ลู่โจวเองก็ไม่ได้คิดมากอะไรกับดาบพวกนี้
ทั้งสี่คนยังคงเดินต่อไป
ผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ เองก็เริ่มเห็นปัญหาแล้ว หลังจากที่มองไปรอบๆ ตัวอย่างถี่ถ้วนพวกเขาก็ไม่พบดาบที่ถูกใจเลย ดาบธรรมดาที่จะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่คงจะเป็นอะไรที่เป็นภาระซะเปล่าๆ โดยปกติแล้วดาบที่ดีกว่านี้จะอยู่ในส่วนลึกของสุสานแห่งดาบ
เจียงอาเฉียนได้เดินตามมาก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “ท่านผู้อาวุโส ข้าอยากที่จะรู้จริงๆ ที่สุสานแห่งดาบกว้างใหญ่ไพศาล ใครกันแน่ที่เป็นผู้รวบรวมดาบมากมายขนาดนี้มากัน? คนที่ทำแบบนั้นมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่”
ลู่โจวได้ลูบเคราของตัวเองก่อนที่จะพูดออกมา “ที่นี่ถูกเรียกว่าสุสานแห่งดาบ มันเป็นสถานที่ที่มีไว้เพื่อฝังดาบยังไงล่ะ ดาบทั้งหลายล้วนแต่มีอายุที่ยืนยาวมากกว่ามนุษย์ เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนล้มตายไป ดาบที่ไร้เจ้าของก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น ผู้ที่มีเวลาว่างมากพอก็จะรวบรวมดาบที่ไร้เจ้าของมาไว้ที่นี่ การรวบรวมดาบให้มาอยู่ที่นี้ดาบทั้งหลายเองก็จะได้รับการขัดเกลา, บำรุงรักษา หรือแม้แต่ทำให้มันกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นได้”
ฉินจานได้เข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย “สุสานแห่งดาบแท้จริงแล้วไม่ได้มีอะไร ในอดีตเคยมีคำพูดหนึ่งเคยพูดกันเอาไว้ ในป่าม่านหมอกแห่งโลกใบนี้มีดาบนับหมื่นเล่มถูกฝังเอาไว้ที่นั่น…ดาบที่ถูกฝังเอาไว้ต่างก็เป็นดาบของสุดยอดฝีมือด้วยกันทั้งนั้น แต่แน่นอนว่าการจะหาดาบของเหล่ายอดฝีมือให้เจอได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ดาบทั้งหมดถูกฝังอยู่ร่วมกับดาบนับหมื่นเล่ม”
หยวนเอ๋อที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พูดออกมาอย่างไม่พอใจ “แล้วใครจะไปหาดาบชั้นยอดเจอได้กัน”
“คนพวกนั้นน่ะไม่ได้บ้าไปหรอกนะ ข้าน่ะเข้าใจพวกเขาดี…ถ้าหากข้าใกล้ที่จะตาย ข้าก็คงจะรวบรวมดาบชั้นยอดเอาไว้ก่อนที่จะฝังพวกมันเอาไว้ด้วยกัน ในตอนที่ข้าจากไปข้าก็คงจะไม่อยากให้ดาบของข้าต้องแปดเปื้อนมลทินอะไรไป ข้าจะสร้างสุดยอดม่านพลังเอาไว้เพื่อที่จะปกป้องมัน! หลังจากนั้นข้าจะหาดาบนับล้านมาฝังรอบตัวให้ได้ ในวาระสุดท้ายข้าอยากที่จะฝังตัวเองเอาไว้ที่ใจกลางดาบอันมหาศาล ข้าอยากที่จะดูว่าใครกันที่กล้าเข้ามาแย่งชิงดาบของข้าไป” เจียงอาเฉียนได้พูดประกาศออกมา
“เอ่อ…ข้าก็แค่พูดเกินเลยไปหน่อย…ข้าก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นน่ะ ล้อเล่น” เจียงอาเฉียนได้พูดเสริมก่อนที่จะหัวเราะกลบเกลื่อนไป
