ลู่โจวได้เตรียมคิดหาวิธีที่จะรับมือมาก่อนหน้านี้แล้ว ตัวเขาเตรียมพร้อมที่จะใช้การ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตทั้งสี่ใบเพื่อที่จะสังหารนักบวชศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ส่วนอีกวิธีทางหนึ่งลู่โจวตั้งใจเอาไว้ว่าจะจัดการกับหนึ่งในสี่นักบวชศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ซะก่อน เมื่อจัดการนักบวชคนใดคนหนึ่งได้แล้วนักบวชศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามจะต้องอ่อนกำลังลงมากแน่ และถ้าหากเป็นแบบนั้นจริงหมิงซี่หยินและต้วนมู่เฉิงจะต้องจัดการนักบวชศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ถึงแม้ว่าจะเตรียมพร้อมมามากแค่ไหนลู่โจวก็ไม่คิดมาก่อนว่าอรหันต์กายาทองคำจะหลอมรวมกันจนกลายเป็นหนึ่งแบบนี้
กลีบดอกบัวของอรหันต์กายาทองคำยังคงเบ่งบานต่อไป 5 กลีบ, 6 กลีบ…
ในตอนนี้ลู่โจวไม่รีบร้อนที่จะเคลื่อนไหวอะไร ตัวเขาต้องการที่จะดูก่อนว่าท้ายที่สุดแล้วอรหันต์กายาทองคำจะมีดอกบัวเบ่งบานสักกี่กลีบกันแน่
ในที่สุดอรหันต์กายาทองคำก็หยุดที่จะเบ่งบานไป มันมีกลีบดอกบัวทั้งหมด 6 กลีบด้วยกัน อรหันต์กายาทองคำของสี่นักบวชศักดิ์สิทธิ์ได้เดินผ่านต้วนมู่เฉิงและหมิงซี่หยินไปอย่างง่ายดาย
ต้วนมู่เฉิงเป็นผู้มีพลังร่างอวตารดอกบัว 2 กลีบเพียงเท่านั้น ตัวเขาที่ถูกกงจือและกงเหวินโจมตีด้วยพลังของเขตมุทราได้กระเด็นหายไปในทันที
หมิงซี่หยินเป็นคนแรกที่สามารถสกัดกั้นการโจมตีระลอกแรกได้ด้วยเคล็ดวิชาเวหาพงพนาที่มี แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่สามารถทนทานโจมตีทั้งหมดได้ หมิงซี่หยินได้กระเด็นลอยตามต้วนมู่เฉิงไป เถาวัลย์ทั้งหลายที่ถูกสร้างขึ้นเองก็ถูกพังทลายไปด้วย
เป้าหมายของนักบวชศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ไม่ใช่ทั้งต้วนมู่เฉิงหรือหมิงซี่หยิน การตายของพวกเขาทั้งสองคนไม่มีความหมายอะไร ในตอนนี้นักบวชศักดิ์สิทธิ์กำลังเดินไปหาลู่โจวที่กำลังยืนอยู่หน้าโถงแห่งพลัง
“ฝ่ามือไร้ปรานี”
กงเหวิน, กงจือ, กงจี, และกงจาง ทุกๆ คนได้ผสานฝ่ามืออย่างพร้อมเพรียงกัน ในตอนนั้นเองพลังฝ่ามือไร้ปรานีของนักบวชทั้งสี่คนก็ได้ปรากฏขึ้น มันได้หลอมรวมกันจนกลายเป็นฝ่ามือไร้ปรานีเพียงหนึ่งเดียว พลังฝ่ามือนี้เองมีขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ มันมีขนาดใหญ่พอๆ กับร่างกายส่วนบนของชายวัยกลางคน แต่ถึงแม้ว่ามันจะดูทรงพลังซะขนาดไหนแต่พลังของมันก็ยังไม่อาจที่จะเทียบได้กับสุดยอดพลังฝ่ามือไร้ปรานี แม้ว่าพลังฝ่ามือจากนักบวชศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้พลังสนับสนุนพิเศษจากบทสวดไทเอ็นแต่พลังฝ่ามือนี้ก็ทรงพลังมากพอที่จะคร่าชีวิตของผู้คนจำนวนมากได้
เหล่าสาวกของวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ในตอนนี้ได้แต่ยอมจำนนให้กับโชคชะตา
แสงสีทองระยิบระยับของฝ่ามือไร้ปรานีได้พุ่งตรงมาหาปรมาจารย์มหาวายร้ายที่ร้ายกาจที่โด่งดังที่สุดในโลก และเพื่อทำให้การโจมตีได้ผลมากที่สุดสี่นักบวชศักดิ์สิทธิ์ได้เล็งโจมตีไปที่หัวของลู่โจว
