ลู่โจวได้นั่งลงอีกครั้ง ตัวเขากำลังมองไปยังที่ที่ไกลแสนไกล ดูเหมือนว่าลู่โจวจะไม่ได้สนใจผู้มาเยือนเลย
หมิงซี่หยินไม่อยากปล่อยให้โอกาสที่มีสูญเปล่าไป เมื่อเห็นผู้เป็นอาจารย์ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ตัวเขาก็ได้หันไปพูดกับผู้มาเยือนแทน
“วู่เฉิงกับวู่กวนอย่างงั้นหรอ? ” หมิงซี่หยินเหลือบมองไปที่ทั้งสองคน “พวกเจ้าเป็นลูกหลานของสิบคนทรงอย่างงั้นสินะ? “
วู่เฉิงผู้ที่อยู่ทางด้านซ้ายโค้งคำนับก่อนที่จะตอบกลับมา “ใช่แล้ว พวกเราสองพี่น้องเป็นลูกหลานของสิบคนทรง”
หมิงซี่หยินที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้พูดออกไป “เจ้าเป็นคนที่ปิดผนึกพลังวรยุทธของศิษย์น้องข้าอย่างงั้นสินะ? “
วู่เฉิงที่ได้ฟังคำถามก็ได้ตอบกลับไป “นั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดแล้ว เหตุผลที่พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อที่จะแก้ไขความเข้าใจผิดนั่น”
“พูดมาสิ” หมิงซี่หยินพูดออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะนั่งลง
วู่เฉิงพูดช้าๆ “แม้ว่าพวกเราจะเป็นลูกหลานของสิบคนทรง แต่ถึงแบบนั้นพวกเราพึ่งจะสวามิภักดิ์กับทางราชวังเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเร็วๆ นี้ระหว่างพวกเรากับชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าได้เกิดเรื่องเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นมา ท่านหญิงผู้เป็นเจ้านายของข้าได้บอกให้ข้ามาที่นี่ก็เพื่อขออภัยปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้า”
“แค่นั้นเองอย่างงั้นหรอ? ” หมิงซี่หยินถามออกมาอย่างสงสัย
“ในตอนที่ท่านหญิงของข้าได้ไปเยือนที่สำนักแห่งความบริสุทธิ์เมื่อไม่นานมานี้ ในตอนนั้นนางได้พบกับศิษย์คนที่ห้าจ้าวยู่ที่ถูกจับมาโดยบังเอิญ ในตอนนั้นท่านหญิงของข้าก็เลยผนึกพลังวรยุทธของนางเอาไว้ สำหรับความผิดครั้งนั้นข้าขอชดเชยอาวุธระดับลึกลับ 5 ชิ้นกับเงินอีก 20,000 เป็นค่าตอบแทน”
ขณะที่พูดอยู่ทหารทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังก็ได้เปิดกล่องที่พกมาด้วย มีอาวุธทั้งหมด 5 ชิ้นรวมไปถึงทองคำที่ส่องประกายแวววาวออกมา
เมื่อหมิงซี่หยินเห็นแบบนั้นเขาก็ได้ยิ้มก่อนที่จะพูดออกมาเช่นกัน “อาวุธระดับลึกลับอย่างงั้นหรอ? ข้าประทับใจจริงๆ! เรามาดูกันดีกว่า…นี่คืออะไร? ” หลังพูดจบเคียวพื้นพิภพก็ได้ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของหมิงซี่หยิน มันถูกล้อมรอบไปด้วยชั้นพลังบางๆ และเพราะพลังที่ล้อมรอบอาวุธเอาไว้ทำให้ทุกคนรู้ระดับของอาวุธชิ้นนี้ได้ในทันที
ต้วนมู่เฉิงเองก็พูดขึ้นเช่นกัน “ข้าเองก็อยากจะแสดงพลังของหอกราชันย์ด้วย” ต้วนมู่เฉิงได้ควงหอกราชันย์ขึ้นมา พลังของหอกราชันย์ได้ก่อตัวขึ้นจากส่วนปลายของหอกไปยังด้ามจับ เพราะแบบนี้ลายมังกรบนหอกราชันย์จึงดูสง่างามมากยิ่งขึ้น
อาวุธระดับสรวงสวรรค์ของทั้งสองคนได้แสดงพลังออกมาอย่างเต็มรูปแบบ
วู่เฉิงและวู่กวนต่างก็สบตากัน ในตอนนั้นสีหน้าแห่งความตื่นตกใจได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว
