ตอนที่ 38 ข้าจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนเอง
หนึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่ยี่เทียนซินได้พึ่งพามันมาโดยตลอดจนทำให้เธอไต่เต้ามาถึงจุดนี้ได้ สิ่งนั้นก็คือห่วงแห่งรักนั่นเอง มันเป็นสมบัติล้ำค่าระดับสรวงสวรรค์
ห่วงแห่งรัก เป็นอาวุธประเภทห่วงตามชื่อของมัน แต่ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนห่วงแต่มันก็เป็นอาวุธที่แหลมคมมาก ยิ่งเมื่อผู้ฝึกยุทธ์คนไหนใส่พลังไปกับมันมากขึ้นเท่าไหร่ พลังของห่วงแห่งรักก็จะน่ากลัวมากยิ่งขึ้นเท่านั้น คำว่ารักไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ที่หมายความว่ารักจริงๆ มันหมายความว่าความเกลียดชัง ความยุ่งเหยิงที่เหมือนเกิดขึ้นมาจากความรักมากกว่า ความเกลียดชังอันนั้นไม่เคยปล่อยศัตรูให้รอดพ้นเงื้อมมือไปได้
…
ยี่เทียนซินเอาแต่จ้องมองดูห่วงแห่งรัก เธอได้ใช้อาวุธชิ้นนี้มากว่าหลายสิบปีแล้ว ในตอนนี้ห่วงแห่งรักได้ติดอยู่ในผนึกฝ่ามือยูไล ห่วงแห่งรักที่ติดอยู่ในผนึกได้สูญเสียแสงสว่างที่เคยมีไป
ตู้ม!
ในตอนนี้ยี่เทียนซินต้องการที่จะหยุดผนึกนั่นและเอาอาวุธของเธอคืนมา! ถ้าหากเธอสูญเสียอาวุธชิ้นนี้ไปแน่นอนว่าความแข็งแกร่งของเธอจะต้องลดลงไปอย่างมากถ้าหากวันนี้เธอสามารถเอาชีวิตรอดไปได้
ในตอนนั้นเองพลังของเคล็ดวิชาของคลื่นเวหาสีฟ้าก็ได้ระเบิดออกมา พลังนั้นได้ไหลล้นไปยังลู่โจวที่อยู่ตรงหน้า แต่น่าเสียดาย อดีตอาจารย์ของเธอคนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออีกต่อไป แม้แต่พลังจากเคล็ดวิชาคลื่นเวหาสีฟ้าก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะได้
“ช้าก่อน! “
ในตอนนั้นเองคลื่นพลังที่แข็งแกร่งกว่าก็ได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของลู่โจว เมื่อพลังของเขาเข้าปะทะกับพลังของยี่เทียนซิน ในตอนนั้นมันก็เป็นเหมือนกับคลื่นทะเลอันใหญ่ยักษ์ที่ได้ถาโถมเข้าใส่คลื่นจากกระแสน้ำขนาดเล็ก ในชั่วพริบตานั้นเองยี่เทียนซินก็ได้ถูกพลังที่แข็งแกร่งกว่าซัดเข้าใส่
ตู้ม!
หนึ่งในคลื่นพลังได้ซัดเข้าใส่หน้าอกของยี่เทียนซินเข้าอย่างจัง ในตอนนั้นเธอก็ได้กระอักเลือดออกมาจากปาก เธอที่ถูกพลังโจมตีใส่ได้ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้า
“จิตวิญญาณตามล่า! ” ลู่โจวในตอนนั้นได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ตัวเขาได้เดินทางมาถึงพื้นดินในชั่วพริบตา
ในตอนนั้นร่างกายของยี่เทียนซินก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส จิตใจของเธอในตอนนี้กลับสู่ความว่างเปล่า ในตอนที่เธอถูกคลื่นพลังซัดเข้าใส่ เธอก็รู้ตัวดีว่าเธอได้พ่ายแพ้ให้กับการต่อสู้ไปแล้ว แต่ถึงแบบนั้นตัวเธอก็ยังไม่เข้าใจว่าตาแก่คนนี้ทำไมถึงใช้จิตวิญญาณอีกทั้งๆ ที่เธอก็ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว ตาแก่คนนี้พยายามที่จะโอ้อวดพลังที่มีอย่างงั้นหรอ?