คนอื่นๆ ต่างก็หยุดเดินตามมา ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายที่ได้ยินแบบนั้นจ้องมองเจียงอาเฉียนราวกับว่าเขาเป็นคนบ้า
ลู่โจวทำแค่เพียงเหลือบมองเจียงอาเฉียนก่อนที่จะเดินต่อไป ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นหนึ่งในสามผู้คลั่งไคล้แห่งดาบ…เจียงอาเฉียนทำตัวได้สมกับฉายาที่ตัวเขามีแล้ว
“ที่สุสานมีม่านพลังคอยปกป้องเอาไว้ มีข่าวลือมาว่าม่านพลังป้องกันนั้นมันทรงพลังเทียบเท่าได้กับม่านพลังแห่งดาบทั้งเจ็ด แต่ในตอนนี้มันก็ผ่านมากว่าหลายปีแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วมันยังมีของสิ่งนั้นอยู่อีกไหม”
“ม่านพลังดาบทั้งเจ็ดอย่างงั้นหรอ? “
“มันเป็นแค่ชื่อของม่านพลังที่อ่านเจอได้ในคัมภีร์…แม้ว่าข้าจะไม่เคยเห็นแต่มันจะต้องเป็นม่านพลังป้องกันที่แข็งแกร่งแน่ ท้ายที่สุดแล้วด้วยพลังของม่านพลังดาบทั้งเจ็ดที่มีก็ไม่เคยมีผู้ฝึกยุทธระดับล่างคนไหนเคยฝ่าไปถึงใจกลางของสุสานแห่งดาบได้ แน่นอนเพราะแบบนั้นจึงไม่มีใครเอาดาบมารไปได้จนถึงทุกวันนี้” ฉินจานได้พูดขึ้น
ทันทีที่พูดจบ ทุกๆ คนที่ได้ยินแบบร้องคร่ำครวญมาจากส่วนลึกของสุสานแห่งดาบ
ทุกๆ คนได้จ้องไปที่ทิศทางที่เสียงดังขึ้น
“มีใครบางคนอยู่ที่นี่”
“รีบไปดูเร็วเข้า! “
เจียงอาเฉียนจำคำพูดของฉินจานได้ดี ตัวเขารีบเร่งฝีเท้าไปเพื่อที่จะมุ่งหน้าไขว่คว้าดาบมารมา ถ้าหากดาบเล่มนั้นถูกสีวู่หยาเอาไป ตัวเขาก็คงจะไม่มีโอกาสนำมันกลับมาได้แน่
คนอื่นๆ ที่เห็นแบบนั้นก็รีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน แม้แต่ผู้ฝึกยุทธระดับล่างก็ยังพยายามเคลื่อนที่ไปให้เร็วที่สุด
แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกประหม่า แต่โอกาสที่จะได้รับดาบดีๆ ที่อยู่ในส่วนลึกของสุสานแห่งดาบนี้ก็ยังมีอยู่ และเพราะเหตุนั้นเองทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยพลัง
ลู่โจวบินไปด้านหน้า
ฉินจานที่เห็นแบบนั้นก็ได้เหลือบมองเขาก่อนที่จะยิ้มออกมา “ท่านผู้อาวุโส…”
“อะไรกัน? ” ลู่โจวถามกลับมาในระหว่างที่บิน
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น…”
ฉินจานรู้สึกประทับใจในตัวของลู่โจวอีกครั้ง ตัวเขาคิดว่าลู่โจวจงใจที่จะลดความเร็วในการบินลงก็เพื่อที่จะรอตัวเขา แม้ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ลู่โจวก็ยังเห็นความสำคัญที่ตัวเขามี
ผู้ฝึกยุทธระดับล่างคนอื่นๆ ไม่สามารถบินได้ พวกเขาทำได้แค่วิ่งต่อไปเท่านั้น ไม่นานนักทั้งสี่คนก็เข้ามาถึงส่วนลึกของสุสานแห่งดาบได้
ชิ๊ง! ชิ๊ง! ชิ๊ง!
ดาบมากมายหลายเล่มได้บินไปบนอากาศ ที่แห่งนี้มีแสงสว่างไม่มากพอ
“ดาบบินพวกนี้ ต้องใช่แน่ๆ นี้มันม่านพลังป้องกันแห่งดาบ! ” พลังที่ไหลเวียนอยู่ในอากาศได้อัดแน่นกันจนกลายเป็นพลังพิเศษบางอย่าง พลังพวกนั้นทำให้ดาบทั้งหลายลอยไปลอยมาได้อย่างอิสระ
ชิ๊ง! ชิ๊ง! ชิ๊ง!