“อาวุธที่พวกเรามาด้วยธรรมดาเกินไป อาวุธของท่านทั้งสองช่างทรงพลังอย่างแท้จริง” วู่เฉิงพูดออกมาอย่างประจบประแจง
“ในตอนนี้เจ้ารู้แล้วสินะ…เจ้าน่ะได้แบกกองขยะขึ้นมาบนภูเขาของพวกเราทำไมกัน? “
“พวกเราผิดไปแล้ว” วู่เฉิงได้พูดก่อนที่จะคารวะให้
หมิงซี่หยินพูดถามต่อไป “ท่านหญิงของเจ้าเป็นใครกัน? “
ความจริงแล้วทุกคนต่างรู้ดี หลังจากที่เกิดเรื่องมาหลายครั้งต่อหลายครั้ง ผู้ที่เป็นชนชั้นสูงและอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดจะต้องเป็นคนขององค์ชายคนที่ 2 อย่างแน่นอน
“ท่านหญิงของข้ามีชื่อว่าม่อหลี่ นางเป็นผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่ทรงพลังที่สุดในยุทธภพ! ” น้ำเสียงของวู่เฉิงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
เมื่อไดยินแบบนั้นหยวนเอ๋อก็ได้ตอบกลับไปอย่างโกรธเกรี้ยว “ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่ทรงพลังที่สุด? เจ้าจะไปคุยโม้กับใครหน้าไหนก็ได้ แต่ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก! “
วู่เฉิงและวู่กวนต่างก็หันมามองหยวนเอ๋อ
“นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญในวันนี้ก็คือ…เรื่องที่ท่านปรมาจารย์ศาลาปีศาจลอยฟ้าคิดยังไงมากกว่า” วู่เฉิงได้พูดก่อนที่จะคารวะลู่โจวอีกครั้ง
หมิงซี่หยินส่ายหัวก่อนที่จะตอบกลับไป “ถ้าหากท่านหญิงของเจ้ามาด้วยตัวเอง บางทีนางอาจจะมีโอกาสที่จะได้พูดคุยกับท่านอาจารย์ของพวกเราก็เป็นได้ แต่พวกเจ้าทั้งคู่ยังไม่คู่รวรมากพอ ไม่คู่ควรที่จะคุยกับอาจารย์ของข้า”
“เอ่อ…” วู่เฉิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผงะเล็กน้อย ในตอนนั้นเองความรู้สึกลางไม่ดีก็ได้ผุดขึ้นมาในใจ วู่เฉิงพยายามอดทนก่อนที่จะอธิบายต่อไปอย่างเร่งรีบ “ท่านหญิงม่อหลี่มีเรื่องที่จะต้องทำมากมายในแต่ละวัน และยังมีเรื่องของเฉินซูที่ได้ตายจากไปเมื่อหลายวันมานี้ ท่านหญิงรู้สึกเสียใจกับการตายของเขามาก นางเสียใจจนไม่แม้แต่จะคิดออกจากเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์”
วู่กวนเองได้พูดเสริมออกมา “ท่านหญิงม่อหลี่ได้ตามหาตัวฆาตกรทั้งวันทั้งคืนอย่างไม่หยุดพัก จนกว่าที่นางจะฉีกร่างฆาตกรคนนั้นออกเป็นชิ้นๆ ได้ เมื่อถึงตอนนั้นท่านหญิงจะต้องมาเยี่ยมเยียนศาลาปีศาจลอยฟ้าด้วยตัวเองอย่างแน่นอน” วู่กวนได้พักหายใจก่อนที่จะพูดต่อไป “นอกจากนี้ข้ายังได้ข่าวมาว่ามีผู้ที่แอบอ้างตัวเองปรมาจารย์ศาลาปีศาจลอยฟ้าปรากฏตัวขึ้นที่แม่น้ำสวรรค์ คนเหล่านั้นได้ดูหมิ่นชื่อเสียงของท่านปรมาจารย์ ท่านหญิงจะต้องจัดการกับคนร้ายที่แอบอ้างตนคนนั้นเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าแน่”
หมิงซี่หยินและต้วนมู่เฉิงตกตะลึงเล็กน้อยหลังจากที่ได้ฟัง ที่แม่น้ำสวรรค์ในหลายวันที่ผ่านมา ในตอนนั้นเฉินซูปรากฏตัวขึ้น เขาคนนั้นถูกผู้เป็นอาจารย์อย่างลู่โจวสังหารไป ในตอนนั้นเองเขาก็ได้พบกับผู้ที่แอบอ้างอย่างฝานเชียวอยู่ด้วย เท่าที่ได้ฟังแขกผู้มาเยือนทั้งสองคนพูดมา ดูเหมือนว่าทางพระราชวังจะยังไม่รู้ว่าปรมาจารย์มหาวายร้ายที่พวกเขากำลังยืนคุยอยู่ตรงนี้แท้จริงแล้วเป็นผู้ที่ลงมือสังหารเฉินซู่ หนึ่งในสามเทพแห่งมือธนูด้วยตัวเองแบบนี้