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลู่โจวที่สามารถใช้พลังขั้นสุดยอดทั้งหมดได้ ในตอนนั้นเองหัวใจของยี่เทียนซินก็รู้สึกสิ้นหวังไปทั้งใจ
‘ตาแก่นี้ไม่ได้ให้ความหวังกันเลย! ‘
…
ลู่โจวจับจ้องไปที่ยี่เทียนซินที่กำลังร่วงหล่น ในตอนนั้นเองตัวเขาก็ได้เปิดประสาทการรับรู้ทั้งหมด ทั้งตา, หู และจิตใจ ตัวเขาอยากที่จะแน่ใจว่าตอนนี้มีสาวกวายร้ายคนอื่นๆ ยังอยู่ใกล้ตัวของเขาอีกไหม
พลังร่างอวตารที่ลู่โจวมีทำให้ตัวเขามีพลังรับรู้สุดแข็งแกร่ง แต่น่าเสียดายที่ลู่โจวไม่พบกับลูกศิษย์ตัวร้ายของเขาเลย แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็คิดว่ามันแปลกอยู่ดี ไม่มีเหตุผลเลยที่ยี่เทียนซินจะกล้าท้าทายตัวเขาเองตามลำพังแบบนี้
ลู่โจวในตอนนั้นค่อยๆ ยกมือขึ้นมาอย่างช้าๆ ตอนนั้นเองพลังก็ได้หลั่งไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา รอบตัวของยี่เทียนซินได้ถูกพลังอันแข็งแกร่งพันธนาการเอาไว้ เธอที่ค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าได้ถูกพลังอันนั้นรับตัวเองไว้นั่นเอง
“ติ้ง! คุณได้จับกุมสาวกวายร้ายคนที่หก ยี่เทียนซินเอาไว้ได้ คุณได้รับแต้มบุญ 1,000 แต้ม”
ดวงตายี่เทียนซินเต็มไปด้วยความสับสนและความกลัว เธอไม่เคยรู้สึกกลัวแบบนี้มาก่อนเลย ความกลัวในครั้งนี้มันมากกว่าความกลัวที่ได้พบกับจีเทียนเด๋าในภูเขาทองครั้งแรกซะอีก
ในตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากเกินไป หัวใจของยี่เทียนซินเต้นเร็วจนไม่เป็นจังหวะ การหายใจของเธอเองก็ยังติดขัดอีกด้วย แต่ไม่ว่ายี่เทียนซินจะเปลี่ยนไปแค่ไหนสีหน้าของลู่โจวเองก็ยังคงเป็นเช่นเดิม ความรู้สึกที่ได้ใช้พลังสุดยอดอีกครั้งทำให้หัวใจของเขานิ่งสงบดุจดั่งสายน้ำ ตอนนี้ตัวเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและพลัง
“ยี่เทียนซิน” ลู่โจวได้พูดออกมาอย่างแผ่วเบา ถึงแม่ว่าน้ำเสียงที่ใช้จะแผ่วเบามากสักแค่ไหนแต่มันก็กระแทกเข้ามาในใจของยี่เทียนซินเต็มๆ “เจ้าน่ะได้หันหลังให้กับข้าก่อนที่จะทรยศตัวข้าไป…”
“ตาแก่ แกต้องการอะไรกันแน่? “
“ข้าจะต้องเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้ไปกลับคืนมา…”
“ฮะ? “
ยี่เทียนซินสั่นสะท้านไปทั้งตัว ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น ใบหน้าของเธอที่ตอนแรกยังเต็มไปด้วยสีแดงระเรื่อตอนนี้ใบหน้าของเธอก็ได้ซีดเซียวลงไป เธอในตอนนี้ต้องการร้องขอความเมตตาจากผู้เป็นอดีตอาจารย์ แต่ถึงแบบนั้นยี่เทียนซินก็ไม่สามารถหาช่องว่างที่จะพูดขอร้องได้เลย