เหล่าศิษย์สาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้าไม่ได้กังวลเลยเมื่อเห็นแบบนั้น
ลู่โจวตั้งใจที่จะโจมตีไปที่อรหันต์กายาทองคำอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้พลังฝ่ามือไร้ปรานีกำลังตรงมาที่ตัวเขาแทนซะก่อน
“ซู่เหลียว เจ้าจะรออะไรอยู่อีก? “
ซู่เหลียว, ซู่ฝาน และซู่ไห่ได้พุ่งเข้าหาลู่โจวโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ในตอนนั้นเองมือของซู่เหลียวก็ได้เปล่งแสงสีเขียวออกมา
“ลอบโจมตีอย่างงั้นหรอ? ” ลู่โจวไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าคนของซู่จิ้งที่ยืนอยู่เคียงข้างตัวเขามาโดยตลอดจะมาลอบโจมตีในช่วงเวลาแบบนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าซู่เหลียว, ซู่ฝาน และซู่ไห่ได้ทรยศต่อวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ ลู่โจวในตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะมีลังเลอีกต่อไป ตัวเขารีบใช้การ์ดวิเศษในทันที
พระพุทธองค์ร่างทองที่มีความสูงกว่า 100 ฟุตได้ปรากฏขึ้น!
มันคือพลังของการ์ดป้องกันไร้ที่ตินั่นเอง!
ฝ่ามือไร้ปรานีได้โจมตีเข้าใส่พุทธองค์ร่างทองที่มีความสูงกว่า 100 ฟุต ร่างพระพุทธองค์ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนั้นเองอาวุธของซู่เหลียว, ซู่ฝาน และซู่ไห่ต่างก็ตกลงบนพระพุทธองค์ร่างทอง อาวุธทั้ง 2 ชิ้นได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในทันที ในขณะนั้นเองแสงสีเขียวที่เคยมีอยู่ในมือของซู่เหลียวก็ได้หายไปในพระพุทธองค์ร่างทองของลู่โจว
“ติ้ง! เก็บกู้เศษเสี้ยวฟากฟ้าสำเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 100”
ในตอนนี้ลู่โจวไม่มีเวลามาตรวจสอบเศษเสี้ยวฟากฟ้า
“ไสหัวไปซะ! ” ลู่โจวได้ตะโกนขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด “คลื่นสายฟ้าฟาด! “
พลังสายฟ้าฟาดทั้งสามสายได้พุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้า ในตอนนั้นเองซู่เหลียว, ซู่ฝาน และซู่ไห่ได้กระเด็นลอยหายไปในทันที นักบวชทั้งสองคนกระอักเลือดออกมาส่วนนักบวชผู้โชคร้ายอีกคนเสียชีวิตไปในทันที
ลู่โจวในตอนนี้ได้เหลือบไปมองสี่นักบวชศักดิ์สิทธิ์แทน
สี่นักบวชศักดิ์สิทธิ์ต่างก็เหลือบมองไปที่พระพุทธองค์ทองคำ แววตาของพวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“นี่มันนักบวชปรมาจารย์อย่างงั้นหรอ? ” กงเหวินคอแห้งผาก เปลือกตาของเขากระตุกจนไม่สามารถที่จะควบคุมได้อีกต่อไป
ผลของการ์ดป้องกันไร้ที่ติดสามารถอยู่ได้นานที่สุดเพียง 10 วินาทีเท่านั้น ลู่โจวจะต้องใช้เวลาทุกวินาทีต่อจากนี้ให้มีค่า ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ชูการ์ดใบใหม่ขึ้นมา “พวกเจ้าวิหารแห่งความว่างเปล่ามีพลังแค่นี้กล้าที่จะมายั่วยุข้าได้ยังไงกัน? “
ที่มือของลู่โจวในตอนนี้เต็มไปด้วยพลังแปรปรวน พลังของสุดยอดฝ่ามือไร้ปรานีที่มีขนาดใหญ่กว่าพลังฝ่ามือไร้ปรานีของสี่นักบวชศักดิ์สิทธิ์ได้ปรากฏขึ้น
ตู๊ม!
