ตอนที่ 524 เจ้าน่ะเอาชนะข้าไม่ได้ด้วยซ้ํา!
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายต่างก็จ้องมองไปยังรถม้าล่องเมฆาที่กําลังพุ่งผ่านท้องฟ้าราวกับดาวตก ไม่มีใครอยากจะละสายตาจากการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ครั้งนี้
“มาแล้วสินะ”
“นี่มันต้องเป็นรถม้าของศาลาปีศาจลอยฟ้าของจริงแน่”
“ข้ารู้สึกกลัวเหลือเกิน ถ้าหากจีเทียนเด่ใช้พลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบสังหารพวกเราทั้งหมดล่ะ?”
“หุบปาก!”
ผู้ฝึกยุทธหลายคนมารวมตัวกันที่เชิงเขา
เมื่อหลินซินเห็นรถม้าล่องเมฆา ตัวเขาก็ตกตะลึง จากนั้นหลินซินก็พูดออกมา “ได้เวลาแล้ว คนอื่นๆ ถอยไปซะ”
“ครับ ท่านประมุข”
สาวกของสถานศึกษาไท่ชูถอยกลับไปจนออกแท่นหินบนยอดเขา
ในตอนนี้หลินซินเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่บนแท่นหิน
รถม้าลอยล่องเมฆาได้บินตรงมาอย่างรวดเร็ว เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นมันก็ได้ปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกๆ คน และใช้เวลาเพียงแค่ครู่เดียวมันก็มาถึงยอดเขาด้วย
หลินซินหัวเราะเยาะในขณะที่เงยหน้าขึ้น “จีเทียนเด๋า ในที่สุดเจ้าก็มาถึง”
ในตอนนั้นเองผู้ฝึกยุทธที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็เฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อ
รถม้าล่องเมฆายังคงลอยอยู่บนอากาศ มันลอยนิ่งราวกับถูกแช่แข็งเอาไว้
“จีเทียนเด๋าให้ข้าได้เชยชมพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบของเจ้าหน่อยเถอะ!” ทันทีที่หลินซิน พูดจบก็มีบางอย่างลอยตรงมา
พรึบ!
เงาของหอกได้พุ่งมาจากรถม้าลอยฟ้า หอกที่พุ่งมาเต็มไปด้วยพลังงานที่อัดแน่น
หลินซินที่เห็นแบบนั้นพูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ป้องกันตัว แต่เจ้าก็ไม่สามารถทําอะไรข้าได้อยู่ดี” ท้ายที่สุดแล้วเกราะที่ตัวเขาสวมใส่อยู่ก็ถูกสร้างมาจากผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ ลวดลายเขตแดนพลังบนชุดเกราะเองก็ซับซ้อนแยบยลจนน่าเหลือเชื่อ หลินซินเด๋าที่ศึกษาเขตแดนมาเป็นอย่างดีจึงรู้ว่าชุดเกราะตัวนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนชุดเกราะตัวไหน พลังวิเศษจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อถูกพลังการโจมตีของผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเท่านั้น อะไรก็ตามที่เป็นพลังที่อยู่ต่ําไปกว่านั้นแทบที่จะไม่มีทางทะลุการป้องกันได้เลย เพราะแบบนั้นหลินซินจึงไม่หลบการโจมตี
ตัวเขายังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง
เมื่อปลายหอกมาใกล้หลินซินมากขึ้น มันก็เริ่มหมุนรอบตัวเองราวกับสว่านทําลายล้าง การโจมตีจากหอกได้เจาะทะลุเกราะที่หลินซินสวมใส่
“นี่มัน!” หลินซินตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เกราะของเขาถูกเจาะ ตัวเขาก็รีบปล่อยพลังลมปราณก่อนที่จะเริ่มหลบเลี่ยงหอก แต่น่าเสียดายที่หอกราชันย์อยู่ใกล้หลินซินมากจนเกินไป ตัวเขาไม่อาจที่จะเลี่ยงจุดสําคัญทั้งหมดได้ ปลายหอกได้แทงไปที่ด้านข้างเอวของหลินซินไปอย่างง่ายดาย
การต่อสู้จบลงแค่นั้น
ไม่มีพลังสุดยอดฝ่ามือหรือสุดยอดเคล็ดวิชาทถูกใช้แต่อย่างใด ไม่มีการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ที่จะทําให้ทั่วทั้งโลกต้องตกตะลึง
ผู้สังเกตการณ์จากทุกสํานักต่างก็ตกตะลึง ทุกคนรู้สึกตกตะลึงและไม่เคยคาดคิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้
“จบแล้วอย่างงั้นเหรอ?”