ตอนนั้นมือของลู่โจวมีลูกบอลพลังลูกหนึ่ง ตัวเขาได้ใช้มือซัดลูกบอลพลังงานใส่ยี่เทียนซินที่อยู่ตรงหน้า ลูกบอลพลังได้ชนเข้ากับจุดพลังตันเถียนที่ตัวเธอมี
ตอนนี้ตัวของเธอถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นว่าจุดตันเถียนของตัวเองถูกเล่นงาน เธอใช้เวลากว่าหลายปีด้วยกันกว่าที่จะสะสมพลังยุทธ์เอาไว้ในจุดตันเถียนได้ จุดตันเถียนนั้นเป็นเหมือนกับแก้วที่ใช้จุพลัง และเมื่อจุดตันเถียนถูกทำลายไปพลังยุทธ์ที่เคยกักเก็บเอาไว้ก็ได้รั่วไหลออกมา ใช่ชั่วพริบตาจุดตันเถียนของเธอก็มีพลังรั่วไหลออกไปรอบๆ
ในตอนนี้ที่ยี่เทียนซินสูญเสียพลังไปเป็นเหมือนกับคนธรรมดาไปแล้ว เธอสูญเสียวรยุทธ์ทั้งหมดที่เคยฝึกฝนมา สำหรับชาวยุทธ์ทั้งหลายไม่มีสิ่งใดในโลกที่โหดร้ายไปกว่าการถูกทำลายวรยุทธ์ที่ฝึกฝนมา สิ่งที่แสนโหดร้ายนี้เองเกิดขึ้นกับยี่เทียนซิน
ในอดีต ยี่เทียนซินที่ต้องการจะแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ได้เข้าร่วมภูเขาทองโดยไร้ความเกรงกลัว หลังจากผ่านความยากลำบากมาอย่างมากมายในที่สุดเธอก็ไต่เต้าจนสำเร็จมาถึงขนาดนี้ได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้หายไปเพียงพริบตา เพียงแค่การทำลายจุดตันเถียนเท่านั้นเธอก็สูญสิ้นทุกอย่าง
ยี่เทียนซินในตอนนี้รู้สึกมึนงงจนลืมความเจ็บปวดที่มีในร่างกายไป หลังจากนั้นเองความรู้สึกชาไปทั้งร่างกายก็ได้ไหลเข้ามาสู่ร่างกายของเธอ ในตอนนั้นยี่เทียนซินได้แต่เศร้าสร้อยเท่านั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นที่หน้าผากของเธอก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
ยี่เทียนซินได้ยิ้มออกมาอย่างเศร้าสร้อย เธอพยายามที่จะเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก ในตอนนี้ความกลัวในใจของเธอได้หายไปทั้งหมดแล้ว ใบหน้าของเธอในตอนนี้ดูเหมือนเด็กที่กำลังจะร้องไห้ แต่ถึงแบบนั้นเธอคนนี้ก็ยังหัวเราะออกมาอยู่ดี
“รออะไรอยู่ล่ะ…ตาแก่รีบฆ่าข้าซะสิ…ฮาฮ่า! “
ลู่โจวสังเกตเห็นว่าความเป็นศัตรูของเธอเพิ่มมาถึง 60% ในตอนนั้นตัวเขาก็คิดสงสัยอะไรขึ้นมา แม้ว่าจีเทียนเด๋าจะไม่ใช่คนนิสัยดีอะไร ตัวเขาได้เคยทำเรื่องชั่วร้ายมาทุกอย่างที่เกินกว่าจินตนาการได้และมักจะดุด่าทุบตีสาวกของเขาอย่างไร้ปรานี แต่ไม่ว่าจะทำยังไงลูกศิษย์ของเขาก็ไม่เคยเกลียดชังตัวเขามากถึงขนาดนี้
แล้วทำไมยี่เทียนซินถึงเกลียดชังจีเทียนเด๋ามากขนาดนี้กันล่ะ?
