัน หลินฮวงไม่เพียงแต่มีเขตแดนเทพที่ทรงพลัง พลังของวิญญาณเทพเขาก็เป็นจ้าวเทวะขั้นสูงแล้ว แม้ร่างกายจะทรงพลังน้อยกว่า มันก็ยังเทียบได้กับจ้าวเทวะขั้นกลาง
ในความว่างเปล่า รอยประทับเต๋านับล้านควบแน่นเข้ากับผนึกเสีทอง
ผนึกเต๋าเหมือนดวงดาวร้อนแรงที่ลอยเหนือเขตแดนเทพ ปลดปล่อยพลังงานออกไปทุกทิศทาง
แสงสีทองสว่างเจาะไปทุกมุมของเขตแดนเทพ สถานที่ใดที่มันส่องถึงจะโดนเผาไหม้
โดยไม่ลังเล หลินฮวงพลันกระตุ้นห่วงโซ่ลําดับเทพจากภายในเขตแดนเทพเขาให้ห่อหุ้มผนึกเต๋าเป็นชั้นๆมากขึ้น
ต้องรู้ว่ามีแค่ล้านสายที่ต้องใช้ในการผสานครั้งนี้ แต่ทว่า ในเขตแดนเทพของหลินฮวงนั้นมีถึงเจ็ดล้านสาย ไม่นับรวมกับล้านสายที่ใช้รวมผนึกเต๋า มันก็ยังเหลืออีกหกล้าน
ภายใต้การควบคุมของหลินฮวง ห่วงโซ่กว่า6ล้านสายพลันห่อหุ้มผนึกเต๋าเหมือนรังไหม
แม้รังสีเทวะที่ปล่อยจากผนึกเต๋าจะทรงพลัง พวกมันก็ไม่อาจทําลายผ่านม่านพลังที่ทรงพลังกว่าพวกมันหลายเท่าได้
รังสีแสงปลดปล่อยจากรังไหมห่วงโซ่ลําดับเทพยักษ์ซึ่งตอนนี้เหลือน้อยกว่า 10%จากที่ปล่อยก่อนหน้า
ระดับพลังงานนี้ไม่พอจะทําให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในเขตแดนเทพของหลินฮวง
พอเวลาผ่านไป แสงสีทองที่ปล่อจากการรวมผนึกเต๋าไม่ช้าก็หายไป ห่วงโซ่ลําดับเทพล้านสาย รวมเข้ากับผนึกเต๋าสีทองอย่างสมบูรณ์
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขตแดนเทพของหลินฮวงไม่สั่นสะเทือนอย่างหนักเลย กระบวนการผสานก็ผ่านไปแล้ว
เขายังไม่พบความท้าทายทั้งสามประการที่จ้าวเทวะคนอื่นพบเจอด้วย
พลังงานส่วนใหญ่ที่ปลดปล่อยจากการรวมผนึกเต๋าถูกรังไหมยักษ์ที่สร้างจากห่วงโซ่ลําดับเทพหกล้านสายดูดไปหมด มันไม่สั่นสะเทือนเขตแดนเทพของหลินฮวงสักนิด นับประสาอะไรกับวิญญาณเทพและร่างกายเขา
ขั้นตอนที่สองของการผสานเสร็จแล้ว อันที่จริง มันราบรื่นกว่าที่หลินฮวงคิด
ในความเป็นจริง เขากังวลเล็กน้อยว่าร่างกายของเขาอาจไม่แข็งแกร่งพอและสงสัยว่าจะโดนบดขยี้ด้วยพลังงานไหม
แต่ทว่าจากที่ดู นี่เป็นความกังวลที่ไม่เกี่ยวข้องเลย
ขั้นตอนที่สองของการผสานเสร็จสิ้นแล้ว และผนึกเต๋าก็สร้างขึ้นแล้ว
ต่อไปจะเป็นขั้นตอนที่สามและขั้นตอนสุดท้ายของการผสานการปล้นเต๋า!
เมื่อผนึกเต๋ารวมเข้าด้วยกันแล้ว มันจะดึงดูดนักล่าที่โลภมาก นักล่าจะมายังอาณาจักรวัตถุ และพยายามชิงผนึกเต๋าไป
เฉพาะหลังล้มนักล่าได้ ปกป้องผนึกเต๋าและให้มันดูดซับพลังงานต้นกําเนิดของนักล่า ผนึกเต๋าถึงถือว่าบรรลุอย่างแท้จริง
แต่ทว่า ส่วนนี้นั้นยากสุดในกระบวนการทั้งหมด
นี่เพราะนักล่าจะโดนดึงดูดโดยกลิ่นอายของผนึกเต๋า และความสามารถพวกมันก็มักจะเทียบได้กับคนทําการผสาน
ปัญหาคือนักล่าเป็นยอดฝีมือจ้าวเทวะทั้งหมด พวกมันจะคุ้นชินกับการใช้ผนึกเต๋ามากกว่าคนที่ทําการผสาน
นอกจากนี้ ทั้งนักล่ากับตัวบุคคลยังมีสภาพจิตใจต่างกัน บุคคลจะปรารถนาปกป้องเต๋า ส่วนนักล่าจะเป็นเหมือนนักล่า
นักล่าจะต้องได้เปรียบแน่ในแง่ของประสบการณ์ต่อสู้และสภาพจิตใจ
โดยธรรมชาติ คนที่ทําการผสานจะไม่ได้เสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง อย่างน้อยพวกเขาก็ได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้าน เพราะสนามรบคือในเขตแดนเทพ
แม้จะเป็นเช่นนี้ ตลอดทุกยุคสมัย คนที่ทําการผสานแล้วแพ้นักล่าก็ยังมีมากกว่า
ถ้าขั้นสองของการผสานอันตรายมาก งั้นขั้นสาม การปล้นเต๋าก็เหมือนกับการเผาสะพาน
ถ้าสามารถผ่านไปได้สําเร็จ พวกเขาก็จะเกิดใหม่เป็นจ้าวเทวะ!ถ้าพวกเขาไม่อาจผ่านขั้นตอนนี้ได้ พวกเขาก็จะล้มเหลว และความพยายามทั้งหมดก็จะสูญเปล่า
หลินฮวงเคยเห็นการปล้นเต๋ามาแล้ว
หลายเดือนก่อน เขาได้เห็นใต้สวรรค์ทําการปล้นเต๋าและเขาก็เคยสู้นักล่ามากว่าหนึ่งครั้งหลัง จากนั้น (วอยด์)
แต่ท่ว หลินฮวงอดรู้สึกวิตกใจไม่ได้
นี่เพราะ จากสิ่งที่เขารู้ ทุกคนได้ทําการผสานในโลกวัตถุ
เขาไม่รู้เลยว่าเขาจะดึงดูดนักล่าแบบไหนมาตอนเขาทําการผสานในอาณาจักรเสมือน