ในตอนนั้นเองลู่โจวที่นั่งเงียบมาตลอดก็ได้พูดขึ้น “ข้าจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับจ้าวยู่ไป”
สาวกทั้งหมดของลู่โจวที่ได้ฟังแบบนั้นถึงกับตกใจขึ้นมา ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าผู้เป็นอาจารย์คนนี้จะใจกว้างได้มากถึงขนาดนั้น ถ้าหากเทียบลู่โจวกับจีเทียนเด๋าในอดีต พวกเขาทั้งสองแตกต่างกันราวกับฟ้าและเหว
“ขอบคุณมากท่านปรมาจารย์! ” วู่เฉิงและวู่กวนโค้งคำนับลู่โจวอย่างพร้อมเพรียงกัน
หลังจากที่วู่เฉิงยืนตรงอีกครั้ง เขาก็ได้พูดออกมาใหม่ “ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้พวกเราต้องมาถึงศาลาปีศาจลอยฟ้าแห่งนี้”
“พูดมา”
“ศาลาปีศาจลอยฟ้านั้นยึดถือหนทางแห่งอธรรมมาโดยตลอด ในตอนที่สิบสำนักใหญ่โจมตีศาลาปีศาจลอยฟ้าแห่งนี้ ท่านหญิงม่อหลี่ของข้าชื่นชมในความแข็งแกร่งของศาลาปีศาจลอยฟ้าที่สามารถต้านทานการโจมตีจากทั้งสิบสำนักใหญ่ได้ ในตอนนี้เหล่าราชวงศ์ล้วนแต่ต้องการกำลังสนับสนุนอย่างหนัก ข้าอยากจะชวนชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าของท่านร่วมรับใช้พระราชวังและเหล่าราชวงศ์เพื่อที่จะสร้างประโยชน์สุขให้กับประชาชนคนธรรมดาร่วมกัน ท่านปรมาจารย์เห็นด้วยกับพวกเราไหม? ” วู่เฉิงได้ถามออกมาช้าๆ
“เจ้าอยากที่จะนิรโทษกรรมพวกเราโดยการให้ไปรับใช้อย่างงั้นสินะ? “
“นี่ไม่ใช่การนิรโทษกรรม นี่เป็นเพราะท่านหญิงของพวกเราชื่นชมศาลาปีศาจลอยฟ้า นี่คือข้อเสนอแห่งมิตรภาพ ยิ่งไปกว่านั้นนี่จะเป็นก้าวแรกที่ศาลาปีศาจลอยฟ้ากลับมายึดถือเส้นทางแห่งคุณธรรมอีกด้วย! “
ต้วนมู่เฉิงที่ได้ยินแบบนั้นได้กระแทกหอกราชันย์ลงบนพื้นอย่างรุนแรง
แคล๊ง!
“ใครๆ ก็พูดแบบนั้นได้ทั้งนั้นแหละ เผื่อพวกเจ้ายังไม่รู้ตัว เจ้าคิดว่าในโลกนี้มีคนถูกเวทมนตร์คาถาทำร้ายไปแล้วกี่คนกัน? พวกเจ้ารู้ได้ยังไงว่าตัวเองยึดถือคุณธรรม พวกเจ้าน่ะหรอผู้ที่ยึดถือเส้นทางแห่งคุณธรรมน่ะ!? “
วู่เฉิงและวู่กวนที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับพูดไม่ออก
หมิงซี่หยินเองก็พูดเสริมออกมาเช่นกัน “ถ้าหากพวกเจ้าอยากพาความสุขมาสู่ผู้คนจริงๆ พวกเจาอธิบายเรื่องการสังหารหมู่ในแม่น้ำสวรรค์ได้ไหมล่ะ? “
วู่เฉิงขมวดคิ้ว ในตอนนี้ความรู้สึกไม่ดีเริ่มก่อตัวมากขึ้นภายในใจ เขารู้สึกว่าสายตาของทุกคนที่กำลังจับจ้องมาดูไม่เป็นมิตรมากขึ้น “ศาลาปีศาจลอยฟ้ารู้เรื่องของแม่น้ำสวรรค์ด้วยอย่างงั้นหรอ? “
หมิงซี่หยินที่ได้ฟังแบบนั้นตอบกลับไป “เฉินซูไปที่นั่น เจ้านั่นล่วงเกินอาจารย์ของข้าจนต้องตายจากไป! “
“…” วู่เฉิงและวู่กวนที่ได้ยินแบบนั้นก้าวถอยหลังไปอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขามองหมิงซี่หยินอย่างไม่ละสายตา
วู่เฉิงพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนที่จะถามออกมาไปอีกครั้ง “ท่านปรมาจารย์เป็นผู้สังหารเฉินซูอย่างงั้นหรอ? “