แต่ไม่ว่าจะยังไงตอนนี้ก็ไม่มีความหมายที่จะรู้ความจริงอีกต่อไป สิ่งที่ลู่โจวทำไปก็เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง
“เจ้าน่ะมันดื้อด้านเกินไปแล้ว! ” ลู่โจวยกมือขึ้นมาก่อนที่จะตบลงไปที่หน้าของเธอ ในตอนนั้นเองมีรอยฝ่ามือปรากฏขึ้นบนใบหน้าของยี่เทียนซิน
“ท่านจะทรมานหรือเลือกที่จะสังหารข้าทิ้งไปดีล่ะ ฮาฮ่า…ฮาฮ่า…” ยี่เทียนซินได้หัวเราะเยาะออกมาก่อนที่จะจ้องมองไปยังพื้น
“ศิษย์พี่สี่และศิษย์พี่สามของข้าล้วนแต่น่าสงสาร…ถ้าหากท่านยังอยู่กับศิษย์พี่ทั้งสอง พวกเขาก็จะต้องเอาตัวรอดให้พ้นภัยได้แน่ แล้วทำไมกัน? ทั้งหมดน่ะเป็นความผิดของเจ้า! เจ้าที่ได้ทิ้งศิษย์พี่ทั้งสองมา นับตั้งแต่จากนี้หุบเขาทองจะต้องสูญหายไปจากโลกแน่! ” ยี่เทียนซินที่พูดเสร็จก็ได้เริ่มหัวเราะออกมาอีกครั้ง เธอต้องการที่จะทำให้อดีตอาจารย์ของเธอคนนี้รู้สึกโกรธ
แต่น่าเสียดายที่ลู่โจวยังคงเงียบสงบ ตัวเขาเหลือบมองระยะเวลาที่เหลือที่จะใช้พลังร่างสุดยอดอันนี้ ดูเหมือนตอนนี้ตัวเขาเหลือเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ถึงแม้ว่าตัวเขาอยากที่จะกลับไปยังภูเขาทองด้วยการใช้จิตวิญญาณตามล่าแต่ในตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว
อย่างไรก็ตามระบบก็ไม่ได้แจ้งเตือนอะไรเกี่ยวกับศิษย์คนที่สามและศิษย์คนที่สี่ของเขา ซึ่งหมายความว่าพวกนี้พวกเขากำลังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ศิษย์คนที่สี่เองก็ไม่ใช่คนที่โง่งม ตัวเขาก็คงจะไม่ยอมเสี่ยงชีวิตแน่นอน
ลู่โจวในตอนนั้นได้พูดออกมาเพียงคำเดียว “เจ้าโง่! “
“กำลังสั่งสอนข้าอยู่อย่างงั้นสินะ? ” ยี่เทียนซินหยุดพูดไป นี่ไม่ใช่วิธีที่อดีตอาจารย์ของเธอใช้สั่งสอน
“จะไม่มีใครสามารถบุกภูเขาทองมาได้ถ้าหากข้ายังอยู่”
ยี่เทียนซินกลืนน้ำลายในขณะที่เห็นความมั่นใจของลู่โจว เธอในตอนนั้นนึกถึงคำพูดของศิษย์พี่ของเธอที่ว่า ‘ท่านอาจารย์น่ะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนแล้ว’ ถึงแม้ว่าจะได้ฟังคำเตือนมาแล้วแต่เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าอาจารย์ของเธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ลู่โจววางมือข้างหนึ่งเอาไว้บนไหล่ของเธอ ในตอนนั้นยี่เทียนซินก็ได้แต่ร้องไห้ออกมาเท่านั้น เธอได้ปิดตาลงด้วยความหวาดกลัว
‘ข้ายังมีชีวิตอยู่อีกอย่างงั้นหรอ’
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ในตอนนี้เธอก็พบว่าตัวเองกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า ม่านพลังที่มองไม่เห็นได้ห่อหุ้มตัวเธอเอาไว้ ม่านพลังที่มีได้ป้องกันแรงลมเอาไว้
ฟรึบ!
“นี่มัน…”
มันเป็นความสามารถจากวิชาศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณตามล่านั่นเอง
‘ทำไมกัน? ทำไมเขายังถึงใช้จิตวิญญาณตามล่า? ‘ ตาแก่นี้จะต้องเสียพลังไปมากแน่? เขาทำได้ยังไงกัน?
สิ่งที่เขาใช้ไม่ใช่ยาสูตรลับหรือยาแขนงไหน
แม้ว่าเธอจะสูญเสียวรยุทธ์ทั้งหมดที่มีไป แต่จากประสบการณ์ของเธอที่มีมาเธอก็สามารถบอกได้ทันทีว่ารอบตัวของลู่โจวนั้นไม่มีร่องรอยของการรวบรวมพลังเลย ตัวของลู่โจวในตอนนี้แตกต่างจากการใช้ยาสูตรลับมาก
นั่นก็หมายความว่าตัวเขาใช้พลังของตัวเองอย่างงั้นหรอ?