อรหันต์กายาทองคำร่างใหญ่ได้ถูกพลังสุดยอดฝ่ามือไร้ปรานีเข้าไปเต็มๆ
ทันทีที่พลังสุดยอดฝ่ามือไร้ปรานีทำลายพลังอรหันต์กายาทองคำไป กงจือ, กงจี, กงจาง และกงเหวินต่างก็กระอักเลือดก่อนที่จะกระเด็นลอยถอยไป
ลู่โจวได้แต่คิดสงสัย ‘ถ้าหากเจ้าพวกนั้นหลอมรวมกันเป็นร่างเดียวจริง ฉันจะจัดการเจ้าพวกนั้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้ไหม? ‘ ถ้าหากลู่โจวทำได้จริงนี่จะต้องเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมสำหรับฝ่ายเขาแน่ ตอนนี้ตัวเขาได้แต่เหลือบมองสุดยอดฝ่ามือไร้ปรานีที่กำลังจู่โจมเป้าหมาย
กงเหวิน, กงจือ, กงจี และกงจางต่างก็กระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง…
พลังสุดยอดฝ่ามือไร้ปรานีได้พุ่งเข้าหากงเหวิน พลังฝ่ามืออันใหญ่ยักษ์ได้ล้อมตัวของกงเหวินเอาไว้ไม่ให้ไปไหนได้ กงเหวินในตอนนี้ไม่สามารถหนีรอดได้แล้ว
เสียงของแรงระเบิดได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ติ้ง! สังหารผู้ฝึกยุทธมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ได้ ได้รับรางวัล: 1,000 แต้มบุญ”
กงจือ, กงจี และกงจางต่างก็ล้มลงบนพื้น
ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหัว ตัวเขาไม่พอใจเท่าไหร่กับผลลัพธ์ที่ได้ เห็นได้ชัดว่าการ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตจะสามารถจัดการเป้าหมายได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แม้ว่ามันจะสามารถทำลายทุกพลังที่ใช้ป้องกันได้ก็ตาม แต่ถ้าหากสิ่งที่ขวางอยู่ไม่ใช่เป้าหมายของมัน การโจมตีก็จะไม่คร่าชีวิตเป้าหมายอื่นนั่นเอง การโจมตีที่รุนแรงเด็ดขาดสมกับการเป็นเพชฌฆาตนั้นเหมาะสมแล้วที่จะเป็นชื่อของการ์ดใบนี้
เหล่านักบวชจากวิหารแห่งความว่างเปล่าต่างก็กำลังสับสน พวกเขาทั้งหมดกำลังจ้องมองสี่นักบวชศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกซัดจนกระเด็นกลับมา แต่หลังจากที่สังเกตดูดีๆ มีหนึ่งในนักบวชศักดิ์สิทธิ์ได้ตายจากไป เขาคนนั้นก็คือกงเหวินนั่นเอง
ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้จนจบลง ลู่โจวเพิ่งจะใช้กระบวนท่าออกมาเพียงแค่ 2 กระบวนท่าเท่านั้น กระบวนท่าแรกก็คือกระบวนท่าป้องกัน กระบวนท่าที่ใช้พระพุทธองค์ร่างทองเป็นพลังป้องกันนั่นเอง ส่วนกระบวนท่าที่ใช้โจมตีก็คือกระบวนท่าสุดยอดพลังฝ่ามือไร้ปรานี
เหล่าศิษย์สาวกของวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ที่พอจะมีสติอยู่ได้จ้องมองไปที่ลู่โจวในขณะที่อ้าปากค้าง
หยวนเอ๋อเองเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว เพราะแบบนั้นเธอจึงไม่ได้แปลกใจอะไร