บนรถม้าลอยฟ้า ต้วนมู่เฉิงเองก็คิดเหมือนกัน แม้ว่ามันจะเป็นการโจมตีครั้งแรกก็ตาม แต่ต้วนมู่เฉิงได้เปิดฉากการโจมตีอย่างไม่ลังเล ตัวเขาได้ขว้างหอกราชันย์ออกไปอย่างสุดกําลัง แม้ว่าจะทุ่มแรงไปสักแค่ไหนแต่ต้วนมู่เฉิงก็ไม่คาดคิดว่าหอกราชันย์จะแทงทะลุร่างกายของผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบไปอย่างง่ายดาย ต้วนมู่เฉิงที่โจมตีสําเร็จหันมองฝ่ามือของตัวเองด้วยความสับสน “นี่ข้าแข็งแกร่งถึงขนาดนี้โดยที่ไม่รู้ตัวเลยอย่างงั้นเหรอ? หรือนี่จะเป็นพลังที่ได้จากการฝึกฝนมาโดยตลอด?”
ต้วนมู่เฉิงสามารถจัดการกับผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว ใครจะเชื่อกันว่าตัวเขาสามารถทําได้?
ในเวลาเดียวกันหลินซินก็ล้มลง เปลือกตาของเขากระตุก
แสงอาทิตย์ได้สาดส่องไปยังอกของหลินซิน
หอกราชันย์ได้เสียบแทงเอวของหลินซิน เลือดที่เปื้อนหอกราชันย์ได้ไหลอาบแท่นหิน
“นี่มันเป็นไปได้ไง?? หลินซินรีบฉีกกระชากชุดคลุมออก ไม่มีชุดเกราะวิเศษ มีเพียงชุดเกราะธรรมดาเท่านั้นที่หลินซินกําลังสวมใส่ มันเป็นชุดเกราะของทหารธรรมดานี่เอง
“ของปลอม? นี่มันของปลอม?” ดวงตาของหลินซินเบิกกว้าง ริมฝีปากของเขาสั่นเครือ หลินซินรีบใช้พลังฝ่ามือของตัวเองผลักหอกราชันย์ออกมาจากตัว
แคล้ง!
หอกราชันย์ได้ถูกผลักออกมาจากเอว หลินซินไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บเพิ่มมากแค่ไหนจากการผลักหอกราชันย์ออกมา
ต้วนมู่เฉิงได้กระโจนออกมาจากรถม้าลอยฟ้า ตัวเขาได้ยกมือขึ้นก่อนที่จะเรียกหอกราชันย์ให้กลับมา มันกลับมาอย่างว่องไวก่อนที่จะลงสู่มือ
บนยอดเขาดันยาง ศิษย์คนที่สามแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าอย่างต้วนมู่เฉิงกําลังถือหอกราชันย์ที่ชุ่มไปด้วยเลือด เขากําลังมองศัตรูที่อยู่ด้านหน้าอย่างกล้าหาญ
หลินซินหลังจากที่บาดเจ็บซ้ําซ้อนเดินเซไปที่ด้านหลัง หลินซินพยายามสกัดจุดพลังลมปราณเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองล้ม แม้ว่าตัวเขาจะแก่มากแล้วแต่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบก็ยังเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบอยู่ดี
ผู้สังเกตการณ์ที่เห็นแบบนั้นต่างตกตะลึง
หลังจากที่ชะงักไปนานหลินซินก็จับหน้าอกของตนก่อนที่จะพึมพําออกมา “ข้าเข้าใจแล้ว….ข้า เข้าใจแล้ว…”
“เข้าใจอะไรกัน?” ต้วนมู่เฉิงชี้มาทางหลินซินจากในระยะไกล
“ทุกคนต้องการให้ข้าตาย ผู้อาวุโสจากสถานศึกษาไทชู สาวกทั้งหลาย หรือแม้แต่องค์รัชทายาทเอง…ทุกคนล้วนต้องการให้ข้าตาย” หลินซินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวกับตัวเขาได้เสียสติไปแล้ว
ต้วนเฉิงที่ได้ฟังแบบนั้นพูดตอบ “แต่เจ้าสมควรตายอยู่แล้ว”
“ใช่ ข้ามันสมควรตาย!” แม้ว่าหลินซินจะสกัดกั้นไม่ให้เลือดไหลได้ แต่หอกราชันย์ก็ได้ทําลายอวัยวะภายในไปมากแล้ว ตัวเขาเหลือบมองรถม้าลอยฟ้าก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าต้องการคุยกับจี้เทียนเด๋า”
หลังจากที่เงียบไปได้ครู่หนึ่ง จู่โจวก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนบนรถม้าลอยฟ้า ตัวเขาที่ยืนขึ้นได้เหลือบมองมายังหลินซิน “หลินซิน เจ้ามีอะไรจะพูดอีก?”