“เจ้าหูหนวกหรือไงกัน? ” หมิงซี่หยินได้ถามกลับมาอย่างรวดเร็ว
วู่เฉิงรีบวิเคราะห์เหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตัวเองก่อนที่จะพูดขึ้น “ถ้าหากพูดถึงเรื่องนี้ ข้ามั่นใจมากว่าจะต้องมีผู้ที่เข้าใจผิดไป ท่านเฉิงซูได้บอกกับพวกเราเอาไว้ว่าผู้ที่ปรากฏตัวที่แม่น้ำสวรรค์เป็นผู้ที่แอบอ้างเป็นท่านปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้า แม้ว่าเฉินซูจะเป็นหนึ่งในเทพมือธนู แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังใจร้อนเกินไป ถ้าหากเขาทำให้ท่านปรมาจารย์รู้สึกไม่พอใจ ท่านเฉินซูก็คงได้แต่โทษตัวเองแล้ว”
“นั่นมันคือความจริงทั้งหมด พวกเจ้าน่ะช่างไร้ยางอายยิ่งนัก ไหนพวกเจ้าบอกว่าท่านหญิงของพวกเจ้าจะฉีกฆาตกรเป็นชิ้นๆ? นี่ไง อาจารย์ของข้าอยู่ตรงนี้แล้ว เจ้ากล้าพอที่จะฉีกท่านอาจารย์ไหมล่ะ? ” หมิงซี่หยินได้ถามออกมาอย่างเย้ยหยัน แต่ถึงแบบนั้นชั่วครู่หนึ่งเขาก็ตระหนักได้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป “ท่านอาจารย์ข้าเผลอใช้อารมณ์ไปหน่อย โปรดให้อภัยศิษย์ด้วย”
ลู่โจวไม่ได้ใส่ใจอะไร ใบหน้าของเขายังคงนิ่งเฉยไร้อารมณ์เช่นเดิม
วู่เฉิงได้พูดตอบกลับมาอย่างเชื่องช้า “นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่รู้ว่าเฉินซูได้ตายด้วยฝีมือของท่านปรมาจารย์ ข้าหวังว่าท่านปรมาจารย์จะใจกว้างมากพอไม่ถือสาข้าผู้นี้”
“เจ้าน่ะเข้าใจผิดไปนะ” หมิงซี่หยินส่ายหัว
“…”
“เฉินซูก็แค่ทำให้พวกเราศาลาปีศาจลอยฟ้ารู้สึกไม่พอใจก็เท่านั้น”
หมิงซี่หยินที่ได้พูดจบก็ได้โบกมือให้กับผู้ฝึกยุทธหญิงทั้งสองคน
หลังจากนั้นไม่นานพวกเธอทั้งสองคนก็ได้แบกยี่เทียนซินที่ยังคงไม่ได้สติมาพร้อมกับเก้าอี้ไม้
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ยี่เทียนซิน
วู่เฉิงที่เห็นแบบนั้นได้แต่รู้สึกสับสน “นี่มัน…”
“นี่คือศิษย์น้องหกของพวกเรา ยี่เทียนซิน…นางเป็นคนจากหมู่บ้านปลามังกรสวรรค์” จ้าวยู่เป็นคนตอบคำถามไป
วู่เฉิงที่เห็นแบบนั้นขมวดคิ้วอีกครั้ง ทันใดนั้นเองเขาก็รู้แล้วว่าทำไมปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าถึงได้ไปที่แม่น้ำสวรรค์ในตอนนั้น
“ข้าเข้าใจแล้ว”
ความมั่นใจของวู่เฉิงลดน้อยลงจนเกือบจะหมดไป เขาผสานมือทั้งสองข้างก่อนที่จะคารวะลู่โจว “ข้าจะบอกความจริงกับท่านเอง แม่ทัพใหญ่เหวยซู่หยานเป็นผู้ที่กวาดล้างชาวบ้านจากหมู่บ้านปลามังกรสวรรค์เอง ท่านหญิงม่อหลี่ของพวกข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องในครั้งนั้น”
ต้วนมู่เฉิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้หัวเราะเยาะ “พวกเราจะเชื่อคำพูดของเจ้าได้อย่างงั้นหรอ? “
วู่เฉิงและวู่กวนมีท่าทีที่เปลี่ยนไปในทันที พวกเขาทั้งสองคนคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียงกัน “พวกเราไม่รู้จริงๆ ถ้าหากท่านหญิงของพวกเรามีส่วนเกี่ยวข้อง พวกเรายินดีที่จะชดใช้ให้กับท่านเอง ท่านปรมาจารย์! “