จ้าวยู่และเหล่าผู้ฝึกยุทธหญิงเห็นแต่เพียงแสงสีทองที่ส่องสว่างมาจากด้านนอกของโถงแห่งพลังเท่านั้น พวกเธอทั้งหมดไม่เห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นได้
ส่วนซู่ฮ่องกงศิษย์คนที่แปดเองไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน ตัวเขาได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับพื้นไม่ขยับไปไหนด้วยความกลัว แม้ว่ามันยากที่จะเชื่อแต่ตัวเขาก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตาแล้ว
“ต้วนมู่เฉิง, หมิงซี่หยิน…” ลู่โจวได้เรียกศิษย์ทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูนุ่มลึก
“ท่านอาจารย์”
ต้วนมู่เฉิงกระโดดขึ้นมาจากทางด้านข้างพร้อมด้วยหอกราชันย์ที่มีอยู่ในมือ
หมิงซี่หยินเองก็กระโดดออกมาจากพื้นดินที่อยู่ทางด้านข้างเช่นกัน ตัวเขาได้พูดออกมาด้วยความเคารพ “ครับ ท่านอาจารย์”
ลู่โจวเหลือบมองไปที่หมิงซี่หิยน เท่าที่ตัวเขารู้ไม่มีกระบวนท่าาที่ใช้เจาะอุโมงค์ในเคล็ดวิชาเวหาพงพนามาก่อน ‘แล้วศิษย์ไม่รักดีนี่ไม่เรียนรู้อะไรแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ‘ แต่อย่างไรก็ตามในเวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาถามไถ่ “จัดการเจ้าพวกที่เหลือซะ”
“ครับท่านอาจารย์! “
ในตอนนั้นเองกงจือ, กงจี และกงจางได้แต่ขมวดคิ้ว พวกเขาทั้งสามคนได้รับบาดเจ็บเพราะผลพวงมาจากร่างอรหันต์กายาทองคำถูกทำลายเพียงเท่านั้น พลังสุดยอดฝ่ามือไร้ปรานีไม่ได้ทำอันตรายอะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ทั้งสามคนได้ใช้ฝ่ามือกระแทกลงบนพื้นก่อนที่จะกลับมายืนตรงได้ใหม่
กงจือได้ไอก่อนที่จะโค้งคำนับออกมา “ช้าก่อน! “
“ไม่! ” ดวงตาของหมิงซี่หยินในตอนนี้ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ ตัวเขาได้หันไปสบตากับผู้เป็นศิษย์พี่อย่างต้วนมู่เฉิงก่อนที่ทั้งคู่จะกระโจนไปข้างหน้าอย่างไร้ความลังเล พวกเขาทั้งคู่เป็นเหมือนกับหมาป่าที่หิวโหยที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อในทุกเวลา
รถม้าลอยฟ้าที่ลอยอยู่ด้านบนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการต่อสู้กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ และเพราะแบบนั้นรถม้าจึงได้หันหลังไปก่อนที่จะรีบบินหนีอย่างไร้ความลังเล! แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นรถม้าลอยฟ้าคันนั้นก็ได้ลอยไปไกลจนไม่อาจที่จะเห็นได้
นักบวชทั้ง 20 คนที่อยู่บนพื้นต่างก็หน้าซีดเผือด พวกเขาในตอนนี้ถูกทิ้งแล้วนั่นเอง
ในตอนที่กงเหวินยังอยู่ ในตอนนั้นทั้งต้วนมู่เฉิงและหมิงซี่หยินยังคงยืนหยัดที่จะต่อสู้อยู่ได้ แต่ในตอนนี้กงเหวินได้ตายจากไปแล้ว เพราะแบบนั้นพวกเขาทั้งสองคนจะต้องทำได้ดีกว่านี้แน่!
ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้ง
ในขณะเดียวกันลู่โจวก็ได้หันไปทางด้านข้างก่อนที่จะพูดขึ้น “หยวนเอ๋อ, จ้าวยู่”
“ค่ะท่านอาจารย์” สาวกทั้งสองคนรีบเดินออกมาข้างหน้า
“เก็บกวาดที่เหลือซะ”
“ค่ะท่านอาจารย์! ” จ้าวยู่โค้งคำนับในทันที
ในตอนนั้นเองศิษย์คนที่แปดซู่ฮ่องกงก็ได้สติกลับคืนมาอีกครั้ง เขาได้รีบหันไปหาลู่โจวเพื่อที่จะแสดงความภักดี “ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์…แล้วศิษย์ล่ะท่านอาจารย์? ให้ศิษย์ได้ช่วยปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาเพื่อแบ่งเบาภาระของท่านอาจารย์ด้วยเถอะ! “
หยวนเอ๋อในตอนนี้กำลังแยกเขี้ยวขู่เหล่านักบวชที่เคยสวดพระสูตรไปก่อนหน้านี้ “เวลาของพวกเจ้าหมดลงแล้ว! ข้าจะทำให้พวกเข้าเข็ดไปตลอดทั้งชีวิตเอง”
หยวนเอ๋อและจ้าวยู่จะต้องจัดการกับเหล่านักบวชได้แน่
ลู่โจวได้มองไปที่ซู่เหลียวและซู่ฝานที่กำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ ตัวเขาได้เอ่ยปากถามออกมาอย่างไร้อารมณ์ “ทำไมพวกเจ้าถึงจะต้องทำร้ายข้าด้วยล่ะ? “
ทั้งสองคนได้แต่ตัวสั่น
ในขณะเดียวกันซู่จิ้งก็ได้แต่ตกตะลึง ตัวเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่านักบวชที่ใช้ชื่อร่วมกับตัวเขาในวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์จะลอบโจมตีปรมาจารย์มหาวายร้ายของโ,กคนนี้ได้ ตัวเขาได้ไอออกมาอย่างรุนแรงเพราะไม่สามารถยอมรับกับเรื่องนี้ได้ “ทำไมถึงทำแบบนั้นกันล่ะ? “
“เลิกเสแสร้งทำตัวเป็นผู้ทรงคุณธรรมได้แล้ว! ซู่จิ้ง ถ้าหากเจ้าอยากที่จะมอบดอกแมกโนเลียสีดำให้กับวายร้ายนั่นมากกว่าที่จะมอบให้กับพวกเรา…ไหนเลยเจ้ายังจะมีความกล้ามาถามพวกเราว่าทำไมแบบนี้กัน? ” ซู่เหลียวได้พูดเยาะเย้ยออกมา แม้ว่าจะรู้สึกกลัวแค่ไหนแต่ในตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะตีหน้าซื่ออีกต่อไป
ซู่จิ้งที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พูดออกมาอย่างโกรธเคือง “ชั่วช้า! พวกเจ้าน่ะตกอยู่ในหลุมพรางคำโกหกของพวกวิหารแห่งความว่างเปล่าได้ยังไงกัน? ” ถ้าหากซู่จิ้งไม่ได้เก็บซ่อนอาการบาดเจ็บจากทุกคนเอาไว้ นักบวชทั้งสามก็คงจะต่อต้านตัวเขาไปนานแล้ว ไม่มีทางเลยที่พวกเขาทั้งสามคนจะรอมาถึงวันนี้ได้