ดาบหลายเล่มได้พุ่งผ่านพวกเขาทั้งหมดไป
“นั่นมันมีใครอยู่ด้วย! “
ในที่ที่อับแสงเช่นนี้เจียงอาเฉียนสัมผัสได้ถึงศพอันไร้วิญญาณของผู้ฝึกยุทธ เจียงอาเฉียนที่เห็นแบบนั้นก็ได้เดินเข้าไปตรวจสอบก่อนที่จะพูดออกมา “เจ้านี่เพิ่งตาย…”
“สาวกของสำนักแห่งความมืดอย่างงั้นหรอ? ” ลู่โจวถามออกมา
“สาวกของสำนักแก่นแท้แห่งหัวใจ…” เจียงอาเฉียนตอบกลับมา
“สาวกของสำนักแก่นแท้แห่งหัวใจมาทำอะไรที่นี่กัน? ” ฉินจานถามออกมา
“ถ้าหากดูไม่ผิด สำนักแก่นแท้แห่งหัวใจไม่ได้มานี่เพียงสำนักเดียว…มีคนจากสำนักเซียนสวรรค์เองมาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีคนจากสำนักเจ็ดดวงดาวก็มาที่นี่ด้วย! ถ้าหากสุสานแห่งดาบถูกเปิดออกแล้ว แล้วคนพวกนี้ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปได้ยังไงกัน? “
เมื่อหยวนเอ๋อได้ยินแบบนั้นนางก็ได้ถามออกมาด้วยความสับสน “ท่านอาจารย์คะ ดาบมารนั่นแข็งแกร่งจริงๆ อย่างงั้นหรอ? “
“มันเป็นอาวุธระดับสรวงสวรรค์ขั้นสุดยอด” ลู่โจวตอบกลับมา หลังจากนั้นตัวเขาก็คิดว่าระดับสรวงสวรรค์ธรรมดาคงจะดูไม่ยุติธรรมกับอาวุธชิ้นนี้เท่าไหร่ ลู่โจวเลยพูดเสริมออกไป “มันเป็นหนึ่งในอาวุธที่ดีที่สุดยังไงล่ะ”
นี้ถือเป็นวิธีการอธิบายที่แสนจะดูคลุมเครือ แต่อย่างไร้ก็ตามก็ทำให้ผู้ที่ได้ฟังรู้คุณค่าของดาบมารได้
ชิ๊ง! ชิ๊ง! ชิ๊ง!
ดาบจำนวนมากได้บินไปมาบนอากาศด้วยพลังอัดแน่น
เจียงอาเฉียนได้ยิ้มออกมาจางๆ ตัวเขาในตอนนี้มีดาบคีตะมังกรอยู่ก่อนแล้ว ดาบสีทองของเขาส่องแสงสว่างออกมาก่อนที่จะปล่อยคลื่นพลังใส่ดาบที่ลอยอยู่
แคล๊ง! แคล๊ง! แคล๊ง!
ดาบกว่าหลายสิบเล่มถูกซัดลอยกลับไป เจียงอาเฉียนทำได้แค่มองอย่างผิดหวังก่อนที่จะพูดออกมา “อาวุธระดับทั่วไปอย่างงั้นหรอ? “
ดาบคีตะมังกรได้ถูกเก็บกลับไปบนฝัก
ดาบที่ตกลงไปได้สั่นตัวเองก่อนที่ท้ายที่สุดแล้วพวกมันจะกลับมาลอยใหม่อีกครั้ง “อ๊าก! ดูเหมือนมีแต่จะต้องทำลายเท่านั้นสินะ! ช่างเจ็บปวดจริงๆ …” เจียงอาเฉียนได้ยกมือขึ้นมาอย่างช้าๆ
ในตอนนี้ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายต่างก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ มีใครบางคนหัวเราะขึ้นมา “นั่นมันอาวุธระดับทั่วไป! อาวุธระดับทั่วไป! ข้าต้องการมันทั้งหมด”
“อย่างน้อยๆ มันก็มีระดับล่ะนะ! “
ผู้ฝึกยุทธได้หยิบดาบขึ้นมาก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังม่านพลังแห่งดาบ “ดูเหมือนว่าพวกเราจะคิดถูกแล้วที่พาเจ้าพวกนั้นมาที่นี่” เจียงอาเฉียนได้พูดขึ้น
ฉินจานได้พูดต่อ “ผู้ที่ต้องการดาบจะมาตายในที่แห่งนี้ไม่ได้ เร็วเข้าทุกคน! “
“ขอบคุณมากท่านยอดฝีมือ! “
“ไม่ต้องมาขอบคุณข้าหรอก ขอบคุณท่านผู้อาวุโสซะเถอะ” ฉินจานได้ตอบกลับมา
ผู้ฝึกยุทธกว่าหลายสิบคนได้โค้งคำนับให้กับลู่โจว
“ขอบคุณมากท่านผู้อาวุโส! “
“ติ้ง! ได้รับการสวามิภักดิ์ 12 คน ได้รับแต้มบุญ: 120”
ยังมีผู้ฝึกยุทธอีกหลายคนที่ยังไม่พอใจกับอาวุธระดับทั่วไปพวกนี้ พวกเขายังคงจะติดตามลู่โจวและคนอื่นๆ ต่อไป
แคล๊ง! แคล๊ง! แคล๊ง!