เมื่อหลินซินเห็นลู่โจว ตัวเขาก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง “ข้าไม่เคยกลัวใครในชีวิต แต่มีเพียงเจ้าเท่านั้นจีเทียนเดํา ข้าไม่ได้ต้องการที่จะแก้ตัวอะไรให้มากความหรอกนะ”
ลู่โจวเอามือไขว้หลังก่อนที่จะถามอีกครั้ง “คําสั่งเสียของเจ้ามีเพียงแค่นี้สินะ?”
“ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากจะขอแลกพลังฝ่ามือกับเจ้าก่อนตาย!” หลินซินได้ปลดปล่อยพลังลมปราณที่หนาแน่นออกมา พลังลมปราณรอบตัวเขาเริ่มหนาแน่นมากขึ้น และหนาขึ้นไปอีก พลังรอบตัวของหลินซินแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าหลินซินจะยอมเผาผลาญจุดพลังลมปราณของตัวเอง มันเป็นการต่อสู้ที่หลินซินยอมเอาชีวิตเข้าแลก
ผู้สังเกตการณ์ต่างก็ตกใจกับการตัดสินใจของหลินซิน การต่อสู้ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น แต่หลินซินเผาผลาญพลังลมปราณตั้งแต่แรกเริ่ม
ลู่โจวได้พูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ “เจ้ายังไม่สามารถเอาชนะศิษย์ของข้าได้ แต่เจ้ากลับคิดเพ้อฝันอยากจะต่อสู้กับข้า ไร้สาระสิ้นดี…”
เมื่อได้ยินคําพูดของลูโจว ดวงตาของหลินซินก็เริ่มเบิกกว้างมากยิ่งขึ้น หลินซินสะดุดถอยกลับไป มันเป็นความจริง ตัวเขายังไม่อาจหยุดการโจมตีของศิษย์คนที่สามได้เลย แล้วตัวเขาจะไปมีสิทธิ์อะไรต่อสู้กับจีเทียนเด่ผู้เป็นอาจารย์?
ต้วนมู่เฉิงก้าวไปที่ด้านหน้าอย่างกล้าหาญ ตัวเขาไม่เคยเกรงกลัวศัตรู ไม่ว่าจะเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างหลินซิน
หลินซินมองไปที่ต้วนมู่เฉิงก่อนที่จะพูดออกมา “ถ้าหากไม่ใช่เกราะตัวนี้ เจ้าคงไม่มีโอกาสได้ยืนหยัดแบบนี้แน่”
“มีแต่ผู้ที่อ่อนแอเท่านั้นแหละที่หาข้อแก้ตัว” ต้วนมู่เฉิงก้าวไปที่ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
เงาของหอกนับพันปรากฏขึ้น
พรึบ! พรึบ! พรึบ!
หอกที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วถาโถมเข้าใส่หลินซินอย่างไม่หยุดพัก
“ไสหัวไปซะ!”
ตู้ม!
ต้วนมู่เฉิงถูกผลักกลับมา มันเป็นคลื่นพลังที่ทําให้เขาต้องล่าถอยกลับ
ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบช่างทรงพลังจริงๆ !
ช่วงเวลาที่หลินซินปล่อยพลังลมปราณออกมา แผลที่เอวก็เริ่มฉีกขาดกว้างขึ้น หลินซินคํารามออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ท่านประมุข!” ใครคนหนึ่งพุ่งเข้ามา
ฉั้วะ
คมเขี้ยวของอะไรบางอย่างเฉือนไปที่อกของหลินซินเข้าอย่างจัง จุดพลังลมปราณที่หลินซินมีถูกตัดขาดในทันที ดวงตาของหลินซินเบิกกว้างและจับจ้องไปที่ใครอีกคน คนคนนั้นยิ้มให้ในขณะที่กวัดแกว่งอาวุธที่ไม่ได้ดูเหมือนทั้งดาบและเคียว อาวุธชิ้นนั้นถูกห่อหุ้มไว้ด้วยพลังลมปราณอันหนาแน่น
สาวกทั้งสองของสถานศึกษาไท่ซูยังไม่ทันจะได้เคลื่อนไหวไปไหน
ในฐานะที่เป็นประมุขของสถานศึกษาไท่ซู หลินซินได้ใช้เวลาอันยาวนานไปกับการใช้ชีวิตและไม่มีครั้งไหนเลยที่ตัวเขาจะต้องรู้สึกอับอาย ในตอนนี้หลินซินรู้สึกว่าตัวเองได้ติดกับดักของศัตรูทุกอย่างล้วนแต่เป็นกลอุบาย
“นี่มันเล่นสกปรก!”
“ข้าต้องขอโทษด้วย แต่คําพูดของเจ้าไม่ได้ช่วยให้เจ้ารอดไปได้หรอก…เจ้าน่ะเอาชนะข้าไม่ได้ ด้วยซ้ํา นับประสาอะไรจะขอสู้กับอาจารย์ข้า? ช่างน่าขัน!”