เสียงของดาบปะทะกันได้ดังขึ้นจากทางข้างหน้าอีกครั้ง ลู่โจวได้เดินเข้าไปในม่านพลังแห่งดาบราวกับมันไม่ได้มีอะไรเลย ในตอนนั้นเองตัวเขาก็ใช้พลังป้องกันตัวขึ้นมา ด้วยพลังป้องกันในตอนนี้ม่านพลังแห่งดาบคงจะทำความเสียหายให้กับลู่โจวไม่ได้แน่
เมื่อเจียงอาเฉียนเห็นแบบนั้นเขาก็ได้พูดออกมา “ท่านผู้อาวุโสสามารถควบคุมพลังได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ท่านผู้อาวุโสข้าประทับใจจริงๆ! ” ลู่โจวไม่ได้สนใจอะไรและเดินต่อไป
ในเวลาไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงส่วนลึกของสุสานแห่งดาบ ในตอนนั้นเองทุกคนก็พบกับภาพที่ทำให้ตื่นตกใจ
มีหลุมฝังศพขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านสูงใหญ่เกือบเสียดเพดาน ที่ด้านหน้าของมันเต็มไปด้วยศิลาคำจารึก
หลุมฝังศพถูกโซ่หนา 8 เส้นพันธนาการเอาไว้จากทั่วทุกทิศทาง และเพราะแบบนั้นทำให้หลุมศพสามารถตั้งได้อย่างมั่นคงที่ใจกลางสุสานได้ ดาบมากมายหลายชนิดได้วางกระจัดกระจายอยู่รอบหลุมฝังศพ นอกจากนี้ยังมีดาบลอยได้ลอยวนอยู่บนหลุมฝังศพจนไม่อาจที่จะนับจำนวนได้ ดาบทั้งหลายมันคล้ายกับปลาเล็กปลาน้อยที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในผืนมหาสมุทร
มันเป็นสิ่งที่คอยขับไล่ผู้ฝึกยุทธจำนวนมากที่ต้องการเข้าใกล้
ผู้ฝึกยุทธกว่า 100 คนกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมสุสาน มันเป็นร่างอันไร้วิญญาณนั่นเอง
ลู่โจวขมวดคิ้วก่อนที่จะพูดออกมา “ของที่ข้าต้องการอยู่ไหนกัน? ” ลู่โจวไม่ได้สนใจอะไรดาบพวกนั้น ตัวเขาก็แค่อยากได้ชิ้นส่วนสุดท้ายของเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ก็เท่านั้น
ฉินจานได้ชี้ไปยังเส้นทางที่มีแสงสลัวๆ “อุโมงค์นั่น…”
หยวนเอ๋อเองก็สังเกตเห็นเส้นทางนั้นเช่นกัน “นั่นมันสุสานครอบครัวของเจ้าสินะ”
เจียงอาเฉียนถึงกับผงะ ‘สาวน้อยไม่ได้ไว้หน้าบรรพบุรุษของข้าเลยอย่างงั้นหรอ? เจ้าจะต้องฝันร้ายเพราะถูกบรรพบุรุษข้าตามหลอกหลอนแน่…’
ฉินจานได้พูดออกมา “พวกเราจะเข้าไปที่นั่นได้ยังไงกัน? ที่นั่นมีม่านพลังดาบทั้งเจ็ดคอยป้องกันเอาไว้อยู่ ข้าคิดว่ามันคงไม่ง่ายแน่”
ลู่โจวเองก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ถ้าหากตรงต่อไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งพบกับดาบมากขึ้น นอกจากจำนวนที่มากขึ้นแล้วพลังของดาบเองก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้นเช่นกัน เว้นแต่ว่าจะใช้การ์ดป้องกันไร้ที่ติเพื่อบินฝ่าไป แต่ถ้าหากการ์ดมันมีไม่มากพอจริงจะเกิดอะไรขึ้นกัน? แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีกับดักอื่นๆ อยู่ในทางเดินนั่น?
ในที่แห่งนี้มันเต็มไปด้วยซากศพของเหล่าผู้ฝึกยุทธ ทุกๆ คนล้วนแต่ถูกม่านพลังแห่งดาบพรากชีวิตไป
“ฟังคำสั่งข้า! จัดการม่านพลังแห่งดาบซะ”
“พวกเจ้าทั้งหมด…ยืนตั้งแถวซะ! “
‘ตั้งแถวเนี่ยนะ? ‘